ในช่วงนี้ตั๋วเครื่องบินในประเทศ ก็ลดราคากันอย่างต่อเนื่อง ทั้งโปร 0 บาท โปร 990 โปรต่างๆนาๆ เต็มไปหมด จนบางครั้งถ้าเราจองดีๆ โชคดีได้ตั๋วถูก ราคาถูกกว่ารถทัวร์ซะอีกนะ ดังนั้นคนที่พึ่งขึ้นเครื่องบินครั้งแรกก็คงจะตื่นเต้น และทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะต้องเริ่มต้นยังไง จองตั๋วเครื่องบินก็สับสนจะแย่แล้ว ไปถึงสนามบินทำยังไงดี ต้องเดินไปที่ไหนยังไง ทำอะไรบ้าง เผื่อเวลาไว้เท่าไหร่ ม่ะ มาดูกัน
โดยส่วนตัวก็ไม่เคยบินไปต่างประเทศนะคะ เคยแต่บินในประเทศ บินครั้งแรกนี่ก็ตื่นเต้นทำอะไรไม่ถูก แต่ว่าโชคดีมีเพื่อนที่เคยขึ้นเครื่องบินไปด้วยกัน ก็เลยถามจนเพื่อนหงุดหงิดนั่นแหละค่ะ 555 ก็คนไม่รู้นี่เนอะ ครั้งแรกอ่ะมันก็ทำอะไรไม่ถูก อยากรู้ว่าต้องทำไงต่อ นู่นนี่นั่น
ใครที่กำลังจะขึ้นเครื่องบินครั้งแรกก็ไม่ต้องตื่นเต้นนะคะ (พูดไปงั้นแหละแต่เข้าใจว่าตื่นเต้น) ทำตัวปกติเข้าไว้ค่ะ มีอะไรสงสัยก็ถามพนักงานได้เลย ไม่ต้องเขินอายค่ะ
ศัพท์ที่ควรรู้
Itinerary = ใบรายละเอียดการเดินทาง หลังจากจองตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ต เราจะได้ Itinerary หรือ booking confirmation ให้เราปริ้นค่ะ(ไม่ใช่ตั๋วที่ขึ้นเครื่อง)
Boarding Pass = บัตรโดยสาร / ใบผ่านขึ้นเครื่อง
ขั้นที่ 1
หลังจากที่เราจองตั๋วแล้ว จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ให้เราปริ้นใบ booking confirmation หรือ Itinerary เพื่อนำไปยื่นที่เค้าเตอร์ check in (ไว้ยื่นวันที่จะขึ้นเครื่องที่สนามบินค่ะ)
ขั้นที่ 2 : กรณีโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- วันที่จะขึ้นเครื่อง ควรเผื่อเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน โดยเฉพาะมือใหม่ต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆนะคะ (ยิ่งช่วงเทศกาล คนเยอะมาก ใช้เวลานานแน่ๆค่ะ)
- หากเมื่อไปถึงสนามบินให้ไปที่เค้าเตอร์สายการบินที่เราจองค่ะ เพื่อ check-in โดยยื่นเอกสาร booking confirmation และบัตรประชาชน เพื่อรับ boarding pass วางกระเป๋าตรงที่ชั่งน้ำหนัก จากนั้นเขาก็จะนำกระเป๋าเราไปเก็บใต้เครื่องค่ะ
- ให้ตรวจสอบความถูกต้องของ ชื่อ-นามสกุล ที่นั่ง เกต ในใบ boarding pass
- เจ้าหน้าที่จะบอกหมายเลข gate ของเรา ให้เราจำเลข gate ด้วยนะคะ (กรณีที่ในใบ boarding pass ไม่มีบอก)
กรณีไม่มีสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง
สามารถเช็คอินได้หลายวิธี (ตามสายการบิน)
- เช็คอินผ่านเคาท์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน
- เช็คอินทางโทรศัพท์
- เช็คอินผ่านเว็บไซต์
- เช็คอินผ่าน Mobile Application
หลังจากนั้นจะมีไฟล์ boarding pass ให้เราปริ้นค่ะ
ขั้นที่ 3
หลังจากได้ boarding pass แล้วก็เดินตามป้ายผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ส่งบัตรประชนชนพร้อม Boarding Pass ให้เจ้าหน้าที่ตรวจ จากนั้นก็วางกระเป๋าที่ติดตัวขึ้นไปใส่สายพาน เพื่อผ่านเครื่องแสกน ส่วนของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อให้หยิบออกมาวางในตระกร้าให้หมด ถอดนาฬิกา ถอดหมวก ใส่ในตะกร้า แล้วเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ รับสัมภาระคืน
ขั้นที่ 4
เดินไปรอขึ้นเครื่องตามเกตที่ระบุใน Boarding Pass ในกรณีที่ Boarding Pass ไม่ได้ระบุไว้ก็ดูจากจอมอนิเตอร์ค่ะ เมื่อถึงเกตแล้วให้ดูว่าเที่ยวบินตรงกับใน Boarding Pass เราหรือเปล่า
สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ ที่ไม่โหลดสัมภาระ ถือ Boarding Pass เข้าช่อง Verify Document
สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ ที่โหลดสัมภาระ ถือ Boarding Pass เข้าช่อง Baggage Drop
ขั้นที่ 5
ก่อนเครื่องออก 30-40 นาที จะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง โดยจะเรียกผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วใน class แพงขึ้นก่อน เช่น Business class, Hot seat, High Flyer จากนั้นจึงตามด้วยผู้โดยสารที่เหลือ เจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประชาชนพร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา
ขั้นที่ 6
เดินขึ้นเครื่องไป ไปนั่งตามที่นั่งที่ระบุไว้ใน Boarding Pass ค่ะ ถ้าหากหาไม่เจอหรือมีคนมานั่งที่เรา ให้ขอความช่วยเหลือกับแอร์ฯค่ะ
ขั้นที่ 7
ตอนลงจากเครื่อง หากมีสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง ให้ไปรอรับกระเป๋าที่สายพานค่ะ เมื่อได้รับกระเป๋าก็ออกจากสนามบินไปเที่ยวได้เลย
เพิ่มเติมค่ะ
เรื่องเวลา
- ควรไปถึงที่สนามบินก่อนเวลาบิน 2 ชั่วโมง
- หากมีสัมภาระโหลดใต้เครื่องให้รีบไปโหลดสัมภาระที่เคาท์เตอร์เช็คอินของสายการบินเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระเป๋าถือขึ้นไปบนเครื่องกับเราด้วย (ไม่ได้โหลดใต้เครื่อง)
- กระเป๋าถือของผู้หญิงหรือกระเป๋ากล้องสามารถนำติดตัวไปได้โดยไม่นับว่าเป็นสัมภาระ
- สามารถนำกระเป๋าน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ไปไว้บนเครื่องกับเราได้ *แนบรายละเอียดมาให้ แคปมาจากเว็บ airasia ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ห้ามนำของเหลวขึ้นเครื่องค่ะ *ของเหลวสามารถใส่ในกระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ห้ามพก มืด , ปืน , ของมีคม , วัตถุอันตรายมีไฟ
รถฟรี ไป-กลับ สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง
1. มีรถ shutter bus นั่งฟรีจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปสนามบินดอนเมือง (กรณีคนอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ต้องไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมือง)
- โดยจะมีการตรวจตั๋วเครื่องบิน/ใบ Itinerary/บอร์ดดิ้งพาส A4
- ขึ้นรถที่ อาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ประตู 3
2. มีรถ shutter bus นั่งฟรีจากสนามบินดอนเมือง ไปสนามบินสุวรรณภูมิ
- มีการตรวจตั๋วเครื่องบิน/ใบ Itinerary/บอร์ดดิ้งพาส A4
- ขึ้นรถที่ ชั้น 1 ขาเข้า ประตู 8
** ตารางเวลาเดินรถ ** : ควรกะระยะเวลาเดินทางด้วยนะคะ เผื่อเวลา 1-2 ชั่วโมง เพราะบางครั้งอาจจะมีการจราจรติดขัด ต้องคำนวณเวลาดีๆ ไม่งั้นมีโอกาสตกเครื่องนะคะ ครั้งแรกที่เราขึ้นเครื่อง เราเผื่อเวลาหลายชั่วโมงมากค่ะ แต่ก็ดีกว่าตกเครื่องเนาะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ร้านอาหาร
3. ในสนามบินสุวรรณภูมิ ในอาคารผู้โดยสารมีร้านอาหารเหมือนห้างค่ะ พวกร้านอาหารเฟรนชายต่างๆ มีเซเว่นด้วยนะ (ไม่ต้องเป็นผู้โดยสารก็ซื้อได้ค่ะ อยู่ตรงส่วนอาคารผู้โดยสารเลย)
4. สนามบินดอนเมือง ร้านอาหารในอาคารผู้โดยสารมีหลายร้านอยู่ แต่ราคาก็ค่อนข้างแพง จานนึง 150 ขึ้น และดูจากปริมาณก็น้อยนิด แต่สำหรับผู้โดยสาร เมื่อเราเช็คอินเข้าไปแล้ว ตรงทางเดินไปขึ้นเครื่องบิน จะมีร้านอาหารที่ราคาพอรับได้ หรือราคาพอกับข้างนอกแต่ได้ปริมาณเยอะกว่า พวก KFC, Sub way อะไรแบบนี้ค่ะ มีเซเว่นด้วย
- แต่มีแหล่งกินข้าวราคาย่อมเยาว์อีกที่ค่ะ ซึ่งมีชาวพันทิปมาตั้งกระทู้เอาไว้ ไปศึกษาที่ตั้งในลิ้งได้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://ppantip.com/topic/32518870
อื่นๆ
5. ควรพกหมากฝรั่งติดตัวไป ในตอนที่ ช่วงบินขึ้น (Take Off) และลง (Landing) มักจะมีอาการหูอื้อ ให้เคี้ยวหมากฝรั่งหรือกลืนน้ำลายบ่อยๆ จะช่วยได้ค่ะ
หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเดินทางด้วยเครื่องบินครั้งแรกนะคะ ขอให้เดินทางปลอดภัย แล้วก็เที่ยวให้สนุกนะคะ
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก www.emagtravel.com/ , www.airasia.com , www.nokair.com
***************************************************************************************
เพิ่งเข้ามาอีกรอบ มีพี่น้องชาวพันทิปมาเพิ่มเติมให้อีกเยอะเลยค่ะ เราไม่รู้จะดันคอมเม้นขึ้นมาไว้ด้านบนได้อย่างไร เราขอแคปภาพมาแปะ รวบรวมไว้ให้แล้วกันนะคะ เพราะมีประโยชน์มากเช่นกัน
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับเที่ยวบินในประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
* gate ขึ้นเครื่องจะปิดก่อนเวลาขึ้นเครื่อง 15 นาทีนะคะ
หมั่นสังเกตุหน้าจอ ว่าไฟท์ของเราขึ้นที่ gate ไหน เพราะอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้
Nok air , Air Asia ไม่จำเป็นต้องปริ้นใบ Itinerary สามารถยื่นบัตร ปชช ที่เคาท์เตอร์ได้เลย
บางสายการบินเราจะได้ Boarding pass มาเป็น QR Code ไม่ต้องปริ้น สะดวกมาก
ร้านอาหารในสนามบินสุวรรณภูมิ
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เช็คทุกตัวอักษร ว่าตรงกับ Passport หรือเปล่า
Q&A
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขึ้นเครื่องบินครั้งแรก ต้องทำอะไรบ้าง มาดูกัน
ศัพท์ที่ควรรู้
Itinerary = ใบรายละเอียดการเดินทาง หลังจากจองตั๋วผ่านอินเตอร์เน็ต เราจะได้ Itinerary หรือ booking confirmation ให้เราปริ้นค่ะ(ไม่ใช่ตั๋วที่ขึ้นเครื่อง)
Boarding Pass = บัตรโดยสาร / ใบผ่านขึ้นเครื่อง
ขั้นที่ 1
หลังจากที่เราจองตั๋วแล้ว จ่ายเงินเรียบร้อยแล้ว ให้เราปริ้นใบ booking confirmation หรือ Itinerary เพื่อนำไปยื่นที่เค้าเตอร์ check in (ไว้ยื่นวันที่จะขึ้นเครื่องที่สนามบินค่ะ)
ขั้นที่ 2 : กรณีโหลดสัมภาระใต้ท้องเครื่อง
- วันที่จะขึ้นเครื่อง ควรเผื่อเวลาสัก 2-3 ชั่วโมงก่อนถึงเวลาขึ้นเครื่องบิน โดยเฉพาะมือใหม่ต้องเผื่อเวลาไว้เยอะๆนะคะ (ยิ่งช่วงเทศกาล คนเยอะมาก ใช้เวลานานแน่ๆค่ะ)
- หากเมื่อไปถึงสนามบินให้ไปที่เค้าเตอร์สายการบินที่เราจองค่ะ เพื่อ check-in โดยยื่นเอกสาร booking confirmation และบัตรประชาชน เพื่อรับ boarding pass วางกระเป๋าตรงที่ชั่งน้ำหนัก จากนั้นเขาก็จะนำกระเป๋าเราไปเก็บใต้เครื่องค่ะ
- ให้ตรวจสอบความถูกต้องของ ชื่อ-นามสกุล ที่นั่ง เกต ในใบ boarding pass
- เจ้าหน้าที่จะบอกหมายเลข gate ของเรา ให้เราจำเลข gate ด้วยนะคะ (กรณีที่ในใบ boarding pass ไม่มีบอก)
กรณีไม่มีสัมภาระโหลดใต้ท้องเครื่อง
สามารถเช็คอินได้หลายวิธี (ตามสายการบิน)
- เช็คอินผ่านเคาท์เตอร์เช็คอินที่สนามบิน
- เช็คอินทางโทรศัพท์
- เช็คอินผ่านเว็บไซต์
- เช็คอินผ่าน Mobile Application
หลังจากนั้นจะมีไฟล์ boarding pass ให้เราปริ้นค่ะ
ขั้นที่ 3
หลังจากได้ boarding pass แล้วก็เดินตามป้ายผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ส่งบัตรประชนชนพร้อม Boarding Pass ให้เจ้าหน้าที่ตรวจ จากนั้นก็วางกระเป๋าที่ติดตัวขึ้นไปใส่สายพาน เพื่อผ่านเครื่องแสกน ส่วนของที่อยู่ในกระเป๋ากางเกง กระเป๋าเสื้อให้หยิบออกมาวางในตระกร้าให้หมด ถอดนาฬิกา ถอดหมวก ใส่ในตะกร้า แล้วเดินผ่านประตูตรวจจับโลหะ รับสัมภาระคืน
ขั้นที่ 4
เดินไปรอขึ้นเครื่องตามเกตที่ระบุใน Boarding Pass ในกรณีที่ Boarding Pass ไม่ได้ระบุไว้ก็ดูจากจอมอนิเตอร์ค่ะ เมื่อถึงเกตแล้วให้ดูว่าเที่ยวบินตรงกับใน Boarding Pass เราหรือเปล่า
สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ขั้นที่ 5
ก่อนเครื่องออก 30-40 นาที จะมีเจ้าหน้าที่เรียกขึ้นเครื่อง โดยจะเรียกผู้โดยสารที่ซื้อตั๋วใน class แพงขึ้นก่อน เช่น Business class, Hot seat, High Flyer จากนั้นจึงตามด้วยผู้โดยสารที่เหลือ เจ้าหน้าที่จะขอดูบัตรประชาชนพร้อม Boarding Pass และฉีก Boarding Pass ส่วนของสายการบินออก คืนส่วนที่เหลือให้เรา
ขั้นที่ 6
เดินขึ้นเครื่องไป ไปนั่งตามที่นั่งที่ระบุไว้ใน Boarding Pass ค่ะ ถ้าหากหาไม่เจอหรือมีคนมานั่งที่เรา ให้ขอความช่วยเหลือกับแอร์ฯค่ะ
ขั้นที่ 7
ตอนลงจากเครื่อง หากมีสัมภาระที่โหลดใต้เครื่อง ให้ไปรอรับกระเป๋าที่สายพานค่ะ เมื่อได้รับกระเป๋าก็ออกจากสนามบินไปเที่ยวได้เลย
เพิ่มเติมค่ะ
เรื่องเวลา
- ควรไปถึงที่สนามบินก่อนเวลาบิน 2 ชั่วโมง
- หากมีสัมภาระโหลดใต้เครื่องให้รีบไปโหลดสัมภาระที่เคาท์เตอร์เช็คอินของสายการบินเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
กระเป๋าถือขึ้นไปบนเครื่องกับเราด้วย (ไม่ได้โหลดใต้เครื่อง)
- กระเป๋าถือของผู้หญิงหรือกระเป๋ากล้องสามารถนำติดตัวไปได้โดยไม่นับว่าเป็นสัมภาระ
- สามารถนำกระเป๋าน้ำหนักไม่เกิน 7 กิโลกรัม ไปไว้บนเครื่องกับเราได้ *แนบรายละเอียดมาให้ แคปมาจากเว็บ airasia ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ห้ามนำของเหลวขึ้นเครื่องค่ะ *ของเหลวสามารถใส่ในกระเป๋าโหลดใต้เครื่องได้ค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ห้ามพก มืด , ปืน , ของมีคม , วัตถุอันตรายมีไฟ
รถฟรี ไป-กลับ สุวรรณภูมิ-ดอนเมือง
1. มีรถ shutter bus นั่งฟรีจากสนามบินสุวรรณภูมิ ไปสนามบินดอนเมือง (กรณีคนอยู่ใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ แต่ต้องไปขึ้นเครื่องบินที่ดอนเมือง)
- โดยจะมีการตรวจตั๋วเครื่องบิน/ใบ Itinerary/บอร์ดดิ้งพาส A4
- ขึ้นรถที่ อาคารผู้โดยสาร ชั้น 2 ประตู 3
2. มีรถ shutter bus นั่งฟรีจากสนามบินดอนเมือง ไปสนามบินสุวรรณภูมิ
- มีการตรวจตั๋วเครื่องบิน/ใบ Itinerary/บอร์ดดิ้งพาส A4
- ขึ้นรถที่ ชั้น 1 ขาเข้า ประตู 8
** ตารางเวลาเดินรถ ** : ควรกะระยะเวลาเดินทางด้วยนะคะ เผื่อเวลา 1-2 ชั่วโมง เพราะบางครั้งอาจจะมีการจราจรติดขัด ต้องคำนวณเวลาดีๆ ไม่งั้นมีโอกาสตกเครื่องนะคะ ครั้งแรกที่เราขึ้นเครื่อง เราเผื่อเวลาหลายชั่วโมงมากค่ะ แต่ก็ดีกว่าตกเครื่องเนาะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ร้านอาหาร
3. ในสนามบินสุวรรณภูมิ ในอาคารผู้โดยสารมีร้านอาหารเหมือนห้างค่ะ พวกร้านอาหารเฟรนชายต่างๆ มีเซเว่นด้วยนะ (ไม่ต้องเป็นผู้โดยสารก็ซื้อได้ค่ะ อยู่ตรงส่วนอาคารผู้โดยสารเลย)
4. สนามบินดอนเมือง ร้านอาหารในอาคารผู้โดยสารมีหลายร้านอยู่ แต่ราคาก็ค่อนข้างแพง จานนึง 150 ขึ้น และดูจากปริมาณก็น้อยนิด แต่สำหรับผู้โดยสาร เมื่อเราเช็คอินเข้าไปแล้ว ตรงทางเดินไปขึ้นเครื่องบิน จะมีร้านอาหารที่ราคาพอรับได้ หรือราคาพอกับข้างนอกแต่ได้ปริมาณเยอะกว่า พวก KFC, Sub way อะไรแบบนี้ค่ะ มีเซเว่นด้วย
- แต่มีแหล่งกินข้าวราคาย่อมเยาว์อีกที่ค่ะ ซึ่งมีชาวพันทิปมาตั้งกระทู้เอาไว้ ไปศึกษาที่ตั้งในลิ้งได้เลยค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อื่นๆ
5. ควรพกหมากฝรั่งติดตัวไป ในตอนที่ ช่วงบินขึ้น (Take Off) และลง (Landing) มักจะมีอาการหูอื้อ ให้เคี้ยวหมากฝรั่งหรือกลืนน้ำลายบ่อยๆ จะช่วยได้ค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลเพิ่มเติมจาก www.emagtravel.com/ , www.airasia.com , www.nokair.com
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับเที่ยวบินในประเทศ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คำแนะนำเพิ่มเติม สำหรับเที่ยวบินต่างประเทศ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
Q&A [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้