เด็กอายุ 15 ติดเพื่อน ขั้นรุ่นแรง ควรทำยังไงกับมันดี ขอคำแนะนำด้วยค่ะ

เรื่องมันมีอยู่ว่า เด็กชาย ค อายุ15 ปี เรียนอยู่ ม.3 ติดเพื่อนมากเพื่อนชวนไปไหนไปหมด ออกจากบ้านดึกๆ กลับเช้า บางวันก็ไม่ไปเรียนโดยอ้างว่าเพื่อน ค ไม่ไปเรียน 3 อาทิตย์ยังไม่เป็นไรเลย  ถ้าแม่ห้ามอะไรหรือทำอะไรที่ไม่ได้ดั่งใจเด็กชาย ค ก็จะทำลายข้าวของที่บ้าน ทำหมด ยกเว้นโทรศัพท์ กับรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอง พ่อแม่บอกอะไรก็ไม่ฟัง  ช่วงเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เด็กชาย ค ได้ออกจากบ้านบ่อยขึ้น และพ่อจับได้ว่า ดูดบุหรี่ แทงสนุกเกอร์ เที่ยวร้านเหล้า ตีนักเรียนต่างสถาบัน  พ่อไล่ออกจากบ้าน เด็กชาย ค ก็ไม่ไป และยังออกจากบ้านเหมื่อนเดิม แต่ยังไปโรงเรียนเพื่อเอาตังค์จากแม่ พ่อแม่เขาได้ปรึกษากันว่า "มันไปเรียนก็ดีแล้ว" หลังๆมาพ่อรักลูกมาก พ่อตามใจลูก เข้าข้างลูก เพื่อหวังจะให้ลูกมันปรับตัวขึ้น แต่แม่เด็กชาย ค จะไม่ค่อยตามใจ เวลาแม่ห้ามเด็กชาย ค ไม่ตามใจเด็กชาย ค เด็กชาย ค ก็จะไปพ้องพ่อ พ่อแม่ก็ทะเลาะกัน แล้วมันยังมีหน้ามาบอกว่า "มันทำให้พ่อแม่คืนดีกันทั้งๆที่เขาจะเลิกกันแล้ว"

แม่เด็กชาย ค เริ่มไม่สนใจมันจะเป็นอะไรก็ช่างมัน  มันยังคงไปเที่ยว ออกจากบ้านเหมื่อนเดิมแต่ น้อยลง เพราะพ่อแม่ตามไปด่าทุกที่ที่มันไปเพื่อนก็เลยไม่อยากให้มันไปด้วย  พ่อเขาทำงานแต่เช้าถึงเย็น กลับมาก็ไปตามลูกกลับบ้าน กว่าพ่อจะได้นอนก็ ตีสาม ตีสี่ แล้วต้องตื่นไปทำงานตอนหกโมงเช้าวันหยุดก็ต้องไปทำงานพิเศษเพื่อหาเงินมาส่งงวดรถมอเตอร์ไซค์ให้ลูกชาย

เมื่อวันที่ 4 เดือนพฤศจิกายน 2557 พ่อเขาได้เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน หมอบอกสาเหตุเกิดจากพักผ่อนไม่เพียงพอและความเครียด  เมื่อพ่อตาย เหมือนว่า ใครบอกอะไรเด็กชาย ค จะฟัง และจะปรับตัว ไม่ทำพฤติกรรมแบบเดิม แต่หลังจากงานศพเสร็จสองวัน (สเตตัสในไลน์เด็กชาย ค มันขึ้นว่า "วันที่รอคอย" อันนี้ไม่แน้ใจว่ามันตั้งขึ้นมาวันไหน ตั้งนานแล้ว หรือเพิ่งจะตั้ง)  เด็กชาย ค ก็กลับมาเป็นเหมื่อนเดิม โดยขอแม่ไม่ไปโรงเรียนเพราะเสียใจที่พ่อตาย  และออกจากบ้าน ไปหาเพื่อนเหมือนเดิม ลุง(พี่ชายของพ่อเด็กชาย ค ) ได้มาบอกมาสอน โดยตกลงกันว่า จะกลับบ้านไม่เกิน 4 ทุ่ม ไปไหนให้บอก วันแรกกลับมา 3 ทุ่ม วันที่ 2 กลับมา 4 ทุ่ม วันที่ 3 ไม่ไปไหน วันที่ 4 กลับมา 5 ทุ่ม   และหลังจากนี้ เขาก็ออกจากบ้านน้อยลงสามวันออกครั้ง และก็กลับเร็ว วันที่ 5 ธันวา เด็กชาย ค ออกจากบ้านตอนตี 2 แม่ถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่า "เพื่อนบอกว่ารถมันเสีย จะพามันเอารถไปซ่อมเดียวก็กลับ " แม่ก็ให้ไป แล้วแม่ก็โทรไปถามแม่ของเพื่อน ถามไปถามมาได้ความว่ามันพากันไปเที่ยวพัทยา (ขับมอเตอร์ไซค์ไป) แม่โทรตามให้เขากลับ เขากลับต่อว่าแม่ บอกว่า "แม่โทรไปบอกแม่เพื่อนทำไม แม่เพื่อนโทรมาด่าเพื่อน แม่จะทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ทำไมว่ะ"  แม่บอกเด็กชาย ค ว่า "จะไปไหนก็ไปไม่ต้องกลับบ้าน"
เช้าวันต่อมามันก็กลับมาบ้าน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขอตังไปโรงเรียนเหมื่อนเดิม แม่ก็ให้เหมือนเดิม และเหมือนกลับว่า เด็ดชาย ค จะปรับตัวดีขึ้น ไม่ออกจากบ้านตอนกลางคืน ช่วยแม่ทำงาน ไปโรงเรียน  

เมื่อวัน 24 25 เดือนธันวา เขาออกจากบ้าน กลับเช้า โดยบอกแม่ว่า อยู่บ้านเพื่อน วันเกิดเพื่อน แล้วมันให้คุยกับแม่เพื่อน ซึ่งแม่เด็กชาย ค ก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไรที่ลูกไม่กลับบ้าน

และ คืนวันที่ 26 สดๆร้อนๆ เวลาเที่ยงคืน แม่ก็ล๊อกบ้าน เก็บของ เตรียมตัวจะเข้านอน เด็ดชาย ค จะออกจากบ้าน ตอนเที่ยงคืน
แม่ถามว่า   "จะไปไหน มันดึกแล้ว"
เด็กชาย ค  "จะไปหาเพื่อน นัดกับมันไว้แล้ว "
แม่  "ไม่ให้ไป เมื่อวานก็โกหกกูว่าจะกลับตอนเที่ยงคืน ก็ไม่กลับ"
เด็กชาย ค "แม่จะเอาอย่างนี้ใช่ไหม ก็บอกแล้วไงจะไปหาเพื่อนเฉยๆ เปิดประตูให้หน่อย  ไม่ได้ไปฆ่าใครเหมื่อนแต่ก่อนซักหน่อย หรือแม่ต้องการอย่างนั้น  ถ้า ค ทำอย่างนั้น แม่ก็ติดคุกอ่า เอา ดิ "
ฉัน  "ใครทำคนนั้นก็ติดคุก อายุ 15 แล้วนิ"
เด็กชาย ค บอกว่า "เพือนมันไปตีเด็กโรงเรียนอื่น ตำรวจเขายังจับพ่อมันเลย แล้วพ่อมันก็จ่ายตังค์  เห็นเปล่า เขาให้พ่อแม่รับผิดชอบ "
ฉัน  "นั้นแม่ น๊ อยากให้เขาเข้าคุกหรอ แม่ คนที่เลี้ยงมา คนที่ให้เกิดมาน๊ เชื่อเพื่อนมากกว่าแม่ใช้ไหม"
แม่  " ไปหาเพื่อน พ่อแม่เพื่อนเขาก็ไม่สบายใจหรอกไปพาลูกเขาออกจากบ้านตอนกลางคืน ถ้าไม่ฟังแม่ อยากทำอะไรก็ทำไปจะไปไหนก็ไป บ้านนี้กูก็จะขาย รถ กูก็จะขาย จะไปอยู่ไหนก็ไป ถ้าทำอะไรกูก็จะไม่รับผิดชอบ ให้ตำรวจมาจับเลย "
เด็กชาย  ค  "แม่พูดเองน๊ แม่อยากให้เป็นแบบนี้ใช้ไหม " เด็กชาย ค เดินเข้าไปในบ้าน หยิบไขพวง มาแล้วปาใส่รถคนอื่นที่อยู่หน้าบ้าน
เด็กชาย ค  "แม่เลือกเองน๊ "
แม่   "จะไปไหนก็ไป ไปแต่ตัว"
เด็กชาย ค "เอ้อ " เขาปีนประตูออกจากบ้าน  

แม่เด็กชาย ค หันมาพูดกับฉันเอายังไงต่อ  ฉัน บอก" โทรไปแจ้งตำรวจ รถคันนี้ก็เอาไปคืน บ้านนี้ป้าจะขายก็ได้ จะได้ไม่ต้องเหนื่อหาเงิน " จบประโยคนี้ เด็กชาย ค ก็ปีนประตูกลับเข้ามาในบ้าน เขาบอกว่า "ไหนๆก็จะขายแล้ว กู ก็จะพังมันเอง "ร้องไห้มันจะพังรถ มัน ซึ่งมันไม้กล้าทำอยู่แล้วถ้ามันทำก็ไม่มีใครซื้อให้มันใหม่)
แม่เด็กชาย ค บอกว่า " เอาดิ กูจะแจ้งความ ใครทำคนนั้ก็โดนจับไป รถมันเป็นชื่อกู ของกู "  
ฉันเสริม " ใครทำ คนนั้นก็โดนจับ บ้าเปล่า คนที่ไม่ได้ทำจะโดนจับได้ไง " เจ้าของรถที่มันปาไขพวงใส่ ก็ออกมาดูรถ (ฉันให้พี่ สาวนาย ค ไปบอกเจ้าของรถ ออกมาดูรถ ตอนนั้นที่บ้าน มี ผู้ ญ สามคน ฉัน แม่เด็กชาย ค พี่สาวเด็กชาย ค ) เจ้าของรถออกมา(เจ้าของรถเป็นผู้ชาย)
เด็กชาย ค "แม่ไปบอกเขาทำไม อยากเดือดร้อนหรอ ไม่บอกเขาก็จบเปล่า " ตอนนั้นมันอยู่ในบ้าน แม่เข้าไปตามมันออกมาคุยกับเจ้าของรถ
ฉัน "ทำ ต้องรับผิดชอบ "
เด็กชาย ค ปิดประตูบ้าน  แม่เด็กชาย ค ก็ไปคุยกับเจ้าของรถ เจ้าของรถบอกไม่เป็นไร รถมีประกันอยู่ ดีแล้วที่พี่มาบอกผม ดีน๊มันไม่ทำร้ายใคร ช่างมันปล่อยมันไป คนไม่เป็นอะไรก็พอ พี่อย่าไปคิดมาก    แม่เด็ดชาย ค ก็ขอโทษเจ้าของรถไป ถ้าค่าซ่อมรถหมดเยอะ มาเอาเงินได้เลย    (ประตูหน้าบ้านเปิดตั้งแต่ตอนที่พี่สาวเด็กชาย ค ออกไปบอกเจ้าของรถแล้ว  เด็กชาย ค ก็ไม่ไปไหนทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มันอยากออกไปมากแบบพังประตูหน้าบ้านเพื่ออยากให้ประตูเปิด   มันเดินเข้าบ้านจร้า อยู่ในบ้าน )  

สรุปคืนนั้นมันไม่ไปไหน มีหน้ามาถามอีกว่า "เขาเอาเท่าไร บอกแล้วอย่าไปบอกเขา จะได้ไม่ต้องเสียตังค์"  แม่เด็กชาย ค " นั้นแหละต้องไปหาตังมาจ่าย ถ้าไม่จ่ายเขาก็จะเอาเข้าคุก ไม่เกี่ยวกับกู "   ฉัน "จะไปไหม กูจะปิดบ้าน "  เด็กชาย ค "หากุญแจรถไม่เจอ"  เฮ้อ ดูๆ ดูมัน  

ตอนนี้มันนอนอยู่บ้าน ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น (ฉันอยากกระทืบมันมากๆเลย  เรื่องที่มันทำฉันไม่เคยลืม แต่ถ้ามันรู้สึกผิดแล้วสำนึกได้จริงๆ ฉันพร้อมจะให้อภัยมันเสมอ)

ฉัน (ฉันเป็นลูกของน้องแม่เด็กชาย ค  ซึ่งเด็กชาย ค เรียกฉันว่าพี่ ) ปรึกษากับ แม่เด็กชาย ค ว่าจะเอายังไง เขาบอกต้องให้มันจบม.3 ก่อนแล้วให้มันไปอยู่กับญาติฝ่ายพ่อมัน  ฉันคิดว่ากว่าจะจบ ม.3 แม่เด็กชาย ค จะไม่เครียดจนตายเหมือนพ่อมันหรอ

ฉันควรจะทำอย่างไรกับมันดี ก่อนหน้านี้ฉันบอกสอนมัน มันเหมือนจะฟัง แต่ทุกวันนี้มันไม่ฟังเลย ฉันรักมันเหมือนน้องแท้ๆ อยากให้มันได้ดี พ่อก็ไม่มีแล้วแทนที่จะเชื่อฟังแม่ ไม่ทำให้แม่เสียใจ แต่มันก็ทำ
ฉันเพิ่งจะเคยเห็นคนที่อยากให้แม่ติดคุก คนที่รักเพื่อนมากกว่าแม่  

ใครก็ได้แนะนำฉันที่ ฉันควารจะทำยังไงกับมัน  มันถึงจะสำนึกบุญคุณแม่บ้าง
ช่วยแนะนำด้วยน๊ค่ะ ฉันไม่รู้จะทำยังไงแล้ว

ปล. เหตุเกิดที่ กรุงเทพฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่