.
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
รถของฉันกำลังแล่นไปตามถนนมิตรภาพในช่วงดึก เพื่อไปส่งน้องสาวทำงาน พวกเรามากันทั้งหมด 4 คน ฉัน แฟน น้องสาว และก็น้องสาวลูกพี่ลูกน้องอีกคน ในการมาส่งน้องครั้งนี้ก็เพื่อต้องการจะอยู่เที่ยวด้วยตามนิสัยชอบเที่ยวของฉันนั่นแหละ
“ตัวเองเข้าห้องน้ำหน่อย ไม่ไหวแล้ว”
“ไม่ทนอีกหน่อยเข้า ปตท. อ่ะ” เปียวหันมาตอบ ระหว่างนั้นก็ขับรถไปเรื่อย ๆ ปั๊ม ปตท. ก็อยู่ไกลเหลือเกิน เห็นป้ายอยู่ไกล ๆ ทว่าร่างกายฉันไม่ไหวแล้ว
“ไม่ไหวแล้ว แวะปั๊มตรงหน้าเลย ปั๊มไหนก็แวะ” ฉันบอกกล่าวแก่เขา เพราะตอนนี้ร่างกายฉันพร้อมจะระเบิดอยู่รอมร่อ “ปวดฉี่โว้ย!” ฉันหน้าบึ้งให้แฟน
“เออ!” น้อง ๆ ของฉันหัวเราะคิกคักกันใหญ่ที่เบาะด้านหลัง
และแล้วรถก็เลี้ยวเข้ามาที่ปั๊ม ๆ หนึ่ง ฉันไม่บอกหรอกว่ามันเป็นแบรนด์อะไร เงียบสงัดมืดไปหมด ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มเกือบจะห้าทุ่มแล้วแหละ ถึงที่หมายกี่โมงก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากน้องสาวหยุดอีกวันสำหรับพรุ่งนี้ พรุ่งนี้พวกเราจะเที่ยวกันก่อนกลับ
ภายในปั๊มเงียบและมืด ไฟในห้องน้ำสว่าง ร้านสะดวกซื้อปิดไฟมืดสนิท เนื่องจากไม่ใช่ช่วงเดินทางกลับเทศกาล น่าจะไม่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ฉันทนไม่ไหวแล้ว รีบเปิดประตูรถวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ดีที่เจ้าของยังเปิดไฟห้องน้ำเอาไว้
ฉันชะงักนิดหน่อย เพราะบรรยากาศมันเงียบจนน่ากลัว “กิ๊บมาเฝ้ากูหน้าห้องน้ำหน่อย มีใครจะเข้าห้องน้ำมั้ย” ฉันยอมสละเวลาอันมีค่าเพราะปวดฉี่มาก ๆ หันมาถามเพื่อนร่วมปลดทุกข์ น้องสาวทั้งสองคนและแฟนของฉันปฏิเสธ มีเพียงฉันคนเดียวที่จะเข้าห้องน้ำ ทุกคนรอเข้าปั๊มหรูหราไฮโซตรงหน้านู่น
“งั้นมาเฝ้ากูหน่อยหน้าห้องน้ำ กูกลัวมันมืด” น้องสาวของฉันทั้งสองคนเดินมายืนเฝ้าหน้าห้องน้ำ ส่วนเปียวแฟนของฉันยืนดูดบุหรี่รอที่รถ
ระหว่างที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่นั้น ห้องน้ำข้าง ๆ ฉันมีคนเข้ามาใช้ด้วย มีการตักน้ำลาดส้วม เนื่องจากเป็นส้วมนั่งยอง มีการตักให้ขันกระทบอ่างเสียงดัง มีการเปิดประตูห้องน้ำออกไปเปิดก๊อกน้ำล้างมือที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำตรงหน้าห้อง ทว่าฉันก็ไม่ใส่ใจ คงจะเป็นน้อง ๆ สองคนนั่นแหละ
เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อย ฉันเปิดประตูออกมา ต้องแปลกใจเพราะประตูห้องน้ำยังเปิดอ้าลักษณะเดิม ฉันเหลือบมองอ่างล้างมือตรงหน้า มันแห้งเหือดฝุ่นเกาะ ไม่มีร่องรอยของน้ำเลย ฉันจึงชะโงกหน้าเข้าไปดูห้องน้ำข้าง ๆ โถส้วมแห้งไม่มีการใช้งานเลย
ฉันไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่ก็ยอมรับว่าขนลุก ไม่ค่อยได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงเดินออกมาเงียบ ๆ เห็นน้อง ๆ สองคนกำลังยืนเล่นมือถือรอด้านหน้าห้องน้ำกันอยู่
“กิ๊บกับเวย์ได้เข้าห้องน้ำมั้ยเมื่อกี้” ฉันถามเพื่อความสบายใจไปอย่างนั้นแหละ รู้ว่าไม่มีใครเข้าไปหรอก ดูจากสภาพที่แห้งและฝุ่นเกาะเล็กน้อยของอ่างน้ำแล้ว
“ไม่อ่ะ ปะเดินทางต่อเหอะ” น้องสาวของฉันชวนไปกันได้แล้ว ตอนนี้ห้าทุ่มนิด ๆ กว่าจะถึงน่าจะเที่ยงคืนพอดี “ว่าแต่ทำไมอ่ะแป้ง”
“เปล่า ปะไปกันเถอะ” แล้วพวกฉันก็ออกเดินทางกันต่อ โดยทุกอย่างยังอยู่ในความสงสัยของฉัน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก อย่างที่บอกฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงจุดหมายสักที ในตัวจังหวัดนครราชสีมา กิ๊บทำงานที่นี่ รถเลี้ยวเข้ามาจอดภายในโรงจอดรถหอพัก ทุกคนลงมายืดเส้นยืดสายก่อนจะเข้าห้อง ฉันมองดูตึกก็สวยดี ใหม่ด้วย ดีกว่าอพาร์ตเมนต์ที่ฉันอยู่ด้วยซ้ำ ฉันพึ่งเคยมาส่งน้องเป็นครั้งแรกค่ะ
ทุกคนเดินขึ้นตึกไปยังชั้นสาม ภายในห้องสวยดีสมราคา ด้วยความเพลียทุกคนขอนอนเลย ล้างหน้าอย่างเดียว ก็ไม่มีใครรังเกียจอะไรก็คนกันเอง พี่น้องกันซกมกเหมือน ๆ กัน ฮา
กิ๊บกับเวย์นอนบนเตียง ฉันกับเปียวปูผ้าห่มนอนที่พื้น พวกเรานอนรวมกันสี่คนภายในห้องเล็ก ๆ พรุ่งนี้กะว่าจะเที่ยวสักสองที่ก่อนกลับบ้าน ฉันนอนได้สักพักรู้สึกปวดหัวตรงท้ายทอย น่าจะไมเกรนฉันปวดแบบนี้บ่อยจนชิน แต่ไม่ชิน! ต้องฝืนลุกมากินยาแก้ปวดจนได้
ดูนาฬิกาบนจอโทรศัพท์บอกเวลาตีสองครึ่ง เพราะปวดหัวบ่อยจึงพกยาแก้ปวดติดตัวเสมอ ฉันลุกขึ้นมาค้นกระเป๋าหายากิน พร้อมลุกไปเข้าห้องน้ำ ทุกคนหลับสนิทฉันจึงไม่กล้าเปิดไฟห้อง เปิดแค่ในห้องน้ำพอ เป็นไฟสีส้มสลัว ๆ ไม่สว่างจ้าจนแสบตาทำให้คนอื่นต้องตื่นไปด้วย
ฉันปวดฉี่จึงเดินเข้าห้องน้ำ “ฮือ ๆ “ ระหว่างที่นั่งชักโครกด้วยความปวดหัวยังไม่หาย ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ สะอึกสะอื้น สูดน้ำหมูกที่ฝาผนังห้องน้ำ เสียงมันชัดเจนมาก เหมือนมีคนแทรกซึมในฝาผนังเลย ฉันรู้สึกแบบนั้น
ฉันตกใจแต่ไม่กลัวเท่าไหร่ ฉันเอียงหูฟังดี ๆ เสียงร้องไห้หายไป ฉันจึงกดชักโครกเพราะฉี่เสร็จแล้ว ระหว่างกด “ฮือ ๆ “ เสียงร้องไห้โหยหวนดังปนกับเสียงน้ำของชักโครก ฉันแน่ใจแล้ว่าเป็นเสียงของอะไร
“อืม ไม่ว่ามืงจะเป็นใครก็ตาม มาทำแบบนี้คิดว่ากูแคร์มืงมากเหรอ คิดว่ากูกลัวมืงเหรอ กูยิ่งปวดหัวอยู่อย่าทำให้โมโห ผีก็ผีเหอะ มืงเคยตายรอบสองมั้ย!” ฉันด่ามันในใจในห้องน้ำ ไม่อยากพูดมีเสียงกลัวทุกคนได้ยินและหลอนกันไปใหญ่
“กูไม่เคยไปทำอะไรให้ใคร ชาติที่แล้วกูกับมืงไปทำอะไรกันไว้กูไม่ทราบ แต่ชาตินี้กูกับมืงไม่รู้จักกัน กูไม่เคยไปทำอะไรให้มืง อย่ามายุ่งกับกู! อดีตกูไม่รู้กูอยู่กับปัจจุบัน ถ้ามืงมีปัญหากับกูมากก็ออกมาใส่เดี่ยวกับกูเลยมา! ตัวต่อตัวกับกูเลย! อย่ามาร้องไห้ทำเสียงเฮี่ยแบบนี้! คิดว่ากูกลัวมืงเหรอกูยิ่งปวดหัวอยู่อี่ผี!” หึหึ ฉันด่ามันในใจ ด้วยความปวดหัวยิ่งมาทำให้คนหงุดหงิด
“กูจะนอน! อย่าเสื-ก ตามมาเข้าฝันกูนะ ไม่อย่างนั้นกูสาบแช่งมืงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่ กูจะนอนกูปวดหัวอี่ผี มืงแน่จริงมืงออกมาใส่เดี่ยวกับกูเลยตอนนี้อี่ผี”
ฉันพูดในใจก่อนจะกดชักโครกอีกรอบ ไม่มีเสียงร้องไห้เหมือนเมื่อครู่ ฉันเปิดน้ำล้างมือ ดูกระจกก็ไม่มีอะไร ฉันแอบหวั่น ๆ อยู่เหมือนกันถ้าเจออะไรในกระจก แต่ก็ทำใจแข็ง ของพวกนี้ต้องสู้มัน ๆ ถึงจะไม่กล้าทำอะไรเรา
ฉันทานยาไปหนึ่งเม็ด ฤทธิ์ยาทำให้หลับไปโดยไม่รู้ตัว ฉันหลับสนิทถึงเช้าไม่ฝันอะไรเลย ตอนเช้าพวกเรารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปเที่ยวกัน ฉันจึงขอให้น้องพาไปทำบุญก่อน เล่าทุกอย่างให้ฟังตั้งแต่ต้น
ฉันต้องการจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เธอเอง ฉันไม่ได้สัญญากับเธอไว้ แค่อยากทำให้ ตอนเช้าพวกเราไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดกันก่อนจะไปคาเฟ่ และเที่ยวก่อนเดินทางกลับในช่วงบ่าย
หลังจากวันนั้นมาฉันก็ไม่เจออะไรอีกเลย น้องสาวของฉันก็ไม่เจออะไร และถ้าไม่จำเป็นฉันไม่เข้าปั๊มแบบนั้นอีกเช่นกัน
จบ...
เรื่องสั้น : เรื่องเล่า
.
เป็นความเชื่อส่วนบุคคล โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านค่ะ
รถของฉันกำลังแล่นไปตามถนนมิตรภาพในช่วงดึก เพื่อไปส่งน้องสาวทำงาน พวกเรามากันทั้งหมด 4 คน ฉัน แฟน น้องสาว และก็น้องสาวลูกพี่ลูกน้องอีกคน ในการมาส่งน้องครั้งนี้ก็เพื่อต้องการจะอยู่เที่ยวด้วยตามนิสัยชอบเที่ยวของฉันนั่นแหละ
“ตัวเองเข้าห้องน้ำหน่อย ไม่ไหวแล้ว”
“ไม่ทนอีกหน่อยเข้า ปตท. อ่ะ” เปียวหันมาตอบ ระหว่างนั้นก็ขับรถไปเรื่อย ๆ ปั๊ม ปตท. ก็อยู่ไกลเหลือเกิน เห็นป้ายอยู่ไกล ๆ ทว่าร่างกายฉันไม่ไหวแล้ว
“ไม่ไหวแล้ว แวะปั๊มตรงหน้าเลย ปั๊มไหนก็แวะ” ฉันบอกกล่าวแก่เขา เพราะตอนนี้ร่างกายฉันพร้อมจะระเบิดอยู่รอมร่อ “ปวดฉี่โว้ย!” ฉันหน้าบึ้งให้แฟน
“เออ!” น้อง ๆ ของฉันหัวเราะคิกคักกันใหญ่ที่เบาะด้านหลัง
และแล้วรถก็เลี้ยวเข้ามาที่ปั๊ม ๆ หนึ่ง ฉันไม่บอกหรอกว่ามันเป็นแบรนด์อะไร เงียบสงัดมืดไปหมด ตอนนี้เป็นเวลาสี่ทุ่มเกือบจะห้าทุ่มแล้วแหละ ถึงที่หมายกี่โมงก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากน้องสาวหยุดอีกวันสำหรับพรุ่งนี้ พรุ่งนี้พวกเราจะเที่ยวกันก่อนกลับ
ภายในปั๊มเงียบและมืด ไฟในห้องน้ำสว่าง ร้านสะดวกซื้อปิดไฟมืดสนิท เนื่องจากไม่ใช่ช่วงเดินทางกลับเทศกาล น่าจะไม่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง ฉันทนไม่ไหวแล้ว รีบเปิดประตูรถวิ่งไปเข้าห้องน้ำ ดีที่เจ้าของยังเปิดไฟห้องน้ำเอาไว้
ฉันชะงักนิดหน่อย เพราะบรรยากาศมันเงียบจนน่ากลัว “กิ๊บมาเฝ้ากูหน้าห้องน้ำหน่อย มีใครจะเข้าห้องน้ำมั้ย” ฉันยอมสละเวลาอันมีค่าเพราะปวดฉี่มาก ๆ หันมาถามเพื่อนร่วมปลดทุกข์ น้องสาวทั้งสองคนและแฟนของฉันปฏิเสธ มีเพียงฉันคนเดียวที่จะเข้าห้องน้ำ ทุกคนรอเข้าปั๊มหรูหราไฮโซตรงหน้านู่น
“งั้นมาเฝ้ากูหน่อยหน้าห้องน้ำ กูกลัวมันมืด” น้องสาวของฉันทั้งสองคนเดินมายืนเฝ้าหน้าห้องน้ำ ส่วนเปียวแฟนของฉันยืนดูดบุหรี่รอที่รถ
ระหว่างที่กำลังเข้าห้องน้ำอยู่นั้น ห้องน้ำข้าง ๆ ฉันมีคนเข้ามาใช้ด้วย มีการตักน้ำลาดส้วม เนื่องจากเป็นส้วมนั่งยอง มีการตักให้ขันกระทบอ่างเสียงดัง มีการเปิดประตูห้องน้ำออกไปเปิดก๊อกน้ำล้างมือที่อ่างล้างมือหน้าห้องน้ำตรงหน้าห้อง ทว่าฉันก็ไม่ใส่ใจ คงจะเป็นน้อง ๆ สองคนนั่นแหละ
เมื่อทำธุระเสร็จเรียบร้อย ฉันเปิดประตูออกมา ต้องแปลกใจเพราะประตูห้องน้ำยังเปิดอ้าลักษณะเดิม ฉันเหลือบมองอ่างล้างมือตรงหน้า มันแห้งเหือดฝุ่นเกาะ ไม่มีร่องรอยของน้ำเลย ฉันจึงชะโงกหน้าเข้าไปดูห้องน้ำข้าง ๆ โถส้วมแห้งไม่มีการใช้งานเลย
ฉันไม่ได้กลัวหรอกนะ แต่ก็ยอมรับว่าขนลุก ไม่ค่อยได้เจอเหตุการณ์แบบนี้ จึงเดินออกมาเงียบ ๆ เห็นน้อง ๆ สองคนกำลังยืนเล่นมือถือรอด้านหน้าห้องน้ำกันอยู่
“กิ๊บกับเวย์ได้เข้าห้องน้ำมั้ยเมื่อกี้” ฉันถามเพื่อความสบายใจไปอย่างนั้นแหละ รู้ว่าไม่มีใครเข้าไปหรอก ดูจากสภาพที่แห้งและฝุ่นเกาะเล็กน้อยของอ่างน้ำแล้ว
“ไม่อ่ะ ปะเดินทางต่อเหอะ” น้องสาวของฉันชวนไปกันได้แล้ว ตอนนี้ห้าทุ่มนิด ๆ กว่าจะถึงน่าจะเที่ยงคืนพอดี “ว่าแต่ทำไมอ่ะแป้ง”
“เปล่า ปะไปกันเถอะ” แล้วพวกฉันก็ออกเดินทางกันต่อ โดยทุกอย่างยังอยู่ในความสงสัยของฉัน แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรมาก อย่างที่บอกฉันไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
ในที่สุดพวกเราก็มาถึงจุดหมายสักที ในตัวจังหวัดนครราชสีมา กิ๊บทำงานที่นี่ รถเลี้ยวเข้ามาจอดภายในโรงจอดรถหอพัก ทุกคนลงมายืดเส้นยืดสายก่อนจะเข้าห้อง ฉันมองดูตึกก็สวยดี ใหม่ด้วย ดีกว่าอพาร์ตเมนต์ที่ฉันอยู่ด้วยซ้ำ ฉันพึ่งเคยมาส่งน้องเป็นครั้งแรกค่ะ
ทุกคนเดินขึ้นตึกไปยังชั้นสาม ภายในห้องสวยดีสมราคา ด้วยความเพลียทุกคนขอนอนเลย ล้างหน้าอย่างเดียว ก็ไม่มีใครรังเกียจอะไรก็คนกันเอง พี่น้องกันซกมกเหมือน ๆ กัน ฮา
กิ๊บกับเวย์นอนบนเตียง ฉันกับเปียวปูผ้าห่มนอนที่พื้น พวกเรานอนรวมกันสี่คนภายในห้องเล็ก ๆ พรุ่งนี้กะว่าจะเที่ยวสักสองที่ก่อนกลับบ้าน ฉันนอนได้สักพักรู้สึกปวดหัวตรงท้ายทอย น่าจะไมเกรนฉันปวดแบบนี้บ่อยจนชิน แต่ไม่ชิน! ต้องฝืนลุกมากินยาแก้ปวดจนได้
ดูนาฬิกาบนจอโทรศัพท์บอกเวลาตีสองครึ่ง เพราะปวดหัวบ่อยจึงพกยาแก้ปวดติดตัวเสมอ ฉันลุกขึ้นมาค้นกระเป๋าหายากิน พร้อมลุกไปเข้าห้องน้ำ ทุกคนหลับสนิทฉันจึงไม่กล้าเปิดไฟห้อง เปิดแค่ในห้องน้ำพอ เป็นไฟสีส้มสลัว ๆ ไม่สว่างจ้าจนแสบตาทำให้คนอื่นต้องตื่นไปด้วย
ฉันปวดฉี่จึงเดินเข้าห้องน้ำ “ฮือ ๆ “ ระหว่างที่นั่งชักโครกด้วยความปวดหัวยังไม่หาย ฉันได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ สะอึกสะอื้น สูดน้ำหมูกที่ฝาผนังห้องน้ำ เสียงมันชัดเจนมาก เหมือนมีคนแทรกซึมในฝาผนังเลย ฉันรู้สึกแบบนั้น
ฉันตกใจแต่ไม่กลัวเท่าไหร่ ฉันเอียงหูฟังดี ๆ เสียงร้องไห้หายไป ฉันจึงกดชักโครกเพราะฉี่เสร็จแล้ว ระหว่างกด “ฮือ ๆ “ เสียงร้องไห้โหยหวนดังปนกับเสียงน้ำของชักโครก ฉันแน่ใจแล้ว่าเป็นเสียงของอะไร
“อืม ไม่ว่ามืงจะเป็นใครก็ตาม มาทำแบบนี้คิดว่ากูแคร์มืงมากเหรอ คิดว่ากูกลัวมืงเหรอ กูยิ่งปวดหัวอยู่อย่าทำให้โมโห ผีก็ผีเหอะ มืงเคยตายรอบสองมั้ย!” ฉันด่ามันในใจในห้องน้ำ ไม่อยากพูดมีเสียงกลัวทุกคนได้ยินและหลอนกันไปใหญ่
“กูไม่เคยไปทำอะไรให้ใคร ชาติที่แล้วกูกับมืงไปทำอะไรกันไว้กูไม่ทราบ แต่ชาตินี้กูกับมืงไม่รู้จักกัน กูไม่เคยไปทำอะไรให้มืง อย่ามายุ่งกับกู! อดีตกูไม่รู้กูอยู่กับปัจจุบัน ถ้ามืงมีปัญหากับกูมากก็ออกมาใส่เดี่ยวกับกูเลยมา! ตัวต่อตัวกับกูเลย! อย่ามาร้องไห้ทำเสียงเฮี่ยแบบนี้! คิดว่ากูกลัวมืงเหรอกูยิ่งปวดหัวอยู่อี่ผี!” หึหึ ฉันด่ามันในใจ ด้วยความปวดหัวยิ่งมาทำให้คนหงุดหงิด
“กูจะนอน! อย่าเสื-ก ตามมาเข้าฝันกูนะ ไม่อย่างนั้นกูสาบแช่งมืงไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดแน่ กูจะนอนกูปวดหัวอี่ผี มืงแน่จริงมืงออกมาใส่เดี่ยวกับกูเลยตอนนี้อี่ผี”
ฉันพูดในใจก่อนจะกดชักโครกอีกรอบ ไม่มีเสียงร้องไห้เหมือนเมื่อครู่ ฉันเปิดน้ำล้างมือ ดูกระจกก็ไม่มีอะไร ฉันแอบหวั่น ๆ อยู่เหมือนกันถ้าเจออะไรในกระจก แต่ก็ทำใจแข็ง ของพวกนี้ต้องสู้มัน ๆ ถึงจะไม่กล้าทำอะไรเรา
ฉันทานยาไปหนึ่งเม็ด ฤทธิ์ยาทำให้หลับไปโดยไม่รู้ตัว ฉันหลับสนิทถึงเช้าไม่ฝันอะไรเลย ตอนเช้าพวกเรารีบอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะไปเที่ยวกัน ฉันจึงขอให้น้องพาไปทำบุญก่อน เล่าทุกอย่างให้ฟังตั้งแต่ต้น
ฉันต้องการจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เธอเอง ฉันไม่ได้สัญญากับเธอไว้ แค่อยากทำให้ ตอนเช้าพวกเราไปทำบุญถวายสังฆทานที่วัดกันก่อนจะไปคาเฟ่ และเที่ยวก่อนเดินทางกลับในช่วงบ่าย
หลังจากวันนั้นมาฉันก็ไม่เจออะไรอีกเลย น้องสาวของฉันก็ไม่เจออะไร และถ้าไม่จำเป็นฉันไม่เข้าปั๊มแบบนั้นอีกเช่นกัน
จบ...