เรื่องสั้น : ใคร
โดย : ชลัน
เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
************************************************
ป๊อก...ป๊อก...ป๊อก... เสียงเดิมที่คุ้นเคยทำให้เธอต้องสะดุ้งตื่น ลืมตามองเพดานห้อง บรรยากาศรอบห้องและด้านนอกเงียบสงัดและมืดสนิท ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงรถวิ่งผ่าน เธอปรับตาครู่เดียวก็สามารถมองเห็นทุกอย่างภายใต้ความมืดได้
คืนนี้เสียงเคาะขวดน้ำดังขึ้นอีกแล้ว ขวดน้ำเปล่าที่กินหมดแต่ยังไม่ทิ้ง เธอวางมันไว้ข้าง ๆ ตู้เย็น ซึ่งเตียงนอนกับตู้เย็นอยู่ใกล้ ๆ กันตามฉบับห้องเช่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยิน เธอชินแล้ว ชินภายใต้ความกลัว
ทุก ๆ ครั้งเมื่อใดที่เสียงนี้เกิดขึ้น เธอจะพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เสมอ ปล่อยให้มันเคาะไป ถ้าอยากเคาะ ส่วนเธอจะขอนอนต่อ
ตอนนี้เธอลืมตานอนหงายมองเพดาน ไม่กล้าที่จะหันไปมองทางฝั่งตู้เย็นที่มีขวดน้ำตั้งอยู่ กลัวเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่อยากจะเห็น “อีกแล้วเหรอ ! “ พูดในใจ ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนตะแคงขวา หันหน้ามาทางประตูห้อง หันหลังให้กับตู้เย็นเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
“ชั้นจะนอน แกก็อยู่ส่วนแก ผีอยู่ส่วนผีชั้นเป็นคนอย่ามายุ่งกัน ชั้นเป็นเจ้าของห้องชั้นจ่ายค่าห้อง แกเป็นแค่ผู้อาศัย อย่าจองหอง มืงมาอยู่ก่อนก็ช่าง แต่กูเป็นคนจ่ายค่าห้อง อย่ากวน!!!” บ่นในใจยืดยาวแล้วก็ข่มตาหลับ
แต่ก่อนจะหลับ กลั้นใจเหวี่ยงมือไปคว้าโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้หัวเตียงมาดูเวลาว่า กี่โมงกี่ยามกันแล้ว 04.30 น. อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ถอนหายใจและหลับต่อไป ที่กลั้นใจเพราะกลัวเหวี่ยงมือไปโดนมือของใครบางคนเข้า
เธอผล็อยหลับไปไม่ถึงสิบนาทีได้ยินเสียงคนเคาะขวดน้ำอีกแล้ว แถมรอบนี้มีเสียงลากถุงพลาสติกที่เธอใส่ขวดน้ำเปล่าไว้ตามมาด้วย
ป๊อก... ป๊อก.... ครืด... ครืด... ! อยู่ภายในห้องกลับไปกลับมาสองครั้ง พร้อมได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า
“กูจะทำให้มืงหันหน้ามามองกูให้ได้ !”
เธอตกใจมาก ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ภายในห้องมันเงียบสงัดกว่าปกติ เงียบกว่าที่มันเงียบอยู่แล้ว และห้องก็มืดกว่าเดิม เธอพยายามปรับตาให้ชินกับความมืด ก็ทำไม่ได้ เธอนอนตะแคงหันหน้ามาทางฝั่งตู้เย็น เห็นเป็นเงาคนลาง ๆ นั่งอยู่ จำได้ว่าก่อนจะหลับอีกรอบตัวเองนอนหันหลังให้ตู้เย็นนี่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้หันหน้ามาฝั่งนี้ได้ แล้วก็รีบพลิกตัวกลับ แต่ตัวเจ้ากรรมดันขยับไม่ได้ เงานั้นก็ยังนั่งอยู่ข้าง ๆ ตู้เย็นข้าง ๆ ถุงที่เธอเอาขวดพลาสติกใส่ไว้
เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาตามตัว เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ฝัน เธอเป็นจริงๆ เรื่องจริงไม่ใช่ฝัน หรือหากฝันก็เป็นฝันที่เหมือนจริงเหลือเกิน เงานั้นเดินมานั่งลงปลายเตียงนอน และตัวเธอเองดันพลิกตัวนอนงายตาม ทว่าก็ขยับไปมากกว่านี้ไม่ได้ รู้สึกว่าตัวมันหนักมาก
เงาสีดำเทาซึ่งมองหน้าไม่ชัด ถึงมองไม่ชัดก็รับรู้ได้ว่าเป็นเงาของผู้หญิง เธอกลัวมาก แต่นี่มันห้องของเธอ เธอจ่ายค่าห้อง อีกใจก็กลัวอีกใจก็กล้าและโมโห “กูจะไม่ยอมมองหน้ามืงหรอก อย่าให้กูขยับตีนได้นะ ถีบมืงแน่” พยายามเปล่งเสียงพูดออกมา ซึ่งขยับปากได้ลำบากมาก ๆ จากนั้นก็หลับตาปี๋ ไม่อยากมองหน้าเงานั้น
เธอรู้สึกได้ว่าเท้าทั้งสองข้างมีมือของใครบางคนกำลังจับและกดเท้าของเธอไว้ สัมผัสได้ถึงนิ้วมือทั้งห้านิ้วของมัน จับไว้กดไว้แบบนั้นเฉย ๆ ไม่ยอมทำอะไรนอกจากจับกดเท้าแค่นั้น เธอกลัวมาก กลัวและโมโหผสมปนเปกันไปหมด เหงื่อไหลซึมออกมาตามร่างกายจนรู้สึกได้ว่าหลังเปียก มันเหมือนจริงมาก ๆ เธอไม่ได้ฝัน ผีผู้หญิงมันกำลังกดเท้าของเธอเอาไว้ เหมือนมันกำลังยิ้มเยาะเย้ยเธอที่โดนมันแกล้ง
จากความกลัวกลายเป็นความโมโหขั้นขีดสุด เธอพยายามที่จะขยับเท้าให้ได้ เพื่อที่จะถีบเงาร่างนั้นไป ทว่าขยับเท่าไหร่ก็ไม่ได้ เหมือนมันกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่ หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและโกรธ
เธอพยายามออกแรงดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อให้หลุดจากมือของเงาร่างนั้น “อย่าให้กูถีบมืงได้นะ” ใจของเธออยากพูดไปเช่นนั้น ทว่าการที่จะง้างปากพูดมันช่างยากเย็นนัก ไม่มีแรงแม้แต่จะอ้าปากด่า แต่ใจของเธอมาหมด ชัดถ้อยชัดคำทุกคำพูด
ผีอิสาน สัตว์เลื้อยคลานมาหมด แต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่หลุดปากออกมาคือ สาปแช่งมัน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เธอถึงไม่อยากพูด
อื้อ.. อื้อ... มีเพียงเสียงคางอู้อี้หลุดออกมาจากปากของเธอ ขณะที่เธอยังหลับอยู่
“แป้ง ! แป้ง !เป็นไรอ่ะ ละเมอหรอ” เปียวนอนอยู่ข้าง ๆ เขย่าตัวเธอให้ตื่น
“อี่ผี !” เมื่อเปียวปลุกเธอ และนี่เป็นคำเดียวที่สามารถหลุดออกมาจากปากของเธอได้ชัดเจนสมดังใจ “นี่เมื่อกี้แป้งฝันเหรอ !” เมื่อขยับตัวได้ ขยับปากพูดได้ ลืมตาได้ แป้งจึงลุกขึ้นถามออกมาด้วยความงุนงงปนสงสัยว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อือฝัน ละเมอด้วย ฝันว่าอะไรอ่ะ” เปียวลุกขึ้นเปิดไฟสว่างทั่วทั้งห้อง และถามเธอด้วยอยากรู้มาก ๆ เช่นกัน
เธอกำลังงงว่าตัวเองฝันงั้นเหรอ ซึ่งเมื่อสักครู่มันเหมือนจริงมาก ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องทุกอย่างเหมือนเดิม ขวดน้ำยังอยู่ในถุงพลาสติกที่เดิม ทุกอย่างวางอยู่มุมเดิมหมด
“เปียวมันเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ เปียวจำได้มั้ยเรื่องแป้งได้ยินเสียงคนเคาะขวดน้ำในห้องอ่ะ เมื่อก่อนมันจะเกิดขึ้นแค่วันที่แป้งนอนคนเดียว แต่นี่มีเปียวอยู่ด้วย แป้งว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะ แป้งไม่โอเค” เธอเหล่าให้แฟนฟัง ถอนหายใจ มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อก่อนห้องนี้ไม่เคยมีเรื่องพวกนี้เลย มันพึ่งเริ่มจะมีมาไม่กี่เดือนนี่เอง
“อีกแล้วเหรอ “ เปียวตอบ เขาเชื่อเธอ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แป้งเจอเรื่องนี้ “จะทำยังไงล่ะ ย้ายหอมั้ย”
“ครั้งนี้มันหนักจริง ๆ นะเปียว เมื่อก่อนแป้งได้ยินแป้งก็ไม่สนใจ เพราะแป้งคิดว่าผีกับคนต่างคนต่างอยู่ แต่ครั้งนี้แป้งได้ยินมันพูดว่า กูจะทำให้มืงหันมามองหน้ากูให้ได้ แล้วมัน ! แล้วมันก็มาจับขาแป้งกดขาแป้งไว้อ่ะเปียว” เธอจะร้องไห้ จะว่ากลัวก็กลัว จะว่าไม่กลัวก็ไม่กลัว เปียวดันตัวของเธอเข้ามากอดปลอบ
ทุกครั้งที่เธอได้ยินเสียง เธอจะตะแคงนอนหันหลังให้ ไม่หันหน้าไปมองตลอดทั้งคืน และมันมักเกิดขึ้นช่วงใกล้เช้าแล้ว ตีสามไปถึงตีสี่เสมอ ทว่าก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
“ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อเถอะตีห้าแล้ว จะเช้าแล้วไม่มีไรหรอก” เปียวพูดปลอบใจ เธอพยักหน้าแล้วล้มตัวลงนอนต่อ แต่คราวนี้ท้าทาย นอนหันหน้าไปทางตู้เย็นเลย
“กูเป็นคนจ่ายค่าเช่า ตามมาอาศัยอยู่ด้วยยังไม่พอ เผือกมาสร้างความเดือดร้อนให้กูอีกนะมืง หรือถ้ามืงมาอยู่ก่อนพวกกู แต่กูเป็นคนจ่ายค่าเช่า เพราะฉะนั้นห้องนี้เป็นห้องกู มืงออกไปซะ ! อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้กันและกันอีก ต่างคนต่างอยู่ ไม่อย่างนั้นมืงตายรอบสองแน่ สาปส่งมืงไม่ได้ผุดได้เกิดแน่”
เปียวบ่นอะไรนิดหน่อย ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ตะแคงตัวหันหน้ามาทางตู้เย็นเหมือนกัน สวมกอดให้ความอุ่นใจแก่เธอจนเช้า
“เปียววันหยุดไปทำบุญเนอะ”
“อือ”
เช้ามาทำงาน เธอไม่ค่อยสบายใจเรื่องเมื่อคืนเท่าไหร่นัก จึงส่งไลน์ฝากข้อความหาแฟนไว้ ไม่นานเขาก็ตอบตกลงกลับมา ถึงไม่กลัวแต่ก็ไม่ลบหลู่ ถึงโมโหไม่ชอบใจต่อการกระทำของอะไรบางอย่างแต่ก็อยากทำบุญกวาดน้ำไปให้...
จบ...
เรื่องสั้น : ใคร
เรื่องสั้น : ใคร
โดย : ชลัน
เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
************************************************
ป๊อก...ป๊อก...ป๊อก... เสียงเดิมที่คุ้นเคยทำให้เธอต้องสะดุ้งตื่น ลืมตามองเพดานห้อง บรรยากาศรอบห้องและด้านนอกเงียบสงัดและมืดสนิท ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงรถวิ่งผ่าน เธอปรับตาครู่เดียวก็สามารถมองเห็นทุกอย่างภายใต้ความมืดได้
คืนนี้เสียงเคาะขวดน้ำดังขึ้นอีกแล้ว ขวดน้ำเปล่าที่กินหมดแต่ยังไม่ทิ้ง เธอวางมันไว้ข้าง ๆ ตู้เย็น ซึ่งเตียงนอนกับตู้เย็นอยู่ใกล้ ๆ กันตามฉบับห้องเช่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยิน เธอชินแล้ว ชินภายใต้ความกลัว
ทุก ๆ ครั้งเมื่อใดที่เสียงนี้เกิดขึ้น เธอจะพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เสมอ ปล่อยให้มันเคาะไป ถ้าอยากเคาะ ส่วนเธอจะขอนอนต่อ
ตอนนี้เธอลืมตานอนหงายมองเพดาน ไม่กล้าที่จะหันไปมองทางฝั่งตู้เย็นที่มีขวดน้ำตั้งอยู่ กลัวเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่อยากจะเห็น “อีกแล้วเหรอ ! “ พูดในใจ ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนตะแคงขวา หันหน้ามาทางประตูห้อง หันหลังให้กับตู้เย็นเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
“ชั้นจะนอน แกก็อยู่ส่วนแก ผีอยู่ส่วนผีชั้นเป็นคนอย่ามายุ่งกัน ชั้นเป็นเจ้าของห้องชั้นจ่ายค่าห้อง แกเป็นแค่ผู้อาศัย อย่าจองหอง มืงมาอยู่ก่อนก็ช่าง แต่กูเป็นคนจ่ายค่าห้อง อย่ากวน!!!” บ่นในใจยืดยาวแล้วก็ข่มตาหลับ
แต่ก่อนจะหลับ กลั้นใจเหวี่ยงมือไปคว้าโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้หัวเตียงมาดูเวลาว่า กี่โมงกี่ยามกันแล้ว 04.30 น. อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ถอนหายใจและหลับต่อไป ที่กลั้นใจเพราะกลัวเหวี่ยงมือไปโดนมือของใครบางคนเข้า
เธอผล็อยหลับไปไม่ถึงสิบนาทีได้ยินเสียงคนเคาะขวดน้ำอีกแล้ว แถมรอบนี้มีเสียงลากถุงพลาสติกที่เธอใส่ขวดน้ำเปล่าไว้ตามมาด้วย ป๊อก... ป๊อก.... ครืด... ครืด... ! อยู่ภายในห้องกลับไปกลับมาสองครั้ง พร้อมได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า “กูจะทำให้มืงหันหน้ามามองกูให้ได้ !”
เธอตกใจมาก ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ภายในห้องมันเงียบสงัดกว่าปกติ เงียบกว่าที่มันเงียบอยู่แล้ว และห้องก็มืดกว่าเดิม เธอพยายามปรับตาให้ชินกับความมืด ก็ทำไม่ได้ เธอนอนตะแคงหันหน้ามาทางฝั่งตู้เย็น เห็นเป็นเงาคนลาง ๆ นั่งอยู่ จำได้ว่าก่อนจะหลับอีกรอบตัวเองนอนหันหลังให้ตู้เย็นนี่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้หันหน้ามาฝั่งนี้ได้ แล้วก็รีบพลิกตัวกลับ แต่ตัวเจ้ากรรมดันขยับไม่ได้ เงานั้นก็ยังนั่งอยู่ข้าง ๆ ตู้เย็นข้าง ๆ ถุงที่เธอเอาขวดพลาสติกใส่ไว้
เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาตามตัว เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ฝัน เธอเป็นจริงๆ เรื่องจริงไม่ใช่ฝัน หรือหากฝันก็เป็นฝันที่เหมือนจริงเหลือเกิน เงานั้นเดินมานั่งลงปลายเตียงนอน และตัวเธอเองดันพลิกตัวนอนงายตาม ทว่าก็ขยับไปมากกว่านี้ไม่ได้ รู้สึกว่าตัวมันหนักมาก
เงาสีดำเทาซึ่งมองหน้าไม่ชัด ถึงมองไม่ชัดก็รับรู้ได้ว่าเป็นเงาของผู้หญิง เธอกลัวมาก แต่นี่มันห้องของเธอ เธอจ่ายค่าห้อง อีกใจก็กลัวอีกใจก็กล้าและโมโห “กูจะไม่ยอมมองหน้ามืงหรอก อย่าให้กูขยับตีนได้นะ ถีบมืงแน่” พยายามเปล่งเสียงพูดออกมา ซึ่งขยับปากได้ลำบากมาก ๆ จากนั้นก็หลับตาปี๋ ไม่อยากมองหน้าเงานั้น
เธอรู้สึกได้ว่าเท้าทั้งสองข้างมีมือของใครบางคนกำลังจับและกดเท้าของเธอไว้ สัมผัสได้ถึงนิ้วมือทั้งห้านิ้วของมัน จับไว้กดไว้แบบนั้นเฉย ๆ ไม่ยอมทำอะไรนอกจากจับกดเท้าแค่นั้น เธอกลัวมาก กลัวและโมโหผสมปนเปกันไปหมด เหงื่อไหลซึมออกมาตามร่างกายจนรู้สึกได้ว่าหลังเปียก มันเหมือนจริงมาก ๆ เธอไม่ได้ฝัน ผีผู้หญิงมันกำลังกดเท้าของเธอเอาไว้ เหมือนมันกำลังยิ้มเยาะเย้ยเธอที่โดนมันแกล้ง
จากความกลัวกลายเป็นความโมโหขั้นขีดสุด เธอพยายามที่จะขยับเท้าให้ได้ เพื่อที่จะถีบเงาร่างนั้นไป ทว่าขยับเท่าไหร่ก็ไม่ได้ เหมือนมันกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่ หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและโกรธ
เธอพยายามออกแรงดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อให้หลุดจากมือของเงาร่างนั้น “อย่าให้กูถีบมืงได้นะ” ใจของเธออยากพูดไปเช่นนั้น ทว่าการที่จะง้างปากพูดมันช่างยากเย็นนัก ไม่มีแรงแม้แต่จะอ้าปากด่า แต่ใจของเธอมาหมด ชัดถ้อยชัดคำทุกคำพูด
ผีอิสาน สัตว์เลื้อยคลานมาหมด แต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่หลุดปากออกมาคือ สาปแช่งมัน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เธอถึงไม่อยากพูด
อื้อ.. อื้อ... มีเพียงเสียงคางอู้อี้หลุดออกมาจากปากของเธอ ขณะที่เธอยังหลับอยู่
“แป้ง ! แป้ง !เป็นไรอ่ะ ละเมอหรอ” เปียวนอนอยู่ข้าง ๆ เขย่าตัวเธอให้ตื่น
“อี่ผี !” เมื่อเปียวปลุกเธอ และนี่เป็นคำเดียวที่สามารถหลุดออกมาจากปากของเธอได้ชัดเจนสมดังใจ “นี่เมื่อกี้แป้งฝันเหรอ !” เมื่อขยับตัวได้ ขยับปากพูดได้ ลืมตาได้ แป้งจึงลุกขึ้นถามออกมาด้วยความงุนงงปนสงสัยว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่
“อือฝัน ละเมอด้วย ฝันว่าอะไรอ่ะ” เปียวลุกขึ้นเปิดไฟสว่างทั่วทั้งห้อง และถามเธอด้วยอยากรู้มาก ๆ เช่นกัน
เธอกำลังงงว่าตัวเองฝันงั้นเหรอ ซึ่งเมื่อสักครู่มันเหมือนจริงมาก ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องทุกอย่างเหมือนเดิม ขวดน้ำยังอยู่ในถุงพลาสติกที่เดิม ทุกอย่างวางอยู่มุมเดิมหมด
“เปียวมันเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ เปียวจำได้มั้ยเรื่องแป้งได้ยินเสียงคนเคาะขวดน้ำในห้องอ่ะ เมื่อก่อนมันจะเกิดขึ้นแค่วันที่แป้งนอนคนเดียว แต่นี่มีเปียวอยู่ด้วย แป้งว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะ แป้งไม่โอเค” เธอเหล่าให้แฟนฟัง ถอนหายใจ มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อก่อนห้องนี้ไม่เคยมีเรื่องพวกนี้เลย มันพึ่งเริ่มจะมีมาไม่กี่เดือนนี่เอง
“อีกแล้วเหรอ “ เปียวตอบ เขาเชื่อเธอ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แป้งเจอเรื่องนี้ “จะทำยังไงล่ะ ย้ายหอมั้ย”
“ครั้งนี้มันหนักจริง ๆ นะเปียว เมื่อก่อนแป้งได้ยินแป้งก็ไม่สนใจ เพราะแป้งคิดว่าผีกับคนต่างคนต่างอยู่ แต่ครั้งนี้แป้งได้ยินมันพูดว่า กูจะทำให้มืงหันมามองหน้ากูให้ได้ แล้วมัน ! แล้วมันก็มาจับขาแป้งกดขาแป้งไว้อ่ะเปียว” เธอจะร้องไห้ จะว่ากลัวก็กลัว จะว่าไม่กลัวก็ไม่กลัว เปียวดันตัวของเธอเข้ามากอดปลอบ
ทุกครั้งที่เธอได้ยินเสียง เธอจะตะแคงนอนหันหลังให้ ไม่หันหน้าไปมองตลอดทั้งคืน และมันมักเกิดขึ้นช่วงใกล้เช้าแล้ว ตีสามไปถึงตีสี่เสมอ ทว่าก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก
“ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อเถอะตีห้าแล้ว จะเช้าแล้วไม่มีไรหรอก” เปียวพูดปลอบใจ เธอพยักหน้าแล้วล้มตัวลงนอนต่อ แต่คราวนี้ท้าทาย นอนหันหน้าไปทางตู้เย็นเลย
“กูเป็นคนจ่ายค่าเช่า ตามมาอาศัยอยู่ด้วยยังไม่พอ เผือกมาสร้างความเดือดร้อนให้กูอีกนะมืง หรือถ้ามืงมาอยู่ก่อนพวกกู แต่กูเป็นคนจ่ายค่าเช่า เพราะฉะนั้นห้องนี้เป็นห้องกู มืงออกไปซะ ! อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้กันและกันอีก ต่างคนต่างอยู่ ไม่อย่างนั้นมืงตายรอบสองแน่ สาปส่งมืงไม่ได้ผุดได้เกิดแน่”
เปียวบ่นอะไรนิดหน่อย ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ตะแคงตัวหันหน้ามาทางตู้เย็นเหมือนกัน สวมกอดให้ความอุ่นใจแก่เธอจนเช้า
“เปียววันหยุดไปทำบุญเนอะ”
“อือ”
เช้ามาทำงาน เธอไม่ค่อยสบายใจเรื่องเมื่อคืนเท่าไหร่นัก จึงส่งไลน์ฝากข้อความหาแฟนไว้ ไม่นานเขาก็ตอบตกลงกลับมา ถึงไม่กลัวแต่ก็ไม่ลบหลู่ ถึงโมโหไม่ชอบใจต่อการกระทำของอะไรบางอย่างแต่ก็อยากทำบุญกวาดน้ำไปให้...
จบ...