เรื่องสั้น : ใคร


เรื่องสั้น : ใคร
โดย : ชลัน

               เรื่องสั้นเรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน

************************************************

             ป๊อก...ป๊อก...ป๊อก... เสียงเดิมที่คุ้นเคยทำให้เธอต้องสะดุ้งตื่น ลืมตามองเพดานห้อง บรรยากาศรอบห้องและด้านนอกเงียบสงัดและมืดสนิท ไม่ได้ยินแม้แต่เสียงรถวิ่งผ่าน เธอปรับตาครู่เดียวก็สามารถมองเห็นทุกอย่างภายใต้ความมืดได้

              คืนนี้เสียงเคาะขวดน้ำดังขึ้นอีกแล้ว ขวดน้ำเปล่าที่กินหมดแต่ยังไม่ทิ้ง เธอวางมันไว้ข้าง ๆ ตู้เย็น ซึ่งเตียงนอนกับตู้เย็นอยู่ใกล้ ๆ กันตามฉบับห้องเช่า นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอได้ยิน เธอชินแล้ว ชินภายใต้ความกลัว

               ทุก ๆ ครั้งเมื่อใดที่เสียงนี้เกิดขึ้น เธอจะพลิกตัวนอนตะแคงหันหลังให้เสมอ ปล่อยให้มันเคาะไป ถ้าอยากเคาะ ส่วนเธอจะขอนอนต่อ

              ตอนนี้เธอลืมตานอนหงายมองเพดาน ไม่กล้าที่จะหันไปมองทางฝั่งตู้เย็นที่มีขวดน้ำตั้งอยู่ กลัวเห็นอะไรบางอย่างที่ไม่อยากจะเห็น “อีกแล้วเหรอ ! “ พูดในใจ ก่อนจะเปลี่ยนท่านอนเป็นนอนตะแคงขวา หันหน้ามาทางประตูห้อง หันหลังให้กับตู้เย็นเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา

               “ชั้นจะนอน แกก็อยู่ส่วนแก ผีอยู่ส่วนผีชั้นเป็นคนอย่ามายุ่งกัน ชั้นเป็นเจ้าของห้องชั้นจ่ายค่าห้อง แกเป็นแค่ผู้อาศัย อย่าจองหอง มืงมาอยู่ก่อนก็ช่าง แต่กูเป็นคนจ่ายค่าห้อง อย่ากวน!!!” บ่นในใจยืดยาวแล้วก็ข่มตาหลับ

                 แต่ก่อนจะหลับ กลั้นใจเหวี่ยงมือไปคว้าโทรศัพท์ที่ชาร์จไว้หัวเตียงมาดูเวลาว่า กี่โมงกี่ยามกันแล้ว 04.30 น. อีกไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว ถอนหายใจและหลับต่อไป ที่กลั้นใจเพราะกลัวเหวี่ยงมือไปโดนมือของใครบางคนเข้า

                เธอผล็อยหลับไปไม่ถึงสิบนาทีได้ยินเสียงคนเคาะขวดน้ำอีกแล้ว แถมรอบนี้มีเสียงลากถุงพลาสติกที่เธอใส่ขวดน้ำเปล่าไว้ตามมาด้วย ป๊อก... ป๊อก.... ครืด... ครืด... ! อยู่ภายในห้องกลับไปกลับมาสองครั้ง พร้อมได้ยินเสียงผู้หญิงพูดว่า “กูจะทำให้มืงหันหน้ามามองกูให้ได้ !”

                เธอตกใจมาก ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ภายในห้องมันเงียบสงัดกว่าปกติ เงียบกว่าที่มันเงียบอยู่แล้ว และห้องก็มืดกว่าเดิม เธอพยายามปรับตาให้ชินกับความมืด ก็ทำไม่ได้ เธอนอนตะแคงหันหน้ามาทางฝั่งตู้เย็น เห็นเป็นเงาคนลาง ๆ นั่งอยู่ จำได้ว่าก่อนจะหลับอีกรอบตัวเองนอนหันหลังให้ตู้เย็นนี่ แล้วทำไมตอนนี้ถึงได้หันหน้ามาฝั่งนี้ได้ แล้วก็รีบพลิกตัวกลับ แต่ตัวเจ้ากรรมดันขยับไม่ได้ เงานั้นก็ยังนั่งอยู่ข้าง ๆ ตู้เย็นข้าง ๆ ถุงที่เธอเอาขวดพลาสติกใส่ไว้

               เหงื่อเริ่มไหลซึมออกมาตามตัว เธอรู้สึกว่านี่ไม่ใช่ฝัน เธอเป็นจริงๆ เรื่องจริงไม่ใช่ฝัน หรือหากฝันก็เป็นฝันที่เหมือนจริงเหลือเกิน เงานั้นเดินมานั่งลงปลายเตียงนอน และตัวเธอเองดันพลิกตัวนอนงายตาม ทว่าก็ขยับไปมากกว่านี้ไม่ได้ รู้สึกว่าตัวมันหนักมาก

               เงาสีดำเทาซึ่งมองหน้าไม่ชัด ถึงมองไม่ชัดก็รับรู้ได้ว่าเป็นเงาของผู้หญิง เธอกลัวมาก แต่นี่มันห้องของเธอ เธอจ่ายค่าห้อง อีกใจก็กลัวอีกใจก็กล้าและโมโห “กูจะไม่ยอมมองหน้ามืงหรอก อย่าให้กูขยับตีนได้นะ ถีบมืงแน่” พยายามเปล่งเสียงพูดออกมา ซึ่งขยับปากได้ลำบากมาก ๆ จากนั้นก็หลับตาปี๋ ไม่อยากมองหน้าเงานั้น

                เธอรู้สึกได้ว่าเท้าทั้งสองข้างมีมือของใครบางคนกำลังจับและกดเท้าของเธอไว้ สัมผัสได้ถึงนิ้วมือทั้งห้านิ้วของมัน จับไว้กดไว้แบบนั้นเฉย ๆ ไม่ยอมทำอะไรนอกจากจับกดเท้าแค่นั้น เธอกลัวมาก กลัวและโมโหผสมปนเปกันไปหมด เหงื่อไหลซึมออกมาตามร่างกายจนรู้สึกได้ว่าหลังเปียก มันเหมือนจริงมาก ๆ เธอไม่ได้ฝัน ผีผู้หญิงมันกำลังกดเท้าของเธอเอาไว้ เหมือนมันกำลังยิ้มเยาะเย้ยเธอที่โดนมันแกล้ง

               จากความกลัวกลายเป็นความโมโหขั้นขีดสุด เธอพยายามที่จะขยับเท้าให้ได้ เพื่อที่จะถีบเงาร่างนั้นไป ทว่าขยับเท่าไหร่ก็ไม่ได้ เหมือนมันกำลังหัวเราะเยาะเธออยู่ หัวใจเต้นแรงด้วยความกลัวและโกรธ

                เธอพยายามออกแรงดิ้นสุดฤทธิ์เพื่อให้หลุดจากมือของเงาร่างนั้น “อย่าให้กูถีบมืงได้นะ” ใจของเธออยากพูดไปเช่นนั้น ทว่าการที่จะง้างปากพูดมันช่างยากเย็นนัก ไม่มีแรงแม้แต่จะอ้าปากด่า แต่ใจของเธอมาหมด ชัดถ้อยชัดคำทุกคำพูด

               ผีอิสาน สัตว์เลื้อยคลานมาหมด แต่มีสิ่งเดียวที่เธอไม่หลุดปากออกมาคือ สาปแช่งมัน ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน เธอถึงไม่อยากพูด

               อื้อ.. อื้อ... มีเพียงเสียงคางอู้อี้หลุดออกมาจากปากของเธอ ขณะที่เธอยังหลับอยู่

                 “แป้ง ! แป้ง !เป็นไรอ่ะ ละเมอหรอ” เปียวนอนอยู่ข้าง ๆ เขย่าตัวเธอให้ตื่น

              “อี่ผี !” เมื่อเปียวปลุกเธอ และนี่เป็นคำเดียวที่สามารถหลุดออกมาจากปากของเธอได้ชัดเจนสมดังใจ “นี่เมื่อกี้แป้งฝันเหรอ !” เมื่อขยับตัวได้ ขยับปากพูดได้ ลืมตาได้ แป้งจึงลุกขึ้นถามออกมาด้วยความงุนงงปนสงสัยว่าเมื่อครู่เกิดอะไรขึ้นกันแน่

              “อือฝัน ละเมอด้วย ฝันว่าอะไรอ่ะ” เปียวลุกขึ้นเปิดไฟสว่างทั่วทั้งห้อง และถามเธอด้วยอยากรู้มาก ๆ เช่นกัน

                เธอกำลังงงว่าตัวเองฝันงั้นเหรอ ซึ่งเมื่อสักครู่มันเหมือนจริงมาก ๆ กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้องทุกอย่างเหมือนเดิม ขวดน้ำยังอยู่ในถุงพลาสติกที่เดิม ทุกอย่างวางอยู่มุมเดิมหมด

               “เปียวมันเริ่มจะหนักขึ้นทุกวันแล้วนะ เปียวจำได้มั้ยเรื่องแป้งได้ยินเสียงคนเคาะขวดน้ำในห้องอ่ะ เมื่อก่อนมันจะเกิดขึ้นแค่วันที่แป้งนอนคนเดียว แต่นี่มีเปียวอยู่ด้วย แป้งว่ามันไม่ใช่แล้วอ่ะ แป้งไม่โอเค” เธอเหล่าให้แฟนฟัง ถอนหายใจ มันเกิดอะไรขึ้น เมื่อก่อนห้องนี้ไม่เคยมีเรื่องพวกนี้เลย มันพึ่งเริ่มจะมีมาไม่กี่เดือนนี่เอง

                “อีกแล้วเหรอ “ เปียวตอบ เขาเชื่อเธอ เพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่แป้งเจอเรื่องนี้ “จะทำยังไงล่ะ ย้ายหอมั้ย”

               “ครั้งนี้มันหนักจริง ๆ นะเปียว เมื่อก่อนแป้งได้ยินแป้งก็ไม่สนใจ เพราะแป้งคิดว่าผีกับคนต่างคนต่างอยู่ แต่ครั้งนี้แป้งได้ยินมันพูดว่า กูจะทำให้มืงหันมามองหน้ากูให้ได้ แล้วมัน ! แล้วมันก็มาจับขาแป้งกดขาแป้งไว้อ่ะเปียว” เธอจะร้องไห้ จะว่ากลัวก็กลัว จะว่าไม่กลัวก็ไม่กลัว เปียวดันตัวของเธอเข้ามากอดปลอบ

               ทุกครั้งที่เธอได้ยินเสียง เธอจะตะแคงนอนหันหลังให้ ไม่หันหน้าไปมองตลอดทั้งคืน และมันมักเกิดขึ้นช่วงใกล้เช้าแล้ว ตีสามไปถึงตีสี่เสมอ ทว่าก็ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยนัก

               “ไม่มีอะไรหรอก นอนต่อเถอะตีห้าแล้ว จะเช้าแล้วไม่มีไรหรอก” เปียวพูดปลอบใจ เธอพยักหน้าแล้วล้มตัวลงนอนต่อ แต่คราวนี้ท้าทาย นอนหันหน้าไปทางตู้เย็นเลย

                “กูเป็นคนจ่ายค่าเช่า ตามมาอาศัยอยู่ด้วยยังไม่พอ เผือกมาสร้างความเดือดร้อนให้กูอีกนะมืง  หรือถ้ามืงมาอยู่ก่อนพวกกู แต่กูเป็นคนจ่ายค่าเช่า เพราะฉะนั้นห้องนี้เป็นห้องกู มืงออกไปซะ ! อย่ามาสร้างความเดือดร้อนให้กันและกันอีก ต่างคนต่างอยู่ ไม่อย่างนั้นมืงตายรอบสองแน่ สาปส่งมืงไม่ได้ผุดได้เกิดแน่”

               เปียวบ่นอะไรนิดหน่อย ก่อนจะล้มตัวลงนอนต่อ ตะแคงตัวหันหน้ามาทางตู้เย็นเหมือนกัน สวมกอดให้ความอุ่นใจแก่เธอจนเช้า

              “เปียววันหยุดไปทำบุญเนอะ”

             “อือ”

              เช้ามาทำงาน เธอไม่ค่อยสบายใจเรื่องเมื่อคืนเท่าไหร่นัก จึงส่งไลน์ฝากข้อความหาแฟนไว้ ไม่นานเขาก็ตอบตกลงกลับมา ถึงไม่กลัวแต่ก็ไม่ลบหลู่ ถึงโมโหไม่ชอบใจต่อการกระทำของอะไรบางอย่างแต่ก็อยากทำบุญกวาดน้ำไปให้...

จบ...
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น ความเชื่อส่วนบุคคล
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่