มีเรื่องอยากจะแชร์ค่ะ เนื่องจากเมื่อคืน (23ธ.ค.) ได้รับ sms จาก Kbank ว่ามีการอนุมัติบัตรหมายเลข xxx จำนวนเงินเป็น USD จำนวน 3รายการ ส่งเข้ามาในเวลาไล่เลี่ยกัน เนื่องจากเรามีบัตรเครดิตของกสิกร 3ใบ แต่ใช้จริงๆใบเดียว อีก2ใบ เก็บไว้ที่บ้าน จึงรีบโทรไปให้คนที่บ้านเช็คเลขบัตร ว่าตรงกับเลขบัตรใน sms ที่ได้รับหรือไม่ ปรากฏว่าตรงกัน จึงเข้าใจว่าคงถูกแฮคแลัวแน่ๆ
จากนั้นจึงโทรเขัา callcenter 02-888-8888 แจ้งเรื่องกับพนักงานคนที่1 ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดี ให้อายัติบัตรนั้นทันที และทำลายบัตรนั้นทิ้งได้น และให้ดำเนินเรื่องส่งเอกสารทักท้วงยอดการใช้บัตรเครดิต เพื่อทำการอนุมัติเงินคืนภายใน 50วัน โดยระหว่างนั้นจะทำเรื่องยกยอดดังกล่าวไว้ก่อน โดยเราไม่ต้องชำระเงินยอดในส่วนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ได้ขอ email เพื่อส่งแบบฟอร์มการทักท้วงมาให้ และได้แจ้งว่ามีทั้งหมด 3หน้า และให้เรา กรอกเอกสารให้ครบและส่ง email กลับไปที่ chargebackcenter@kasikornbank.com ภายใน3วัน เนื่องจากหากเกิน 3วัน จะทำเรื่องทักท้วงยอดไม่ได้ และยังได้แจ้งอีกว่า หากทางกสิกรได้รับเอกสารแล้ว จะส่ง sms แจ้งลูกค้าทันที ลูกค้าไม่ต้องกังวลไปนะคะ
หลังจากวางสายไป ได้รับ email จากทางกสิกร แต่ได้เอกสารเพียง 1หน้า จากทั้งหมด 3หน้า จึงโทรกลับไป callcenter ใหม่ เจอเจ้าหน้าที่คนที่2 อธิบายเรื่องราวใหม่ จนท.คนที่2 แจ้งว่า ขอเชคก่อนว่าเมื่อสักครู่ใครรับเรื่องไป จะให้ส่ง email ให้ใหม่ เราก็วางสายไป สักพัก จนท.คนที่2 โทรกลับมาแจ้งว่า จนท.คนแรกที่รับเรื่อง กลับบ้านไปแล้ว ขอemailใหม่ จะส่งให้ใหม่ภายใน3นาที เราก็ให้ไป แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับ email... ด้วยความเซ็ง ไม่อยากโทรไป callcenter เป็นรอบที่3 จึงเข้าเวบของกสิกร และหาโหลดแบบฟอร์มดังกล่าวด้วยตนเอง และเนื่องจากเมื่อคืนเราไม่มี printer จึงได้มาดำเนินการต่อในวันนี้
วันนี้ช่วงเช้า เรา print เอกสารมากรอก เซ็นชื่อเรียบร้อย จึงถ่ายรูปและส่ง mail ไปที่ chargebackcenter@kasikornbank.com และในช่อง cc ได้ใส่ email ตัวเองไปด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเมลล์ถึงแน่ๆ ซึ่งเราก็ได้รับเมลล์ที่ตัวเองส่งเรียบร้อย แต่หลังจากนั้น 2ชั่วโมง เราได้รับ email จาก gmail แจ้ง delivery status failure ระบุว่า google tried to deliver your message, but it was rejected by the server for the recipient domain kasikornbank.com เราก็แปลกใจ ว่าทำไมส่งไม่ได้ ในเมื่อส่งเข้าเมลล์เราก็ไม่มีปัญหา จึงได้ส่งใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังได้ mail status failure จาก gmail อีก
เราจึงตัดสินใจถือใบทักท้วงเจ้าปัญหาเดินไปที่ธนาคารกสิกร สาขาตึกเสริมมิตร ถนนอโศก เนื่องจากใกล้ที่ทำงานที่สุด ระหว่างทางก็ได้ inbox ปัญหาที่เกิดขึ้นไปใน facebook ของ Kbank live ด้วย เมื่อไปถึงธนาคารได้แจ้งพนักงานถึงเรื่องราวทั้งหมด และถามว่าควรทำอย่างไร เนื่องจากส่ง mail ไม่ได้ พนักงานแจ้งว่า รบกวนขอหน้าบัตรเครดิต และบัตรประชาชน ดิฉันจึงบอกว่า บัตรเครดิตใบนั้นอยู่ที่บ้าน พนักงานแจ้งว่า งั้นคงทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องมีบัตรเครดิตตัวจริงมาด้วย ยอมรับว่าตอนนั้นเริ่มโมโหแล้วค่ะ ในเมื่อเอกสารดังกล่าวให้ส่ง email ไป ไม่ได้ต้องแนบบัตรตัวจริงไป แต่พอมาที่ธนาคาร กลับแจ้งว่าไม่มีหน้าบัตร ทำอะไรไม่ได้ ดิฉันเลยบอกว่าแล้วจะให้ทำยังไงคะ emailที่ทางคุณให้มามันเต็มหรือมีปัญหาอะไรดิฉันก็ไม่ทราบ แต่ได้พยายามส่ง2รอบแล้ว จนในที่สุด ผู้จัดการสาขาได้มาฟังเรื่องและขอแค่ถ่ายเอกสารบัตรประชาชนไป แล้วแจ้งดิฉันว่าจะส่ง faxให้ทางกสิกรเอง ดิฉันได้ย้ำว่า เรียบร้อยแล้วนะคะ ดิฉันไม่ต้องตามเรื่องอะไรแล้วใช่ไหม ทางผจก.สาขาพยักหน้า ว่าใช่
ดิฉันกลับมาที่ทำงาน ได้รับ inbox จากเพจ KbankLive ให้ส่งชื่อนามสกุล เลขบัตร ไปที่ email : Kbanklive@kasikornbank.com เพื่อช่วยตรวจสอบ ดิฉันก็ส่งไป และได้รับ emailตอบกลับมาว่า ขอบคุณสำหรับข้อมูล ดำเนินการส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อติดต่อกลับเรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ เวลา19.10 น ดิฉันไม่ได้รับการติดต่อใดใดจากทางกสิกร รวมทั้งไม่ได้รับ sms ที่ทาง callcenter แจ้งว่า หากทางกสิกรได้เอกสารแล้วจะส่ง sms ให้ทันที ดิฉันไม่ทราบว่า พนักงานที่สาขาเสริมมิตรได้ faxไปให้ดิฉันหรือเปล่า และทางกสิกร ก็ไม่ได้ตรวจสอบ และติดต่อกลับดิฉันตามที่ตอบ emailมา
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ดิฉันไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะว่าบัตรใบนี้ไม่เคยนำไปใช้จ่ายเลยด้วยซ้ำ แต่ทำให้ดิฉันรู้ว่า ระบบการแก้ปัญหาของกสิกร อยู่ในขั้นต้องปรับปรุง การทำงานไม่ต่อเนื่อง ขาดการประสานงานที่ดี รวมทั้ง พนักงานหลายๆคนยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงปัญหานี้ ดิฉันเสียเวลาเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงวันนี้ตอนนี้ เกือบ24ชั่วโมง ติดต่อประสานงานหลายช่องทาง แต่ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ไม่มีใครconfirmว่าได้เอกสารหรือไม่ และหากเกิน3วัน ทำเรื่องทักท้วงยอดไม่ได้ ดิฉันอยากทราบว่าเป็นความผิดของใคร และใครต้องรับผิดชอบเงินในส่วนนี้
อยากให้ทุกคนที่ถือบัตร Kbank ได้รับรู้ปัญหา และขั้นตอนการแก้ปัญหาที่ทางกสิกรทำให้ดิฉัน เพราะตัวดิฉันเอง หลังจากเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ คงจะโทรปิดบัตรของ kbank อีก2ใบที่เหลืออยู่ไปให้หมด เนื่องจากไม่ประทับใจกับการแก้ปัญหาครั้งนี้ค่ะ ปัญหาการถูกแฮค เกิดขึ้นได้ อันนี้ดิฉันไม่ได้โทษกสิกรนะคะ แต่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วให้กับลูกค้าสำคัญที่สุด หากคุณไม่มีวิธีการจัดการที่ดี คุณจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อย่างไร
เมื่อบัตรเครดิต Kbank ถูกแฮค และการจัดการของธนาคารกสิกรไทย
จากนั้นจึงโทรเขัา callcenter 02-888-8888 แจ้งเรื่องกับพนักงานคนที่1 ซึ่งก็ได้รับคำแนะนำเป็นอย่างดี ให้อายัติบัตรนั้นทันที และทำลายบัตรนั้นทิ้งได้น และให้ดำเนินเรื่องส่งเอกสารทักท้วงยอดการใช้บัตรเครดิต เพื่อทำการอนุมัติเงินคืนภายใน 50วัน โดยระหว่างนั้นจะทำเรื่องยกยอดดังกล่าวไว้ก่อน โดยเราไม่ต้องชำระเงินยอดในส่วนนี้ ทางเจ้าหน้าที่ ได้ขอ email เพื่อส่งแบบฟอร์มการทักท้วงมาให้ และได้แจ้งว่ามีทั้งหมด 3หน้า และให้เรา กรอกเอกสารให้ครบและส่ง email กลับไปที่ chargebackcenter@kasikornbank.com ภายใน3วัน เนื่องจากหากเกิน 3วัน จะทำเรื่องทักท้วงยอดไม่ได้ และยังได้แจ้งอีกว่า หากทางกสิกรได้รับเอกสารแล้ว จะส่ง sms แจ้งลูกค้าทันที ลูกค้าไม่ต้องกังวลไปนะคะ
หลังจากวางสายไป ได้รับ email จากทางกสิกร แต่ได้เอกสารเพียง 1หน้า จากทั้งหมด 3หน้า จึงโทรกลับไป callcenter ใหม่ เจอเจ้าหน้าที่คนที่2 อธิบายเรื่องราวใหม่ จนท.คนที่2 แจ้งว่า ขอเชคก่อนว่าเมื่อสักครู่ใครรับเรื่องไป จะให้ส่ง email ให้ใหม่ เราก็วางสายไป สักพัก จนท.คนที่2 โทรกลับมาแจ้งว่า จนท.คนแรกที่รับเรื่อง กลับบ้านไปแล้ว ขอemailใหม่ จะส่งให้ใหม่ภายใน3นาที เราก็ให้ไป แต่หลังจากนั้นก็ไม่ได้รับ email... ด้วยความเซ็ง ไม่อยากโทรไป callcenter เป็นรอบที่3 จึงเข้าเวบของกสิกร และหาโหลดแบบฟอร์มดังกล่าวด้วยตนเอง และเนื่องจากเมื่อคืนเราไม่มี printer จึงได้มาดำเนินการต่อในวันนี้
วันนี้ช่วงเช้า เรา print เอกสารมากรอก เซ็นชื่อเรียบร้อย จึงถ่ายรูปและส่ง mail ไปที่ chargebackcenter@kasikornbank.com และในช่อง cc ได้ใส่ email ตัวเองไปด้วย เพื่อให้มั่นใจว่าเมลล์ถึงแน่ๆ ซึ่งเราก็ได้รับเมลล์ที่ตัวเองส่งเรียบร้อย แต่หลังจากนั้น 2ชั่วโมง เราได้รับ email จาก gmail แจ้ง delivery status failure ระบุว่า google tried to deliver your message, but it was rejected by the server for the recipient domain kasikornbank.com เราก็แปลกใจ ว่าทำไมส่งไม่ได้ ในเมื่อส่งเข้าเมลล์เราก็ไม่มีปัญหา จึงได้ส่งใหม่อีกรอบ แต่ก็ยังได้ mail status failure จาก gmail อีก
เราจึงตัดสินใจถือใบทักท้วงเจ้าปัญหาเดินไปที่ธนาคารกสิกร สาขาตึกเสริมมิตร ถนนอโศก เนื่องจากใกล้ที่ทำงานที่สุด ระหว่างทางก็ได้ inbox ปัญหาที่เกิดขึ้นไปใน facebook ของ Kbank live ด้วย เมื่อไปถึงธนาคารได้แจ้งพนักงานถึงเรื่องราวทั้งหมด และถามว่าควรทำอย่างไร เนื่องจากส่ง mail ไม่ได้ พนักงานแจ้งว่า รบกวนขอหน้าบัตรเครดิต และบัตรประชาชน ดิฉันจึงบอกว่า บัตรเครดิตใบนั้นอยู่ที่บ้าน พนักงานแจ้งว่า งั้นคงทำอะไรไม่ได้ เพราะต้องมีบัตรเครดิตตัวจริงมาด้วย ยอมรับว่าตอนนั้นเริ่มโมโหแล้วค่ะ ในเมื่อเอกสารดังกล่าวให้ส่ง email ไป ไม่ได้ต้องแนบบัตรตัวจริงไป แต่พอมาที่ธนาคาร กลับแจ้งว่าไม่มีหน้าบัตร ทำอะไรไม่ได้ ดิฉันเลยบอกว่าแล้วจะให้ทำยังไงคะ emailที่ทางคุณให้มามันเต็มหรือมีปัญหาอะไรดิฉันก็ไม่ทราบ แต่ได้พยายามส่ง2รอบแล้ว จนในที่สุด ผู้จัดการสาขาได้มาฟังเรื่องและขอแค่ถ่ายเอกสารบัตรประชาชนไป แล้วแจ้งดิฉันว่าจะส่ง faxให้ทางกสิกรเอง ดิฉันได้ย้ำว่า เรียบร้อยแล้วนะคะ ดิฉันไม่ต้องตามเรื่องอะไรแล้วใช่ไหม ทางผจก.สาขาพยักหน้า ว่าใช่
ดิฉันกลับมาที่ทำงาน ได้รับ inbox จากเพจ KbankLive ให้ส่งชื่อนามสกุล เลขบัตร ไปที่ email : Kbanklive@kasikornbank.com เพื่อช่วยตรวจสอบ ดิฉันก็ส่งไป และได้รับ emailตอบกลับมาว่า ขอบคุณสำหรับข้อมูล ดำเนินการส่งเรื่องไปยังเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเพื่อติดต่อกลับเรียบร้อยแล้ว แต่จนถึงตอนนี้ เวลา19.10 น ดิฉันไม่ได้รับการติดต่อใดใดจากทางกสิกร รวมทั้งไม่ได้รับ sms ที่ทาง callcenter แจ้งว่า หากทางกสิกรได้เอกสารแล้วจะส่ง sms ให้ทันที ดิฉันไม่ทราบว่า พนักงานที่สาขาเสริมมิตรได้ faxไปให้ดิฉันหรือเปล่า และทางกสิกร ก็ไม่ได้ตรวจสอบ และติดต่อกลับดิฉันตามที่ตอบ emailมา
จากเหตุการณ์ครั้งนี้ ดิฉันไม่ทราบว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เพราะว่าบัตรใบนี้ไม่เคยนำไปใช้จ่ายเลยด้วยซ้ำ แต่ทำให้ดิฉันรู้ว่า ระบบการแก้ปัญหาของกสิกร อยู่ในขั้นต้องปรับปรุง การทำงานไม่ต่อเนื่อง ขาดการประสานงานที่ดี รวมทั้ง พนักงานหลายๆคนยังขาดความรู้ความเข้าใจถึงปัญหานี้ ดิฉันเสียเวลาเรื่องนี้ตั้งแต่เมื่อคืน จนถึงวันนี้ตอนนี้ เกือบ24ชั่วโมง ติดต่อประสานงานหลายช่องทาง แต่ก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา ไม่มีใครconfirmว่าได้เอกสารหรือไม่ และหากเกิน3วัน ทำเรื่องทักท้วงยอดไม่ได้ ดิฉันอยากทราบว่าเป็นความผิดของใคร และใครต้องรับผิดชอบเงินในส่วนนี้
อยากให้ทุกคนที่ถือบัตร Kbank ได้รับรู้ปัญหา และขั้นตอนการแก้ปัญหาที่ทางกสิกรทำให้ดิฉัน เพราะตัวดิฉันเอง หลังจากเคลียร์เรื่องนี้เสร็จ คงจะโทรปิดบัตรของ kbank อีก2ใบที่เหลืออยู่ไปให้หมด เนื่องจากไม่ประทับใจกับการแก้ปัญหาครั้งนี้ค่ะ ปัญหาการถูกแฮค เกิดขึ้นได้ อันนี้ดิฉันไม่ได้โทษกสิกรนะคะ แต่การแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแล้วให้กับลูกค้าสำคัญที่สุด หากคุณไม่มีวิธีการจัดการที่ดี คุณจะสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าได้อย่างไร