วันนี้มาต่อเรื่องทฤษฏีที่ผมคิดได้นะครับ จาก part ที่แล้วผมพูดถึงการ หัด ซึ่งพัฒนาการจากเด็กที่ไม่รู้เรื่อง ทำอะไรไม่ได้เลยให้ รู้จักการทำกิจวัตรด้วยตัวเอง แต่แค่นั่นยังเพียงพอหรอก วันนี้ก็เลยมาต่อ ทฤษฏีนี้กัน หากท่านใดอยากอ่านข้อก่อนสามารถหาอ่านได้ที่นี่นะครับ
http://ppantip.com/topic/33014753 ขั้น 1 หัด
2.ปล่อย
หากเด็กพิเศษที่คุณพ่อคุณแม่สอนมาได้ถึงขั้นนี้ ตรงนี้ สิ่งที่จะต้องทำคือปล่อยให้เค้าได้แก้ปัญหาเอง เพราะบางอย่างการกระทำในกิจวัตร ไม่ได้เหมือนเดิมทุกวัน เช่น วันนี้ มีเรียน วันนี้ไปเที่ยว วันนี้วันหยุด เหตุการณ์ในกิจวัตรจะต้องเปลี่ยนไป น้องเชาว์ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น วันนี้อยากกินโจ๊ก แต่แกะหนังยางไมออก จะทำไงดี ทางเลือกในการตัดสินใจมีหลายทาง เช่น ให้คนอื่นแกะให้ ใช้กรรไกรตัด นั้นแหละคือสิ่งที่พ่อแม่ต้องปล่อยให้ลูกทำเอง แก้ปัญหาเอง นั้นคือสิ่งที่ตัวเองทำ อาจจะไม่ได้เท่าพ่อแม่ แต่ก็ดีกว่า สั่งอยากเดียว
สิ่งแรกเลยที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกตัวเองมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องเข้าใจก่อนว่า ลูกที่เป็นเด็กออทิสติก ไม่สามารถแก้สถานการณ์ที่ผิดแปลกไปจากเดิมได้ เช่นถ้าคุณพ่อคุณแม่สอนว่าเวลากินอาหารต้องใช้ช้อนส้อม แน่นอนว่าบางสถานการณ์มันได้ผิดแปลกไปจากเดิม วันนี้จะต้องกินไก่ย่าง กับข้าวเหนียว ซึ่งตอนนั้นอยู่บนรถยนต์ที่นั่งอยู่ ลูกของเรากินโดยใช้มือไม่เป็น งานเข้าทำไงดี ลูกเอาแต่ตะโกนว่าช้อนส้อมมีไหมอะไรทำนองนี้ เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่หัดช้อนส้อมอย่างเดียว หลายๆคนอาจจะคิดว่า เหตุการณ์แบบนี้ก็สอนเพิ่มได้นี่ ใช่ครับสอนเพิ่มกันกัน แต่สถานการณ์ในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถเตรียมตัวได้ไปทั้งหมดหรอก
ในขั้นนี้จะสอนวิธีเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองเจอโดยไม่คาดฝัน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยใช้คิดคิดเป็นสิ่งสำคัญ ถามว่ายากไหม ก็ยากมากๆเลยละ เด็กกลุ่มออทิสติกแก้ปัญหาเฉพาะไม่ค่อยเป็น และแก้แบบผิดๆ คุณพ่อคุณแม่ไม่มีทางมั่นใจเลยว่าเค้าจะทำอย่างไร เราก็อาจจะต้องเริ่มที่จะสอนเค้า อย่าเช่นกำหนดสถานการณ์ง่ายๆ อันนี้คุณพ่อคุณแม่เจอประจำ การเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายท้อง แน่นอนว่า บางบ้านใช้ขันล้าง บางบ้านใช้สายยางล้าง แต่ที่แย่ไปกว่านั้นไปห้างbig c เจอกระดาษเช็ด โหทำไงละที่นี้ การรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก สำหรับชีวิตในสังคม ซึ่งถ้าแก้ไม่ได้ ก็จะอยู่ในสังคมยาก การฝึกแนะว่าจำลองสถานการณ์ต่างๆให้ได้เรียนรู้ อย่างเช่น ดื่มนมกล่อง คุณพ่อคุณแม่แอบดึงหลอดดูดไปทิ้ง ลูกที่เป็นออทิสติกจะต้องคิดว่าควรจัดการปัญหานี้อย่างไรเพื่อที่ได้ดื่มนมกล่องนี้ อาจจะแนะว่า ลองหากรรไกรดูสิน่าจะได้ผลนะ ตัดข้างกล่องและดื่ม ถ้าทำได้ก็ควรที่จะชมเค้าให้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะการเลี้ยงลูกไม่ใช่หุ่นยนต์ที่รอรับคำสั่งอย่างเดียว
สุดท้ายถ้าทำได้ ลูกของคุณพ่อคุณแม่จะเริ่มตัดสินใจได้เอง ว่าเค้าควรทำอย่างไรเมื่อเจอสถานการณ์ต่างๆ ใช้เวลาฝึกที่นาน ฝึกบ่อยๆ จนเค้าสามารถแก้ปัญหาได้ดีในระดับนึ่งแล้วจะพบว่า ลูกกทั่เป็นออทิสติกของท่านไม่ใช่หุ่นยนต์อีกต่อไป
ข้อสุดท้ายมาลองดูกันนะครับ ว่า เมื่อลูกฝึกผ่านขั้นนี้จะต้องฝึกอะไรอีก ซึ่งต่อไปนั้นสำคัญกับการดำรงชีวิตมาก การควบคุมอารมณ์ และสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้ ลูกที่เป็นออทิสติกสามารถอยู่ได้อย่างไม่ความสุขนะครับ
แชร์ทฤษฏีดีๆที่คิดได้บนรถไฟ กับมิตรภาพของเด็กกลุ่มออทิสติกอย่างผม กับชื่อทฤษฏีว่า"หัด ปล่อย วาง" part 2
http://ppantip.com/topic/33014753 ขั้น 1 หัด
2.ปล่อย
หากเด็กพิเศษที่คุณพ่อคุณแม่สอนมาได้ถึงขั้นนี้ ตรงนี้ สิ่งที่จะต้องทำคือปล่อยให้เค้าได้แก้ปัญหาเอง เพราะบางอย่างการกระทำในกิจวัตร ไม่ได้เหมือนเดิมทุกวัน เช่น วันนี้ มีเรียน วันนี้ไปเที่ยว วันนี้วันหยุด เหตุการณ์ในกิจวัตรจะต้องเปลี่ยนไป น้องเชาว์ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น วันนี้อยากกินโจ๊ก แต่แกะหนังยางไมออก จะทำไงดี ทางเลือกในการตัดสินใจมีหลายทาง เช่น ให้คนอื่นแกะให้ ใช้กรรไกรตัด นั้นแหละคือสิ่งที่พ่อแม่ต้องปล่อยให้ลูกทำเอง แก้ปัญหาเอง นั้นคือสิ่งที่ตัวเองทำ อาจจะไม่ได้เท่าพ่อแม่ แต่ก็ดีกว่า สั่งอยากเดียว
สิ่งแรกเลยที่คุณพ่อคุณแม่พาลูกตัวเองมาถึงขั้นนี้แล้ว ต้องเข้าใจก่อนว่า ลูกที่เป็นเด็กออทิสติก ไม่สามารถแก้สถานการณ์ที่ผิดแปลกไปจากเดิมได้ เช่นถ้าคุณพ่อคุณแม่สอนว่าเวลากินอาหารต้องใช้ช้อนส้อม แน่นอนว่าบางสถานการณ์มันได้ผิดแปลกไปจากเดิม วันนี้จะต้องกินไก่ย่าง กับข้าวเหนียว ซึ่งตอนนั้นอยู่บนรถยนต์ที่นั่งอยู่ ลูกของเรากินโดยใช้มือไม่เป็น งานเข้าทำไงดี ลูกเอาแต่ตะโกนว่าช้อนส้อมมีไหมอะไรทำนองนี้ เนื่องจากคุณพ่อคุณแม่หัดช้อนส้อมอย่างเดียว หลายๆคนอาจจะคิดว่า เหตุการณ์แบบนี้ก็สอนเพิ่มได้นี่ ใช่ครับสอนเพิ่มกันกัน แต่สถานการณ์ในโลกนี้ ไม่มีใครสามารถเตรียมตัวได้ไปทั้งหมดหรอก
ในขั้นนี้จะสอนวิธีเผชิญหน้ากับสิ่งที่ตัวเองเจอโดยไม่คาดฝัน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยใช้คิดคิดเป็นสิ่งสำคัญ ถามว่ายากไหม ก็ยากมากๆเลยละ เด็กกลุ่มออทิสติกแก้ปัญหาเฉพาะไม่ค่อยเป็น และแก้แบบผิดๆ คุณพ่อคุณแม่ไม่มีทางมั่นใจเลยว่าเค้าจะทำอย่างไร เราก็อาจจะต้องเริ่มที่จะสอนเค้า อย่าเช่นกำหนดสถานการณ์ง่ายๆ อันนี้คุณพ่อคุณแม่เจอประจำ การเข้าห้องน้ำเพื่อถ่ายท้อง แน่นอนว่า บางบ้านใช้ขันล้าง บางบ้านใช้สายยางล้าง แต่ที่แย่ไปกว่านั้นไปห้างbig c เจอกระดาษเช็ด โหทำไงละที่นี้ การรู้จักแก้ปัญหาเฉพาะหน้าเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก สำหรับชีวิตในสังคม ซึ่งถ้าแก้ไม่ได้ ก็จะอยู่ในสังคมยาก การฝึกแนะว่าจำลองสถานการณ์ต่างๆให้ได้เรียนรู้ อย่างเช่น ดื่มนมกล่อง คุณพ่อคุณแม่แอบดึงหลอดดูดไปทิ้ง ลูกที่เป็นออทิสติกจะต้องคิดว่าควรจัดการปัญหานี้อย่างไรเพื่อที่ได้ดื่มนมกล่องนี้ อาจจะแนะว่า ลองหากรรไกรดูสิน่าจะได้ผลนะ ตัดข้างกล่องและดื่ม ถ้าทำได้ก็ควรที่จะชมเค้าให้มีความมั่นใจมากขึ้น เพราะการเลี้ยงลูกไม่ใช่หุ่นยนต์ที่รอรับคำสั่งอย่างเดียว
สุดท้ายถ้าทำได้ ลูกของคุณพ่อคุณแม่จะเริ่มตัดสินใจได้เอง ว่าเค้าควรทำอย่างไรเมื่อเจอสถานการณ์ต่างๆ ใช้เวลาฝึกที่นาน ฝึกบ่อยๆ จนเค้าสามารถแก้ปัญหาได้ดีในระดับนึ่งแล้วจะพบว่า ลูกกทั่เป็นออทิสติกของท่านไม่ใช่หุ่นยนต์อีกต่อไป
ข้อสุดท้ายมาลองดูกันนะครับ ว่า เมื่อลูกฝึกผ่านขั้นนี้จะต้องฝึกอะไรอีก ซึ่งต่อไปนั้นสำคัญกับการดำรงชีวิตมาก การควบคุมอารมณ์ และสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้ ลูกที่เป็นออทิสติกสามารถอยู่ได้อย่างไม่ความสุขนะครับ