สวัสดียามเช้าวันจัทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call option ทุกๆท่านครับ
เช้าวันนี้ อากาศค่อนข้างเย็น ยังไงก็ใส่เสื้อเเขนยาว ทำตัวอบอุ่น ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index โดยเฉพาะเปิดตลาดช่วงเช้า ยังคทะยานใต่ระดับขึ้นไปต่อ ตามตลาดภูมิภาคเอเชีย
ที่ขานรับมติที่ประชุม FOMC ครั้งล่าสุด ยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงสายๆ ก็เริ่มเห็น
แรงเทขายทำกำไร ออกมาเป็นระยะๆตลอดทั้งวัน ทำให้ดัชนี ค่อยๆย่อตัวลงมาเรื่อยๆ จนไหลลงมาปิดตัวที่ระดับ 1514 จุด -2.44 จุด
วันนี้มาลุ้นกันว่า ดัชนีจะสามารถฟื้นตัว ขึ้นไปได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวขึ้น 64.13 จุด หรือ +0.36% แตะที่ 17,685.53 จุดในวันนี้
เพราะได้แรงหนุนจากการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดในแดนบวก ขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดตลาดปรับตัวขึ้น 26.65 จุด หรือ
+0.15% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า
เฟดสามารถ "อดทนรอ" ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มน้ำมันและถ่านหิน กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มเทรดดิ้ง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (19 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจาก
นักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดสามารถ "อดทนรอ" ในเรื่องการ
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,804.80 จุด เพิ่มขึ้น 26.65 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,765.38 จุด เพิ่มขึ้น 16.98 จุด หรือ +0.36%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,070.65 จุด เพิ่มขึ้น 9.42 จุด หรือ +0.46%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 3.0% ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 3.4% และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้น 2.4%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อ เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของเฟดในการประชุมครั้งล่าสุดที่ว่า เฟดสามารถ
"อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.3-2.4% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือน
ก.ย.ที่ระดับ 2-2.2% และได้คงคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าไว้ที่ระดับ 2.6-3% ส่วนในด้านตลาดแรงงานนั้น เฟดคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมา
อยู่ที่ระดับ 5.8% ในปีนี้ และจะลดลงสู่ระดับ 5.2-5.3% ในปีหน้า
นอกจากนี่ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอกชีย รวมถึงตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยเมื่อวานนี้
ดัชนีนิกกเกอิพุ่งขึ้น 411.35 จุด หรือ 2.39% ขานรับถ้อยแถลงของเฟด และข่าวที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินใน
การประชุมครั้งล่าสุด โดยระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวปานกลาง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้และเป็นที่จับตาของนักลงทุนนั้น รวมถึงดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ
เดือนพ.ย., ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., จีดีพีขั้นสุดท้ายช่วงไตรมาส, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย
เดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นเนเบอร์ส อินดัสทรีส์ พุ่งขึ้น 15% หุ้นเดนเบอร์รี
รีซอสเซส พุ่งขึ้น 14% หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้น 2.7%
ส่วนหุ้นไนกี้ ร่วงลง 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อันเนื่องมาจากความต้องการสินค้า
ในยุโรปตะวันตกและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ชะลอตัวลง
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม ภาวะการ
ซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนได้เข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันพฤหัสบดี อันเนื่องมาจาก
การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 340.3 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,241.65 จุด ลดลง 7.84 จุด หรือ -0.18%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,786.96 จุด ลดลง 24.10 จุด หรือ -0.25%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,545.27 จุด เพิ่มขึ้น 79.27 จุด หรือ +1.23%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากการที่เฟดระบุในการประชุมครั้งล่าสุดว่า เฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้าน
นโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ นอกจากนี้
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่า ธนาคารกลางจะจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ -0.25% สำหรับบัญชีเงินฝากกระแสรายวันสกุลเงินฟรังค์สวิสที่มีวงเงินเกิน 10 ล้านฟรังก์สวิส ซึ่งฝากไว้กับ SNB โดยนับเป็นการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบครั้งแรก
นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของตลาดทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง ราคาน้ำมันที่ร่วงลง การดิ่งลงของสกุลเงินรูเบิลรัสเซีย และการใช้นโยบาย
ผ่อนคลายเชิงปริมาณในภูมิภาคยูโรโซน ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกมีความต้องการสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสกุลเงินฟรังค์สวิส
ดังนั้น ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์จึงดำเนินการล่าสุดเพื่อป้องกันไม่ให้ฟรังค์สวิสแข็งค่าเกินไป
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล
ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพี ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2.5% ส่วนหุ้นกลุมเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน
ส่วนหุ้นสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วงลง 8.1% ขณะที่หุ้น BASF ดิ่งลง 1.6%
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF day : หลังจากลงมา ทดสอบระดับ 1376 จุด เมื่อวันจันทร์ก่อน จากนั้นก็เริ่มเห็นแรงฟื้นตัวขึ้นมา
ตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้เกิดเป็นรุปแบบการกลับตัว "V Shape" มายืนเหนือ EMA200 วัน ได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อวันศุกร์เริ่มเห็นแรงเทขาย ทำกำไรออกมา และเกิดแท่งเทียน "Dark Cloud Cover" เกิดขึ้น จึงคาดว่าแนวโน้ม
วันนี้ อาจจะมีการ ย่อตัวลงมาอีกครั้ง / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัว ก็ ลุ้นให้ทะลุผ่าน 1530+ ขึ้นไปให้ได้ แล้วภาพสัญญาณ จะดูดีขึ้น
S50Z14 TF day : หลังจากลงมา ทดสอบระดับ 874 จุด เมื่อวันจันทร์ก่อน จากนั้นก็เริ่มเห็นแรงฟื้นตัวขึ้นมา
ตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้เกิดเป็นรุปแบบการกลับตัว "V Shape" มายืนเหนือ EMA200 วัน ได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อวันศุกร์เริ่มเห็นแรงเทขาย ทำกำไรออกมา และเกิดแท่งเทียน "Dark Cloud Cover" เกิดขึ้น จึงคาดว่าแนวโน้ม
วันนี้ อาจจะมีการ ย่อตัวลงมาอีกครั้ง / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัว ก็ ลุ้นให้ทะลุผ่าน 1030+ ขึ้นไปให้ได้ แล้วภาพสัญญาณ จะดูดีขึ้น
TF60 : เมื่อช่วงเช้าวันนศุกร์ ที่ผ่านมา กระโดดเปิด Gap ทำ Runaway Gap ขึ้นไป เพื่อที่จะทดสอบระดับ
1030 แต่ไปไม่ถึงดวงดาว เพราะช่วงสายๆ เกิดแรงเทขายออกมาเป็นระยะๆ อันเนื่องมาจาก Indicator หลายๆตัว
เข้าสู่ภาวะ Over Bought บ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็มีลุ้นเปิดกระโดด "Exhaustion Gap"
/ แต่ถ้าหากไม่สามารถไปต่อ และหลุด EMA25 วันล งมาอีกครั้ง ระวังอาจจะไหลลงไปปิด Gap ด้านล้าง ก็เป็นได้
Resistance 1015 1020 1025 / 1520 1525 1530
Support 1005 1000 996 / 1510 1505 1500
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (22 Dec 14)
สวัสดียามเช้าวันจัทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงาน ครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call option ทุกๆท่านครับ
เช้าวันนี้ อากาศค่อนข้างเย็น ยังไงก็ใส่เสื้อเเขนยาว ทำตัวอบอุ่น ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index โดยเฉพาะเปิดตลาดช่วงเช้า ยังคทะยานใต่ระดับขึ้นไปต่อ ตามตลาดภูมิภาคเอเชีย
ที่ขานรับมติที่ประชุม FOMC ครั้งล่าสุด ยังไม่ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ช่วงสายๆ ก็เริ่มเห็น
แรงเทขายทำกำไร ออกมาเป็นระยะๆตลอดทั้งวัน ทำให้ดัชนี ค่อยๆย่อตัวลงมาเรื่อยๆ จนไหลลงมาปิดตัวที่ระดับ 1514 จุด -2.44 จุด
วันนี้มาลุ้นกันว่า ดัชนีจะสามารถฟื้นตัว ขึ้นไปได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดตลาดปรับตัวขึ้น 64.13 จุด หรือ +0.36% แตะที่ 17,685.53 จุดในวันนี้
เพราะได้แรงหนุนจากการปิดบวกของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อวันศุกร์
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตลาดหุ้นโตเกียวเปิดในแดนบวก ขานรับดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดตลาดปรับตัวขึ้น 26.65 จุด หรือ
+0.15% เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า
เฟดสามารถ "อดทนรอ" ในเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
หุ้นที่ปรับตัวขึ้นในช่วงเช้านี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มน้ำมันและถ่านหิน กลุ่มเหมืองแร่ และกลุ่มเทรดดิ้ง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อวันศุกร์ (19 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการปิดในแดนบวกติดต่อกัน 3 วันทำการ เนื่องจาก
นักลงทุนยังคงขานรับถ้อยแถลงในการประชุมครั้งล่าสุดของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่ส่งสัญญาณว่า เฟดสามารถ "อดทนรอ" ในเรื่องการ
ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 17,804.80 จุด เพิ่มขึ้น 26.65 จุด หรือ +0.15%
ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,765.38 จุด เพิ่มขึ้น 16.98 จุด หรือ +0.36%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,070.65 จุด เพิ่มขึ้น 9.42 จุด หรือ +0.46%
ตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้นทั้งสิ้น 3.0% ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 3.4% และดัชนี NASDAQ ปรับตัวขึ้น 2.4%
ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 3 เมื่อ เนื่องจากนักลงทุนขานรับถ้อยแถลงของเฟดในการประชุมครั้งล่าสุดที่ว่า เฟดสามารถ
"อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้านนโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้น
อัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้
ในการประชุมครั้งนี้ เฟดยังได้ปรับเพิ่มขึ้นคาดการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐว่าจะขยายตัวในอัตรา 2.3-2.4% ในปีนี้ ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ในเดือน
ก.ย.ที่ระดับ 2-2.2% และได้คงคาดการณ์เศรษฐกิจในปีหน้าไว้ที่ระดับ 2.6-3% ส่วนในด้านตลาดแรงงานนั้น เฟดคาดว่าอัตราว่างงานจะลดลงมา
อยู่ที่ระดับ 5.8% ในปีนี้ และจะลดลงสู่ระดับ 5.2-5.3% ในปีหน้า
นอกจากนี่ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับปัจจัยบวกจากความแข็งแกร่งของตลาดหุ้นในภูมิภาคเอกชีย รวมถึงตลาดหุ้นจีนและตลาดหุ้นญี่ปุ่น โดยเมื่อวานนี้
ดัชนีนิกกเกอิพุ่งขึ้น 411.35 จุด หรือ 2.39% ขานรับถ้อยแถลงของเฟด และข่าวที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีมติคงนโยบายการเงินใน
การประชุมครั้งล่าสุด โดยระบุว่าเศรษฐกิจญี่ปุ่นกำลังฟื้นตัวปานกลาง
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐซึ่งจะมีการเปิดเผยในสัปดาห์นี้และเป็นที่จับตาของนักลงทุนนั้น รวมถึงดัชนีกิจกรรมการผลิตทั่วประเทศ
เดือนพ.ย., ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย., ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนพ.ย., จีดีพีขั้นสุดท้ายช่วงไตรมาส, ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคช่วงท้าย
เดือนธ.ค.จากรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ย. และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกรายสัปดาห์
หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นหลังจากราคาน้ำมันดิบ WTI ตลาดนิวยอร์กทะยานขึ้นแข็งแกร่ง โดยหุ้นเนเบอร์ส อินดัสทรีส์ พุ่งขึ้น 15% หุ้นเดนเบอร์รี
รีซอสเซส พุ่งขึ้น 14% หุ้นเอ็กซอน โมบิล และหุ้นเชฟรอน ต่างก็ปรับตัวขึ้น 2.7%
ส่วนหุ้นไนกี้ ร่วงลง 2.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยยอดสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้นน้อยกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ อันเนื่องมาจากความต้องการสินค้า
ในยุโรปตะวันตกและกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ ชะลอตัวลง
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (19 ธ.ค.) เพราะได้แรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตาม ภาวะการ
ซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน เนื่องจากนักลงทุนบางส่วนได้เข้ามาเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นแข็งแกร่งเมื่อวันพฤหัสบดี อันเนื่องมาจาก
การที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวขึ้น 0.4% ปิดที่ 340.3 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,241.65 จุด ลดลง 7.84 จุด หรือ -0.18%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,786.96 จุด ลดลง 24.10 จุด หรือ -0.25%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,545.27 จุด เพิ่มขึ้น 79.27 จุด หรือ +1.23%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยบวกจากการที่เฟดระบุในการประชุมครั้งล่าสุดว่า เฟดสามารถ "อดทน" รอต่อไปได้อีก ในการปรับท่าทีด้าน
นโยบายการเงินให้เข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนมองว่า เฟดจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเร็วๆนี้ นอกจากนี้
ตลาดยังได้รับแรงหนุนจากข่าวที่ว่า ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ประกาศว่า ธนาคารกลางจะจะกำหนดอัตราดอกเบี้ยที่ -0.25% สำหรับบัญชีเงินฝากกระแสรายวันสกุลเงินฟรังค์สวิสที่มีวงเงินเกิน 10 ล้านฟรังก์สวิส ซึ่งฝากไว้กับ SNB โดยนับเป็นการใช้อัตราดอกเบี้ยติดลบครั้งแรก
นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970
ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนของตลาดทั่วโลกในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึง ราคาน้ำมันที่ร่วงลง การดิ่งลงของสกุลเงินรูเบิลรัสเซีย และการใช้นโยบาย
ผ่อนคลายเชิงปริมาณในภูมิภาคยูโรโซน ส่งผลให้นักลงทุนทั่วโลกมีความต้องการสินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งรวมถึงสกุลเงินฟรังค์สวิส
ดังนั้น ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์จึงดำเนินการล่าสุดเพื่อป้องกันไม่ให้ฟรังค์สวิสแข็งค่าเกินไป
นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงหนุนจากการดีดตัวขึ้นของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวขึ้น โดยหุ้นรอยัล
ดัทช์ เชลล์ และหุ้นบีพี ต่างก็ปรับตัวขึ้นกว่า 2.5% ส่วนหุ้นกลุมเหมืองแร่ปรับตัวขึ้นเช่นกัน นำโดยหุ้นบีเอชพี บิลลิตัน
ส่วนหุ้นสายการบินแอร์ฟรานซ์-เคแอลเอ็ม ร่วงลง 8.1% ขณะที่หุ้น BASF ดิ่งลง 1.6%
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF day : หลังจากลงมา ทดสอบระดับ 1376 จุด เมื่อวันจันทร์ก่อน จากนั้นก็เริ่มเห็นแรงฟื้นตัวขึ้นมา
ตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้เกิดเป็นรุปแบบการกลับตัว "V Shape" มายืนเหนือ EMA200 วัน ได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อวันศุกร์เริ่มเห็นแรงเทขาย ทำกำไรออกมา และเกิดแท่งเทียน "Dark Cloud Cover" เกิดขึ้น จึงคาดว่าแนวโน้ม
วันนี้ อาจจะมีการ ย่อตัวลงมาอีกครั้ง / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัว ก็ ลุ้นให้ทะลุผ่าน 1530+ ขึ้นไปให้ได้ แล้วภาพสัญญาณ จะดูดีขึ้น
S50Z14 TF day : หลังจากลงมา ทดสอบระดับ 874 จุด เมื่อวันจันทร์ก่อน จากนั้นก็เริ่มเห็นแรงฟื้นตัวขึ้นมา
ตลอดทั้งสัปดาห์ ทำให้เกิดเป็นรุปแบบการกลับตัว "V Shape" มายืนเหนือ EMA200 วัน ได้อีกครั้ง แต่อย่างไรก็ตาม
เมื่อวันศุกร์เริ่มเห็นแรงเทขาย ทำกำไรออกมา และเกิดแท่งเทียน "Dark Cloud Cover" เกิดขึ้น จึงคาดว่าแนวโน้ม
วันนี้ อาจจะมีการ ย่อตัวลงมาอีกครั้ง / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัว ก็ ลุ้นให้ทะลุผ่าน 1030+ ขึ้นไปให้ได้ แล้วภาพสัญญาณ จะดูดีขึ้น
TF60 : เมื่อช่วงเช้าวันนศุกร์ ที่ผ่านมา กระโดดเปิด Gap ทำ Runaway Gap ขึ้นไป เพื่อที่จะทดสอบระดับ
1030 แต่ไปไม่ถึงดวงดาว เพราะช่วงสายๆ เกิดแรงเทขายออกมาเป็นระยะๆ อันเนื่องมาจาก Indicator หลายๆตัว
เข้าสู่ภาวะ Over Bought บ้างแล้ว แต่อย่างไรก็ตาม วันนี้ก็มีลุ้นเปิดกระโดด "Exhaustion Gap"
/ แต่ถ้าหากไม่สามารถไปต่อ และหลุด EMA25 วันล งมาอีกครั้ง ระวังอาจจะไหลลงไปปิด Gap ด้านล้าง ก็เป็นได้
Resistance 1015 1020 1025 / 1520 1525 1530
Support 1005 1000 996 / 1510 1505 1500
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ