สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เคยหนัก 96 กิโล(สูง 178) เมื่อ 4 เดือนก่อน
ตั้งใจแน่วแน่มาก มื้อเช้าดื่มนมไม่เกิน 200 CC เน้นแคลอรี่ต่ำมากๆ กลางวันทานข้าวจานเดียว งดของทอด ของมัน หรืออาหารผัด มื้อเย็นไม่กินอะไรเลย ทำแบบนี้มาได้ 1 เดือน น้ำหนักลดไป 2 โล. อย่าถามว่าหิวไหม ตอบได้ว่าหิวมาก แต่พอทนได้ อย่างไรก็ตาม คนที่เคยมีปัญหาโรคกระเพาะ ควรต้องกินแอปเปิ้ล 1 ลูก แทน ซื้อ มาติดบ้านไว้เลย
เดือนที่ 2 เริ่มวิ่งทุกวันทุกเย็น ตอนแรกก็ 1 กิโล และค่อยเพิ่มเป็นกิโลครึ่ง เป็นสองกิโล และควบคุมอาหารเหมือนเดิม
เดือนนี้น้ำหนักลงเร็วมาก ลดไปอีก 4 โล อีกทั้งกลางคืนก็ไม่ค่อยหิวแล้ว
เดือนที่ 3 เริ่มวิ่งมากขึ้น และขยับระยะทางมากขึ้นอีก กลายเป็นวันละ 3 กิโล และช่วงหลังเพิ่มเป็น 3 กิโลครึ่ง และมาเล่นเวทเพิ่ม รวมออกกำลังกายวันละ 80 นาที ควบคุมอาหารเหมือนเดิมทุกอย่าง เดือนนี้น้ำหนักหายไปอีก 4 กิโล และไม่หิวเลย
เดือนที่ 4 ช่วงนี้มีกิจกรรมกีฬามาเสริม มีคนชวนไปเตะบอล ทั้งที่เล่นไม่เป็นแต่ก็ลองดู ก็เลยวิ่งวอร์ม 2 กิโล แล้วมาเตะบอลสนามใหญ่อีกประมาณ 40 นาที แล้วไปเล่นเวทประมาณ 20 นาที แต่มื้อเย็นกลัวหิวโหย เพราะเตะบอลมันเหนื่อยจริงๆ หมดแรงไปกับการวิ่งไล่บอล เลยหาผลไม้มากินบ้าง กินโยเกิตบ้าง น้ำหนักหายไป 4 โล
เข้าสู่เดือนที่ 5 ยังคงมุ่งมั่นต่อไป ดีใจมากที่ตอนนี้น้ำหนักเหลือแค่ 82 กิโล หายไป 14 กิโล ใน 4 เดือน ชุดต่างๆ เสื้อผ้าต่างๆ กลับมาใส่หลวมๆสบายๆอีกครั้ง ฟินมาก. นี่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 75 ไม่รู้จะไหวมั้ย
โม้มาเยอะ แต่ก็เพื่อให้มีแรงบันดาลใจครับ ยาลดความอ้วนอันตรายทั้งสิ้น อย่าไปกินมัน ใจเราล้วนๆ เลยครับ
คิดง่ายๆ กินเข้าไป ให้น้อยกว่าใช้พลังงาน
ดังนั้น แนะนำให้ จขกท ควบคุมอาหารให้ได้ก่อนครับ แล้วไปออกกำลังกาย เอาการเดินละกัน วันละ 30 นาที ไปก่อน ค่อยเพิ่มเวลาและระยะทางไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้ผลเอง แล้วช่วงที่เห็นน้ำหนักเริ่มลด กำลังใจมันจะมาอีกมหาศาล
ตั้งใจแน่วแน่มาก มื้อเช้าดื่มนมไม่เกิน 200 CC เน้นแคลอรี่ต่ำมากๆ กลางวันทานข้าวจานเดียว งดของทอด ของมัน หรืออาหารผัด มื้อเย็นไม่กินอะไรเลย ทำแบบนี้มาได้ 1 เดือน น้ำหนักลดไป 2 โล. อย่าถามว่าหิวไหม ตอบได้ว่าหิวมาก แต่พอทนได้ อย่างไรก็ตาม คนที่เคยมีปัญหาโรคกระเพาะ ควรต้องกินแอปเปิ้ล 1 ลูก แทน ซื้อ มาติดบ้านไว้เลย
เดือนที่ 2 เริ่มวิ่งทุกวันทุกเย็น ตอนแรกก็ 1 กิโล และค่อยเพิ่มเป็นกิโลครึ่ง เป็นสองกิโล และควบคุมอาหารเหมือนเดิม
เดือนนี้น้ำหนักลงเร็วมาก ลดไปอีก 4 โล อีกทั้งกลางคืนก็ไม่ค่อยหิวแล้ว
เดือนที่ 3 เริ่มวิ่งมากขึ้น และขยับระยะทางมากขึ้นอีก กลายเป็นวันละ 3 กิโล และช่วงหลังเพิ่มเป็น 3 กิโลครึ่ง และมาเล่นเวทเพิ่ม รวมออกกำลังกายวันละ 80 นาที ควบคุมอาหารเหมือนเดิมทุกอย่าง เดือนนี้น้ำหนักหายไปอีก 4 กิโล และไม่หิวเลย
เดือนที่ 4 ช่วงนี้มีกิจกรรมกีฬามาเสริม มีคนชวนไปเตะบอล ทั้งที่เล่นไม่เป็นแต่ก็ลองดู ก็เลยวิ่งวอร์ม 2 กิโล แล้วมาเตะบอลสนามใหญ่อีกประมาณ 40 นาที แล้วไปเล่นเวทประมาณ 20 นาที แต่มื้อเย็นกลัวหิวโหย เพราะเตะบอลมันเหนื่อยจริงๆ หมดแรงไปกับการวิ่งไล่บอล เลยหาผลไม้มากินบ้าง กินโยเกิตบ้าง น้ำหนักหายไป 4 โล
เข้าสู่เดือนที่ 5 ยังคงมุ่งมั่นต่อไป ดีใจมากที่ตอนนี้น้ำหนักเหลือแค่ 82 กิโล หายไป 14 กิโล ใน 4 เดือน ชุดต่างๆ เสื้อผ้าต่างๆ กลับมาใส่หลวมๆสบายๆอีกครั้ง ฟินมาก. นี่ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 75 ไม่รู้จะไหวมั้ย
โม้มาเยอะ แต่ก็เพื่อให้มีแรงบันดาลใจครับ ยาลดความอ้วนอันตรายทั้งสิ้น อย่าไปกินมัน ใจเราล้วนๆ เลยครับ
คิดง่ายๆ กินเข้าไป ให้น้อยกว่าใช้พลังงาน
ดังนั้น แนะนำให้ จขกท ควบคุมอาหารให้ได้ก่อนครับ แล้วไปออกกำลังกาย เอาการเดินละกัน วันละ 30 นาที ไปก่อน ค่อยเพิ่มเวลาและระยะทางไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็ได้ผลเอง แล้วช่วงที่เห็นน้ำหนักเริ่มลด กำลังใจมันจะมาอีกมหาศาล
แสดงความคิดเห็น
คนอ้วนหนักเกือบ 100 กิโลกรัม ถ้าจะออกกำลังกายควรวิ่ง หรือ เดินดี?