คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
อย่างแรกคิดว่าก็ต้องแยกเรื่องก่อนค่ะว่า
เรื่องไหนเป็นปัญหา ปัญหาในที่นี้คือสามารถแก้ไขได้ เรื่องแบบนี้เครียดแล้วคิดแล้วแก้ก็จะหายเครียดเองค่ะ
เรื่องไหนแก้ไขไม่ได้ ก็ให้พยายามมองในด้านบวก พยายามหาสิ่งที่ดีจากสิ่งนั้น
อาจารย์เคยยกตัวอย่างว่า มีน้ำครึ่งแก้ว มีน้ำเพียงครึ่งแก้ว และมีน้ำตั้งครึ่งแก้ว นั้นต่างกันค่ะ
ถ้าแม่คุณโดนผู้รายต่อยก็ให้คิดว่าดีที่ผู้ร้ายไม่มีมีด ถ้าโดนมีดก็คิดว่าดีแล้วที่รอดได้ ถ้าตายก็คิดว่าดีแล้วที่อยู่กับเรามาตั้ง 33 ปี
เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ก็ให้แก้ที่มุมมองของตัวเองค่ะ เรื่องที่แก้ได้ก็พยายามแก้ไปเพื่อพลักดันพัฒนาตัวเอง
เรื่องไหนเป็นปัญหา ปัญหาในที่นี้คือสามารถแก้ไขได้ เรื่องแบบนี้เครียดแล้วคิดแล้วแก้ก็จะหายเครียดเองค่ะ
เรื่องไหนแก้ไขไม่ได้ ก็ให้พยายามมองในด้านบวก พยายามหาสิ่งที่ดีจากสิ่งนั้น
อาจารย์เคยยกตัวอย่างว่า มีน้ำครึ่งแก้ว มีน้ำเพียงครึ่งแก้ว และมีน้ำตั้งครึ่งแก้ว นั้นต่างกันค่ะ
ถ้าแม่คุณโดนผู้รายต่อยก็ให้คิดว่าดีที่ผู้ร้ายไม่มีมีด ถ้าโดนมีดก็คิดว่าดีแล้วที่รอดได้ ถ้าตายก็คิดว่าดีแล้วที่อยู่กับเรามาตั้ง 33 ปี
เรื่องที่แก้ไขไม่ได้ก็ให้แก้ที่มุมมองของตัวเองค่ะ เรื่องที่แก้ได้ก็พยายามแก้ไปเพื่อพลักดันพัฒนาตัวเอง
แสดงความคิดเห็น
เป็นคนคิดมาก เครียดมาก มองโลกในแง่ลบเสมอ คนที่เป็นเหมือนกัน แก้ปัญหาแบบที่เป็นรูปธรรมกันยังไงครับ??
ผมอยากจะมองโลกในด้านบวกบ้างนะ หัดปล่อยวางแล้วแป๊บๆนึกถึงเรื่องเครียดๆก็กลับมาเครียดอีก ปฏิบัติธรรมก็แล้วนะมันก็สบายใจอยู่ช่วงนึงกลับมาเจอความเป็นจริงก็เครียดอีก
อยากรู้ว่าคนที่มองโลกแง่บวก ทั้งๆที่มีปัญหา 108 เค้าคิดกันยังไง มองมุมไหน เอาพลังมาจากไหนครับ ช่วยยกตัวอย่างที่เป็นรูปธรรมและทำตามได้ให้ผมหน่อยครับ