ใครก็ไม่รู้เคยกล่าวไว้ว่า
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องสร้างเอง"
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะว่าผมลองไปเดินหาใน 7-11 แล้ว
ไม่มีขายจริงๆ ด้วย ตึงโป๊ะ!! ^^
ใครก็ไม่รู้อีกนั้นแหละ บอกว่า ให้มองโลกในแง่ดี
ฉะนั้น วันนี้ผมก็จะมาพูดแต่ของดี เท่านั้น!!
ของการวิ่ง และการกระโดดเชือก
ตามความคิดของผมนะครับ
ข้อดีที่เหมือนกันทั้งการวิ่งและการกระโดดเชือกก็คือ
"การได้ออกกำลังกาย" แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย
ข้อดีของการวิ่งที่ผมคิดว่า ดีกว่าการกระโดดเชือก
1. ได้เหงื่อเร็วกว่าการกระโดดเชือก
2. มีแรงจูงในการวิ่ง เพราะมีการจัดแข่งขันวิ่งอยู่บ่อยๆ ชิงถ้วยต่างๆ นาๆ
3. สืบเนื่องจากข้อ 2 ก็จะได้เพื่อนที่ร่วมแข่งขัน
4. ลงทุนน้อย แค่รองเท้าวิ่งคู่เดียว (จะแพงหรือถูก ขึ้นอยู่รสนิยมของแต่ละบุคคล)
ข้อดีของการกระโดดเชือกที่ผมคิดว่า ดีกว่าการวิ่ง
1. ไม่ปวดเข่า เพราะว่ารับแรงกระแทกน้อยกว่าการวิ่ง (กระโดดสองเท้าพร้อมกัน)
2. กระโดดได้ ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะฤดูหนาว ฤดูฝน ฤดูร้อน หรือว่า ฤดูใบไม้ผลิ (ลืมไปประเทศไม่มี)
3. ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ สามารถกระโดดได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามใจปรารถนา
4. ฝึกสมาธิ เพราะเราจะนับจำนวนครั้งที่กระโดด ถ้าไม่มีสมาธิอาจจะลืมได้ว่านับถึงไหนแล้ว
ทั้งการวิ่งและการกระโดดเชือก ก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป (4 ข้อเท่ากันเลย)
โดยส่วนตัวผมชอบการกระโดดเชือกมากกว่า
เพราะทำได้สม่ำเสมอ ทุกเมื่อ ที่ใจต้องการ
ปิดท้ายด้วยวิธียืดอายุเชือก ที่เราใช้กระโดด
ต้องบอกก่อนว่า ผมซื้อเชือกกระโดดแบบธรรมดา ราคาประมาณ 100 บาท
ผมคิดว่า ไม่จำเป็นต้องเอา Speed rope ก็ได้ เพราะว่ามันแพง
แต่รองเท้า ควรจะเป็นร้องเท้าวิ่งนะ เพื่อรับแรงกระแทกในการกระโดดเชือก
เนื่องจากผมกระโดด จนสปริงที่มากับเชือกขาดไปแล้วครับ
ผมก็เลยปรับปรุงดังนี้
1. เติมน้ำในเชื่อกให้เต็ม (เชือกนี้เป็นพลาสติกกลวง)
(ทำไมต้องเติมน้ำ ไม่เติมได้ไหม)
ถ้าไม่เติมน้ำ เส้นเชือกจะไม่มีน้ำหนัก ทำให้กระโดดได้ยากมาก
ไม่เชื่อก็ลองทำดูก็ได้ครับ
2. เอาสายแก๊สหูงต้ม ที่ไม่ใช้แล้ว (ก็แน่ซิ สายแก๊สที่กำลังใช้ ใครจะให้ตัดละ)
มาตัดเป็นชิ้นสั้นๆ ประมาณ 2 cm จะสั้นหรือยาวกว่านี้ ก็ได้ครับ
แต่ถ้ายาวมากไป จะทำให้เชือกไม่ค่อยโค้ง ทำให้กระโดดได้ยาก
3. จากนั้นก็นำสายแก๊สที่ตัดแล้ว มาใส่กับเชือก ดังรูป
เท่านี้ก็เป็นอันว่า เสร็จแล้วครับ กระโดดเชือกได้อย่างสบายใจ
ไม่ต้องกลัวเชือกขาดบ่อย
ผมคิดว่าหัวใจสำคัญของการออกกำลังกายก็คือ
1. ใจที่อยากออกกำลังกาย
2. ความสม่ำเสมอ นั้นก็คือ เราต้องมีวินัยในตัวเอง
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการออกกำลังกายนะครับ
ข้อดี การวิ่ง VS การกระโดดเชือก
"สุขภาพดีไม่มีขาย อยากได้ต้องสร้างเอง"
เห็นด้วยอย่างยิ่งครับ เพราะว่าผมลองไปเดินหาใน 7-11 แล้ว
ไม่มีขายจริงๆ ด้วย ตึงโป๊ะ!! ^^
ใครก็ไม่รู้อีกนั้นแหละ บอกว่า ให้มองโลกในแง่ดี
ฉะนั้น วันนี้ผมก็จะมาพูดแต่ของดี เท่านั้น!!
ของการวิ่ง และการกระโดดเชือก
ตามความคิดของผมนะครับ
ข้อดีที่เหมือนกันทั้งการวิ่งและการกระโดดเชือกก็คือ
"การได้ออกกำลังกาย" แค่ขยับเท่ากับออกกำลังกาย
ข้อดีของการวิ่งที่ผมคิดว่า ดีกว่าการกระโดดเชือก
1. ได้เหงื่อเร็วกว่าการกระโดดเชือก
2. มีแรงจูงในการวิ่ง เพราะมีการจัดแข่งขันวิ่งอยู่บ่อยๆ ชิงถ้วยต่างๆ นาๆ
3. สืบเนื่องจากข้อ 2 ก็จะได้เพื่อนที่ร่วมแข่งขัน
4. ลงทุนน้อย แค่รองเท้าวิ่งคู่เดียว (จะแพงหรือถูก ขึ้นอยู่รสนิยมของแต่ละบุคคล)
ข้อดีของการกระโดดเชือกที่ผมคิดว่า ดีกว่าการวิ่ง
1. ไม่ปวดเข่า เพราะว่ารับแรงกระแทกน้อยกว่าการวิ่ง (กระโดดสองเท้าพร้อมกัน)
2. กระโดดได้ ทุกฤดูกาล ไม่ว่าจะฤดูหนาว ฤดูฝน ฤดูร้อน หรือว่า ฤดูใบไม้ผลิ (ลืมไปประเทศไม่มี)
3. ไม่ต้องใช้พื้นที่เยอะ สามารถกระโดดได้ทุกที่ ทุกเวลา ตามใจปรารถนา
4. ฝึกสมาธิ เพราะเราจะนับจำนวนครั้งที่กระโดด ถ้าไม่มีสมาธิอาจจะลืมได้ว่านับถึงไหนแล้ว
ทั้งการวิ่งและการกระโดดเชือก ก็มีข้อดีที่แตกต่างกันไป (4 ข้อเท่ากันเลย)
โดยส่วนตัวผมชอบการกระโดดเชือกมากกว่า
เพราะทำได้สม่ำเสมอ ทุกเมื่อ ที่ใจต้องการ
ปิดท้ายด้วยวิธียืดอายุเชือก ที่เราใช้กระโดด
ต้องบอกก่อนว่า ผมซื้อเชือกกระโดดแบบธรรมดา ราคาประมาณ 100 บาท
ผมคิดว่า ไม่จำเป็นต้องเอา Speed rope ก็ได้ เพราะว่ามันแพง
แต่รองเท้า ควรจะเป็นร้องเท้าวิ่งนะ เพื่อรับแรงกระแทกในการกระโดดเชือก
เนื่องจากผมกระโดด จนสปริงที่มากับเชือกขาดไปแล้วครับ
ผมก็เลยปรับปรุงดังนี้
1. เติมน้ำในเชื่อกให้เต็ม (เชือกนี้เป็นพลาสติกกลวง)
(ทำไมต้องเติมน้ำ ไม่เติมได้ไหม)
ถ้าไม่เติมน้ำ เส้นเชือกจะไม่มีน้ำหนัก ทำให้กระโดดได้ยากมาก
ไม่เชื่อก็ลองทำดูก็ได้ครับ
2. เอาสายแก๊สหูงต้ม ที่ไม่ใช้แล้ว (ก็แน่ซิ สายแก๊สที่กำลังใช้ ใครจะให้ตัดละ)
มาตัดเป็นชิ้นสั้นๆ ประมาณ 2 cm จะสั้นหรือยาวกว่านี้ ก็ได้ครับ
แต่ถ้ายาวมากไป จะทำให้เชือกไม่ค่อยโค้ง ทำให้กระโดดได้ยาก
3. จากนั้นก็นำสายแก๊สที่ตัดแล้ว มาใส่กับเชือก ดังรูป
เท่านี้ก็เป็นอันว่า เสร็จแล้วครับ กระโดดเชือกได้อย่างสบายใจ
ไม่ต้องกลัวเชือกขาดบ่อย
ผมคิดว่าหัวใจสำคัญของการออกกำลังกายก็คือ
1. ใจที่อยากออกกำลังกาย
2. ความสม่ำเสมอ นั้นก็คือ เราต้องมีวินัยในตัวเอง
ขอให้ทุกท่านสนุกกับการออกกำลังกายนะครับ