ภิกษุไม่พึงไปด้วยยาน รูปใดไปต้องอาบัติทุกกฏ (จัมมขันธกะ) 7/25/15

เรื่องยาน
[๑๔]   ก็โดยสมัยนั้นแล     พระฉัพพัคคียี์ขี่ยานซึ่งเทียมด้วยโคตัวเมีย
มีบุรุษเป็นสารถีบ้าง    เทียมด้วยโคตัวผู้   มีสตรีเป็นสารถีบ้าง    ประชาชนจึง
เพ่งโทษ   ติเตียน   โพนทะนาว่า   เหมือนชายหนุ่มหญิงสาวไปเล่นน้ำในแม่น้า
คงคาและแม่น้ำมยิ้ม   ฉะนั้น     ภิกษุทั้งหลาย    กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระ
ภาคเจ้า ๆ  ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า  ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   ภิกษุไม่พึง-
ไปด้วยยาน  รูปใดไปต้องอาบัติทุกกฏ.
สมัยต่อมา     ภิกษุรูปหนึ่งไปพระนครสาวัตถีในโกศลชนบทเพื่อเฝ้า
พระผู้มีพระภาคเจ้า      แต่อาพาธเสียกลางทาง     และได้หลีกจากทางนั่งอยู่   ณ
โคนไม้แห่งหนึ่งประชาชนพบภิกษุนั้น  จึงเรียนถามว่า     พระคุณเจ้าจะไปไหน
ขอรับ ?
ภิกษุนั้นตอบว่า อาตมาจะไปพระนครสาวัตถุ   เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค
เจ้า.

พระวินัยปิฎก มหาวรรค เล่ม ๕ ภาค ๒ - หน้าที่ 26
ป.  นิมนต์มา  ไปด้วยกันเถิด  ขอรับ.
ภิ.   อาตมาไม่อาจ   เพราะกำลังอาพาธ.
ป.  นิมนต์มาขึ้นยานเถิด  ขอรับ.
ภิ.  ไม่ได้   เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห้ามยาน.
ภิกษุนั้นรังเกียจอยู่ ดังนั้นจึงไม่ยอมขึ้นยาน  ครั้นไปถึงพระนครสาวัตถี
แล้วจึงแจ้งเรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย ๆ  กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า.
ลำดับนั้น    พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา    ในเพราะเหตุเป็น
เค้ามูลนั้น     ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น     แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า    ดูก่อน
ภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตยานแก่ภิกษุผู้อาพาธ.
ครั้งนั้น  ภิกษุทั้งหลายได้คิดกันว่า  ยานที่ทรงอนุญาตนั้นเทียมด้วยโค
ตัวเมีย   หรือเทียมด้วยโคตัวผู้  แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ
ทรงอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เราอนุญาตยานที่เทียม
ด้วยโคตัวผู้และยานที่ใช้มือลาก.
สมัยต่อมา   ภิกษุรูปหนึ่งไม่ผาสุกอย่างแรง  เพราะความกระเทือนแห่ง
ยาน   ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ   ทรงอนุญาตเก่
ภิกษุทั้งหลายว่า   ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย   เราอนุญาตยานหามมีตั่งนั่ง  และเปลผ้า
ที่เขาผูกติดกับไม้คาน.


พระไตรปิฏก 91 เล่ม  ฉบับ  มมร.
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่