http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=4&A=4440&Z=4480
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔
มหาวรรค ภาค ๑
ปาติโมกขุเทศ ๕
[๑๖๗] ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลาย ได้มีความปริวิตกว่า ปาติโมกขุเทศมีเท่าไรหนอ แล้ว
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ปาติโมกขุเทศนี้มี ๕ คือ ภิกษุสวดนิทานจบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็น
ปาติโมกขุเทศที่ ๑.
สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ จบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๒.
สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ จบแล้วพึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๓.
สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ สวดอนิยต ๒ จบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๔.
สวดโดยพิสดารหมด เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๕.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปาติโมกขุเทศ ๕ นี้แล.
ทรงห้ามสวดปาติโมกข์ย่อ
สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตการสวดปาติโมกข์ย่อ ดังนี้
จึงสวดปาติโมกข์ย่อทุกครั้ง. ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
พระผู้มีพระภาค
รับสั่งห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงสวดปาติโมกข์ย่อ รูปใดสวด ต้อง
อาบัติทุกกฏ.
ทรงอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ย่อเมื่อมีอันตราย
สมัยต่อมา ณ อาวาสแห่งหนึ่งในโกศลชนบท คนชาวดงได้มาพลุกพล่านในวันอุโบสถ.
ภิกษุทั้งหลายไม่อาจสวดปาติโมกข์โดยพิสดาร จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค.
พระผู้มี
พระภาคทรงอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อมีอันตราย เราอนุญาตให้สวด
ปาติโมกข์ย่อ.
อันตราย ๑๐ ประการ
สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์ แม้เมื่ออันตรายไม่มี ก็สวดปาติโมกข์ย่อ. ภิกษุทั้งหลายจึง
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เมื่อไม่มีอันตราย ภิกษุไม่พึงสวดปาติโมกข์ย่อ รูปใดสวด ต้องอาบัติทุกกฏ.
เมื่อมีอันตราย เราอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ย่อ.
อันตรายในเรื่องนั้นเหล่านี้ คือ
๑. พระราชาเสด็จมา
๒. โจรมาปล้น
๓. ไฟไหม้
๔. น้ำหลากมา
๕. คนมามาก
๖. ผีเข้าภิกษุ
๗. สัตว์ร้ายเข้ามา
๘. งูร้ายเลื้อยเข้ามา
๙. ภิกษุอาพาธหนักจะถึงเสียชีวิต
๑๐. มีอันตรายแก่พรหมจรรย์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ย่อในเพราะอันตรายเห็นปานนี้ เมื่อไม่มีอันตราย ให้สวดโดยพิสดาร.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ภิกษุสวดปาติโมกข์ย่อเมื่อมีอันตราย 10 ประการ
การที่ภิกษุสวดปาติโมข์สิกขาบทย่อโดยสวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ และสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๓ (ไม่ได้สวดอนิยต ๒ เป็นการสวดปาโมกข์ย่อแบบที่ ๓)โดยไม่มีอันตราย ๑๐ ประการ ดังนั้นจึงต้องอาบัติทุกกฎ
คำถามคือ
๑ ถ้าภิกษุนั้นต้องอาบัติทุกกฎเป็นเวลานานๆ จะมีผลต่อภิกษุผู้นั้นอย่างไร?
๒ ถ้าภิกษุนั้นต้องอาบัติทุกกฎเป็นเวลานานๆ และสึกออกไปโดยที่ไม่ได้ปลงอาบัติแล้ว จะมีผลต่อภิกษุผู้นั้นอย่างไร?
ถ้าภิกษุต้องอาบัติทุกกฎเป็นเวลานานๆโดยไม่ได้ปลงอาบัติจะมีผลต่อภิกษุผู้นั้นอย่างไร?
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๔ พระวินัยปิฎก เล่มที่ ๔
มหาวรรค ภาค ๑
ปาติโมกขุเทศ ๕
[๑๖๗] ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลาย ได้มีความปริวิตกว่า ปาติโมกขุเทศมีเท่าไรหนอ แล้ว
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
ปาติโมกขุเทศนี้มี ๕ คือ ภิกษุสวดนิทานจบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็น
ปาติโมกขุเทศที่ ๑.
สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ จบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๒.
สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ จบแล้วพึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๓.
สวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ สวดอนิยต ๒ จบแล้ว พึงสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๔.
สวดโดยพิสดารหมด เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๕.
ดูกรภิกษุทั้งหลาย ปาติโมกขุเทศ ๕ นี้แล.
ทรงห้ามสวดปาติโมกข์ย่อ
สมัยต่อมา ภิกษุทั้งหลายทราบว่า พระผู้มีพระภาคทรงอนุญาตการสวดปาติโมกข์ย่อ ดังนี้
จึงสวดปาติโมกข์ย่อทุกครั้ง. ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาค
รับสั่งห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึงสวดปาติโมกข์ย่อ รูปใดสวด ต้อง
อาบัติทุกกฏ.
ทรงอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ย่อเมื่อมีอันตราย
สมัยต่อมา ณ อาวาสแห่งหนึ่งในโกศลชนบท คนชาวดงได้มาพลุกพล่านในวันอุโบสถ.
ภิกษุทั้งหลายไม่อาจสวดปาติโมกข์โดยพิสดาร จึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มี
พระภาคทรงอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย เมื่อมีอันตราย เราอนุญาตให้สวด
ปาติโมกข์ย่อ.
อันตราย ๑๐ ประการ
สมัยต่อมา พระฉัพพัคคีย์ แม้เมื่ออันตรายไม่มี ก็สวดปาติโมกข์ย่อ. ภิกษุทั้งหลายจึง
กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาค. พระผู้มีพระภาครับสั่งห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูกรภิกษุทั้งหลาย
เมื่อไม่มีอันตราย ภิกษุไม่พึงสวดปาติโมกข์ย่อ รูปใดสวด ต้องอาบัติทุกกฏ.
เมื่อมีอันตราย เราอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ย่อ.
อันตรายในเรื่องนั้นเหล่านี้ คือ
๑. พระราชาเสด็จมา
๒. โจรมาปล้น
๓. ไฟไหม้
๔. น้ำหลากมา
๕. คนมามาก
๖. ผีเข้าภิกษุ
๗. สัตว์ร้ายเข้ามา
๘. งูร้ายเลื้อยเข้ามา
๙. ภิกษุอาพาธหนักจะถึงเสียชีวิต
๑๐. มีอันตรายแก่พรหมจรรย์
ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้สวดปาติโมกข์ย่อในเพราะอันตรายเห็นปานนี้ เมื่อไม่มีอันตราย ให้สวดโดยพิสดาร.
---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
พระพุทธองค์ทรงอนุญาตให้ภิกษุสวดปาติโมกข์ย่อเมื่อมีอันตราย 10 ประการ
การที่ภิกษุสวดปาติโมข์สิกขาบทย่อโดยสวดนิทาน สวดปาราชิก ๔ สวดสังฆาทิเสส ๑๓ และสวดอุเทศที่เหลือด้วยสุตบท นี้เป็นปาติโมกขุเทศที่ ๓ (ไม่ได้สวดอนิยต ๒ เป็นการสวดปาโมกข์ย่อแบบที่ ๓)โดยไม่มีอันตราย ๑๐ ประการ ดังนั้นจึงต้องอาบัติทุกกฎ
คำถามคือ
๑ ถ้าภิกษุนั้นต้องอาบัติทุกกฎเป็นเวลานานๆ จะมีผลต่อภิกษุผู้นั้นอย่างไร?
๒ ถ้าภิกษุนั้นต้องอาบัติทุกกฎเป็นเวลานานๆ และสึกออกไปโดยที่ไม่ได้ปลงอาบัติแล้ว จะมีผลต่อภิกษุผู้นั้นอย่างไร?