จะเขียนเป็นสมการ ตามพุทธวจน ไม่มีคำสาวก หรือ เรียนเเบบ อาวกาศตามวิทยาศาสตร์ เพราะ หน่วยนับต่างกัน

1จักรวาล จะมี โลก ที่สัตว์อาศัยได้อยู่เพียง1เดียว 1เดียวณที่นี้คือ มี โลก ดวงจัน อาทิตย์ มนุษย์ต่างดาว เทวดา พรหม
ใน1จักรวาล นั้น ดูจากการเคลื่อนที่ ของดวงจันทร์ ดวงอาทิตย์ ซึ่งณ ตอนนี้เราเข้าใจว่า มันหมุน รอบตัวเอง ช่วงสั่นๆในเวลา1ปี อาจจะดูเล็กๆ เเต่ถ้าเรามองกว้างถึงการเคลื่อนตัวทั่งจักรวาล จะรู้ว่าไม่เล็กน้อยอย่างที่คิด
ดังนั้นเพียง1 จักรวาลนี้เเหละที่ นักวิทยาศาสต์กำลังค้นคว้าว่ามันเริ่มตรงไหน เเต่ก็ไม่น่าจะพบได้ในเร็วๆนี่คงอีกนาน เเละไม่มีทางไปค้นพบ สวรรค์ พรหม ได้เเน่นอน
นี้ก็คือ หน่วยที่เรียกว่า จักรวาล
สมมุติว่า จักรวาล ย่อให้เป็นก้อนหิน1 เม็ด จะได้นับง่ายๆ
จักรวาลอื่น ก็เหมือนเเบบนี้ คือมี โลก พระจัน อาทิตย์ ต่างดาว เทวดา พรหม
มีเเบบนี้ 1000จักรวาล หรือ 1000เม็ด  เเต่ละจักรวาลจะมีสิ่งมีชีวิตอาศัยอย่างนี้

ทีนี้ มาดูหน่วยนับอีกอย่าง เรียกว่า โลกธาตุ จะขอเปรียบเหมือนขวดสำหรับเก็บก้อนหิน ได้1000เม็ด
คือ1000จักรวาลนั้น นับเป็น 1 โลกธาตุ  เรียกว่า โลกธาตุขนาดเล็กมี1000จักรวาลอาศัยอยู่
โลกธาตุเเบบนี้  มีอีก1000โลกธาตุ จะได้ 1ล้านจักรวาล เรียกว่า โลกธาตุขนาดกลาง
โลกธาตุแบบนี้ มีอีก1ล้านโลกธาตุ จะได้ 1พันล้านจักรวาล (แสนโกฏิจักรวาล) เรียกว่า โลกธาตุขนาดใหญ่


เขียนให้ชัดๆก็จะได้

โลกธาตุขนาดเล็ก มี1โลกธาตุ *1000จักรวาล= 1000จักรวาล มีโลก1000 มีดวงอาทิตย์1000เทวโลก1000
โลกธาตุขนาดกลาง มี1000โลกธาตุ * 1000จักรวาล= 1ล้านจักรวาล มีโลก1000000 มีดวงอาทิตย์ 1000000 มีเทวโลก1000000
โลกธาตุขนาดใหญ่ มี1ล้านโลกธาตุ * 1000จักรวาล= 1เเสนโกฏิจักรวาล(พันล้าน)จักรวาล มีโลก1พันล้านดวง มีดวงอาทิตย์1พันล้านดวง

สรุปโลกแบบนี้มี 1พันล้านดวง


ปล. ท้าวมหาพรหมปกครอง 1000จักรวาล หรือ 1 โลกธาตุ คงไม่มีใครที่จะสามารถรู้โลกอื่นได้ไกลกว่า พระเจ้า ผู้เห็นสิ่งทั้งปวงได้หมด