เมื่อครั้งครบรอบ 1 ปี เคยตั้งกระทู้ไปครั้งนึง ตอนนั้นน้ำหนักลงไป 9 กิโลกรัม
แต่วันนี้ทัศนคติเปลี่ยนไป สุขภาพไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขบนตาชั่งแล้ว <ไม่ใช่ไร ทำยังไงก็ไม่ลงซักที 555555>
วันนี้เราได้อะไรหลายๆอย่างกับการปั่นจักรยาน ทั้งสุขภาพที่ดีขึ้นมากๆ เราใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวดอยอินทนนท์ซักครั้ง <เราเป็นภูมิแพ้อากาศถ้าเจออากาศเย็นจัดอาการหายใจไม่ออกจะเริ่มทันที> และเมื่อคราวปิดเทอมเราได้พาลูกๆเข้าไปเมืองหิมะที่ดรีมเวิลด์ ทั้งยังจะได้ทดสอบสุขภาพร่างกายว่าไหวมั๊ย เมื่อครั้งที่ยังไม่ได้ปั่นจักรยาน เข้าไปไม่ถึง 5 นาที เราแย่มากทนไม่ไหวต้องรีบออก เข้าไปครานี้เราสดชื่นสุดๆ ไม่มีอาการที่เคยเป็นเหมือนเมื่อครั้งก่อนๆ
เราหายใจสบาย และรู้สึกดีมากๆที่ตัวเองแข็งแรงขึ้นได้ขนาดนี้ ดูสิคะ -5.5 เชียวนะ
ได้สุขภาพกายที่ดียังไม่พอ เราได้สุขภาพใจที่ดีเยี่ยม ได้เพื่อนที่รู้ใจและเข้าใจพูดคุยกันถูกคอ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ
และที่สำคัญรู้สึกดีใจที่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในชุมชน เราเริ่มปั่นจักรยานจากศูนย์เลยก็ว่าได้ จากคนที่ไม่รู้อะไรเลย ปั่นๆๆๆ คนเดียว จนตอนนี้เรามีเพื่อนมากมาย ได้แนะนำแต่สิ่งดีๆให้กับคนที่สนใจ ชักจูงให้มาปั่นจักรยานได้หลายคนเลยล่ะค่ะ
แต่เรามีเรื่องฝากไว้นิดนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะออกกำลังกายวันละ 2-3 ชม.ด้วยการปั่น แต่ถ้าเราไม่ควบคุมเรื่องอาหารการกิน
จำพวกไขมันสูง กะทิ เนย ขนมปัง เครื่องในสัตว์ ปลาหมึก น้ำอัดลม น้ำตาล โดยเฉพาะอิชิตันที่เมื่อก่อนเรียกว่า-วันละ 3 ขวดเพื่อไอโฟนเลยล่ะค่ะ 555555 อาหารพวกนี้ทำให้สุขภาพเราเสียค่ะ
เมื่อ 3 เดือนก่อนเราไปตรวจไขมันมาผลว่าไขมันสูง น้ำตาลก็สูงค่ะ เราต้องกลับมาปรับพฤติกรรมการกินทุกอย่าง
งดอาหารที่กล่าวไว้ข้างต้น จนเมื่อเดือนก่อนจะไปบริจาคเลือด ผลว่าเลือดไม่เข้มข้นพอที่จะบริจาคได้ เป็นเพราะเรางดเครื่องในสัตว์ทุกชนิด
งดไปเลยก็ไม่ดีอีกค่ะ หมอบอกให้กินตับอาทิตย์ละครั้ง ถั่วงอก ขี้เหล็ก พวกนี้บำรุงเลือดดี
และเน้นย้ำน้ำตาลอย่าให้เกินวันละ 6 ช้อนชา
ตอนนี้เราไม่เครียดเรื่องน้ำหนักล่ะ ขอออกกำลังกายแบบที่เป็นอยู่ อวบระยะสุดท้ายแต่แข็งแรงทั้งกายทั้งใจแบบนี้ก็พอใจแล้ว
และสุดท้าย ต้องขอบคุณสามี 3 ปี ที่ดูแลเรื่องรถและสนับสนุนการปั่นมาโดยตลอด
ครบรอบ 3 ปี กับการปั่นจักรยาน ได้อะไรเยอะเลย
แต่วันนี้ทัศนคติเปลี่ยนไป สุขภาพไม่ได้อยู่ที่ตัวเลขบนตาชั่งแล้ว <ไม่ใช่ไร ทำยังไงก็ไม่ลงซักที 555555>
วันนี้เราได้อะไรหลายๆอย่างกับการปั่นจักรยาน ทั้งสุขภาพที่ดีขึ้นมากๆ เราใฝ่ฝันอยากไปเที่ยวดอยอินทนนท์ซักครั้ง <เราเป็นภูมิแพ้อากาศถ้าเจออากาศเย็นจัดอาการหายใจไม่ออกจะเริ่มทันที> และเมื่อคราวปิดเทอมเราได้พาลูกๆเข้าไปเมืองหิมะที่ดรีมเวิลด์ ทั้งยังจะได้ทดสอบสุขภาพร่างกายว่าไหวมั๊ย เมื่อครั้งที่ยังไม่ได้ปั่นจักรยาน เข้าไปไม่ถึง 5 นาที เราแย่มากทนไม่ไหวต้องรีบออก เข้าไปครานี้เราสดชื่นสุดๆ ไม่มีอาการที่เคยเป็นเหมือนเมื่อครั้งก่อนๆ
เราหายใจสบาย และรู้สึกดีมากๆที่ตัวเองแข็งแรงขึ้นได้ขนาดนี้ ดูสิคะ -5.5 เชียวนะ
ได้สุขภาพกายที่ดียังไม่พอ เราได้สุขภาพใจที่ดีเยี่ยม ได้เพื่อนที่รู้ใจและเข้าใจพูดคุยกันถูกคอ ได้เจอเพื่อนใหม่ๆ
และที่สำคัญรู้สึกดีใจที่ได้เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับคนในชุมชน เราเริ่มปั่นจักรยานจากศูนย์เลยก็ว่าได้ จากคนที่ไม่รู้อะไรเลย ปั่นๆๆๆ คนเดียว จนตอนนี้เรามีเพื่อนมากมาย ได้แนะนำแต่สิ่งดีๆให้กับคนที่สนใจ ชักจูงให้มาปั่นจักรยานได้หลายคนเลยล่ะค่ะ
แต่เรามีเรื่องฝากไว้นิดนะคะ ถึงแม้ว่าเราจะออกกำลังกายวันละ 2-3 ชม.ด้วยการปั่น แต่ถ้าเราไม่ควบคุมเรื่องอาหารการกิน
จำพวกไขมันสูง กะทิ เนย ขนมปัง เครื่องในสัตว์ ปลาหมึก น้ำอัดลม น้ำตาล โดยเฉพาะอิชิตันที่เมื่อก่อนเรียกว่า-วันละ 3 ขวดเพื่อไอโฟนเลยล่ะค่ะ 555555 อาหารพวกนี้ทำให้สุขภาพเราเสียค่ะ
เมื่อ 3 เดือนก่อนเราไปตรวจไขมันมาผลว่าไขมันสูง น้ำตาลก็สูงค่ะ เราต้องกลับมาปรับพฤติกรรมการกินทุกอย่าง
งดอาหารที่กล่าวไว้ข้างต้น จนเมื่อเดือนก่อนจะไปบริจาคเลือด ผลว่าเลือดไม่เข้มข้นพอที่จะบริจาคได้ เป็นเพราะเรางดเครื่องในสัตว์ทุกชนิด
งดไปเลยก็ไม่ดีอีกค่ะ หมอบอกให้กินตับอาทิตย์ละครั้ง ถั่วงอก ขี้เหล็ก พวกนี้บำรุงเลือดดี
และเน้นย้ำน้ำตาลอย่าให้เกินวันละ 6 ช้อนชา
ตอนนี้เราไม่เครียดเรื่องน้ำหนักล่ะ ขอออกกำลังกายแบบที่เป็นอยู่ อวบระยะสุดท้ายแต่แข็งแรงทั้งกายทั้งใจแบบนี้ก็พอใจแล้ว
และสุดท้าย ต้องขอบคุณสามี 3 ปี ที่ดูแลเรื่องรถและสนับสนุนการปั่นมาโดยตลอด