เล่ห์รัก ตอนที่ 20

กระทู้สนทนา
ความเดิมตอนที่แล้ว
          [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

อมยิ้ม29


เล่ห์รัก 20

“กรี๊ดดดด ตีห้า! ตีห้าแล้ว ทำไมคุณไม่ปลุกฉันล่ะคุณสิงห์!!”
          นี่เป็นประโยคแรกของวันที่ถูกโพล่งออกมาจากปากหญิงสาวหัวฟู หน้ามันเยิ้ม ที่ยังอยู่ในเสื้อผ้าที่เป็นชุดทำงานของเมื่อวาน! เธอมองคนที่นั่งอยู่ข้างๆในเตียงเดียวกันด้วยตาเขียวปั้ด และลืมตัวไปว่าทั้งเธอและเขากำลังโกรธเคืองกันอยู่ (อย่างไม่รู้สาเหตุว่าเขาจะมาเคืองเธอเรื่องอะไร) แต่ถึงจะอย่างไร ตอนนี้เขาได้สร้างเรื่องให้เธอโกรธเคืองจริงๆเข้าแล้ว
        
           “ไปอาบน้ำไป”
            สั้นๆ ง่ายๆ ว่าเสร็จแล้วคนหน้ามึนที่ตื่นมาแบบมึนๆเพราะเสียงกรี๊ดก็ลุกขึ้นไปเปิดไฟดวงใหญ่ให้ ก่อนจะหันมาเห็นว่ามีสายตาแป๋วแหววมองตามอยู่ทุกอย่างก้าว แต่เขาก็ไม่ยี่หระกลับมาล้มตัวหันหลังให้แล้วนอนหลับตามเดิม
          
           ชลนาฮึดฮัด แต่แม้ว่าเธอจะเพิ่งตื่นและเพิ่งแหวเขาไปเมื่อสักครู่นี้ แต่ก็พอจะเข้าใจว่ามันไม่ใช่เรื่องของเขาที่จะต้องมาปลุกเธอ แม้ว่าเขาจะเคยทำอย่างนั้นทุกวันก่อนที่จะมามีทีท่าเคืองเธอก็ตามที เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ยอมลงจากเตียงแต่โดยดี แล้วก็แอบโล่งอกที่ตัวเองมาสะดุ้งตื่นตอนตีห้าของวันเดินทาง!
          เมื่ออาบน้ำเสร็จเรียบร้อย หญิงสาวก็รีบปรี่ไปที่ตู้เสื้อผ้า ตั้งใจจะคว้าเสื้อผ้าตัวโปรดที่ชอบ กับชุดทำงานที่ใส่เป็นประจำมาจัดกระเป๋า แต่ก็ต้องแปลกใจเพราะชุดที่ต้องการทั้งหมดหาย! เธอนั้นแสนจะมั่นใจว่ายังไม่ได้เก็บกระเป๋าแน่ๆ แต่แล้วกระเป๋าเดินทางสองใบที่วางแอบอยู่ข้างตู้ก็เตะตา ชลนาสาวเท้าเข้าไปคว้ามาเปิดดูอย่างแปลกใจ ก่อนอึ้งไปเมื่อเห็นเสื้อผ้าข้าวของที่จำเป็นถูกจัดลงกระเป๋าให้แล้วอย่างเป็นระเบียบ ซึ่งเมื่อเปิดกระเป๋าอีกใบก็เห็นว่าเป็นของสิงห์ซึ่งก็มีการจัดไว้แล้วเหมือนกัน
        
         เขาจะไปไหน…ถึงแม้จะแปลกใจแต่ก็ไม่เท่าความรู้สึกดีที่มีเพิ่มให้กับเขา ชลนาหันไปมองสิงห์ก็เห็นว่าเขานอนหันหลังให้เธออยู่เหมือนเดิม เธอถอนหายใจ พลางคิด…  
        หยุด…เธอห้ามคิดอะไรกับเขาเด็ดขาด!
        หญิงสาวสะกดจิตตัวเองเสร็จแล้วก็ลุกขึ้นเดินตรงไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้งเพื่อเช็ดผม โดยไม่ทันเห็นสายตาของสิงห์ที่กำลังทอดมองมาอย่างเงียบๆ ไม่มีวี่แววของคนที่ทำท่าง่วงนอนเมื่อครู่นี้เลยสักนิด!  


ชลนาอยากจะใช้ที่เป่าผมแล้วกดเบอร์แรงสุดใจจะขาด! ถ้าไม่ติดที่ว่าเธอไม่อยากทำเสียงดังรบกวนคนที่เธอคิดว่าเขากำลังนอนหลับอยู่นั่น ที่ทำได้ก็เลยเป็นแค่ใช้ผ้าเช็ดเท่านั้นเอง
             ขณะเช็ดผมหญิงสาวก็หยิบสมุดโน้ต รายละเอียดต่างๆมาทบทวนด้วย เพราะนี่คืองานแรกของเธอ และดูเหมือนว่าบทนาวินจะใช้งานเธอเขาก็ใช้จนคุ้มเสมือนกลัวว่าเธอจะทำงานไม่คุ้มกับเงินเดือน(ที่ยังไม่ได้) เพราะทันทีที่รู้ว่าเธอได้ที่พักฟรีที่นั่น เขาก็ยกตำแหน่งผู้ช่วยไกด์ให้เธออีกตำแหน่งเสียเลยด้วยเหตุผลว่าจะได้ประหยัดงบของบริษัท ทั้งๆที่งานของเธอคือเลขาของเขาแท้ๆ!
             นาวินก็คือผีเจ้านายดีๆนี่เอง…เจ้านายบ้าอำนาจ เข้าใจยากเหมือนคนแถวๆนี้แหละ นึกถึงเจ้านายแล้วก็เห็นถึงบางสิ่งบางอย่างที่คล้ายกันกับคนที่เธอใช้ชีวิตอยู่ในบ้านร่วมกันกับเขาได้เกือบสามเดือนขึ้นมา เธอก็ว่าแล้ว…ว่านาวินนิสัยเหมือนใคร นายคุณสิงห์นี่เอง!
             ถึงแม้ว่าหมู่นี้เขาจะไม่เผด็จการ ไม่เซ้าซี้ ไม่ยุ่มย่ามอะไรกับเธอแล้วก็เถอะ…


“คุณ…ฉันไปนะ”
            ชลนายืนนิ่งอยู่หน้าห้องน้ำ หลังจากที่เห็นว่าสิงห์ได้เข้าไปสักระยะแล้วมีเสียงน้ำจากฝักบัวดังขึ้นและหยุดไป แต่แม้จะมาบอกลาเขาถึงที่แล้วก็ยังไม่ได้รับคำตอบใดๆตอบกลับมา ความตั้งใจก็หดหาย ชลนาสะบัดหน้าพรืดออกห่างจากห้องน้ำไปคว้ากระเป๋าเดินดุ่มๆจวนจะพ้นห้องด้วยอารมณ์เซ็งอย่างบอกไม่ถูก
        
          “ฉันลืมบอกคุณไป ว่า.. คุณไม่ต้องไปส่งฉันหรอกนะ”
           ในที่สุดเธอก็เผลอกลับมายืนยึกยืออยู่หน้าห้องน้ำอีกครั้ง เพราะกลัวว่าเขาจะไม่ได้ยินว่าเธอกำลังจะออกจากบ้านแล้ว โดยจัดการเคาะประตูห้องน้ำสองทีบอกคนที่ยังไม่ส่งเสียงตอบรับใดๆกลับมา รออยู่ไม่ถึงสิบวิใบหน้างามๆก็บึ้งขึ้นถนัดใจ
            สงสัยจะล้มหัวฟาดพื้นห้องน้ำซี้แหงแก๋ไปแล้วมั้ง! เศร้า
            แช่งอยู่ในใจ (แต่ไม่อยากให้เป็นจริง) เสร็จแล้วก็คว้าสัมภาระเดินตึงๆออกจากห้องไปในที่สุด เมื่อเดินลงมาชั้นล่างก็เห็นเจ้านมสดนอนอยู่แถวโซฟา ชลนาเดินเข้าไปหามันอย่างเงียบๆ เห็นว่าหลับอยู่เธอก็ไม่อยากจะรบกวนความสุขของหมามากนัก แต่ก็ตัดสินใจนั่งข้างนมสดไปพลางๆขณะรอเพื่อนรักมารับ คิดเองเออเองว่าอยู่เป็นเพื่อนนมสด ทั้งที่จริงแล้วเธอต้องการให้มันอยู่เป็นเพื่อนเธอต่างหาก!

            
           แม้จะรู้สึกน้อยอกน้อยใจที่สิงห์ไม่แม้แต่จะมายืนส่งเธอ  ซึ่งอันที่จริงก็ไม่ได้ตื่นมาขับรถรับส่งเธอไปทำงานมาเป็นอาทิตย์แล้วขนาดไหนก็ตาม แต่เมื่อถึงเวลาทำงาน หญิงสาวก็เรียกสติกลับมาเต็มที่เพราะงานย่อมสำคัญกว่าผู้ชาย!
          
          “สวัสดีฮะ น้องชลใช่ไหม”
เสียงเรียกทำให้ชลนาที่ก่อนหน้านี้กำลังพยายามใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารกับลูกทัวร์ที่มาถึงจุดนัดหมาย แล้วสี่ห้าคนได้หันกลับไปตามเสียง เธอเห็นบุคคลรูปร่างสูงโปร่ง ทว่าบาง คล้ายผู้หญิงอยู่ตรงหน้า ชลนาคงจะนึกว่าเขาเป็นผู้หญิง ถ้าไม่ติดที่ว่า คนที่เรียกเธอจะมีหนวดหยุมหยิมนั้นอยู่
        
          “ พี่ชื่อ เติ้ลเป็นผู้ช่วยไกด์ ยินดีที่ได้รู้จักฮะ”
          
          “อ๋อ... ยินดีที่ได้รู้จักค่ะพี่เติ้ล”  ชลนายิ้มตอบทันทีที่รู้ว่าคนตรงหน้าเป็นใคร พลางยกมือไหว้  เมื่อเห็นว่าคนตรงหน้าอายุมากกว่า
          “แล้วไกด์ยังไม่มาเหรอคะ”หญิงสาวถามอย่างสนใจ เพราะอยากจะรู้ว่า ใครกัน ที่สิงห์หามา
ช่วยเธอในยามฉุกละหุกเช่นนี้
          
         เติ้ล ส่งยิ้มมั่นใจให้หญิงสาวหนึ่งทีก่อนจะตอบด้วยน้ำเสียงมั่นใจไม่แพ้ใบหน้า
         “ใกล้จะถึงแล้วล่ะฮะ เดี๋ยวอีกไม่เกิน สิบนาทีนี้ มัน..เอ๊ย พี่สินจะมายืนอยู่ตรงหน้าน้องชลแน่นอน”
        
           ชลนาพยักหน้ารับรู้ ก่อนที่ทั้งผู้ช่วยจริงและผู้ช่วยจำเป็นต่างก็แยกกันไปคุยและอำนวยความสะดวกให้กับลูกทัวร์ที่ทยอยมากันเรื่อยๆแล้ว  หญิงสาวโล่งใจขึ้นมาอีกนิด และผ่อนคลายความตื่นเต้นไปได้บ้างเมื่อลูกทัวร์ดูเป็นมิตรต่อกันดีและส่วนใหญ่ยังใช้ภาษาอังกฤษได้จึงทำให้เธอสามารถพูดคุยสร้างความเป็นกันเองกับลูกทัวร์ได้
        
            หญิงสาวมัวแต่พูดคุยอยู่กับลูกทัวร์ กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ใกล้เวลานัดแล้ว ชลนาเริ่มหน้านิ่วคิ้วขมวดเมื่อจำได้ว่าเธอยังไม่ได้เจอไกด์ประจำทริปนี้เลยและแอบไม่พอใจลึกๆที่ไกด์ของสิงห์มาสายจนน่าเกลียด  หญิงสาวรีบมองหาผู้ช่วยไกด์อีกคนทันทีเพื่อจะถามหาไกด์  
            แต่สายตากลับไปเจอกับผู้ชายผิวสีคนหนึ่งที่กำลังยืนพูดคุยกับลูกทัวร์อีกกลุ่มอย่างเป็นกันเอง ในมือของเขามีสมุดโน๊ตเล่มเล็กๆอยู่เช่นเดียวกับเธอ แต่ดูคล่องแคล่ว เป็นงานเป็นการกว่าเธอมากนัก
           ขณะที่หญิงสาวเอาแต่จ้องคนที่ไม่น่าจะเป็นลูกทัวร์ของบริษัทได้เพราะมีเค้าหน้าเอเชีย ใครอีกคนก็มายืนอยู่ข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ได้
            
            “นั่นพี่สินฮะ มานานแล้ว แต่พี่ไม่ได้บอกน้อง เพราะเห็นว่าคุยกับลูกทัวร์อยู่”
             เมื่อได้ยินคำอธิบายดังข้างๆ ชลนาก็ละสายตาที่กำลังจ้อง 'พี่สิน' มามอง ‘พี่เติ้ล’ แทน ซึ่งก็เป็นจังหวะที่ สิน ปรายตามามองผู้หญิงที่เอาแต่จ้องเขาเมื่อสักครู่นี้ เพียงแวบเดียว แล้วเขาก็หันไปหาลูกทัวร์ที่คุยอยู่ด้วยต่อ...
            
             เมื่อถึงเวลานัดลูกทัวร์ก็มากันจนครบแล้วเช่นกัน สองผู้ช่วยก็ปฏิบัติตามคำสั่งของไกด์เป็นอย่างดีในการจัดการอำนวยความสะดวกให้ลูกทัวร์ก่อนขึ้นเครื่อง และตลอดจนขึ้นเครื่องกันเรียบร้อยทุกคน
            
             เดินทางราวๆหนึ่งชั่วโมง นกยักษ์ก็ร่อนลงสู่สนามบินภูเก็ตโดยสวัสดิภาพ จากนั้นไกด์สินจึง พาคณะทัวร์ขึ้นรถทัวร์ปรับอากาศของบริษัทที่มารออยู่แล้วเพื่อเดินทางไปยังโรงแรม
           ไม่นานรถก็แล่นเข้าเขตโรงแรม ซึ่งเป็นโรงแรมขนาดใหญ่ สิ่งแรกที่เห็นเด่นชัดก็คือสีเขียวชอุ่มจากการประดับไปด้วยพันธุ์ไม้ต่างๆอย่างเป็นระบบรอบบริเวณ ให้ความรู้สึกร่มรื่นและสร้างความสดชื่นท่ามกลางอากาศดีๆ ให้แก่บรรดานักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก  ไกด์หนุ่มและสองผู้ช่วยต่างช่วยกันทยอยพาลูกทัวร์ไปยังเคาท์เตอร์เพื่อเช็คอิน เมื่อลูกทัวร์ทั้งหมดต่างได้กุญแจห้องแล้ว ไกด์สินก็ปล่อยให้ลูกทัวร์นำสัมภาระไปเก็บ ก่อนจะนัดหมายในอีกหนึ่งชั่วโมงที่ล็อบบี้ข้างล่างเพื่อออกเที่ยวตามโปรแกรมที่วางไว้ต่อไป
    
            เมื่อเห็นว่าลูกทัวร์ทั้งหลายเข้าห้องพักผ่อนกันแล้วก็เหลือเพียง ไกด์และผู้ช่วยทั้งสองที่ยังยืนสำรวจความเรียบร้อยกันอยู่
            “เอ่อ...ชลขอเอาของไปเก็บก่อนนะคะ”
             ชลนาเป็นฝ่ายเปิดบทสนทนาก่อน  เมื่อเห็นว่าทุกอย่างเรียบร้อยดีแล้ว
          
            “ไปสิฮะ พี่ก็จะเอาของไปเก็บเหมือนกัน ไปกันเถอะพี่สิน"
             เติ้ล เรียกคนที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จาต่างจากตอนที่อยู่กับลูกทัวร์เป็นหน้ามือกับหลังมือ ไกด์หนุ่มพยักหน้า ก่อนจะเดินนำผ่านหญิงสาวไปอย่างไม่คิดจะตอบสนองยิ้มสวยๆที่ชลนาส่งให้เลยแม้แต่นิด                                      
        
               คนยิ้มให้ ต้องยิ้มเก้อต่อหน้า เติ้ลและพนักงานที่เดินผ่านไปมา ซึ่งสร้างความอับอาย ย่อยยับอัปยศยิ่งนัก      ชลนาอยากจะมุดดินหายไปชั่วครู่แต่ศักดิ์ศรีก็ค่อนข้างจะค้ำคอ เธอคิดอยู่แล้วว่าอีตาไกด์ผิวสี มีเครานั่นจะต้องไม่ชอบเธอเพราะเขาทำตัวไม่เป็นมิตรกับเธอตั้งแต่ที่สนามบินแล้ว  แล้วอย่างนี้จะทำงานร่วมกันตลอดรอดฝั่งไหมล่ะนี่!
              ถ้าเกิดเป็นเวลาปรกติเธอคงจะตามไปกระชากคอเขามาถามเลยว่า ไปกินรังแตนที่ไหนมา ทำไมถึงทำตัวไม่มีมารยาทกับเธอแบบนี้!
             แต่นี่มันงานแรกของเธอ มันจะล้มเหลวไม่ได้เด็ดขาด!
        
              “… เอ่อ น้องชลฮะ อย่าไปถือสาพี่สินมันเลย พอดีช่วงนี้แพ้ท้องแทนเมียอยู่ เมียมันก่อนท้องก็ขี้เหวี่ยงขี้วีน พอท้อง พี่สินเลยนิสัยเป็นแบบนี้แทน ที่จริงนี่เฟรนลี่มากๆ แหะๆ”
               เติ้ลที่เป็นพยานในเหตุการณ์หน้าแตกของหญิงสาวมาโดยตลอดเข้ามาไกล่เกลี่ยเมื่อเห็นสีหน้าเดี๋ยวดำเดี๋ยวแดงเดี๋ยวซีดของหญิงสาว
          
              “มันมีแบบนี้ด้วยเหรอพี่เติ้ล แต่ทำไมนายพี่สินนี่เขาไม่เหวี่ยงใส่พี่ด้วยล่ะคะ เป็นแต่กับชล” ชลนาถามหน้าหงิกหน้างอ เลยได้รับการปลอบใจเป็นการตบบ่าสองที
        
              “ใจเย็นหนู..สงสัยมันแพ้ท้องแบบเบื่อผู้หญิงไง แต่เดี๋ยวคงหายแหละ ถ้าไม่หายก็ด่าไอ้พี่สินไปเลย เอาให้สะใจ พี่เชียร์”
        
              “จะดีเหรอคะ”
               แม้ว่าหน้าที่การงานจะค้ำคอ แต่ข้อเสนอที่ได้ยินก็แสนจะถูกใจ ชลนาเงยหน้ามองคนข้างๆอย่างอย่างมีความหวังว่าจะได้พรรคพวก…
        
               “อือ ไม่ดีหรอก จะดีได้ไง ถ้าขืนไปด่ามัน เราก็ซวยสิ มีหวังมันงอลหนีกลับกรุงเทพแน่ๆ ฮ่าๆๆๆ”
               เติ้ลทิ้งระเบิดลงตูม แล้วเดินจากไปด้วยเสียงหัวเราะที่ยังก้องอยู่ในหัวของชลนาพร้อมกับความหวังที่พังทลายลง!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่