เล่ห์รัก ตอนที่ 2

กระทู้สนทนา
“โอ้โห วันนี้มีแต่ของโปรดของชลทั้งนั้นเลย พี่น้ำนี่รู้ใจชลที่หนึ่ง” ชลนามองอาหารบนโต๊ะที่ล้วนแต่เป็นของโปรดของตัวเองอย่างเจริญใจ แต่เมื่อจะลงมือตัก ก็โดนพี่สาวห้ามเสียก่อน

“วันนี้เพื่อนพี่จะมาทานข้าวด้วยน่ะ รอเขาก่อนนะ”ธีร์เป็นผู้อธิบายเมื่อเห็นว่าชลนาคิ้วเริ่มขมวด ราวกลับจะโมโหหิว

“เพื่อนพี่ธีร์ ใช่เพื่อนชลเสียเมื่อไหร่กัน” ถึงปากจะพูดแบบนั้น แต่สุดท้ายสาวเจ้าก็ยอมเก็บช้อนไว้ที่เดิม แถมยังไม่วายค้อนขวักให้พี่เขย โทษฐานที่ขัดความสุขเล็กๆน้อยๆของเธอ ส่วนธีร์ ทำได้เพียงส่งยิ้มแหยๆให้ภรรยาเท่านั้น ก่อนจะหันไปพูดกับชลนาเพื่อเอาใจ

“เพื่อนคนนี้ ก็เจ้าของบ้านหลังข้างๆนี่ไงครับน้องชล ”

“ผู้ชายคนนั้น!”
ภาพแผ่นหลังของคนที่เธอเคยอยากเห็นหน้าจนต้องปีนรั้วจนตกลงมาชัดขึ้นทันใด เมื่อรู้เช่นนั้น ช้อนที่เคยวางลงข้างจานข้าว ก็ถูกจับขึ้นมาอีกครั้ง ท่ามกลางความฉงนของพี่สาวและพี่เขย ชลนาเพียงแต่มองหน้าพี่เขยนิดหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนมือไปยังแกงเขียวหวานที่ส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายที่ตั้งอยู่ตรงหน้า แล้วตักกินโชว์เจ้าของบ้านอย่างสบายอารมณ์

“ชลจะไม่รอเพื่อนพี่ธีร์เขาก่อนหรือจ้ะ”ธารามองหน้าน้องสาวอย่างปรามๆ แต่ยังควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปรกติ ไม่อยากจะตำหนิน้องสาวต่อหน้าสามี

“ไม่ค่ะ..เขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับชล เรื่องอะไรชลจะต้องไปรอเขา..เชิญพี่ธีร์หิ้วท้องรอเขาไปคนเดียวเถอะ” จบประโยค ก็เอื้อมมือไปตักต้มจืดที่วางอยู่ตรงหน้าพี่เขย พร้อมกับยักคิ้วหลิ่วตาให้อยากกวนอารมณ์ ธีร์ถอนหายใจเบาๆ ได้แต่ภาวนาให้เพื่อนมาถึงไวๆก่อนที่กับข้าวจะหมดถ้วยเสียก่อน!

“แล้ว..เพื่อนพี่ธ์เขาเป็นใคร เป็นตำรวจเหมือนพี่ธีร์หรือเปล่า” เมื่อตั้งหน้าตั้งตาตักกับข้าวไปหลายคำแล้ว จึงเงยหน้าขาวๆถามพี่เขยถึงคำถามที่ค้างคาใจ

“นั่นแน่..ที่แท้ก็อยากรู้เรื่องเขา”
ชลนามองคนพูดซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ แล้วส่ายหน้าน้อยๆให้กับคำพูดของพี่สาว ซึ่งทำเหมือนไม่รู้จักเธอเอาเสียเลย

“ชลไม่เคยคิดที่จะสนใจผู้ชายคนไหน พี่น้ำก็รู้”

“แต่คนนี้ เขาดีนะ”

“จะดีแค่ไหน ชลก็ไม่สนใจ เขาอาจจะมีลูกมีเมียแล้วก็ได้”




“ผมยังไม่มีเมียครับ!”


ชลนาสะดุดกึก เงยหน้าขึ้นมองคนมาใหม่ในสภาพข้าวเต็มปาก ก่อนจะสำลักจนธาราซึ่งนั่งข้างๆตกใจ ต้องรีบเอาน้ำให้น้องสาวดื่ม โดยไม่ได้สังเกตสีหน้าของน้องสาว

“เห็นไหม พี่บอกว่าให้รอคุณสิงห์เขาก่อน”ลูบหลังน้องสาวไป ก็พร่ำบ่นไป ไม่สนใจชลนาที่ค้อนปะหลักปะเหลื่อให้แบบไม่จริงจังนัก

“สองพี่น้องนานๆเจอกันที ท่าจะอยากนั่งด้วยกัน ถ้าอย่างนั้นนายก็มานั่งข้างฉันก็แล้วกันนะสิงห์”
เมื่อเห็นว่าเพื่อนยังคงยืนนิ่งค้างมองคนสำลักอยู่อย่างนั้น ธีร์จึงส่งเสียงให้เพื่อนสนิทมานั่งข้างตนแทน สิงห์จึงค่อยๆละสายตาจากหญิงสาวแล้วนั่งลง ก่อนจะส่งยิ้มบางๆให้ชลนา เมื่อธีร์แนะนำตัวเขากับเธอ

“นี่ผมทำให้คุณสำลักหรือเปล่าครับ”
ชลนามองคนพูด ก่อนจะส่ายหน้า

“ไม่ใช่หรอกค่ะ ฉันซุ่มซ่ามเอง”

“ยัยชลก็ซุ่มซ่ามแบบนี้ประจำแหละค่ะคุณสิงห์”เมื่อเห็นว่าแขกยังมีสีหน้าเป็นห่วง ธาราจึงช่วยย้ำความบริสุทธิ์ของเขาด้วยการยืนยันความซุ่มซ่ามของน้องสาวเสียเลย ในขณะที่สามีได้แต่หัวเราะเบาๆ ชลนาไม่สนใจ ลงมือตักข้าวกินใหม่เป็นจานที่สอง ฟังเจ้าของบ้านทั้งสองกับแขกคุยกันเงียบๆ

“อ้อ สิงห์ เห็นว่ากำลังตามหาตัวคู่หมั้น แล้วเจอหรือยังล่ะ”

“เจอแล้วล่ะ”สิงห์ตอบ ก่อนจะเริ่มตักกับข้าวบ้างเมื่อเห็นว่าเจ้าบ้านทุกคนเริ่มทานแล้ว

“แหม..เรื่องของคุณสิงห์คล้ายกับเรื่องของยัยชลเลยนะคะ”ธาราที่พอจะรู้เรื่องของสิงห์จากสามีมาบ้าง อดที่จะออกความเห็นอย่างแปลกใจไม่ได้

“เรื่องของคุณชล…เป็นยังไงเหรอครับ”สิงห์ถาม ลืมไปเสียสนิทว่าอย่างไรเสียมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวของหญิงสาว ชลนามองเขาอย่างไม่พอใจที่ละลาบละล้วงเรื่องส่วนตัว โดยเฉพาะเรื่องคู่หมั้น ที่เธอนึกถึงทีไรก็อารมณ์เสียทุกที

“ของฉันไม่มีเรื่องอะไรน่าสนใจหรอกค่ะ ก็แค่เรื่องไร้สาระ แล้วเรื่องของคุณล่ะคะ สนุกหรือเปล่า ฉันจะได้ฟังเป็นนิทานก่อนนอน”ความเป็นคนปากเร็ว บวกกับอารมณ์เริ่มไม่ดี ทำให้ชลนาลืมเรื่องมารยาทไปเสียสนิท

“ยัยชล!”
สองสามีภรรยารีบมองหน้าปรามคนเอาแต่ใจทันที ก่อนที่ธาราจะรีบพูดขอโทษแทนน้องสาว ถึงแม้ว่าสิงห์ จะไม่ได้แสดงสีหน้าโกรธเคือง และใบหน้าหล่อยังคงเรียบเฉยไม่ทุกข์ไม่ร้อนกับฤทธิ์ของชลนาก็ตาม

“ผมผิดเองครับ ที่ไปถามเรื่องส่วนตัวของคุณชล..แล้วเรื่องของผม คุณยังอยากจะรู้อยู่ไหมครับ”
ประโยคสุดท้าย เขาเบนสายตาไปหาชลนาแทน เธอรู้สึกเหมือนว่าเขาใช้สายตาแบบที่ผู้ใหญ่กำลังเตรียมจัดการกับเด็กดื้อสักคนหนึ่งยังไงยังนั้นแต่นั่นก็เพียงแค่แวบเดียว บางทีเธออาจจะตาฝาด ชลนากระแอมเบาๆ ก่อนจะพยักหน้า พยายามไม่มองสบตาเขา ลางสังหรณ์แปลกๆผุดขึ้นในใจ เขาจะส่งสายตาแบบนั้นมาให้เธอทำไม ในเมื่อเธอกับเขาเพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรก!

“คู่หมั้นของผมเขาหนีงานหมั้นน่ะครับ ผมเลยมาตามหาเขา”

“หนี..ก็แสดงว่าเธอคนนั้นไม่ได้รักคุณสินะ”ชลนาเบะปากอย่างไม่ชอบใจ ทำไมเธอจะไม่เข้าใจความรู้สึกของผู้หญิงคนนั้นว่ามันรู้สึกทุกข์แค่ไหนที่จะต้องแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก ยิ่งเรื่องของเธอด้วยแล้ว ชีวิตทั้งชีวิตของเธอกำลังจะถูกบิดายกให้ผู้ชายคนไหนก็ไม่รู้!

“แต่ผมเชื่อว่าสามารถทำให้เขารักผมได้”

“ความรู้สึกคนไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่รักก็คือไม่รัก ยอมรับความจริง แล้วไปรักคนที่เขารักคุณดีกว่า”คนมีชนักติดหลังตัดสินใจลุกขึ้นยืนเมื่อพูดจบ ตั้งใจจะหนีไปให้พ้นเรื่องหมั้น แต่จู่ๆขาที่หายเจ็บไปบ้างแล้วก็เจ็บแปลบขึ้นมาเสียดื้อๆ

“คุณจะไม่ถามผมสักหน่อยเหรอ ว่าคู่หมั้นผมชื่ออะไร”
สิงห์ลุกขึ้นยืนตาม ก่อนจะเดินไปหยุดอยู่ข้างๆเธอ ชลนามองเขาอย่างฉงน เขาจะติดใจอะไรเธอนักหนา?

“ฉันไม่ได้อยากรู้เรื่องของคุณมากขนาดนั้น พี่น้ำ พาชลไปพักที ชลเหนื่อยแล้ว”

“คู่หมั้นของผม….”

“ฉันบอกว่าฉันไม่อยาก..”

“ชื่อ ชลนา มาลาวิภูษิต”เขาพูดแทรกก่อนเธอจะพูดจบ

“คุณ!!!”ชลนาเบิกตาโต ถึงแม้เขาจะเอ่ยชื่อนั้นเรียบๆ แต่เธอแน่ใจว่าได้ยินมันชัดเจน ชลนาหันขวับไปมองพี่สาวกับพี่เขยอย่างตกใจ ก่อนจะแปลเปลี่ยนเป็นความโกรธ เธอเผลอตัวลุกขึ้นเดินหนี แต่เพียงไม่กี่ก้าวก็ทำให้ล้มลงไปกองอยู่บนพื้น ขาข้างที่บวมอยู่แล้วยิ่งเจ็บแปลบ ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วจนยากจะทำใจ เขาเป็นใครกัน ถึงได้กล้าดีมาสวมรอยเป็นคู่หมั้นของเธอ!

“คุณเป็นยังไงบ้าง”สิงห์ที่ยืนอยู่ใกล้ตัวชลนาที่สุด รีบทรุดตัวลงข้างตัวเธอ อดตำหนิตัวเองไม่ได้ ที่รีบร้อนทำให้เธอตกใจ

“อย่ามายุ่งกับฉัน!”

“ไม่ยุ่งคงไม่ได้ คุณเป็นคู่หมั้นของผม”

“คุณจะบ้าเหรอ! ฉันไม่ได้เป็นคู่หมั้นของใครทั้งนั้นแหละ”
ยิ่งโดนย้ำยิ่งเจ็บใจ ปัดมือเขาที่ยังจับอยู่ที่ขาเธอออกอย่างรังเกียจ กรามของสิงห์นูนขึ้น เมื่อเธอแสดงทีท่ารังเกียจเขาอย่างเปิดเผย

“บอกชลทีว่านี่มันเรื่องโกหก พี่ธีร์กับพี่น้ำตั้งใจจะทำให้ชลตกใจเล่นเท่านั้น” ชลนาพยายามข่มใจตัวเอง ไม่อยากจะมองหน้าใครทั้งสิ้น แม้ว่าพี่สาวจะยื่นมือมาโอบไว้ก็ตาม

“ผมไม่ได้โกหก”
สิงห์ยืนยันเสียงราบเรียบ แต่หนักแน่นในที

“คุณโกหก!!!!!!”ชลนาตะคอกใส่เขาด้วยโทสะอารมณ์ ก่อนจะชันเข่าขึ้นแล้วซบหน้าลงปิดบังบางอย่างที่เริ่มรื้นหน่วยตา ธาราลูบหลังน้องสาวอย่างเห็นใจอย่างที่สุด เธอพอจะรู้มาบ้างว่าก่อนที่ชลนาจะหนีมาอยู่กับเธอ น้องสาวของเธอทะเลาะกับผู้เป็นพ่อและแม่อย่างหนัก แต่ที่ยังแสดงทีท่าร่าเริงอย่างที่เห็นมาตั้งแต่ต้นก็เป็นเพียงการกลบเกลื่อนความรู้สึกเท่านั้น ธาราเงยหน้ามองสามีเมื่อแรงสะอื้นของน้องสาวแรงขึ้นจนสังเกตได้ ชลนากำลังกลัว..

“สิงห์ ฉันขอคุยกับนายหน่อย”ธีร์มองหน้าเพื่อนอย่างตำหนิ

หนึ่งอาทิตย์ก่อนหน้า

‘อะไรนะ นายกำลังจะหมั้นอาทิตย์หน้า?’
‘ใช่ ถ้าไม่ติดที่ว่าคู่หมั้นฉันจะ..’ สิงห์มองหน้าเพื่อนอย่างหนักใจ
‘หนีไปงั้นเหรอ…ทำไมช่วงนี้ถึงมีแต่คนหนีงานหมั้นนะ’ ธีร์เอ่ยขึ้นอย่างไม่ได้คิดอะไรมาก ทว่าสิงห์มองเพื่อนอย่างสะดุดใจ
‘นายพูดอย่างกับว่ามีคนหนีงานหมั้นที่ไหนอีกอย่างนั้นอีก’
ธีร์หัวเราะขันเบาๆ ลืมความทุกข์ของเพื่อนไปเสียสนิท เมื่อคิดถึงเรื่องที่ภรรยาเล่า
‘ก็น้องเมียฉันน่ะสิ หนีงานหมั้นมาอยู่กับน้ำ เมื่อสองสามวันก่อนนี่เอง’
‘...น้องเมียนายชื่ออะไร’
‘ชลนา ชลนา มาลาวิภูษิต”




เมื่อคิดได้ถึงตรงนี้ บางอ้อก็ย้ายมาอยู่ตรงหน้า นายสารวัตรหนุ่มอ้าปากค้างเมื่อเขาเป็นคนชี้โพรงให้กระรอกแท้ๆ และเขาจะไม่มีวันให้ธารารู้เรื่องนี้แน่นอน ไม่อย่างนั้น ทั้งพี่ทั้งน้องคงจะเอาเรื่องเขาน่วมแน่ๆ เขามองสิงห์อย่างหนักใจ

“ไม่ใช่ตอนนี้ เอาไว้พรุ่งนี้ฉันจะเข้ามาคุยกับนายเอง แต่ตอนนี้ ฉันจะพาคู่หมั้นฉันไปพัก”สิงห์มองไปยังคนที่กอดเข่ากลมดิก ก่อนจะขออนุญาตธาราที่โอบน้องสาวอยู่เบาๆ แล้วช้อนตัวเธอขึ้นมาอย่างเบามือ แต่คนที่เพิ่งจะรู้สึกตัวเมื่อได้ลอยขึ้นเหนืออากาศเรียบร้อยแล้ว สะดุ้งโหยงอย่างตกใจ ก่อนจะดิ้นอย่างแรงเมื่อรู้ตัวชัดเจนถึงสาเหตุที่เธอสามารถลอยมาจากพื้นได้

“อะ ไอ้คนโกหก! ปล่อยฉันลงนะ! พี่น้ำช่วยด้วย”

“คุณสิงห์”
ธารามองเขาตรงๆ เธอก็ตกใจไม่น้อย และไม่เห็นด้วยกับวิธีการของเขา ถึงแม้เธอกับธีร์จะรู้จักเขามานาน แต่เรื่องนี้เธอจะไว้ใจเขาได้ขนาดไหนกัน!

“ผมจะดูแลชลอย่างดี”
สิงห์ยิ้มบางๆ เขามองธาราและธีร์ที่เป็นเพื่อนกันมานานอย่างจริงใจ ก่อนจะพาตัวเองกับคนที่ ‘อุ้มมา’ เดินออกมาจากโต๊ะกินข้าว แล้วตรงไปยังบ้านของตัวเองทันที! ตัวเขาเองก็ไม่ชอบวิธีการแบบนี้ แต่สำหรับวิธีที่จะใช้กับผู้หญิงที่กำลังทุบตีเขาอย่างเอาเป็นเอาตายตอนนี้แล้ว…นี่อาจจะเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุดก็เป็นได้

หลังจากที่พยายามไม่สนใจเสียงกรีดร้องและเสียงข้าวของแตก ในห้องนอนของตัวเองมาร่วมชั่วโมง เขาก็ทนไม่ได้อีกต่อไป ความจริงแล้วเขาตั้งใจจะให้ชลนาได้เข้าไปสงบสติอารมณ์แล้วค่อยเข้าไปคุย และอธิบายเรื่องราวทั้งหมดให้เธอฟัง ขอให้เธอให้โอกาสเขา…แต่เสียงที่ยังดังไม่หยุด บ่งบอกได้อย่างดีว่า คนอย่างชลนา ไม่สามารถสงบสติ และระงับความไม่พอใจได้ง่ายๆ สิงห์ถอนหายใจอย่างหนักใจ ก่อนจะหยัดตัวเองขึ้นจากเตียงที่อยู่ห้องตรงกันข้าม ซึ่งเป็นห้องนอนของมารดา แล้วเปิดประตูเข้าอีกฝั่งของห้องที่เป็นที่มาของเสียงกรีดร้อง และสิ่งที่เขาพบก็คือ สายตาเคียดแค้นของเธอ…

“ถ้าคุณยังทำตัวเป็นเด็กแบบนี้ เราคงจะคุยกันไม่รู้เรื่อง”
เขาตำหนิเธอตรงๆ ชลนากำมือแน่น

“แก…แกทำลายชีวิตของฉัน!” สิงห์นิ่งค้างกับคำที่ชลนาใช้เรียกเขา…ก่อนจะมีอะไรบางอย่างมากระทบกับหน้าอก สิงห์พยายามข่มใจ เมื่อสิ่งนั้นคือภาพถ่ายของเขาที่เคียงคู่กับมารดาและมันได้แตกไปเรียบร้อยแล้ว เขาค่อยๆก้มลงหยิบภาพถ่ายที่นอนนิ่งอยู่บนพื้นขึ้นมาอย่างทะนุถนอม ชลนานิ่งอึ้ง เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้ด่าว่าเธอเหมือนที่เธอคิด และทำเป็นไม่เห็นรูปคู่ที่เขาบรรจงเก็บขึ้นมานั้น ถึงแม้ว่าจะรู้สึกผิดเมื่อรูปที่เธอปาไปหวังจะทำให้เขาโกรธนั้นเป็นรูปที่น่าจะเป็น 'แม่' ของเขาก็ตาม


“คุณเป็นยังไงมั่ง”
เขายังถามอย่างห่วงใยเมื่อเห็นเท้าข้างซ้ายของเธอบวมเป่งขึ้นจากเมื่อตอนหัวค่ำ แต่กลับได้รับเพียงความเงียบ สิงห์จึงเสมองสำรวจห้องของตัวเองแทน ไม่ได้แตกต่างไปจากที่คิดมากนัก ชลนาคงจะอารมณ์เย็นลงแล้วหลังจากได้ทำลายข้าวของจนห้องนอนของเขาแทบจะไม่เหลือเค้าเดิม เขาเดินไปหาเธอที่ทรุดนั่งลงไปกับพื้นห้องแล้วบรรจงอุ้มเธอกระชับไว้ในอ้อมกอด ก่อนจะเดินไปเข้าอีกห้องที่เขาเพิ่งเดินจากมา จึงจัดการปล่อยเธอไว้ที่เตียงของมารดา ..ที่บนหัวเตียงมีรูปของมารดาอยู่ เขาหวังว่าเธอคงจะมีสติพอที่จะไม่ทำลายห้องของมารดาเขาไปอีกคน สิงห์มองเสี้ยวด้านข้างของชลนาที่หันหนีไปอีกทางไม่ยอมมองหน้าเขาเงียบๆ แล้วจึงตัดสินใจเดินออกจากห้องไปอีกครั้ง ปล่อยให้เธอได้ทำใจต่ออีกนิด..


อมยิ้ม02จบตอน 2


อันที่จริงมีต่ออีกค่ะ แต่เอามาลงไม่พอซักที ติดตามต่อตอน 3 เลยค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่