คู่แข่งของเขาในศึกรักครั้งนี้ ไม่ใช่ชายหนุ่มใด แต่เป็นเพื่อนสาวคนสนิทของชลนา ซึ่งดูเหมือนจะ 'หวง' เพื่อนเกินเพื่อน
สู้รบปรบมือกับผู้หญิงอกสามศอก จะทำอย่างไรดี?
“สรุปว่าชลหนีมาเหรอ” ผู้ที่ดูสูงวัยกว่าจ้องใบหน้าของน้องสาวตัวเองอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ หลังจากที่เธอ
ถูกปลุกมากลางดึก เพื่อไปรับน้องสาวของตัวเองที่สนามบินอย่างกะทันหัน น้องสาวหัวดื้อของเธอที่ไม่ได้เจอกันมาแรมปีแล้ว ตั้งแต่ที่เธอได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นผู้จัดการบริษัทอัญมณีแห่งหนึ่งในภูเก็ต และมัวแต่ทุ่มเททำงานจนไม่มีเวลากลับไปเยี่ยมครอบครัวและน้องสาวที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอก็ได้รับสายตรงจากชลนา ผู้เป็นน้องซึ่งกำลังรอรับใบปริญญาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าว่าถูกคลุมถุงชน!
“ใช่สิ ใครจะอยู่รอให้พ่อจับใส่พานถวายนายนั่นล่ะ” ชลนาเบ้ปากเล็กน้อย เมื่อต้องพาดพิงถึงคนที่เธอไม่เคยรู้จัก และเธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดสักนิดที่หนีมากะทันหันทั้งๆที่จะเข้าพิธีหมั้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“โธ่ชล ป่านนี้เขาไม่ตามหาตัวกันให้วุ่นเหรอ”
“ช่างสิ คอยดูนะ ทุกคนจะต้องเสียใจที่มาบังคับชล”
“อย่าทำตัวเป็นเด็กได้ไหม ไม่สงสารแม่เหรอที่จู่ๆชลก็หายไปแบบนี้น่ะ ก็รู้อยู่ว่าแม่รักชลที่สุด” ธารา กล่าวด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายกับนิสัยของผู้เป็นน้อง ชลนานั้นมีนิสัยต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง เนื่องจากเกิดมาเป็นน้องเล็กของบ้าน ทุกคนในบ้านจึงตามใจมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งเธอและภูผาพี่ชาย ก็ไม่เคยจะขัดใจแม่น้องสาวแสนดื้อ และขี้อ้อนคนนี้ได้สักที
“สงสารน่ะสงสารอยู่…แต่ชลไม่ชอบให้ใครมาบังคับนี่ และนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะพี่น้ำ ชลโดนบังคับให้แต่งงานกับใครก็ไม่รู้!”
“แต่พี่เชื่อสายตาพ่อ พ่อมองใครไม่เคยพลาด”
“เหมือนพี่น้ำกับพี่ธีร์ใช่ไหมล่ะ” ชลนาหลี่ตามองหน้าแดงๆของพี่สาวอย่างรักใคร่แกมหมั่นไส้ ธารานั้นก็เคยโดนบังคับให้แต่งงานกับผู้หมวดอนาคตไกลคนหนึ่งเมื่อสี่ห้าปีก่อน และเนื่องจากธาราไม่เคยขัดใจพ่อแม่ จึงตอบตกลงแต่งงานอย่างไม่ยากเย็นนัก และเธอก็หลงรักสามีของเธออย่างหมดหัวใจ เพราะเขาเป็นคนดี และรักเธอมากเช่นกัน
“จ้ะ” ธาราสบตาน้องด้วยความเปี่ยมสุข
“เชอะ! แต่เรื่องแบบนี้ชลต้องเลือกเอง ชลจะแต่งงานกับคนที่ชลรักเท่านั้น ชลไม่เหมือนพี่น้ำที่จะยอมพ่อง่ายๆหรอกนะ”
“งั้นก็ตามใจเราก็แล้วกัน ชลก็อยู่ที่นี่ไปก่อน จนกว่าจะสบายใจ” เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มกว้างๆในรอบสัปดาห์ก็ค่อยๆคลี่ออกมาจากร่างบางที่ทำหน้างอง้ำอยู่เมื่อครู่ เธอรู้อยู่แล้วว่าพี่สาวผู้ไม่เคยขัดใจเธอ จะต้องยินยอมให้เธออยู่ด้วยอย่างแน่นอน
“เยส! แล้วคุณพี่ผู้หมวดไปไหนเสียล่ะพี่น้ำ”
“ไปราชการที่กรุงเทพสองสามวันจ้ะ แล้วก็เห็นว่าจะแวะไปหาเพื่อนเขาด้วย อ้อ ธีร์เป็นสารวัตรแล้วจ้ะ”
“อู้หู เดี๋ยวนี้เป็นสาราวัด ไปซะแล้ว แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่า คืนนี้ชลนอนกับพี่น้ำนะ ชลจะนอนกอดพี่น้ำทุกคืนที่ชลอยู่ที่นี่เลย คิดถึงมานานแล้วล่ะ ที่ไม่ได้มาหาเนี่ย เพราะเรียนหนัก ยุ้งยุ่ง ”
ธารายิ้มแกนๆให้น้องสาวอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ เพราะน้องสาวของเธอนั้นถึงจะเรียนเก่งและเกรดดีทุกเทอมก็จริง แต่เป็นคนติดเพื่อนและติดเที่ยวมากทีเดียว เงินที่พ่อแม่ส่งให้เป็นประจำทุกเดือนซึ่งเธอเห็นว่ามากพอดูแล้วยังไม่เคยพอ ยัยน้องสาวตัวยุ่งยังเผื่อแผ่มาขอเธอกับภูผาพี่ชายที่เป็นทนายความอยู่ทุกเดือนไป
“เพลียจัง ชลว่าชลไปนอนก่อนดีกว่า ห้องพี่น้ำอยู่ไหนน้า ชั้นสอง ทางซ้ายมือ ริมสุดใช่ป่ะ ชลจำได้”
ธารามองน้องสาวที่ลุกขึ้นลากกระเป๋าพร้อมกับแบกเป้พะลุงพะลังอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินตามน้องสาวที่เดินขึ้นบันไดนำเธอไปเสียแล้ว เห็นทีถ้าสามีเธอกลับมา คงจะต้องวุ่นวายมากพอดู เพราะชลนาน่ะ คอยแต่จะจ้องแกล้งพี่เขยอยู่ตลอดตั้งแต่ก่อนเธอจะแต่งงานเสียอีก!
ธาราวางสายจากสารวัตรธีร์ผู้เป็นสามี นึกถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่ เธอเล่าเรื่องของชลนาให้เขาฟัง เขาดูไม่แปลกใจที่น้องสาวของเธอหนีมาเท่าไหร่ คงเพราะรู้ฤทธิ์ของชลนาดี และเมื่อเธอบอกเขาไปว่าน้องสาวจะมายึดห้องนอนของเขาและเธอชั่วคราว เขาก็ครางออกมาเสียงอ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเองก็ทำได้เพียงส่งเสียงหัวเราะขำๆอย่างเป็นกำลังใจไปให้เขาเท่านั้น สามีของเธอคงจะทรมานใจน่าดู เพราะเขาชอบนอนกอดเธอมากกว่าหมอนข้างแน่ๆ
“คิดอะไรอยู่เหรอพี่น้ำ”
ธาราสะดุ้งมองน้องสาวตัวเองที่มายืนข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก่อนจะยิ้มน้อยๆให้น้องสาว แล้วรีบวางโทรศัพท์ที่ยังถือค้างอยู่วางที่ข้างๆเตียง
“คิดถึงธีร์น่ะจ้ะ อีกสองสามวันจะกลับแล้วล่ะ”
“แหมๆๆๆ หายใจเข้าก็พี่ธีร์ หายใจออกก็พี่ธีร์” ชลนาทำปากยื่นๆเมื่อเห็นว่าพี่สาวรักสามีแค่ไหน เมื่อห้าปีก่อนเธอพึ่งเข้าเรียนในชั้นมัธยมปลาย พี่สาวของเธอซึ่งเพิ่งเรียนจบปริญญาได้ไม่นานก็โดนจับหมั้นหมายกับพี่เขยในปัจจุบัน เธอเองก็อาละวาดไปไม่ใช่น้อย หาเรื่องแกล้งเขาทุกทีที่แวะมาหาพี่สาวของเธอที่บ้าน เขาก็ยังอดทน ไม่ยอมแพ้ หมั่นเกี้ยวจนพี่สาวยอมแต่งงานด้วยความเต็มใจ ยังจำได้ว่าเธอนอนร้องให้ตั้งหลายคืน เพราะกลัวว่าพี่สาวจะแบ่งความรักไปให้คนอื่นเยอะกว่าเธอ! และมันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ!
“ทำหน้าแบบนั้นจะหาเรื่องแกล้งพี่เขาอีกล่ะสิ เราน่ะโตแล้วนะ เรียนจบแล้ว อย่าทำตัวเป็นเด็กๆเหมือนเมื่อก่อนนักเลย”
“ยังไม่โตเท่าไหร่นะพี่น้ำ” ชลนาเบื่อหน่ายกับคำพูดพร่ำบ่นของพี่สาวที่ช่างเหมือนคำบ่นของแม่ที่พูดกับเธอทุกทีที่กลับไปบ้านราวกับคัดลอกกันมา ก่อนจะล้มตัวลงนอนซ่อนความคิดเรื่องแก้แค้นเขยคนโปรดของพ่อไว้
คอยดูเถอะ นายพี่ธีร์จะต้องแทบกระอักเลือดแน่ๆ เพราะชลไม่มีกำหนดกลับ จะนอนกอดพี่น้ำทุกคืนเลย หึๆ
“เพราะคิดแบบนี้น่ะสิ ถึงยังไม่โตเสียที” ธาราถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปปิดไฟ เหลือไว้เพียงแต่ไฟบนหัวเตียงเท่านั้น จึงล้มตัวลงนอนเคียงข้างน้องสาว ชลนาจะแทรกตัวเข้ามากอดเธอไว้หลวมๆ เธอกอดตอบน้องอย่างแสนรัก ก่อนทั้งคู่จะหลับไหลไปในห้วงแห่งนิทราอย่างสุขใจ
“กรี้ดดดด”
เสียงกรีดร้องของน้องสาวทำให้ธาราที่กำลังเดินขึ้นบันไดมาได้ไม่กี่ก้าว รีบสาวเท้าขึ้นมาในห้องนอนอย่างตระหนก หลังจากที่เธอปล่อยให้น้องสาวนอน แล้วลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าสำหรับสองคนจนเสร็จ
“เป็นอะไรไปยัยชล แล้วนั่นไปนั่งอยู่ที่พื้นได้ยังไงนั่น!”
ธาราสีหน้าตกใจปนขำ ที่เห็นน้องสาวทำหน้าเหมือนเด็กโดนกลั่นแกล้ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้นข้างเตียง
“ยังจะมาขำกันอีก”
ชลนากระเง้ากระงอด ก่อนจะยื่นมือไปจับกับพี่สาวที่ยื่นมือมาช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“ แหม มีสาวคนไหนที่เรียนจนจะรับปริญญาตรีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นอนดิ้นจนตกเตียงแบบชลนี่ย หืม”
ธารายังไม่หยุดขำ มองหน้าน้องสาวอย่างเอ็นดู ด้วยเคยเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงทำให้เธอรักน้องสาวคนนี้ที่สุด แม้จะดื้อไปบ้าง แต่ก็เป็นเด็กที่มีความจริงใจ ไม่มีจริตจะก้าน ชลนามีนิสัยชอบออดอ้อน แต่ก็ไม่เคยโกหก หรือปั้นแต่ง
“ชลฝันร้ายน่ะสิ”ชลนายังคงนั่งหน้างอ
“ฝันอะไรล่ะ”
“ฝันว่าชลกำลังแต่งงาน”
“อ้าว ฝันดีล่ะสิไม่ว่า ฝันร้ายที่ไหนกัน” ธารามองน้องสาวอย่างแปลกใจ
“โธ่! ฝันดีอะไรกันล่ะพี่น้ำ นี่ชลหนีงานแต่งงานมา แต่กลับฝันถึงตัวเองกำลังใส่ชุดเจ้าสาว หน้านี่ระรื่นเชียว คิดแล้วก็สยองแท้”
ชลนาทำหน้าขนหัวลุก ก่อนจะมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง ปกปิดหน้าที่กำลังแดง หัวใจที่เต้นรัว เพราะภาพในความฝันยังจำติดตรึงใจ เธอกำลังจะโดนเจ้าบ่าวจูบ! ดีนะ ที่ตื่นมาเสียก่อน ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่มีบางอย่างในความรู้สึก ที่เธอรู้สึกว่า ..เสียดาย
“คิก แล้วเห็นหน้าเจ้าบ่าวไหมนั่น”
“เอ่อ…จำหน้าไม่ได้แฮะ”เมื่อทำท่านึกอีกครั้งก็ยังอ้าปากค้างไว้อย่างนั้นจนพี่สาวที่กำลังลุ้นอยู่หมดอารมณ์รอฟังคำตอบ ภายในห้องจึงเหลือเพียงแต่หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนึกถึงใบหน้าของเจ้าบ่าวในความฝันที่จดจำได้ดี ในที่สุดหญิงสาวหัวเราะแห้งๆให้กับตัวเองที่มัวแต่มาสนใจเรื่องที่เป็นไปไม่ไม่ได้ ในเมื่อไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ งานหมั้นก็คงจะล่ม เมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้วงานแต่งก็ย่อมไม่มีวันเกิดขึ้น เมื่อคิดได้ดังนั้น ชลนาจึงย่างกายลงจากเตียงนุ่ม เพื่อจัดการธุระส่วนตัวอย่างสบายใจ
ชลนาในเสื้อยืดพอดีตัวสีชมพู กับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน เดินสำรวจบ้านพี่สาวอย่างสนใจ เพราะในบ้านมีเครื่องเรือนเก่าแก่ค่อนข้างมาก และยังมีถ้วยรางวัลดีเด่นต่างๆของพี่เขยอยู่เต็มบ้านไปหมด ชลนานึกทึ่งในความสามารถของพี่เขย แต่ความหมั่นไส้มีมากกว่า จึงเลิกสนใจเสีย แล้วเดินออกมาดูรอบบริเวณบ้านซึ่งถูกตกแต่งอย่างร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้อย่างที่ธาราและสามีชอบ นอกจากนี้ยังมีสระน้ำเล็กๆอยู่หนึ่งสระอีกด้วย แต่สิ่งที่เรียกความสนใจไปได้มากที่สุดก็คือ บ้านที่มีรั้วติดอยู่กับบ้านพี่เขย เพราะมีคนพลุกพล่าน ทั้งคนหนุ่มคนแก่ ออกมายืนรวมกันเหมือนรออะไรสักอย่าง ชลนามองอย่างสนใจ ก่อนจะจัดการพาตัวเองปีนรั้วขึ้นไปจวนจะสุดแล้ว ถึงได้เห็นว่ามีรถคันหนึ่งเคลื่อนเข้าไปในบ้านหลังนั้น ก่อนที่คนบนรถจะลงมาท่ามกลางสีหน้ายินดีของพวกที่เธอคาดว่าจะเป็นคนงาน บ้างก็ร้องให้ทันทีที่เห็นหน้าผู้ชายที่ลงจากรถตรงนั้น สร้างความฉงนใจให้กับคนแอบดูอย่างยิ่ง
“ทำไมต้องร้องให้กันด้วยล่ะ ท่าจะเป็นเอามาก” ชลนาพึมพำเบาๆกับภาพที่เห็นขณะที่มือยังเกาะรั้วอย่างแน่นหนา รอคอยให้ผู้ชายคนนั้นหันมาทางเธอ อย่างน้อยได้เห็นหน้าคนที่มีอิทธิพลทำให้คนร้องให้แล้วก็ยิ้มได้ในเวลาเดียวกันก็ยังดี
“ทำอะไรน่ะ น้องชล!”
“เฮ้ย!”
เสียงทักขึ้นไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้ชลนาหันไปมองอย่างตกใจ ไม่ทันตั้งตัวเผลอปล่อยมือจากรั้ว ชั่ววินาทีร่างบางก็ลงมานั่งอยู่กับพื้นหน้าเหยเก ลูบก้นตัวเองป้อยๆ ก่อนจะเลื่อนมาจับที่ขาข้างขวาของตัวเอง
“อูย”
“เป็นอะไรหรือเปล่านั่น แล้วไปปีนรั้วทำไม”
เสียงห้าวที่ดังขึ้นไม่ได้เรียกความสนใจให้เกิดขึ้นกับหญิงสาวแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วเรียวขา ชลนามองที่ขาของตัวเองอย่างไม่แน่ใจ ก่อนจะค่อยๆเอานิ้วชี้จิ้มไปที่บริเวณข้อต่อของขา
“หักหรือเปล่าเนี่ย”
“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ”ผู้ที่มีส่วนทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บยื่นหน้ามาดูขาบวมช้ำของน้องเมียอย่างสนใจ ก่อนที่เสียงหวานๆของธาราจะดังขึ้น และแปรเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเห็นขาบวมช้ำของน้องสาว
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
“ก็น้องชลน่ะสิปีนรั้วไปดูบ้านนู้น พอพี่ทักก็เลยตกลงมาน่ะจ้ะ”
“จะเป็นอะไรมากไหมนี่” ธาราสีหน้ากังวลใจ
“เป็นสิ! บางที ชลอาจจะขาหักก็ได้นะพี่น้ำ”สีหน้าคนพูดบ่งบอกความเจ็บปวด แต่แล้วกลับแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มฉาบอยู่บนใบหน้าเมื่อคิดอะไรดีๆออก
“ขาหัก! แล้วคนขาหักที่ไหนเขามายิ้มกันแบบนี้ล่ะชล”
“ก็ชลดีใจน่ะสิคะ! ชลคงหายไม่ทันงานหมั้นบ้าๆนั่นแน่ๆล่ะ ทีนี้ ถึงแม่จะให้ช้างมาฉุด ก็คงเข้าร่วงงานไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าที่เจ้าสาวขาเป๋”
“โอ้โห น้องชลนี่ช่างคิดได้เนอะ พี่ชักสงสัยแล้วสิ ว่าน้องชลตกลงมาเพราะพี่ทักหรือเพราะจงใจกันแน่”
สารวัตรหนุ่มทำท่าครุ่นคิดไม่จริงจังนัก ก่อนจะรีบละความทิ้งนั้นเสียเมื่อเห็นสายตาของน้องเมียตัวแสบ
“ไอ้ที่ตกรั้วลงมาน่ะ ชลไม่ได้ตั้งใจ แต่เรื่องยึดห้องของพี่ธีร์น่ะ ชลตั้งใจแน่นอน!!”
ชลนาทิ้งระเบิดลงตูม ดีใจในชัยชนะเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินกระเผลกๆ เข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดี โดยที่ไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เธอจะไม่มีแม้แต่อารมณ์หัวเราะเหมือนตอนนี้อย่างแน่นอน!
จบตอนที่ 1
เคยเอาลงในเด็กดีแล้วถูกทิ้งร้างไม่ค่อยมีคนอ่าน เลยเอามาลงที่พันทิปซักตั้ง ขอให้มีคนชอบด้วยเถิดเจ้าค่า สาธุ
ปล.ติชม แนะนำ เต็มที่ค่ะ จะได้ปรับปรุง และพัฒนาต่อไปได้
เล่ห์รัก ตอนที่ 1
สู้รบปรบมือกับผู้หญิงอกสามศอก จะทำอย่างไรดี?
“สรุปว่าชลหนีมาเหรอ” ผู้ที่ดูสูงวัยกว่าจ้องใบหน้าของน้องสาวตัวเองอย่างคาดคั้นเอาคำตอบ หลังจากที่เธอ
ถูกปลุกมากลางดึก เพื่อไปรับน้องสาวของตัวเองที่สนามบินอย่างกะทันหัน น้องสาวหัวดื้อของเธอที่ไม่ได้เจอกันมาแรมปีแล้ว ตั้งแต่ที่เธอได้เลื่อนขั้นขึ้นเป็นผู้จัดการบริษัทอัญมณีแห่งหนึ่งในภูเก็ต และมัวแต่ทุ่มเททำงานจนไม่มีเวลากลับไปเยี่ยมครอบครัวและน้องสาวที่เรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยชั้นนำแห่งหนึ่งในกรุงเทพ และเมื่อไม่กี่วันก่อนเธอก็ได้รับสายตรงจากชลนา ผู้เป็นน้องซึ่งกำลังรอรับใบปริญญาในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้าว่าถูกคลุมถุงชน!
“ใช่สิ ใครจะอยู่รอให้พ่อจับใส่พานถวายนายนั่นล่ะ” ชลนาเบ้ปากเล็กน้อย เมื่อต้องพาดพิงถึงคนที่เธอไม่เคยรู้จัก และเธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดสักนิดที่หนีมากะทันหันทั้งๆที่จะเข้าพิธีหมั้นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า
“โธ่ชล ป่านนี้เขาไม่ตามหาตัวกันให้วุ่นเหรอ”
“ช่างสิ คอยดูนะ ทุกคนจะต้องเสียใจที่มาบังคับชล”
“อย่าทำตัวเป็นเด็กได้ไหม ไม่สงสารแม่เหรอที่จู่ๆชลก็หายไปแบบนี้น่ะ ก็รู้อยู่ว่าแม่รักชลที่สุด” ธารา กล่าวด้วยสีหน้าเหนื่อยหน่ายกับนิสัยของผู้เป็นน้อง ชลนานั้นมีนิสัยต่างจากเธอโดยสิ้นเชิง เนื่องจากเกิดมาเป็นน้องเล็กของบ้าน ทุกคนในบ้านจึงตามใจมาตั้งแต่เด็ก รวมทั้งเธอและภูผาพี่ชาย ก็ไม่เคยจะขัดใจแม่น้องสาวแสนดื้อ และขี้อ้อนคนนี้ได้สักที
“สงสารน่ะสงสารอยู่…แต่ชลไม่ชอบให้ใครมาบังคับนี่ และนี่ไม่ใช่เรื่องเล็กนะพี่น้ำ ชลโดนบังคับให้แต่งงานกับใครก็ไม่รู้!”
“แต่พี่เชื่อสายตาพ่อ พ่อมองใครไม่เคยพลาด”
“เหมือนพี่น้ำกับพี่ธีร์ใช่ไหมล่ะ” ชลนาหลี่ตามองหน้าแดงๆของพี่สาวอย่างรักใคร่แกมหมั่นไส้ ธารานั้นก็เคยโดนบังคับให้แต่งงานกับผู้หมวดอนาคตไกลคนหนึ่งเมื่อสี่ห้าปีก่อน และเนื่องจากธาราไม่เคยขัดใจพ่อแม่ จึงตอบตกลงแต่งงานอย่างไม่ยากเย็นนัก และเธอก็หลงรักสามีของเธออย่างหมดหัวใจ เพราะเขาเป็นคนดี และรักเธอมากเช่นกัน
“จ้ะ” ธาราสบตาน้องด้วยความเปี่ยมสุข
“เชอะ! แต่เรื่องแบบนี้ชลต้องเลือกเอง ชลจะแต่งงานกับคนที่ชลรักเท่านั้น ชลไม่เหมือนพี่น้ำที่จะยอมพ่อง่ายๆหรอกนะ”
“งั้นก็ตามใจเราก็แล้วกัน ชลก็อยู่ที่นี่ไปก่อน จนกว่าจะสบายใจ” เมื่อได้ยินดังนั้น รอยยิ้มกว้างๆในรอบสัปดาห์ก็ค่อยๆคลี่ออกมาจากร่างบางที่ทำหน้างอง้ำอยู่เมื่อครู่ เธอรู้อยู่แล้วว่าพี่สาวผู้ไม่เคยขัดใจเธอ จะต้องยินยอมให้เธออยู่ด้วยอย่างแน่นอน
“เยส! แล้วคุณพี่ผู้หมวดไปไหนเสียล่ะพี่น้ำ”
“ไปราชการที่กรุงเทพสองสามวันจ้ะ แล้วก็เห็นว่าจะแวะไปหาเพื่อนเขาด้วย อ้อ ธีร์เป็นสารวัตรแล้วจ้ะ”
“อู้หู เดี๋ยวนี้เป็นสาราวัด ไปซะแล้ว แต่ช่างเถอะ เอาเป็นว่า คืนนี้ชลนอนกับพี่น้ำนะ ชลจะนอนกอดพี่น้ำทุกคืนที่ชลอยู่ที่นี่เลย คิดถึงมานานแล้วล่ะ ที่ไม่ได้มาหาเนี่ย เพราะเรียนหนัก ยุ้งยุ่ง ”
ธารายิ้มแกนๆให้น้องสาวอย่างไม่ค่อยจะเชื่อสักเท่าไหร่ เพราะน้องสาวของเธอนั้นถึงจะเรียนเก่งและเกรดดีทุกเทอมก็จริง แต่เป็นคนติดเพื่อนและติดเที่ยวมากทีเดียว เงินที่พ่อแม่ส่งให้เป็นประจำทุกเดือนซึ่งเธอเห็นว่ามากพอดูแล้วยังไม่เคยพอ ยัยน้องสาวตัวยุ่งยังเผื่อแผ่มาขอเธอกับภูผาพี่ชายที่เป็นทนายความอยู่ทุกเดือนไป
“เพลียจัง ชลว่าชลไปนอนก่อนดีกว่า ห้องพี่น้ำอยู่ไหนน้า ชั้นสอง ทางซ้ายมือ ริมสุดใช่ป่ะ ชลจำได้”
ธารามองน้องสาวที่ลุกขึ้นลากกระเป๋าพร้อมกับแบกเป้พะลุงพะลังอย่างอ่อนใจ ก่อนจะเดินตามน้องสาวที่เดินขึ้นบันไดนำเธอไปเสียแล้ว เห็นทีถ้าสามีเธอกลับมา คงจะต้องวุ่นวายมากพอดู เพราะชลนาน่ะ คอยแต่จะจ้องแกล้งพี่เขยอยู่ตลอดตั้งแต่ก่อนเธอจะแต่งงานเสียอีก!
ธาราวางสายจากสารวัตรธีร์ผู้เป็นสามี นึกถึงเรื่องที่คุยกันเมื่อครู่ เธอเล่าเรื่องของชลนาให้เขาฟัง เขาดูไม่แปลกใจที่น้องสาวของเธอหนีมาเท่าไหร่ คงเพราะรู้ฤทธิ์ของชลนาดี และเมื่อเธอบอกเขาไปว่าน้องสาวจะมายึดห้องนอนของเขาและเธอชั่วคราว เขาก็ครางออกมาเสียงอ่อยๆ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา เธอเองก็ทำได้เพียงส่งเสียงหัวเราะขำๆอย่างเป็นกำลังใจไปให้เขาเท่านั้น สามีของเธอคงจะทรมานใจน่าดู เพราะเขาชอบนอนกอดเธอมากกว่าหมอนข้างแน่ๆ
“คิดอะไรอยู่เหรอพี่น้ำ”
ธาราสะดุ้งมองน้องสาวตัวเองที่มายืนข้างๆตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ก่อนจะยิ้มน้อยๆให้น้องสาว แล้วรีบวางโทรศัพท์ที่ยังถือค้างอยู่วางที่ข้างๆเตียง
“คิดถึงธีร์น่ะจ้ะ อีกสองสามวันจะกลับแล้วล่ะ”
“แหมๆๆๆ หายใจเข้าก็พี่ธีร์ หายใจออกก็พี่ธีร์” ชลนาทำปากยื่นๆเมื่อเห็นว่าพี่สาวรักสามีแค่ไหน เมื่อห้าปีก่อนเธอพึ่งเข้าเรียนในชั้นมัธยมปลาย พี่สาวของเธอซึ่งเพิ่งเรียนจบปริญญาได้ไม่นานก็โดนจับหมั้นหมายกับพี่เขยในปัจจุบัน เธอเองก็อาละวาดไปไม่ใช่น้อย หาเรื่องแกล้งเขาทุกทีที่แวะมาหาพี่สาวของเธอที่บ้าน เขาก็ยังอดทน ไม่ยอมแพ้ หมั่นเกี้ยวจนพี่สาวยอมแต่งงานด้วยความเต็มใจ ยังจำได้ว่าเธอนอนร้องให้ตั้งหลายคืน เพราะกลัวว่าพี่สาวจะแบ่งความรักไปให้คนอื่นเยอะกว่าเธอ! และมันก็ดูเหมือนว่าจะเป็นเช่นนั้นจริงๆ!
“ทำหน้าแบบนั้นจะหาเรื่องแกล้งพี่เขาอีกล่ะสิ เราน่ะโตแล้วนะ เรียนจบแล้ว อย่าทำตัวเป็นเด็กๆเหมือนเมื่อก่อนนักเลย”
“ยังไม่โตเท่าไหร่นะพี่น้ำ” ชลนาเบื่อหน่ายกับคำพูดพร่ำบ่นของพี่สาวที่ช่างเหมือนคำบ่นของแม่ที่พูดกับเธอทุกทีที่กลับไปบ้านราวกับคัดลอกกันมา ก่อนจะล้มตัวลงนอนซ่อนความคิดเรื่องแก้แค้นเขยคนโปรดของพ่อไว้ คอยดูเถอะ นายพี่ธีร์จะต้องแทบกระอักเลือดแน่ๆ เพราะชลไม่มีกำหนดกลับ จะนอนกอดพี่น้ำทุกคืนเลย หึๆ
“เพราะคิดแบบนี้น่ะสิ ถึงยังไม่โตเสียที” ธาราถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปปิดไฟ เหลือไว้เพียงแต่ไฟบนหัวเตียงเท่านั้น จึงล้มตัวลงนอนเคียงข้างน้องสาว ชลนาจะแทรกตัวเข้ามากอดเธอไว้หลวมๆ เธอกอดตอบน้องอย่างแสนรัก ก่อนทั้งคู่จะหลับไหลไปในห้วงแห่งนิทราอย่างสุขใจ
“กรี้ดดดด”
เสียงกรีดร้องของน้องสาวทำให้ธาราที่กำลังเดินขึ้นบันไดมาได้ไม่กี่ก้าว รีบสาวเท้าขึ้นมาในห้องนอนอย่างตระหนก หลังจากที่เธอปล่อยให้น้องสาวนอน แล้วลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าสำหรับสองคนจนเสร็จ
“เป็นอะไรไปยัยชล แล้วนั่นไปนั่งอยู่ที่พื้นได้ยังไงนั่น!”
ธาราสีหน้าตกใจปนขำ ที่เห็นน้องสาวทำหน้าเหมือนเด็กโดนกลั่นแกล้ง ผมเผ้ายุ่งเหยิง กำลังกึ่งนั่งกึ่งนอนอยู่บนพื้นข้างเตียง
“ยังจะมาขำกันอีก”
ชลนากระเง้ากระงอด ก่อนจะยื่นมือไปจับกับพี่สาวที่ยื่นมือมาช่วยดึงเธอให้ลุกขึ้นนั่งบนเตียง
“ แหม มีสาวคนไหนที่เรียนจนจะรับปริญญาตรีในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า นอนดิ้นจนตกเตียงแบบชลนี่ย หืม”
ธารายังไม่หยุดขำ มองหน้าน้องสาวอย่างเอ็นดู ด้วยเคยเลี้ยงดูกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก จึงทำให้เธอรักน้องสาวคนนี้ที่สุด แม้จะดื้อไปบ้าง แต่ก็เป็นเด็กที่มีความจริงใจ ไม่มีจริตจะก้าน ชลนามีนิสัยชอบออดอ้อน แต่ก็ไม่เคยโกหก หรือปั้นแต่ง
“ชลฝันร้ายน่ะสิ”ชลนายังคงนั่งหน้างอ
“ฝันอะไรล่ะ”
“ฝันว่าชลกำลังแต่งงาน”
“อ้าว ฝันดีล่ะสิไม่ว่า ฝันร้ายที่ไหนกัน” ธารามองน้องสาวอย่างแปลกใจ
“โธ่! ฝันดีอะไรกันล่ะพี่น้ำ นี่ชลหนีงานแต่งงานมา แต่กลับฝันถึงตัวเองกำลังใส่ชุดเจ้าสาว หน้านี่ระรื่นเชียว คิดแล้วก็สยองแท้”
ชลนาทำหน้าขนหัวลุก ก่อนจะมุดเข้าไปใต้ผ้าห่มอีกครั้ง ปกปิดหน้าที่กำลังแดง หัวใจที่เต้นรัว เพราะภาพในความฝันยังจำติดตรึงใจ เธอกำลังจะโดนเจ้าบ่าวจูบ! ดีนะ ที่ตื่นมาเสียก่อน ถึงจะคิดเช่นนั้น แต่มีบางอย่างในความรู้สึก ที่เธอรู้สึกว่า ..เสียดาย
“คิก แล้วเห็นหน้าเจ้าบ่าวไหมนั่น”
“เอ่อ…จำหน้าไม่ได้แฮะ”เมื่อทำท่านึกอีกครั้งก็ยังอ้าปากค้างไว้อย่างนั้นจนพี่สาวที่กำลังลุ้นอยู่หมดอารมณ์รอฟังคำตอบ ภายในห้องจึงเหลือเพียงแต่หญิงสาวคนหนึ่งที่กำลังนึกถึงใบหน้าของเจ้าบ่าวในความฝันที่จดจำได้ดี ในที่สุดหญิงสาวหัวเราะแห้งๆให้กับตัวเองที่มัวแต่มาสนใจเรื่องที่เป็นไปไม่ไม่ได้ ในเมื่อไม่มีใครรู้ว่าเธออยู่ที่นี่ งานหมั้นก็คงจะล่ม เมื่อไม่มีเจ้าสาวแล้วงานแต่งก็ย่อมไม่มีวันเกิดขึ้น เมื่อคิดได้ดังนั้น ชลนาจึงย่างกายลงจากเตียงนุ่ม เพื่อจัดการธุระส่วนตัวอย่างสบายใจ
ชลนาในเสื้อยืดพอดีตัวสีชมพู กับกางเกงขาสั้นสีเดียวกัน เดินสำรวจบ้านพี่สาวอย่างสนใจ เพราะในบ้านมีเครื่องเรือนเก่าแก่ค่อนข้างมาก และยังมีถ้วยรางวัลดีเด่นต่างๆของพี่เขยอยู่เต็มบ้านไปหมด ชลนานึกทึ่งในความสามารถของพี่เขย แต่ความหมั่นไส้มีมากกว่า จึงเลิกสนใจเสีย แล้วเดินออกมาดูรอบบริเวณบ้านซึ่งถูกตกแต่งอย่างร่มรื่นและเต็มไปด้วยต้นไม้อย่างที่ธาราและสามีชอบ นอกจากนี้ยังมีสระน้ำเล็กๆอยู่หนึ่งสระอีกด้วย แต่สิ่งที่เรียกความสนใจไปได้มากที่สุดก็คือ บ้านที่มีรั้วติดอยู่กับบ้านพี่เขย เพราะมีคนพลุกพล่าน ทั้งคนหนุ่มคนแก่ ออกมายืนรวมกันเหมือนรออะไรสักอย่าง ชลนามองอย่างสนใจ ก่อนจะจัดการพาตัวเองปีนรั้วขึ้นไปจวนจะสุดแล้ว ถึงได้เห็นว่ามีรถคันหนึ่งเคลื่อนเข้าไปในบ้านหลังนั้น ก่อนที่คนบนรถจะลงมาท่ามกลางสีหน้ายินดีของพวกที่เธอคาดว่าจะเป็นคนงาน บ้างก็ร้องให้ทันทีที่เห็นหน้าผู้ชายที่ลงจากรถตรงนั้น สร้างความฉงนใจให้กับคนแอบดูอย่างยิ่ง
“ทำไมต้องร้องให้กันด้วยล่ะ ท่าจะเป็นเอามาก” ชลนาพึมพำเบาๆกับภาพที่เห็นขณะที่มือยังเกาะรั้วอย่างแน่นหนา รอคอยให้ผู้ชายคนนั้นหันมาทางเธอ อย่างน้อยได้เห็นหน้าคนที่มีอิทธิพลทำให้คนร้องให้แล้วก็ยิ้มได้ในเวลาเดียวกันก็ยังดี
“ทำอะไรน่ะ น้องชล!”
“เฮ้ย!”
เสียงทักขึ้นไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยทำให้ชลนาหันไปมองอย่างตกใจ ไม่ทันตั้งตัวเผลอปล่อยมือจากรั้ว ชั่ววินาทีร่างบางก็ลงมานั่งอยู่กับพื้นหน้าเหยเก ลูบก้นตัวเองป้อยๆ ก่อนจะเลื่อนมาจับที่ขาข้างขวาของตัวเอง
“อูย”
“เป็นอะไรหรือเปล่านั่น แล้วไปปีนรั้วทำไม”
เสียงห้าวที่ดังขึ้นไม่ได้เรียกความสนใจให้เกิดขึ้นกับหญิงสาวแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ความเจ็บแผ่ซ่านไปทั่วเรียวขา ชลนามองที่ขาของตัวเองอย่างไม่แน่ใจ ก่อนจะค่อยๆเอานิ้วชี้จิ้มไปที่บริเวณข้อต่อของขา
“หักหรือเปล่าเนี่ย”
“ไหนพี่ขอดูหน่อยสิ”ผู้ที่มีส่วนทำให้หญิงสาวได้รับบาดเจ็บยื่นหน้ามาดูขาบวมช้ำของน้องเมียอย่างสนใจ ก่อนที่เสียงหวานๆของธาราจะดังขึ้น และแปรเปลี่ยนเป็นตกใจเมื่อเห็นขาบวมช้ำของน้องสาว
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
“ก็น้องชลน่ะสิปีนรั้วไปดูบ้านนู้น พอพี่ทักก็เลยตกลงมาน่ะจ้ะ”
“จะเป็นอะไรมากไหมนี่” ธาราสีหน้ากังวลใจ
“เป็นสิ! บางที ชลอาจจะขาหักก็ได้นะพี่น้ำ”สีหน้าคนพูดบ่งบอกความเจ็บปวด แต่แล้วกลับแปรเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มฉาบอยู่บนใบหน้าเมื่อคิดอะไรดีๆออก
“ขาหัก! แล้วคนขาหักที่ไหนเขามายิ้มกันแบบนี้ล่ะชล”
“ก็ชลดีใจน่ะสิคะ! ชลคงหายไม่ทันงานหมั้นบ้าๆนั่นแน่ๆล่ะ ทีนี้ ถึงแม่จะให้ช้างมาฉุด ก็คงเข้าร่วงงานไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าที่เจ้าสาวขาเป๋”
“โอ้โห น้องชลนี่ช่างคิดได้เนอะ พี่ชักสงสัยแล้วสิ ว่าน้องชลตกลงมาเพราะพี่ทักหรือเพราะจงใจกันแน่”
สารวัตรหนุ่มทำท่าครุ่นคิดไม่จริงจังนัก ก่อนจะรีบละความทิ้งนั้นเสียเมื่อเห็นสายตาของน้องเมียตัวแสบ
“ไอ้ที่ตกรั้วลงมาน่ะ ชลไม่ได้ตั้งใจ แต่เรื่องยึดห้องของพี่ธีร์น่ะ ชลตั้งใจแน่นอน!!”
ชลนาทิ้งระเบิดลงตูม ดีใจในชัยชนะเล็กๆน้อยๆ ก่อนจะลุกขึ้นเดินกระเผลกๆ เข้าบ้านไปอย่างอารมณ์ดี โดยที่ไม่รู้เลยว่า อีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า เธอจะไม่มีแม้แต่อารมณ์หัวเราะเหมือนตอนนี้อย่างแน่นอน!
จบตอนที่ 1
เคยเอาลงในเด็กดีแล้วถูกทิ้งร้างไม่ค่อยมีคนอ่าน เลยเอามาลงที่พันทิปซักตั้ง ขอให้มีคนชอบด้วยเถิดเจ้าค่า สาธุ
ปล.ติชม แนะนำ เต็มที่ค่ะ จะได้ปรับปรุง และพัฒนาต่อไปได้