ได้มีโอกาสสนทนาธรรมกับท่านนิแรน เรื่อง ทุกข์และความดับทุกข์ ปรากฏว่า ท่านนิแรน บอกกับผมว่า "หิวข้าว ปวดเมื่อยตามร่างกาย ปวดขี้ ปวดเยี่ยว หงุดหงิดใจ ไม่ได้ดั่งใจ ไม่สมหวัง ผิดหวัง อะไรทำนองนั้น นั่นไม่ใช่ทุกข์แล้ว แต่มันเป็นเรื่องปกติของชีวิต ทุกข์และความดับทุกข์นั้นต้องเป็นไปตามความหมายของพระพุทธองค์ คือ ทุกขอริยสัจ"
ขออนุญาตสารภาพตามตรงว่า ผมฟังไม่รู้เรื่องแล้วครับ เพราะผมเข้าใจว่า เกิดแก่เจ็บตาย ก็คือทุกข์ ความหิวกระหาย ปวดฉี่ ปวดอึ ฯลฯ มันก็เป็นความทุกข์ทั้งนั้น แต่อยู่ดีๆ ท่านนิแรนมาบอกผมว่า หิวข้าว ไม่ทุกข์ ปวดอึ ก็ไม่ทุกข์ ฯลฯ แล้วจะให้ผมเข้าใจว่าอย่างไรครับท่าน ?
หิวข้าว เป็นความสุข ปวดอึ ก็เป็นความสุข หรือครับท่าน ? ฟังดูแล้ว โรคจิตพิกล นะครับ
ผมเข้าใจว่า ทุกข์ เป็นสิ่งที่เราสามารถรู้แจ้งเห็นจริงได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาพระไตรปิฎก หรือความเชื่อใดๆเลยนะครับ เนื่องจากความทุกข์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ต่อหน้าเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว แค่ใช้สติพิจารณาแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถเห็นสัจจะความจริงอันนี้ได้โดยง่าย แต่ทำไมท่านนิแรน จึงบอกว่าไม่ใช่ ?
ท่านนิแรนอ้างว่า นี่ไม่ใช่ทุกข์ในอริยสัจ ที่พระพุทธเจ้าสอน
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ครับ ?
ขอความรู้ และคำอธิบายจากผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับท่าน
หิวข้าว ก็ไม่ทุกข์ ปวดอึ ก็ไม่ทุกข์ ตลกจัง มันจะเป็นไปได้หรือครับท่าน ?
ขออนุญาตสารภาพตามตรงว่า ผมฟังไม่รู้เรื่องแล้วครับ เพราะผมเข้าใจว่า เกิดแก่เจ็บตาย ก็คือทุกข์ ความหิวกระหาย ปวดฉี่ ปวดอึ ฯลฯ มันก็เป็นความทุกข์ทั้งนั้น แต่อยู่ดีๆ ท่านนิแรนมาบอกผมว่า หิวข้าว ไม่ทุกข์ ปวดอึ ก็ไม่ทุกข์ ฯลฯ แล้วจะให้ผมเข้าใจว่าอย่างไรครับท่าน ?
หิวข้าว เป็นความสุข ปวดอึ ก็เป็นความสุข หรือครับท่าน ? ฟังดูแล้ว โรคจิตพิกล นะครับ
ผมเข้าใจว่า ทุกข์ เป็นสิ่งที่เราสามารถรู้แจ้งเห็นจริงได้ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องพึ่งพาพระไตรปิฎก หรือความเชื่อใดๆเลยนะครับ เนื่องจากความทุกข์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไป ต่อหน้าเราอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันอยู่แล้ว แค่ใช้สติพิจารณาแม้เพียงเล็กน้อย ก็สามารถเห็นสัจจะความจริงอันนี้ได้โดยง่าย แต่ทำไมท่านนิแรน จึงบอกว่าไม่ใช่ ?
ท่านนิแรนอ้างว่า นี่ไม่ใช่ทุกข์ในอริยสัจ ที่พระพุทธเจ้าสอน
ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรกันแน่ครับ ?
ขอความรู้ และคำอธิบายจากผู้รู้ทั้งหลายด้วยครับท่าน