สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 14
ผมอายุ 35 ปี จะ 36 ในปีหน้านี้ คาดว่า น้องชายคุณกะผม ก็คงไม่ต่างกันมากนัก
เรา 2 คน ก็น่าจะเกิดในยุคเดียวกัน ดูจากเพลงที่คุณโพส ตอนนั้นผมอยู่ ม.5
ข้อความผมแรงนะครับ
ดูจากที่คุณพิมพ์มา รู้เลยว่า ครอบครัวคุณเลี้ยงลูกคนนี้แบบตามใจมาก ตั้งแต่เด็กแล้ว
สุดท้าย เค้าก้เสียคน ...เพราะการโดนตามใจ
จนสุดท้าย เค้าก็ทำอะไรไม่เป็น
และนี่ยังไม่เข้าใจ เค้าขอรถ ..ยังจะมีความคิดซื้อรถให้เค้าอีก ...
คุณคิดได้ยังไง แค่คิดก็ผิดแล้ว
ถ้าคุณซื้อรถไปให้เค้า ผมเชื่อว่า เค้าต้องไปขับรถชนนั่น นี่ โน่น แล้วสุดท้าย
คุณ และพ่อแม่ของคุณ ต้องมานั่งไล่เบี้ย รับผิดชอบ...
มันคุ้มกันไหม ...
การที่เขาเป็นแบบนี้ ใช้ชีวิตได้แค่แบบนี้ นั่นคือความผิดของครอบครัวคุณทั้งหมด ที่ไม่เคยคิดจะใช้ไม้แข็งอะไรกับเค้า
เค้าเลยกลายเป็นแบบนี้ ...เป็นคนที่ทำร้ายคุณ และคิดจะทำร้ายพ่อแม่ ...ถามว่าคนแบบนี้ใช้ได้แล้วหรือ ....
ยังคิดจะให้ของ คิดจะให้เค้าไปแต่งตัว ฮิปฮอป ..ถามหน่อยครับ คุณเห็นเค้าอายุเท่าไหร่ ...
คุณบอกเสมอว่า โลกฮิปฮอปมันจบไปแล้ว ...
ขอโทษนะครับ ผมอยู่ในวงการสื่อ ... วงการนี้มันยังไปได้อีกไกลครับ
แต่ความคิดของคุณตะหาก ที่หยุด คุณเอาโลกของน้องชายคุณ มาตัดสินโลกทั้งหมดไปแล้ว
เลิกเอาน้องชายมาเป็นศูนย์กลาง
คุณต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่ ค่อยๆ ผูกปมไปเรื่อยๆ แบบนี้
มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
และพูดมาได้ ...ให้รอน้องชายหมดบุญ ...
หมดบุญที่ว่า คืออะไรครับ
ความตาย หมดลมหายใจ ...
แล้วคุณคิดดูนะครับ หากคุณ หรือพ่อแม่ของคุณ เกิดเป็นอะไรไปก่อน
ผมไม่ได้แช่งหรืออะไรนะครับ นี่คือกฏ และสัจจะของชีวิตที่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
คุณจะปล่อยให้น้องชายคุณหมดบุญด้วยสภาพไหนครับ
หมดบุญด้วยการขังตัวเองอยู่ในบ้าน ที่ไม่มีวันเปิดออกมาอีกเลย...
หมดบุญด้วยการเดินโซซัดโซเซ อยู่ข้างถนน โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย...
หมดบุญด้วยเรื่องร้ายอีก 108 ที่ไม่มรู้จะมีอะไรบ้าง...
พวกคุณจะตาหลับกันไหมล่ะครับ
คิดว่าพวกคุณจะหมดห่วงในตัวของชายคนนี้ไหม ...
ขอโทษที่ผมโพสแรง แต่ผมทนไม่ได้จริงๆ
ส่วนวิธีการแก้ปัญหา ขอให้คุณหลังไมค์มา ผมอยากคุยกะคุณเป็นการส่วนตัว ไม่อยากจะยาวไปมากกว่านี้ล่ะ
ปล. ลืมบอกไป... จำไว้เลย คนแบบนี้ ไม่ว่าจะคุณจะให้เค้าทำอะไร เค้าจะมีข้ออ้าง 108 พันล้าน ที่จะไมีมีวันยอมทำอย่างแน่นอน ...
นับประสา ...จากประโยคที่ว่า "เขากลัวตกรถเมลล์แล้วล้อทับไส้แตกตาย ข้ามถนนเขาก็กลัวถูกรถชนตาย "
งั้นก็ลืมไปได้เลย เรื่องที่จะให้เค้าทำงาน ..มันจบไปนานแล้วครับ ไม้แก่ ดัดไม่ได้แล้ว ...
เรา 2 คน ก็น่าจะเกิดในยุคเดียวกัน ดูจากเพลงที่คุณโพส ตอนนั้นผมอยู่ ม.5
ข้อความผมแรงนะครับ
ดูจากที่คุณพิมพ์มา รู้เลยว่า ครอบครัวคุณเลี้ยงลูกคนนี้แบบตามใจมาก ตั้งแต่เด็กแล้ว
สุดท้าย เค้าก้เสียคน ...เพราะการโดนตามใจ
จนสุดท้าย เค้าก็ทำอะไรไม่เป็น
และนี่ยังไม่เข้าใจ เค้าขอรถ ..ยังจะมีความคิดซื้อรถให้เค้าอีก ...
คุณคิดได้ยังไง แค่คิดก็ผิดแล้ว
ถ้าคุณซื้อรถไปให้เค้า ผมเชื่อว่า เค้าต้องไปขับรถชนนั่น นี่ โน่น แล้วสุดท้าย
คุณ และพ่อแม่ของคุณ ต้องมานั่งไล่เบี้ย รับผิดชอบ...
มันคุ้มกันไหม ...
การที่เขาเป็นแบบนี้ ใช้ชีวิตได้แค่แบบนี้ นั่นคือความผิดของครอบครัวคุณทั้งหมด ที่ไม่เคยคิดจะใช้ไม้แข็งอะไรกับเค้า
เค้าเลยกลายเป็นแบบนี้ ...เป็นคนที่ทำร้ายคุณ และคิดจะทำร้ายพ่อแม่ ...ถามว่าคนแบบนี้ใช้ได้แล้วหรือ ....
ยังคิดจะให้ของ คิดจะให้เค้าไปแต่งตัว ฮิปฮอป ..ถามหน่อยครับ คุณเห็นเค้าอายุเท่าไหร่ ...
คุณบอกเสมอว่า โลกฮิปฮอปมันจบไปแล้ว ...
ขอโทษนะครับ ผมอยู่ในวงการสื่อ ... วงการนี้มันยังไปได้อีกไกลครับ
แต่ความคิดของคุณตะหาก ที่หยุด คุณเอาโลกของน้องชายคุณ มาตัดสินโลกทั้งหมดไปแล้ว
เลิกเอาน้องชายมาเป็นศูนย์กลาง
คุณต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่ ค่อยๆ ผูกปมไปเรื่อยๆ แบบนี้
มันไม่มีประโยชน์อะไรเลย
และพูดมาได้ ...ให้รอน้องชายหมดบุญ ...
หมดบุญที่ว่า คืออะไรครับ
ความตาย หมดลมหายใจ ...
แล้วคุณคิดดูนะครับ หากคุณ หรือพ่อแม่ของคุณ เกิดเป็นอะไรไปก่อน
ผมไม่ได้แช่งหรืออะไรนะครับ นี่คือกฏ และสัจจะของชีวิตที่มันหลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว
คุณจะปล่อยให้น้องชายคุณหมดบุญด้วยสภาพไหนครับ
หมดบุญด้วยการขังตัวเองอยู่ในบ้าน ที่ไม่มีวันเปิดออกมาอีกเลย...
หมดบุญด้วยการเดินโซซัดโซเซ อยู่ข้างถนน โดยไม่มีจุดมุ่งหมาย...
หมดบุญด้วยเรื่องร้ายอีก 108 ที่ไม่มรู้จะมีอะไรบ้าง...
พวกคุณจะตาหลับกันไหมล่ะครับ
คิดว่าพวกคุณจะหมดห่วงในตัวของชายคนนี้ไหม ...
ขอโทษที่ผมโพสแรง แต่ผมทนไม่ได้จริงๆ
ส่วนวิธีการแก้ปัญหา ขอให้คุณหลังไมค์มา ผมอยากคุยกะคุณเป็นการส่วนตัว ไม่อยากจะยาวไปมากกว่านี้ล่ะ
ปล. ลืมบอกไป... จำไว้เลย คนแบบนี้ ไม่ว่าจะคุณจะให้เค้าทำอะไร เค้าจะมีข้ออ้าง 108 พันล้าน ที่จะไมีมีวันยอมทำอย่างแน่นอน ...
นับประสา ...จากประโยคที่ว่า "เขากลัวตกรถเมลล์แล้วล้อทับไส้แตกตาย ข้ามถนนเขาก็กลัวถูกรถชนตาย "
งั้นก็ลืมไปได้เลย เรื่องที่จะให้เค้าทำงาน ..มันจบไปนานแล้วครับ ไม้แก่ ดัดไม่ได้แล้ว ...
แสดงความคิดเห็น
^_^ น้องชายอายุจะสี่สิบแล้ว อยู่บ้านเฉยๆ ไม่ยอมทำงานอะไร
ตอนจบ ม 6 เกรตได้ 0.5 ค่ะ อาทิตย์นึงไปเรียนแค่ 2 วันเองนอกนั้นก็มักจะไปเที่ยวหรือนอนอยู่บ้าน
ตอนเรียนปริญญา หนีเรียนทุกวันค่ะ ไม่เคยไปเรียนเลยค่ะ และก็เลยเรียนไม่จบเพราะเอาแต่เที่ยวเตร่ แบบวัยรุ่นสมัยนั้นนิยม เที่ยวกลางคืนทุกวัน คือเขาเป็นเด็ก hiphop ติดเที่ยวมาตั่งแต่อายุ 15 ค่ะ
เคยทำงานกะพวกนักร้อง hiphop
ราวๆยุคนี้ได้ ที่เขาเริ่มทำงาน ก็ปี 1994-2004 ทำงานยกของแบกของ ตามรับใช้บริการนักร้อง ไปทัวร์ ตามงาน hiphop ทั่วประเทศค่ะ ตามๆเขาไปค่ะ
คล้ายๆพวก เด็กๆ สต๊าฟนะค่ะ เป็นเด็กตามไปบริการนักรองตามที่ต่างๆ คล้ายๆลูกจ้างนี่ละ ทำมาจน อายุ 26 เค้าก็บอกรู้สึกไม่ค่อยสบายอยู่พักนึง เพราะเขามีอาการเป็นโรคจิตค่ะ เช่น เขาไม่มีอารมทางเพศกับผฝุ้หญิงหรือชาย แต่มีอารมทางเพศกับกางเกงกีฬา รักษาแต่ไม่ดีขึ้นค่ะ จึงเลิกทำงาน และมาอยู่แต่บ้านค่ะ พอดีวงการ hiphop ดับสูญพอดี หลังจากนั้นก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นหลักเป็นแหล่งอีกเลยค่ะ เนื่องจากวงการ hiphop ตกต่ำไม่มีการจ้างสต๊าฟอีกแล้ว
เขาก็หาเงินไม่ได้ค่ะ เลยขออยู่เฉยๆเลยอยู่แต่บ้านมาตั่งแต่อายุ 27 พ่อแม่ให้เงินใช้มาตลอด
หลังจากอายุ 30 ชีวิตก็เปลี่ยนเป็นคุณชาย และเป็นโรคจิต เช่นย้ำคิดย้ำทำ ซึมเศร้างอารมแปรปรวญ ตื่นมาก็เกือบบ่ายไม่ทำอะไรเลยกินๆนอนๆค่ะ ตอนนี้ อายุก็สามสิบกว่าแล้วค่ะ จะให้ไปสมัครงานที่ไหนก็ยากขึ้น เขาไม่ยอมทำงานค่ะความสามารถอะไรก็ไม่มีเลยค่ะ เขามีวุทิแค่ ม 6 เพื่อนฝูงก็ไม่มี ตัดขาดหมดแล้ว เพื่อนเขามีครอบครัวไปหมดแล้ว หรือบางคนก็ตกต่ำเหมือนเขาค่ะ
สังคมก็ไม่มีแล้ว เพราะวันๆ อยู่แต่ในบ้าน ตอนแรก ๆ เค้าก็ดูร่าเริงสดใส ตอนหลังๆ เวลากลับบ้านไปเจอหน้าเค้า ก็ดูอ่อนเพลียค่ะ ไม่สดชื่น ง่วงเหงาหาวนอน เหมือนคนเกษียนรอความตายค่ะ เพราะอยู่แต่ในบ้านตลอดนานเกินไปเป็นแรมปีค่ะ
ในฐานะพี่สาว ก็พยายามช่วยคุยและคอยหาวิธีกระตุ้นให้เกิดกำลังใจ พาเค้าไปเรียนอบรมสัมนนา เค๊าไม่ยอมค่ะ ต่อต้าน
อาละวาด ด่าทอพ่อแม่ พูดคำหยาบคาย และ ทำร้ายร่างกายดิฉันด้วยค่ะ เขาใช้ชีวิตเหมือนเดิม ไม่เสียดายเวลาในแต่ละวัน
ตัวเค้าก็บอกว่าเค้าไม่ได้เป็นภาระใคร ไม่มีบ้าน ไม่มีรถ ไม่มีลูกเมีย ไม่ต้องห่วงเคยยุให้ไปบวชเลยค่ะ เพราะถ้าทำได้จริง จะเป็นบุญของครอบครัวเอามาก แต่เขาไม่ยอมค่ะ ต่อต้านด่าพระด่าไปหมด อาการโรคจิตกำเริบค่ะ อาละวาดถึงกับจะทำร้ายพ่อแม่ค่ะ เขาไม่เอาจะอยู่บ้าน ตอนนี้ เลยงงไปหมดแล้วค่ะ ว่าจะช่วยน้องยังไงดี ควรปล่อยไว้แบบนี้จนเขา หมดบุญไปเองดีไหมคะ พ่อแม่บอกรอให้เขาหมดบุญ ไปค่ะ ตอนนี้จะให้เขาเริ่มกลับไปแต่งตัว hiphop เหมือนสมัยวัยรุ่น และไปทำงานกับพวกค่ายเพลงก็คงไม่ได้แล้วเพราะวงการ hiphop ไทยมันจบสิ้นไปนานแล้ว และอายุขนาดนี้ไปแบกหามในกองดารานักร้องเขาไม่รับแล้วนะคะ
อายุสามสิบกว่าไปเป็นเด็กแบกของแบบสมัยวัยรุ่นคงยากค่ะ ครั้นจะให้ไปทำงานอย่างอื่น คงไม่ไหวแน่เขาเป็นแบบเด็กสำอางมาตั่งแต่อายุ 16 ติดหล่อค่ะ ไม่เป็นโล๊เป็นพายและร่าวงกาย ไม่ค่อยแข็งแรงค่ะไม่ออกกำลังกายเลย ก็เลยบอกว่าไม่ต้องไปทำงานแล้ว แต่พอมาอยู่บ้านเขาก็ ดูเหมือนคนชราค่ะรอความตาย อาจจะตายเร็วเพราะเขาเริ่มมีโรคประจำตัวค่ะ เราก็อยากให้เขามีความสุขบ้าง ให้เขาแข็งแรงขึ้นมา
อยากให้เขาสดชื่นเลย แนะนำให้เขาแต่ง hiphop เหมือนสมัยวัยรุ่น .ให้เขาลองไว้ผมยาวๆฟูๆเหมือนตอนวัยรุ่นเขาก็ไว้แล้วดูหล่อน่ารักเหมือนตอนวัยรุ่นเลยค่ะ เหมือนสมัย ยุคของเขานั่นละและให้ ออกไปเที่ยวกลางคืนคนเดียวและใช้ชีวิตแบบเด็ก hiphop ย้อนไปแบบตอนที่เขาเป็นวัยรุ่นค่ะ เผื่อจะสดชื่นมีไฟอาจจะได้งานทำ หรืออาจจะมีคนมาชอบและพาไปเลี้ยงดูค่ะ เพราะเขาไว้ผมยาวๆฟูๆแต่ง hiphop แล้วยังน่ารักค่ะ แต่เขาไปแล้วกลับมาเขาก็บอกว่าไม่อยากไปอีกเพราะไม่มีเพื่อนแล้ว ไม่มีใครสนใจเขา เขาเหนื่อยล้ามากด้วย และทีไปเที่ยวแบบเด็ก hiphop และก็เขาอายที่จะต้อง โหนรถเมลล์ไปเที่ยวแบบสมัยวัยรุ่น เขารับไม่ได้เขากลัวตายค่ะ เพราะอายุเขามากไปตระเวนแบบวัยรุ่นไม่มีรถใช้มันไม่ไหว ไม่สะดวกไม่ดี เขากลัวตกรถเมลล์แล้วล้อทับไส้แตกตาย หรือ ข้ามถนนเขาก็กลัวถูกรถชนตาย จะใช้บริการ taxi ค่าโดยสารก็แพงค่ะ เขาบอกว่าทำให้เขาไม่มีเงินซื้อของเพราะจ่ายค่า taxi ไปเยอะ เขาเลยขอรถเก๋งค่ะ
เราก็ว่าจะซื้อรถให้เขาใช้แต่ทางบ้านรู้สึกว่ามันเป็นภาระเพราะเขาจะขับรถทั้งที่ไม่ทำใบชับขี่ด้วยค่ะ เกรงว่าจะจ่ายค่าดูแลรักษาเยอะค่ะ
ก็เลยคิดว่า จะปล่อยไว้แบบนี้จนเขา หมดบุญไปเองค่ะ แบบนี้ดีไหมคะ
หรือสงสารเขาซื้อรถให้เขาดีไหมเอาเป็นรถที่ไม่แพง มาก จ่ายๆไปเถอะ ถึงจะจับรถไม่มีใบขับขี่ก็ไม่เป็นไร เรื่องชุด hiphop ไม่มีปัญหานะคะเขามีเยอะมากๆใส่วันละชุดปีนึงยังไม่ซ้ำเลยค่ะ เขาจะได้แต่ง hiphop หล่อๆไปเที่ยวเตร่
เหมือนสมัยวัยรุ่นและ ถ้าขับรถไปเที่ยวเองบ้างบางทีชีวิตเขาจะได้สดชื่นดีขึ้น มีแรงกระตุ้นเหมือนสมัยก่อน เผื่อได้งานหรือมีคนเกิดเมตตารับเขาไปเลี้ยงดูก็คงจะดี ค่ะแต่คิดว่าเขาคงไม่มีเมียหลอกค่ะ เพราะชีวิตเขาไม่มีหลักประกันอะไร หรืออย่างน้อยถ้าเขาไปเที่ยวเตร่มีความสุขถ้าเขาจะจากไปวันใดสักวันนึงก็จะได้มีความสุขไว้ก่อนค่ะ ดีไหมคะหรือให้เขาอยู่แต่บ้านดีคะ กลัวเขาจะอายุไม่ยืนนะค่ะ เลยอยากให้ใช้ชีวิตวัยรุ่นอีกครั้งนึงค่ะ จะดีไหมคะ เพราะอยู่บ้านก็เท่ากับลูกดูคนแก่ชราคนนึงค่ะ