มีปัญหาพี่น้องอยากปรึกษาเพื่อนๆๆ ในนี้คะ ว่าเราควรทำอย่างไรดี
เรามีพี่น้องสามคน เป็นผู้หญิงทั้งหมด เราเป็นน้องคนสุดท้อง
พี่สาวเราคนโต มีลูกชายหนึ่งคนตอนนี้เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พ่อของน้องเขาเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งตับเมื่อปี 2557
เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวเราคนนี้ (คนโต)ไม่ชอบทำงาน ถ้าได้งานทำก็จะทำได้หนึ่งเดือน หรือสองเดือน แล้วก็จะลาออก ซึ่งก่อนสามีตาย สามีก็ส่งเสียเงินทองให้ใช้ เดือนละสามพัน ถึงห้าพันบาท (พอหรือปล่าวไม่รู้ แต่เขาก็อยู่กับลูกของเขาได้) โดยเราสร้างบ้านหลังเล็กๆๆ ให้เขาอยู่สองคนกับลูก ในที่ดินของพ่อ
ต่อมาพ่อเราป่วยเดินไม่ได้ นอนโรงพยาบาล พี่สาวคนกลางก็ไปเยี่ยมบ้างหลังจากเลิกงาน หรือวันหยุด แต่พี่สาวคนโตไม่เคยไปเยี่ยมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนเราทำงานอยู่ต่างประเทศ ได้แต่ส่งเงินให้พี่สาวคนกลางเป็นค่าใช้จ่ายไปเยี่ยมพ่อ (เราไม่ไว้ใจที่จะส่งเงินให้พี่สาวคนโต) จนกระทั่งพ่อเราเสียชีวิต
หลังจากงานศพเรียบร้อย เราก็บอกพี่สาวเราทั้งสองคนว่า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่(แม่เราเสียไปนานแล้วด้วยโรคมะเร็ง) แล้วนะ เธอสองคนต้องรักกัน สามัคคีกัน บ้านที่เราสร้างไว้สองหลังก็แบ่งกันอยู่คนละหลัง ในที่ดินของพ่อ
และเราก็บอกอีกว่า เราไม่ส่งเงินให้แล้วนะเพราะว่าไม่มีพ่อแล้ว (เวลาที่ผ่านมาพ่อป่วย พ่อไม่มีเงิน ทุกอย่างเรารับผิดชอบหมด พี่เราทั้งสองคนบอกแต่ว่าไม่มีเงิน, ไม่เป็นไรเราทำได้)
ตอนนี้ที่เราปวดหัวคือ พี่สาวคนโตเราไม่มีงานทำ ซึ่งจริงๆๆแล้วก่อนหน้านี้ได้งานทำนะ แต่ไปทำได้สองเดือน พอได้เงินเดือนแล้วก็ลาออก บอกว่าป่วย ปวดหัวเข่า ทำไม่ไหว ต้องไปหาหมอ, เราก็บอกว่าถ้าสุดท้ายแล้วหมอบอกว่าต้องผ่าตัดหัวเข่า เราจะช่วยออกเงินจ้างคนดูแล ช่วยส่งลูกเรียน ไม่ต้องกังวล, จนถึงวันนี้ผ่านไปหนึ่งปีได้แล้วไม่เป็นอะไร เราเลยคิดว่าเขาไม่อยากทำงาน (ขี้เกียจน่ะแหละ), เขาต้องการให้เราส่งเสียลูกเขาเรียนหนังสือ จ่ายค่าใช้จ่ายของลูกเขา เราก็ส่งให้เดือนละสี่พันบาท เริ่มตั้งแต่ปีนี้จนถึงเดือน พค.ซึ่งจริงๆๆ แล้วเงินที่ส่งให้หลานกลายเป็นว่ายิ่งทำให้พี่เราขี้เกียจ ไม่หางานทำ เงินไม่พอ ก็เอาของในบ้านไปขาย จนตอนนี้ไม่เหลืออะไร (ของทุกชิ้นที่ขาย ก็เงินของเราทั้งนั้นที่ซื้อ)
อาทิตย์ที่แล้วเขาส่งข้อความมาบอกเราว่าได้งานทำ ต้องการเงินจ่ายค่ายูนิฟอร์ม (งานแม่บ้าน) และเงินสดเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินเดือนต้องการให้เราโอนเงินให้เพื่อที่จะได้เริ่มงานวันที่ 1 มิถุนายน, เราโอนเงินค่ายูนิฟอร์มให้สองพันบาท แต่เงินที่ใช้เปิดบัญชีธนาคารเราบอกกับเขาว่าต้องรอ เพราะว่าเราต้องรอเงินค่าเช่าคอนโดโอนเข้ามาก่อน(จริงๆๆแล้วเราไม่เชื่อว่าเขาได้งานทำจริงๆๆ)
วันนี้เราให้ลูกชายของพี่สาวคนกลางสังเกตุว่าเขาไปทำงานไหม เขาไม่ได้ไปทำงาน นั่งๆๆ นอนๆๆ อยู่บ้าน
เราก็ให้พี่สาวคนกลางแกล้งถามว่าไปทำงานมาเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่ายังไม่ได้เริ่มงาน พรุ่งนี้ทางบริษัทฯให้ไปเอาชุดทำงาน
เรามั่นใจว่าเขาไม่ได้หางานทำหรอก เขาโกหกเพื่อต้องการขอเงินเราเพิ่ม เราอยากขอความเห็นจากเพื่อนๆๆ ว่า เราควรทำอย่งไรดี
ที่เรายอมส่งเงินเพราะเราสงสารหลาน เขาเพิ่ง ป. 4 และกำพร้าพ่อ
(ตั้งแต่เราจำความได้พี่สาวเราคนนี้ไม่เคยทำงานเป็นชิ้นเป็นอันเลยตั้งแต่เขาเติบโตมา ขอแต่เงินแม่ แม่ไม่มีให้ก็ขโมยของในบ้านไปขาย)
พี่สาวไม่ยอมทำงาน ขอแต่เงิน
เรามีพี่น้องสามคน เป็นผู้หญิงทั้งหมด เราเป็นน้องคนสุดท้อง
พี่สาวเราคนโต มีลูกชายหนึ่งคนตอนนี้เรียนอยู่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พ่อของน้องเขาเสียชีวิตเนื่องจากมะเร็งตับเมื่อปี 2557
เรื่องมีอยู่ว่า พี่สาวเราคนนี้ (คนโต)ไม่ชอบทำงาน ถ้าได้งานทำก็จะทำได้หนึ่งเดือน หรือสองเดือน แล้วก็จะลาออก ซึ่งก่อนสามีตาย สามีก็ส่งเสียเงินทองให้ใช้ เดือนละสามพัน ถึงห้าพันบาท (พอหรือปล่าวไม่รู้ แต่เขาก็อยู่กับลูกของเขาได้) โดยเราสร้างบ้านหลังเล็กๆๆ ให้เขาอยู่สองคนกับลูก ในที่ดินของพ่อ
ต่อมาพ่อเราป่วยเดินไม่ได้ นอนโรงพยาบาล พี่สาวคนกลางก็ไปเยี่ยมบ้างหลังจากเลิกงาน หรือวันหยุด แต่พี่สาวคนโตไม่เคยไปเยี่ยมเลยแม้แต่ครั้งเดียว ส่วนเราทำงานอยู่ต่างประเทศ ได้แต่ส่งเงินให้พี่สาวคนกลางเป็นค่าใช้จ่ายไปเยี่ยมพ่อ (เราไม่ไว้ใจที่จะส่งเงินให้พี่สาวคนโต) จนกระทั่งพ่อเราเสียชีวิต
หลังจากงานศพเรียบร้อย เราก็บอกพี่สาวเราทั้งสองคนว่า ไม่มีพ่อ ไม่มีแม่(แม่เราเสียไปนานแล้วด้วยโรคมะเร็ง) แล้วนะ เธอสองคนต้องรักกัน สามัคคีกัน บ้านที่เราสร้างไว้สองหลังก็แบ่งกันอยู่คนละหลัง ในที่ดินของพ่อ
และเราก็บอกอีกว่า เราไม่ส่งเงินให้แล้วนะเพราะว่าไม่มีพ่อแล้ว (เวลาที่ผ่านมาพ่อป่วย พ่อไม่มีเงิน ทุกอย่างเรารับผิดชอบหมด พี่เราทั้งสองคนบอกแต่ว่าไม่มีเงิน, ไม่เป็นไรเราทำได้)
ตอนนี้ที่เราปวดหัวคือ พี่สาวคนโตเราไม่มีงานทำ ซึ่งจริงๆๆแล้วก่อนหน้านี้ได้งานทำนะ แต่ไปทำได้สองเดือน พอได้เงินเดือนแล้วก็ลาออก บอกว่าป่วย ปวดหัวเข่า ทำไม่ไหว ต้องไปหาหมอ, เราก็บอกว่าถ้าสุดท้ายแล้วหมอบอกว่าต้องผ่าตัดหัวเข่า เราจะช่วยออกเงินจ้างคนดูแล ช่วยส่งลูกเรียน ไม่ต้องกังวล, จนถึงวันนี้ผ่านไปหนึ่งปีได้แล้วไม่เป็นอะไร เราเลยคิดว่าเขาไม่อยากทำงาน (ขี้เกียจน่ะแหละ), เขาต้องการให้เราส่งเสียลูกเขาเรียนหนังสือ จ่ายค่าใช้จ่ายของลูกเขา เราก็ส่งให้เดือนละสี่พันบาท เริ่มตั้งแต่ปีนี้จนถึงเดือน พค.ซึ่งจริงๆๆ แล้วเงินที่ส่งให้หลานกลายเป็นว่ายิ่งทำให้พี่เราขี้เกียจ ไม่หางานทำ เงินไม่พอ ก็เอาของในบ้านไปขาย จนตอนนี้ไม่เหลืออะไร (ของทุกชิ้นที่ขาย ก็เงินของเราทั้งนั้นที่ซื้อ)
อาทิตย์ที่แล้วเขาส่งข้อความมาบอกเราว่าได้งานทำ ต้องการเงินจ่ายค่ายูนิฟอร์ม (งานแม่บ้าน) และเงินสดเปิดบัญชีธนาคารเพื่อรับเงินเดือนต้องการให้เราโอนเงินให้เพื่อที่จะได้เริ่มงานวันที่ 1 มิถุนายน, เราโอนเงินค่ายูนิฟอร์มให้สองพันบาท แต่เงินที่ใช้เปิดบัญชีธนาคารเราบอกกับเขาว่าต้องรอ เพราะว่าเราต้องรอเงินค่าเช่าคอนโดโอนเข้ามาก่อน(จริงๆๆแล้วเราไม่เชื่อว่าเขาได้งานทำจริงๆๆ)
วันนี้เราให้ลูกชายของพี่สาวคนกลางสังเกตุว่าเขาไปทำงานไหม เขาไม่ได้ไปทำงาน นั่งๆๆ นอนๆๆ อยู่บ้าน
เราก็ให้พี่สาวคนกลางแกล้งถามว่าไปทำงานมาเป็นอย่างไรบ้าง เขาบอกว่ายังไม่ได้เริ่มงาน พรุ่งนี้ทางบริษัทฯให้ไปเอาชุดทำงาน
เรามั่นใจว่าเขาไม่ได้หางานทำหรอก เขาโกหกเพื่อต้องการขอเงินเราเพิ่ม เราอยากขอความเห็นจากเพื่อนๆๆ ว่า เราควรทำอย่งไรดี
ที่เรายอมส่งเงินเพราะเราสงสารหลาน เขาเพิ่ง ป. 4 และกำพร้าพ่อ
(ตั้งแต่เราจำความได้พี่สาวเราคนนี้ไม่เคยทำงานเป็นชิ้นเป็นอันเลยตั้งแต่เขาเติบโตมา ขอแต่เงินแม่ แม่ไม่มีให้ก็ขโมยของในบ้านไปขาย)