การเดินทาง 16 วัน กับภารกิจ 2 peaks 1 pass 1 base camp ของ จขกท. เข้าสู่วันที่ 7 สามารถอ่านเรื่องเล่า 6 วันแรกของการเทร็คได้ที่
http://ppantip.com/topic/32924234
Itinerary เวอร์ชั่นล่าสุดมีตามนี้
2 Nov: KTM - Lukla (2,840 m)
3 Nov: Lukla - Phakding (2,610 m)
4 Nov: Phakding - Namche Bazaar (3,440 m)
5 Nov: Acclimatisation day - Hiking to viewpoint
5 Nov: Namche - Deboche (3,860 m)
6 Nov: Deboche - Dingboche (4,410 m)
7 Nov: Acclimatisation day - Hiking to viewpoint
8 Nov: Dingboche - Lobuche (4,910 m)
9 Nov: Lobuche - EBC (5,364 m) - Gorakshrep (5,140 m)
10 Nov: Gorakshrep - Zongla (4,830 m)
11 Nov: Zongla - Cho La Pass - Thangnag (4,700 m)
12 Nov: Thangnag - Gokyo (4,790 m)
13 Nov: Rest day - Hiking to Gokyo Ri (5,357 m)
14 Nov: Gokyo - Dole (4,110 m)
15 Nov: Dole - Namche Bazaar
16 Nov: Namche Bazaar - Lukla
17 Nov: Lukla - KTM
ที่ Dingboche กลุ่มนักเดินทางชาวเอเชีย สนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งคุณตาชาวญี่ปุ่นวัย 78 ปี คุณอารากิ กลุ่มสาวฮ่องกงทั้งสาม ได้แก่ อีดิธ เคท และฟิออน และตัว จขกท. เอง เพื่อนคุณอารากิ เดินทางกลับ KTM เนื่องจากปวดหัวหนัก และมีสัญญาณบ่งบอกถึงอาการแพ้ความสูง ส่วนฟิออน ที่อาการหนักกว่า ทั้งอาเจียนและกินข้าวไม่ลง เริ่มดีขึ้นได้เดินทางต่อ ที่นี่มีลานเฮลิคอปเตอร์อยู่ในหมู่บ้านเลย เนื่องจากพบคนเป็น AMS กันมาก เพราะต้องไต่ระดับขึ้นมาถึง 600 ม. จาก Tengboche (3,860 m) หรือ Deboche (3,820 m)
Dingboche
ตั้งแต่ก่อนเทร็คปีที่แล้ว จขกท. ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับอาการ AMS หรือโรคแพ้ความสูง และพบว่าเป็นอาการป่วยที่ยังไม่มีการค้นพบว่ามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นกับใคร ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะแข็งแรงระดับนักกีฬาโอลิมปิค หรือเป็นมนุษย์ออฟฟิศที่ไม่เคยออกกำลังกาย ก็มีโอกาสเป็น AMS ได้เหมือนกัน
สัญญาณที่บ่งบอกอาการ AMS แบบอ่อนๆ ก็คือ อาการปวดหัว ไม่อยากอาหาร อาเจียน มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือก้าวร้าวรุนแรง หากเป็น สิ่งที่ควรทำคือ เดินลงมายังที่ต่ำกว่า ส่วนยาที่ช่วยบรรเทาอาการ ชื่อ Diamox สามารถหาซื้อได้ตามร้านใน KTM แต่กินแล้วจะเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ชาปลายลิ้น หรือปลายนิ้ว สำหรับ จขกท. พบแค่อาการปวดหัวอ่อนๆ เป็นๆ หายๆ เลยคิดว่าน่าจะเพราะอากาศหนาว หรือแสงแดดจัดมากกว่า เลยไม่ต้องพึ่ง diamox แต่ปัญหาอย่างนึงของเราคือ เกิดมาไม่เคยเป็นอาการ "ไม่อยากอาหาร" เลยไม่รู้ว่ามันเป็นแบบไหน ตอนกินข้าวเย็น รู้สึกว่าเหนื่อยกว่าจะกินหมดจาน เลยแอบกังวลใจเล็กๆ ว่าถือเป็นอาการไม่อยากอาหารหรือเปล่า
หลังจากได้พักปรับสภาพร่างกาย ฟื้นกำลังขา วันนี้จะเป็นอีกหนึ่งวันที่ต้องเดินทางยาวนาน ไต่ระดับถึง 500 m (แอบลุ้นต่อว่าจะเป็น AMS ไหม) เพื่อเดินทางสู่ Lobuche ซูซิลเดินมาบอกก่อนออกเดินทางว่า ที่ Lobuche คนเยอะมาก ห้องไม่พอ ต้องแชร์กับ 1 ในกลุ่มฮ่องกง (ที่นี่ไม่มีห้องเดี่ยว มีแต่ห้องคู่) ซึ่งเราก็โอเค คืนนี้เรานอนกับอีดิธ
คุณตาออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนเราและคุณอารากิออกเดินทางเวลาไล่เลี่ยกัน จึงเดินเจอกันตลอดทาง ซูซิลได้เพื่อนทะเลาะสนุกใหญ่ วิ่งไล่โวยวายกันจนคนเดินผ่านทักว่า "นี่ไกด์ยูหรอ ยูต้องมีช่วงเวลาที่ดีตลอดทริปแน่เลย"
สนุกจริงๆ นะ เดินทางกับเจ้าพวกนี้ เหมือนเที่ยวเล่นกับน้องชายซนๆ 2 คนไม่มีผิด ส่วนอีกราย ไกด์คุณตาก็เหมือนน้องชายเงียบๆ แต่คุยเพลิน
แวะถ่ายรูปหมู่กับแกงค์ฮอบบิทระหว่างพัก (ซ้ายไปขวา) ซูซิล จขกท ไกด์คุณอารากิ ไกด์คุณตา
เส้นทางนี้ วิวสวยมากค่ะ บ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อย แนวรั้วหิน ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปหมด
แบกเป้ลุยเดี่ยว Gokyo - Cho La Pass - Everest Base Camp เทร็ค 16 วัน โหด มันส์ ฮา (part 2)
Itinerary เวอร์ชั่นล่าสุดมีตามนี้
2 Nov: KTM - Lukla (2,840 m)
3 Nov: Lukla - Phakding (2,610 m)
4 Nov: Phakding - Namche Bazaar (3,440 m)
5 Nov: Acclimatisation day - Hiking to viewpoint
5 Nov: Namche - Deboche (3,860 m)
6 Nov: Deboche - Dingboche (4,410 m)
7 Nov: Acclimatisation day - Hiking to viewpoint
8 Nov: Dingboche - Lobuche (4,910 m)
9 Nov: Lobuche - EBC (5,364 m) - Gorakshrep (5,140 m)
10 Nov: Gorakshrep - Zongla (4,830 m)
11 Nov: Zongla - Cho La Pass - Thangnag (4,700 m)
12 Nov: Thangnag - Gokyo (4,790 m)
13 Nov: Rest day - Hiking to Gokyo Ri (5,357 m)
14 Nov: Gokyo - Dole (4,110 m)
15 Nov: Dole - Namche Bazaar
16 Nov: Namche Bazaar - Lukla
17 Nov: Lukla - KTM
ที่ Dingboche กลุ่มนักเดินทางชาวเอเชีย สนิทสนมกันมากขึ้น ทั้งคุณตาชาวญี่ปุ่นวัย 78 ปี คุณอารากิ กลุ่มสาวฮ่องกงทั้งสาม ได้แก่ อีดิธ เคท และฟิออน และตัว จขกท. เอง เพื่อนคุณอารากิ เดินทางกลับ KTM เนื่องจากปวดหัวหนัก และมีสัญญาณบ่งบอกถึงอาการแพ้ความสูง ส่วนฟิออน ที่อาการหนักกว่า ทั้งอาเจียนและกินข้าวไม่ลง เริ่มดีขึ้นได้เดินทางต่อ ที่นี่มีลานเฮลิคอปเตอร์อยู่ในหมู่บ้านเลย เนื่องจากพบคนเป็น AMS กันมาก เพราะต้องไต่ระดับขึ้นมาถึง 600 ม. จาก Tengboche (3,860 m) หรือ Deboche (3,820 m)
Dingboche
ตั้งแต่ก่อนเทร็คปีที่แล้ว จขกท. ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับอาการ AMS หรือโรคแพ้ความสูง และพบว่าเป็นอาการป่วยที่ยังไม่มีการค้นพบว่ามีแนวโน้มจะเกิดขึ้นกับใคร ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะแข็งแรงระดับนักกีฬาโอลิมปิค หรือเป็นมนุษย์ออฟฟิศที่ไม่เคยออกกำลังกาย ก็มีโอกาสเป็น AMS ได้เหมือนกัน
สัญญาณที่บ่งบอกอาการ AMS แบบอ่อนๆ ก็คือ อาการปวดหัว ไม่อยากอาหาร อาเจียน มีพฤติกรรมที่ผิดปกติ หรือก้าวร้าวรุนแรง หากเป็น สิ่งที่ควรทำคือ เดินลงมายังที่ต่ำกว่า ส่วนยาที่ช่วยบรรเทาอาการ ชื่อ Diamox สามารถหาซื้อได้ตามร้านใน KTM แต่กินแล้วจะเกิดผลข้างเคียงเล็กน้อย เช่น ชาปลายลิ้น หรือปลายนิ้ว สำหรับ จขกท. พบแค่อาการปวดหัวอ่อนๆ เป็นๆ หายๆ เลยคิดว่าน่าจะเพราะอากาศหนาว หรือแสงแดดจัดมากกว่า เลยไม่ต้องพึ่ง diamox แต่ปัญหาอย่างนึงของเราคือ เกิดมาไม่เคยเป็นอาการ "ไม่อยากอาหาร" เลยไม่รู้ว่ามันเป็นแบบไหน ตอนกินข้าวเย็น รู้สึกว่าเหนื่อยกว่าจะกินหมดจาน เลยแอบกังวลใจเล็กๆ ว่าถือเป็นอาการไม่อยากอาหารหรือเปล่า
หลังจากได้พักปรับสภาพร่างกาย ฟื้นกำลังขา วันนี้จะเป็นอีกหนึ่งวันที่ต้องเดินทางยาวนาน ไต่ระดับถึง 500 m (แอบลุ้นต่อว่าจะเป็น AMS ไหม) เพื่อเดินทางสู่ Lobuche ซูซิลเดินมาบอกก่อนออกเดินทางว่า ที่ Lobuche คนเยอะมาก ห้องไม่พอ ต้องแชร์กับ 1 ในกลุ่มฮ่องกง (ที่นี่ไม่มีห้องเดี่ยว มีแต่ห้องคู่) ซึ่งเราก็โอเค คืนนี้เรานอนกับอีดิธ
คุณตาออกเดินทางล่วงหน้าไปก่อนตั้งแต่เช้าตรู่ ส่วนเราและคุณอารากิออกเดินทางเวลาไล่เลี่ยกัน จึงเดินเจอกันตลอดทาง ซูซิลได้เพื่อนทะเลาะสนุกใหญ่ วิ่งไล่โวยวายกันจนคนเดินผ่านทักว่า "นี่ไกด์ยูหรอ ยูต้องมีช่วงเวลาที่ดีตลอดทริปแน่เลย"
สนุกจริงๆ นะ เดินทางกับเจ้าพวกนี้ เหมือนเที่ยวเล่นกับน้องชายซนๆ 2 คนไม่มีผิด ส่วนอีกราย ไกด์คุณตาก็เหมือนน้องชายเงียบๆ แต่คุยเพลิน
แวะถ่ายรูปหมู่กับแกงค์ฮอบบิทระหว่างพัก (ซ้ายไปขวา) ซูซิล จขกท ไกด์คุณอารากิ ไกด์คุณตา
เส้นทางนี้ วิวสวยมากค่ะ บ้านเรือนหลังเล็กหลังน้อย แนวรั้วหิน ดูน่าตื่นตาตื่นใจไปหมด