สวัสดีค่ะ ทริปที่สองของเราก็มาถึง หลังจากที่ไปABCปี2016มา ทริปนี้เราตั้งใจว่าอยากไปสัมผัสความหนาวเย็นที่หิมาลัยอีกครั้ง เราจึงหาข้อมูลและทราบมาว่าเดือน ธันวาคม-กุมภาพันธ์ เป็นฤดูที่หนาวที่สุดของเนปาลและเป็นช่วงที่low season คนเดินเส้นทาง3 pass มีจึงน้อยมากๆ และในที่สุด เราจึงตัดสินใจไปช่วง 14ธ.ค. 2017 – 4 ม.ค 2018 ไปฉลองข้ามปีที่นั่นเลย ......
.
.
.
.
.
.
เรามาเริ่มแพลนการเดินทางกันเลยดีกว่า
.
.
Dec 14: Arrival in Kathmandu transfer to the hotel.
Dec 15 : fly to lukla and trek to phakding ( 2,652 m). 3-4 hrs
Dec 16 : Trek from Phakding to Namche Bazar ( 3,440 m). 5-6 hrs
Dec 17 : Acclimatization day at Namche bazar.
Dec 18 : Trek from Namche bazar to Thame (3,800 m). 4-5 hrs
Dec 19 : Trek from Thame to Lungden ( 4,600 m). 5-6 hrs
Dec 20 : Trek from Lungden to Renjola Pass ( 5,4 65 m) to Gokyo valley ( 4,800 m). 10-11 hrs
Dec 21 : Gokyo to Thonak Tsho lake (4870m).
Dec 22 : Morning hike to Gokyo ri ( 5,340 m ) then trek to Thangnak ( 4,700 m ). 6-7 hrs
Dec 23 : Trek from Thangnak to Chola pass ( 5,445 m) to Dzongla. 8-10 hrs
Dec 24 : Trek from Dzongla to Lobuche ( 4,928 m ). 5-6 hrs
Dec 25 : Trek from Lobuche to Gorakshep ( 5,160 m ) and hike Everest Base Camp ( 5,364 m ). 8-9 hrs
Dec 26 : Morning hike to Kalapatther ( 5,550 m ) then back to Lobuche. 6-7 hrs
Dec 27 : Trek from Lobuche to Kongmala Pass ( 5,460 m ) to Chhukung Valley ( 4,700 m ). 10 hrs
Dec 28 : Trek from Chhukung valley to imja lake to Tengboche(3860)6-7 hrs
Dec 29 : Trek from Tengboche(3860) to Namche Bazar( 3,440 m ) 4-5 hrs
Dec 30 : Trek from Namche Bazar ( 3,440 m ) to lukla ( 2,850 m ).8 hrs
Dec 31 : Fly to Kathmandu
Jan 01 : Rest day at Kathmandu
Jan 02 : Rest day at Kathmandu.
Jan 03 : Rest day at Kathmandu.
Jan 04 : Final Departure
......เรามาเริ่มที่การเดินเทรควันแรกเลยดีกว่า เราเริ่มวันที่ 15 เดินจาก lukla แล้วเดินไปหมู่บ้าน phakding ( 2,652 m). 3-4 hrs ในวันแรกจะเดินง่าย ชิวๆ อิอิ
......วันที่ 2 เดินจาก Phakding ไป Namche Bazar วันนี้เราเดินประมาณ5ชั่วโมง
ระหว่างที่เราเดินไปNumche เราก็จะเจอพวกควาย ม้าหรือลานี่แหละไม่แน่ใจ เดินผ่านเรา และเราก็จะได้รับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากอึและฉี่ของมันไปตลอดทาง
เราเจอน้องหมาน่ารักๆSo cuteมั๊กๆ ด้วยระหว่างเดินผ่านหมู่บ้านไป พอถึงนัมเช เราก็พักที่นั่นหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นก็ตื่นขึ้นไปAcclimatize แล้วกลับลงมานอนที่เดิมอีก1วัน
วันที่ 3 : Acclimatization day at Namche bazar.
เมื่อเราขึ้นไปAcclimatizeเราจะเห็นวิวทั้งหมดของหมู่บ้านNumche Barzar
วันที่4 : Namche bazar to Thame
.............ในวันที่ 4 เราออกเดินทางจากNamche bazarเพื่อไปยังหมู่บ้านThameและแวะกินมื้อเที่ยงใกล้กับวัดแห่งหนึ่ง แต่เราจำชื่อไม่ได้
............... ระหว่างทางก็เดินข้ามสะพานเจอน้ำตกสวยๆอยู่ข้างทาง
วันที่5 : Thame to Lungden
.......เนื่องจากเดือนที่เราเลือกไปเป็นช่วงlow season พอดี เราพบปัญหาเรื่อง อาหารกลางวัน เราเริ่มเดินจากThameและเดินไปเรื่อยๆพอถึงตอนเที่ยงวันไกด์จะพาเราไปทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่กลับไม่มีร้านไหนเปิดเลย กลายเป็นที่ร้างๆไม่มีใคร ไม่มีคนเดินผ่าน นักท่องเที่ยวก็ไม่มี เรา ไกด์ลูกหาบ และแฟน จึงหยุดแล้วควักขนมที่พกมาด้วยกินรองท้องไปก่อนเพื่อจะได้มีแรงเดินต่อ พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ต้องมานั่งอยู่บ้านร้างแล้วก็มองหน้ากันไป ก่อนออกเดินทางต่อ(ดีนะพกสเบียงติดตัว) ...
วันที่6 : Lungden to Renjola Pass ( 5,4 65 m) to Gokyo valley
......เป็นพาสแรกที่เราคิดว่ายากที่สุด...ทำไมล่ะ!!! ตอนเดินแรกๆเรามีแรงเดินมากๆเราเริ่มเดินตั้งแต่ความสูงที่4368m.. เราเดินแบบพักน้อยมาก เดินแบบไม่เหนื่อย แต่เอ๊ะ!!!พอเดินไปๆทำไมไม่ถึงสักที เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึง ทางก็ชันขึ้นเรื่อยๆ ทางขึ้นจะเป็นบันไดก้อนหิน.....เรา เริ่มหมดแรง อากาศเริ่มหนาว พายุหิมะเริ่มตามมาข้างหลัง ต้องรีบเดิน เราเริ่มปวดหัว หนาว ยิ่งเดินขึ้นไปยิ่งปวดหัวมากๆ (ไม่คิดเลยว่าจะปวดหัวขนาดนี้) เราเดินต่อไปไม่ไหวเราบอกกับไกด์ว่า เราปวดหัวมากๆและเดินไม่ไหว แต่ไกด์ก็พยายามทำให้เราเดินต่อไป ไกด์จะบอกตลอดทางว่า “slowly walk, grab some water and take a rest ” จนเราเดินไปถึงยอด Renjola pass เราทำสำเร็จ แต่ช่วงเวลาที่เดินขึ้นมาจนถึงRenjola passเราร้องไห้ตลอดเลย(ฮ่าๆ) เราไม่เคยเหนื่อย ปวดหัวหมดแรง ขนาดนี้เลย เราถึงข้างบนนั้นเรายิ้มไม่ออก ความรู้สึกตอนนั้นคือ เราปวดหัวมากๆแล้ววันต่อๆไปเราจะเดินไหวรึเปล่า ยิ่งพาส3สูงกว่านี้อีกเราต้องไม่ไหวแน่ๆเลย แล้วเราก็ร้องไห้ออกมาอีก ส่วนแฟนเราก็บอกว่าปวดหัวเหมือนกัน อดทนไว้นะ เราเดินลงไปอีกนิดก็ถึงที่พักแล้ว ..........จากนั้นถ่ายรูปกันได้สักพักก็เดินลงไปยังหมู่บ้านGokyo ....เราอยู่บนยอดมองลงไปเห็นหมู่บ้าน เหมือนจะเดินใกล้นะ แต่เราเดินลงไปมันก็ไม่ถึงสักที วันนี้เราเดินช้ามากเพราะยิ่งเดินเร็วยิ่งปวดหัว ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน..เราเดินถึงที่พักประมาณ18.30 เริ่มมืด จนต้องใช้ไฟฉายนำทาง........ และแล้วเราก็เดินถึงหมู่บ้านจนมืด พอถึงที่พักต้องสั่งอาหารไว้ แต่เราปวดหัวมากจนกินข้าวไม่ลงและอยากอาเจียน ส่วนแฟนเราก็ปวดหัวแต่ไม่มากเท่าเรา เรากินอะไรไม่ได้เลยเราก็เลยกลับห้อง กินยาDiamoxไปครึ่งเม็ดแล้วก็หลับไปเลย สรุปวันนั้นไม่ได้กินข้าวเย็น ......
ภาพนี้เป็นเวลาที่ขำตัวเองที่สุด เราขึ้นมาก่อนสองคนนั้น เรายืนยิ้ม...สักพักไกด์กับแฟนเดินมาถึง และเหมือนไกด์จะรู้ว่าเราคิดอะไร จึงบอกกับเราประมาณว่า "นี่ยังไม่ถึงพาส และยังไม่ถึงครึ่งทาง".........จ๋อยเลยสิเราฮ่าๆๆๆๆ แต่ไม่เป็นเราขอยิ้มถ่ายรูปไปก่อนขึ้นพาสแล้วกันนะ หึหึ
เอ้าถึงแล้ว ไม่มีวี่แววของอารมณ์ดีใจเลย ร้องไห้...นอยด์..ปวดหัว..หนาว
หันไปดูวิวข้างหลังสิที่เราเดินมา เราเดินมาได้ไงเนี่ยโคตรไกล
ช่วงเวลานั้นเราเป็นคนสุดท้ายที่เดินขึ้นมาถึง ทุกคนต่างหยิบกล้องมาถ่าย แต่ดูสิเวลาของเรามันน้อยพายุหิมะตามหลังมา เราจะโดนไหมเนี้ย.....สุดท้ายเราก็ไม่โดนพายุหิมะ ช่างโชคดีเหลือเกิน
เราเดินลงไปเรื่อยๆ และเห็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ข้างหน้า
วันที่7 : Gokyo to Thonak Tsho lake (4870m).
วันที่8 :Morning hike to Gokyo ri ( 5,340 m ) แล้วกลับลงไปนอนที่ Thangnak ( 4,700 m )
.......วันรุ่งขึ้นของวันที่7ปรากฏว่าเราหายปวดหัว ไกด์พาไปเดินดู Thonak Tsho lake แล้วก็กลับลงพาที่Gokyo valley พักอีกหนึ่งคืน free dayครึ่งวัน แต่อีกวันเราต้องขึ้นไปacclimatize ที่gokyo ri(5,340 m)อีกวัน...เราคิดว่า ถ้าเราขึ้นไปเราต้องปวดหัวอีกตามเคย .....แต่ไม่เลยพอเราขึ้นไปเรากลับไม่ปวดหัว แต่อากาศเย็นมากๆหนาวที่สุด เท้าและมือปวดมากๆ เราเดินขึ้นไปเรื่อยๆ แฟนเรากับไกด์ถึงก่อน เราเกือบจะถึงแล้วเหลืออีก100เมตร เราจะถึงGokyo riแต่เป็นตะคริวซะก่อน ในชีวิตเราไม่เคยเป็นตะคริวมาก่อน ครั้งนี้แหละครั้งแรก อากาศหนาวเกินไปฮ่าๆๆๆๆ เราก็เลยนั่งนวดเท้าอยู่ตรงนั้นก็เลยตัดสินใจไม่ขึ้นไป และเดินลงไปก่อน ......(ในขณะนั้นแฟนตะโกนลงมาว่า...”จะถึงแล้วทำไมเธอไม่ขึ้นไป!!!!”.....ขอโทษนะฉันขึ้นไม่ไหวจริงๆปวดขามากๆจะนั่งอยู่ตรงนี้รอนะ)
Gokyo lake
ภาพนี้เรากำลังจะเดินไปThonak Tsho lake
นี่คือทะเลสาบThonak Tsho จากนั้นเราก็เดินกลับไปยังหมู่บ้านGokyo
ตะวันตกดินที่Gokyo lake
ตื่นเช้าไปAcclimatize Gokyo ri ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่เราไปไม่ถึงยอดเพราะเป็นตะคริวไปก่อน
แต่แฟนของเราเดินไปจนถึง Gokyo ri
[CR] Everest base camp 3 passes on December2017
.
.
.
.
.
.
เรามาเริ่มแพลนการเดินทางกันเลยดีกว่า
.
.
Dec 14: Arrival in Kathmandu transfer to the hotel.
Dec 15 : fly to lukla and trek to phakding ( 2,652 m). 3-4 hrs
Dec 16 : Trek from Phakding to Namche Bazar ( 3,440 m). 5-6 hrs
Dec 17 : Acclimatization day at Namche bazar.
Dec 18 : Trek from Namche bazar to Thame (3,800 m). 4-5 hrs
Dec 19 : Trek from Thame to Lungden ( 4,600 m). 5-6 hrs
Dec 20 : Trek from Lungden to Renjola Pass ( 5,4 65 m) to Gokyo valley ( 4,800 m). 10-11 hrs
Dec 21 : Gokyo to Thonak Tsho lake (4870m).
Dec 22 : Morning hike to Gokyo ri ( 5,340 m ) then trek to Thangnak ( 4,700 m ). 6-7 hrs
Dec 23 : Trek from Thangnak to Chola pass ( 5,445 m) to Dzongla. 8-10 hrs
Dec 24 : Trek from Dzongla to Lobuche ( 4,928 m ). 5-6 hrs
Dec 25 : Trek from Lobuche to Gorakshep ( 5,160 m ) and hike Everest Base Camp ( 5,364 m ). 8-9 hrs
Dec 26 : Morning hike to Kalapatther ( 5,550 m ) then back to Lobuche. 6-7 hrs
Dec 27 : Trek from Lobuche to Kongmala Pass ( 5,460 m ) to Chhukung Valley ( 4,700 m ). 10 hrs
Dec 28 : Trek from Chhukung valley to imja lake to Tengboche(3860)6-7 hrs
Dec 29 : Trek from Tengboche(3860) to Namche Bazar( 3,440 m ) 4-5 hrs
Dec 30 : Trek from Namche Bazar ( 3,440 m ) to lukla ( 2,850 m ).8 hrs
Dec 31 : Fly to Kathmandu
Jan 01 : Rest day at Kathmandu
Jan 02 : Rest day at Kathmandu.
Jan 03 : Rest day at Kathmandu.
Jan 04 : Final Departure
......เรามาเริ่มที่การเดินเทรควันแรกเลยดีกว่า เราเริ่มวันที่ 15 เดินจาก lukla แล้วเดินไปหมู่บ้าน phakding ( 2,652 m). 3-4 hrs ในวันแรกจะเดินง่าย ชิวๆ อิอิ
......วันที่ 2 เดินจาก Phakding ไป Namche Bazar วันนี้เราเดินประมาณ5ชั่วโมง
ระหว่างที่เราเดินไปNumche เราก็จะเจอพวกควาย ม้าหรือลานี่แหละไม่แน่ใจ เดินผ่านเรา และเราก็จะได้รับกลิ่นไม่พึงประสงค์จากอึและฉี่ของมันไปตลอดทาง
เราเจอน้องหมาน่ารักๆSo cuteมั๊กๆ ด้วยระหว่างเดินผ่านหมู่บ้านไป พอถึงนัมเช เราก็พักที่นั่นหนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นก็ตื่นขึ้นไปAcclimatize แล้วกลับลงมานอนที่เดิมอีก1วัน
วันที่ 3 : Acclimatization day at Namche bazar.
เมื่อเราขึ้นไปAcclimatizeเราจะเห็นวิวทั้งหมดของหมู่บ้านNumche Barzar
วันที่4 : Namche bazar to Thame
.............ในวันที่ 4 เราออกเดินทางจากNamche bazarเพื่อไปยังหมู่บ้านThameและแวะกินมื้อเที่ยงใกล้กับวัดแห่งหนึ่ง แต่เราจำชื่อไม่ได้ ............... ระหว่างทางก็เดินข้ามสะพานเจอน้ำตกสวยๆอยู่ข้างทาง
วันที่5 : Thame to Lungden
.......เนื่องจากเดือนที่เราเลือกไปเป็นช่วงlow season พอดี เราพบปัญหาเรื่อง อาหารกลางวัน เราเริ่มเดินจากThameและเดินไปเรื่อยๆพอถึงตอนเที่ยงวันไกด์จะพาเราไปทานอาหารกลางวันที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่กลับไม่มีร้านไหนเปิดเลย กลายเป็นที่ร้างๆไม่มีใคร ไม่มีคนเดินผ่าน นักท่องเที่ยวก็ไม่มี เรา ไกด์ลูกหาบ และแฟน จึงหยุดแล้วควักขนมที่พกมาด้วยกินรองท้องไปก่อนเพื่อจะได้มีแรงเดินต่อ พร้อมกับเสียงหัวเราะที่ต้องมานั่งอยู่บ้านร้างแล้วก็มองหน้ากันไป ก่อนออกเดินทางต่อ(ดีนะพกสเบียงติดตัว) ...
วันที่6 : Lungden to Renjola Pass ( 5,4 65 m) to Gokyo valley
......เป็นพาสแรกที่เราคิดว่ายากที่สุด...ทำไมล่ะ!!! ตอนเดินแรกๆเรามีแรงเดินมากๆเราเริ่มเดินตั้งแต่ความสูงที่4368m.. เราเดินแบบพักน้อยมาก เดินแบบไม่เหนื่อย แต่เอ๊ะ!!!พอเดินไปๆทำไมไม่ถึงสักที เดินเท่าไหร่ก็ไม่ถึง ทางก็ชันขึ้นเรื่อยๆ ทางขึ้นจะเป็นบันไดก้อนหิน.....เรา เริ่มหมดแรง อากาศเริ่มหนาว พายุหิมะเริ่มตามมาข้างหลัง ต้องรีบเดิน เราเริ่มปวดหัว หนาว ยิ่งเดินขึ้นไปยิ่งปวดหัวมากๆ (ไม่คิดเลยว่าจะปวดหัวขนาดนี้) เราเดินต่อไปไม่ไหวเราบอกกับไกด์ว่า เราปวดหัวมากๆและเดินไม่ไหว แต่ไกด์ก็พยายามทำให้เราเดินต่อไป ไกด์จะบอกตลอดทางว่า “slowly walk, grab some water and take a rest ” จนเราเดินไปถึงยอด Renjola pass เราทำสำเร็จ แต่ช่วงเวลาที่เดินขึ้นมาจนถึงRenjola passเราร้องไห้ตลอดเลย(ฮ่าๆ) เราไม่เคยเหนื่อย ปวดหัวหมดแรง ขนาดนี้เลย เราถึงข้างบนนั้นเรายิ้มไม่ออก ความรู้สึกตอนนั้นคือ เราปวดหัวมากๆแล้ววันต่อๆไปเราจะเดินไหวรึเปล่า ยิ่งพาส3สูงกว่านี้อีกเราต้องไม่ไหวแน่ๆเลย แล้วเราก็ร้องไห้ออกมาอีก ส่วนแฟนเราก็บอกว่าปวดหัวเหมือนกัน อดทนไว้นะ เราเดินลงไปอีกนิดก็ถึงที่พักแล้ว ..........จากนั้นถ่ายรูปกันได้สักพักก็เดินลงไปยังหมู่บ้านGokyo ....เราอยู่บนยอดมองลงไปเห็นหมู่บ้าน เหมือนจะเดินใกล้นะ แต่เราเดินลงไปมันก็ไม่ถึงสักที วันนี้เราเดินช้ามากเพราะยิ่งเดินเร็วยิ่งปวดหัว ไม่เคยปวดแบบนี้มาก่อน..เราเดินถึงที่พักประมาณ18.30 เริ่มมืด จนต้องใช้ไฟฉายนำทาง........ และแล้วเราก็เดินถึงหมู่บ้านจนมืด พอถึงที่พักต้องสั่งอาหารไว้ แต่เราปวดหัวมากจนกินข้าวไม่ลงและอยากอาเจียน ส่วนแฟนเราก็ปวดหัวแต่ไม่มากเท่าเรา เรากินอะไรไม่ได้เลยเราก็เลยกลับห้อง กินยาDiamoxไปครึ่งเม็ดแล้วก็หลับไปเลย สรุปวันนั้นไม่ได้กินข้าวเย็น ......
ภาพนี้เป็นเวลาที่ขำตัวเองที่สุด เราขึ้นมาก่อนสองคนนั้น เรายืนยิ้ม...สักพักไกด์กับแฟนเดินมาถึง และเหมือนไกด์จะรู้ว่าเราคิดอะไร จึงบอกกับเราประมาณว่า "นี่ยังไม่ถึงพาส และยังไม่ถึงครึ่งทาง".........จ๋อยเลยสิเราฮ่าๆๆๆๆ แต่ไม่เป็นเราขอยิ้มถ่ายรูปไปก่อนขึ้นพาสแล้วกันนะ หึหึ
เอ้าถึงแล้ว ไม่มีวี่แววของอารมณ์ดีใจเลย ร้องไห้...นอยด์..ปวดหัว..หนาว
หันไปดูวิวข้างหลังสิที่เราเดินมา เราเดินมาได้ไงเนี่ยโคตรไกล
ช่วงเวลานั้นเราเป็นคนสุดท้ายที่เดินขึ้นมาถึง ทุกคนต่างหยิบกล้องมาถ่าย แต่ดูสิเวลาของเรามันน้อยพายุหิมะตามหลังมา เราจะโดนไหมเนี้ย.....สุดท้ายเราก็ไม่โดนพายุหิมะ ช่างโชคดีเหลือเกิน
เราเดินลงไปเรื่อยๆ และเห็นหมู่บ้านเล็กๆอยู่ข้างหน้า
วันที่7 : Gokyo to Thonak Tsho lake (4870m).
วันที่8 :Morning hike to Gokyo ri ( 5,340 m ) แล้วกลับลงไปนอนที่ Thangnak ( 4,700 m )
.......วันรุ่งขึ้นของวันที่7ปรากฏว่าเราหายปวดหัว ไกด์พาไปเดินดู Thonak Tsho lake แล้วก็กลับลงพาที่Gokyo valley พักอีกหนึ่งคืน free dayครึ่งวัน แต่อีกวันเราต้องขึ้นไปacclimatize ที่gokyo ri(5,340 m)อีกวัน...เราคิดว่า ถ้าเราขึ้นไปเราต้องปวดหัวอีกตามเคย .....แต่ไม่เลยพอเราขึ้นไปเรากลับไม่ปวดหัว แต่อากาศเย็นมากๆหนาวที่สุด เท้าและมือปวดมากๆ เราเดินขึ้นไปเรื่อยๆ แฟนเรากับไกด์ถึงก่อน เราเกือบจะถึงแล้วเหลืออีก100เมตร เราจะถึงGokyo riแต่เป็นตะคริวซะก่อน ในชีวิตเราไม่เคยเป็นตะคริวมาก่อน ครั้งนี้แหละครั้งแรก อากาศหนาวเกินไปฮ่าๆๆๆๆ เราก็เลยนั่งนวดเท้าอยู่ตรงนั้นก็เลยตัดสินใจไม่ขึ้นไป และเดินลงไปก่อน ......(ในขณะนั้นแฟนตะโกนลงมาว่า...”จะถึงแล้วทำไมเธอไม่ขึ้นไป!!!!”.....ขอโทษนะฉันขึ้นไม่ไหวจริงๆปวดขามากๆจะนั่งอยู่ตรงนี้รอนะ)
Gokyo lake
ภาพนี้เรากำลังจะเดินไปThonak Tsho lake
นี่คือทะเลสาบThonak Tsho จากนั้นเราก็เดินกลับไปยังหมู่บ้านGokyo
ตะวันตกดินที่Gokyo lake
ตื่นเช้าไปAcclimatize Gokyo ri ไปดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่เราไปไม่ถึงยอดเพราะเป็นตะคริวไปก่อน
แต่แฟนของเราเดินไปจนถึง Gokyo ri
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น