สวัสดีครับชาวสังคม pantip ทุกท่าน
กระทู้นี้น่าจะเป็นกระทู้แรกบนสังคมพูดคุยใน pantip ของผม ปกติผมก็ไม่ค่อยได้ออกมาเขียนข้อความเกี่ยวกับครอบครัวเท่าไหร่ เพราะครอบครัวผมอบอุ่นดีทุกอย่าง ทั้งแฟน ผม และคนอื่นๆในบ้านก็รักใครกลมเกลียวกันดี จนมาถึงวันนี้....
ต้องเกริ่นนำกันก่อนนะครับว่า ตอนนี้ผมอายุ 30 ต้นๆ การงานมั่นคงดี การเงิน สังคม สุขภาพกายและใจปกติดีทุกอย่าง แม้ไม่ร่ำรวยมากมายแต่ก็อยู่ได้แบบพอเพียง ผมมีแฟนที่น่ารักที่คบกันมาตั้งแต่เรียนปี 1 เป็นแฟนกันมา 13 ปี และเราแต่งงานกันแล้วนับถึงวันนี้ก็ 2 ปีกว่าๆ
ผมกับแฟนช่วยกันสร้างฐานะ เราใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย เก็บเงินซื้อรถหรูๆ ไว้ขับได้คันหนึ่ง เราไม่ได้ถูกหวยหรือรวยนะครับ แต่รถมันเป็นรถหรูมือสองที่ราคาถูกลงแล้ว ก็เลยซื้อได้ ราคาก็ไม่ถึงล้าน แต่ตอนมือหนึ่ง 3 ล้านกว่า รถคันนี้ผมเคยอยากได้มากสมัยเป็นนักศึกษา ตอนนั้นเรียนอยู่ไม่มีเงิน เลยรอให้มันเก่าจนราคามือสองถูกลงถึงซื้อ เอาเป็นว่าผมวางแผนเรื่องรถมา 10 ปีเลยทีเดียว (อันนี้เล่าให้ฟังเรียกน้ำย่อย)
เรื่องบ้าน ผมกับแฟนก็ยังไม่ได้ซื้อ เพราะเราปรึกษากันเสมอว่ามันเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ ถ้าตัดสินใจไปแล้วจะต้องจ่ายค่าบ้านหลายสิบปี ทุกวันนี้เราจึงอยู่ห้องเช่าสวัสดิการเล็กๆ ก็อยู่ได้ตามอัตภาพ หน้าร้อนก็มีแอร์ หน้าหนาวก็อุ่นสบาย
เรื่องลูก แฟนผมเขาก็อยากมีเหมือนกัน เพราะเขาอายุมากกว่าผม 1 ปี เขามักจะบ่นว่าแก่แล้ว อายุมากกว่านี้จะมีลูกยาก แต่ผมก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่า เราสองคนยังต้องมีภาระกันอยู่ เพราะผมเองก็ต้องส่งเงินกลับบ้านให้พ่อแม่ และส่งน้องชายตัวเองที่กำลังเรียนปี 1 ซึ่งเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ อย่างน้อยๆ ก็อีก 4 ปี ถึงจะหมดภาระของครอบครัวผม
สำหรับครอบครัวแฟนผมไม่น่ามีอะไรที่จะต้องเครียด เพราะพี่ชายของแฟนผมเป็นข้าราชการยศสูงแล้ว พี่สะใภ้ของแฟนผมก็ทำงานดี ทั้งคู่เป็นข้าราชการ แถมมีลูกน่ารักๆ แล้วถึง 2 คน ผมและแฟนก็ช่วยกันดูแลหลานๆ และหลานๆ ก็รักเราเหมือนพ่อแม่คนที่สอง ก็จัดว่าแฮปปี้กันพอสมควร
ตัวผมกับแฟนทำงานอยู่จังหวัดหนึ่ง พี่ชายของแฟนผมก็ซื้อบ้านสร้างครอบครัวอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ห่างกันราวๆ 200 กม. แต่ก็ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ประมาณเดือนละครั้ง บางเดือนก็ 2 ครั้ง ที่ไปหาบ่อยๆ เพราะพี่ชายของแฟนให้แม่มาช่วยเลี้ยงลูก เดิมทีแม่แฟนผมอยู่ต่างจังหวัด พอพี่ชายของแฟนมีลูกเลยให้แม่มาช่วยเลี้ยง อันนี้ผมคงอธิบายไม่งงกันนะครับ (ส่วนพ่อของแฟนผมเสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้ว จึงไม่ขอพูดถึง)
แม่แฟนผมไปเลี้ยงลูกให้พี่ชายแฟน ที่บ้านของพี่ชายแฟนผม ก็ดูปกติดี ไม่มีอะไรต้องกังวล ทุกคนในครอบครัวมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วันหยุดผมและแฟนก็จะขับรถไปหาแม่ พาแม่ หลานๆ เที่ยวสนุกสนานตามประสาชีวิตครอบครัวเล็กๆ
แล้วมันมีปัญหาตรงไหน......#####
สิบกว่าปีก่อนที่ผมตามจีบแฟน ผมตามไปถึงบ้านเกิดของเธอ ซึ่งอยู่ทางภาคอีสาน แม่ยายผมในปัจจุบัน เธอเป็นคนที่ชอบเล่นหวยมาก แต่ละงวดเล่นหนักพอสมควร แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ บอกตรงๆ เพราะหวังได้ลูกสาวเขา เลยทำเป็นเมิน เออ-ออ ไปทุกเรื่อง แต่คิดไว้แล้วว่าเล่นหวยแบบนี้สักวันคงหมดตัวแน่นอน
แฟนผมเองก็เหมือนรู้พฤติกรรมของแม่มาโดยตลอด ผมก็ไม่ได้ยุ่งหรือพูดมากอะไร ก็มีเตือนผ่านแฟนผมบ้างว่าให้ปรามๆ แม่บ้าง จวบจนเมื่อ 8 เดือนก่อน แม่ยายผมมีแผนจะขายที่ดินมรดกในต่างจังหวัด ราคาก็หลักล้าน และแกก็ติดต่อหาคนซื้อได้แล้ว แม่ยายได้ขอให้ผมกับแฟนพาแกกลับบ้านเพื่อไปเคลียร์เรื่องการขายที่ดิน ผมก็พาไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร
ตลอดเวลาที่ไปดำเนินการเรื่องการขายที่ดิน ผมรู้สึกแปลกๆ แต่ก็เก็บสิ่งที่สงสัยไว้ในหัวมาตลอด ด้วยความที่ผมไม่อยากยุ่งกับเงินของครอบครัวแฟน ผมเลยทำหน้าที่เป็นคนขับรถอย่างเดียว ไม่ยุ่งอะไรกับเขามาก แต่ก็แอบเก็บข้อมูลอยู่ห่างๆ
หลังจากแม่ยายขายที่ดินเสร็จ ผู้ซื้อก็ตกลงกันว่าจะจ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง เนื่องจากเงินมันเยอะ ผู้ซื้อเตรียมเงินมาไม่พอ และอีกครึ่งสุดท้ายจะจ่ายให้ไม่เกิน 1 เดือนพร้อมกันในวันเซ็นโอน จริงๆ ผมกับแฟนก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะก่อนมาตกลงกันแล้วว่าจะจ่ายครบและไปโอนเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะแม่ยายผมออกอารมณ์ เหมือนไม่อยากให้ผมกับแฟนเข้าไปเกี่ยว และอ้างเสมอว่าคนซื้อเป็นคนรู้จักกันดีไม่น่าโกงกัน (คนซื้อที่ดินเป็นเพื่อนแม่ยายผม และเป็นครูสมัยปฐมของแฟนผม)
สรุปก็เอาเป็นว่า เราไปต่างจังหวัดเพื่อขายที่ดินราคาประมาณล้านกว่าๆ แต่ได้เงินมาแค่ครึ่งเดียว แม่ยายผมเอาเงินสดให้แฟนผม 2 แสน แล้วบอกว่าเป็นเงินที่แฟนผมเคยใช้หนี้ให้ (เมื่อก่อนที่ดินผืนที่จะขายเคยติดจำนอง แฟนผมกู้เงินธนาคารไปไถ่คืนมาให้แม่) และแม่ก็เก็บเงินส่วนที่เหลือ 3 แสน ไว้กับตัว จนเรากลับมาถึงบ้านพี่ชาย
หลังจากนั้นอีกหลายเดือน ก็ไม่มีวี่แววว่าผู้ซื้อที่ดินจะโทรมาหาเราเลย ผมก็ได้แต่เตือนแฟนว่า "ถามแม่หรือยังทำไมเงียบไป เงินเหลืออีกตั้งหลายแสน เขาจะจ่ายเราไหม" แฟนผมก็ได้แต่บอกว่าเขายังไม่ติดต่อมา จนเลยมาถึง 8 เดือน ก็ยังเงียบ
แล้วจู่ๆ...พี่ชายแฟนซึ่งตอนนี้ปฏิบัติงานอยู่ชายแดนก็โทรมาหาแฟนผม บอกว่ามีคนโทรไปทวงหนี้กับแก 2 แสนกว่าบาทเพราะแม่ไปกู้ไว้แล้วไม่คืนตามกำหนด ผมและแฟนตกใจมากจึงไปคั้นเอาความจริงจากแม่ สุดท้ายถึงรู้ว่าแกเอาเงินจากการขายที่ไปลงทุนกับหวยใต้ดิน ทั้งเล่นเอง และรับเป็นเจ้ามือ สุดท้ายหมุนเงินไม่ทันจนต้องเป็นหนี้เพิ่ม
ผมช๊อก!!! มาก เพราะเงินที่แม่ยายผมเก็บติดตัวไว้ก็ตั้ง 3 แสน หมดเกลี้ยง แถมเป็นหนี้เพิ่มมาอีก 2 แสนกว่าๆ ด้วยความที่ผมยังมีสติจึงบอกแฟนว่าเดี๋ยวไปเบิกเงินที่แม่เคยให้มา 2 แสน ไปใช้หนี้ให้แม่ล่ะกัน แต่สิ่งที่แฟนผมพูดกลับมาทำให้ผมแทบทรุด เพราะแฟนผมบอกว่า เงินส่วนหนึ่งแม่ก็ขอคืนไปแล้วเกือบแสน ที่เหลือก็ซื้อทองเก็บไว้นิดหน่อย สรุปคือ เงิน 2 แสนที่มีกันก็แทบเกลี้ยงและผมก็ไม่รู้เลยว่ามันเกลี้ยงแล้ว (ผมคือคนแรกที่สงสัย แต่ก็เป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่อง)
ผมมานั่งคิด เอาวะ..!! ก็คงเหลืออีกทางเดียว คือติดต่อคนที่ซื้อที่ดิน เพราะเขาค้างเงินไว้อยู่ครึ่งล้าน แฟนผมเลยโทรไปหาคนที่ซื้อที่ดินเรา แต่ที่ทำให้เราแทบสิ้นใจคือ คนที่ซื้อที่บอกกับผมและแฟนว่า เขาโอนเงินส่วนที่เหลือเกือบๆ 5 แสน มาให้แม่หมดแล้วมีหลักฐานการโอนครบ เพราะแม่โทรไปทวงเอง แถมเขาก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่เราจะไปโอนที่ให้เขาสักที.....พระเจ้าจอร์ช ถึงจุดนี้ ผมนี่..อยากมุดดินหนีเลย
สรุปคือ แม่ยายผมขายที่ดินเอาเงินก้อนแรกไป 3 แสน เล่นหวยจนหมด แล้วมาขอเงินจากแฟนผมไปอีก 1 แสน ก็หมด แล้วโทรไปทวงเงินขายที่อีก 5 แสน มาลงกับหวยจนหมดอีก และตอนนี้ก็เป็นหนี้นอกระบบเพิ่มมากอีก 2 แสน เบ็ดเสร็จแกหมดเงินไปกับหวยในเวลา 8 เดือน เป็นเงินสดๆ 8 แสนบาท พร้อมกับมีหนี้นอกระบบขึ้นมาอีก 2 แสนบาท โอย...เงิบ
ตอนนี้ พี่ชายแฟนผม และแฟนผม เครียดกันมาก แม้แต่ละคนจะทำงานเงินเดือนสูงกันแล้ว แต่การหาเงินก้อนเป็นแสนภายในเวลาไม่กี่วันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และที่น่าเสียใจคือเราปล่อยให้แม่หมกมุ่นอยู่กับหวยใต้ดินจนสิ้นเนื้อประดาตัว
ที่ผ่านมา แม่ยายผมแกก็ไม่เคยลำบากอะไร แกอยู่บ้านเลี้ยงหลาน 2 คน กับลูกสะใภ้ เงินทองลูกๆ ส่งให้แกใช้ไม่ขาดมือ ภาระในบ้านแม่ไม่เคยต้องออกเงินอะไร แกเองก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับว่าผิดไปแล้ว ที่ลูกๆ เสียใจคือ ในอดีตแกก็เคยเล่นหวยจนหมดตัว เอาที่ดินไปจำนอง ลูกสาว (แฟนผม) ก็ไปหาเงินมาไถ่ถอนให้ แต่แกก็ยังไม่เข็ดหลาบ จมไปกับหวยอีก ซึ่งครั้งนี้มันมากมายจริงๆ
หลังจากที่รู้เรื่อง 3-4 วันมานี้ แฟนผมร้องไห้ทุกวัน ผมเห็นแฟนร้องไห้แล้วเวทนามากๆ เพราะเงินที่สูญไปมันไม่ใช่น้อยๆ (เป็นล้าน) และยังมีหนี้ที่ต้องช่วยใช้อีก 2 แสนกว่าบาท (นอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน) แฟนผมเธอรักแม่มาก และเธอก็เสียใจมากที่แม่หวนกลับไปซ้ำรอยเดิม เธอได้แต่ร้องไห้เสียใจ...
ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร คิดไว้ว่าจะขายรถ แล้วก็ทองกับข้าวของที่มี เอาเงินไปเคลียร์หนี้ให้แม่ยาย แต่วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าแกจะกลับมาทำแบบนี้อีกหรือเปล่า เราคนเป็นลูกว่าแม่มากก็ไม่ได้ เพราะยังไงก็คือแม่ เวลาที่เราเตือนหรือห้ามแกก็รับปาก แต่หลับหลังแกก็ไปทำอีก
ที่ออกมาพูดมาเขียนให้ฟังไม่ใช่อยากจะประจานปัญหาในครอบครัวนะครับ เพียงแค่อยากระบายให้ฟังกันเป็นอุทาหรณ์ และวันนี้เวลานี้ แฟนผมก็ยังเสียใจ ร้องไห้ไม่เป็นอันกิน นอน หรือทำงาน .... เศร้าใจจริงๆ
เกิดเป็นลูกเขยแบบผม คงได้แต่ทำใจ
กระทู้นี้น่าจะเป็นกระทู้แรกบนสังคมพูดคุยใน pantip ของผม ปกติผมก็ไม่ค่อยได้ออกมาเขียนข้อความเกี่ยวกับครอบครัวเท่าไหร่ เพราะครอบครัวผมอบอุ่นดีทุกอย่าง ทั้งแฟน ผม และคนอื่นๆในบ้านก็รักใครกลมเกลียวกันดี จนมาถึงวันนี้....
ต้องเกริ่นนำกันก่อนนะครับว่า ตอนนี้ผมอายุ 30 ต้นๆ การงานมั่นคงดี การเงิน สังคม สุขภาพกายและใจปกติดีทุกอย่าง แม้ไม่ร่ำรวยมากมายแต่ก็อยู่ได้แบบพอเพียง ผมมีแฟนที่น่ารักที่คบกันมาตั้งแต่เรียนปี 1 เป็นแฟนกันมา 13 ปี และเราแต่งงานกันแล้วนับถึงวันนี้ก็ 2 ปีกว่าๆ
ผมกับแฟนช่วยกันสร้างฐานะ เราใช้ชีวิตกันแบบเรียบง่าย เก็บเงินซื้อรถหรูๆ ไว้ขับได้คันหนึ่ง เราไม่ได้ถูกหวยหรือรวยนะครับ แต่รถมันเป็นรถหรูมือสองที่ราคาถูกลงแล้ว ก็เลยซื้อได้ ราคาก็ไม่ถึงล้าน แต่ตอนมือหนึ่ง 3 ล้านกว่า รถคันนี้ผมเคยอยากได้มากสมัยเป็นนักศึกษา ตอนนั้นเรียนอยู่ไม่มีเงิน เลยรอให้มันเก่าจนราคามือสองถูกลงถึงซื้อ เอาเป็นว่าผมวางแผนเรื่องรถมา 10 ปีเลยทีเดียว (อันนี้เล่าให้ฟังเรียกน้ำย่อย)
เรื่องบ้าน ผมกับแฟนก็ยังไม่ได้ซื้อ เพราะเราปรึกษากันเสมอว่ามันเป็นภาระที่ยิ่งใหญ่ ถ้าตัดสินใจไปแล้วจะต้องจ่ายค่าบ้านหลายสิบปี ทุกวันนี้เราจึงอยู่ห้องเช่าสวัสดิการเล็กๆ ก็อยู่ได้ตามอัตภาพ หน้าร้อนก็มีแอร์ หน้าหนาวก็อุ่นสบาย
เรื่องลูก แฟนผมเขาก็อยากมีเหมือนกัน เพราะเขาอายุมากกว่าผม 1 ปี เขามักจะบ่นว่าแก่แล้ว อายุมากกว่านี้จะมีลูกยาก แต่ผมก็พยายามอธิบายให้เขาฟังว่า เราสองคนยังต้องมีภาระกันอยู่ เพราะผมเองก็ต้องส่งเงินกลับบ้านให้พ่อแม่ และส่งน้องชายตัวเองที่กำลังเรียนปี 1 ซึ่งเข้ามาเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพ อย่างน้อยๆ ก็อีก 4 ปี ถึงจะหมดภาระของครอบครัวผม
สำหรับครอบครัวแฟนผมไม่น่ามีอะไรที่จะต้องเครียด เพราะพี่ชายของแฟนผมเป็นข้าราชการยศสูงแล้ว พี่สะใภ้ของแฟนผมก็ทำงานดี ทั้งคู่เป็นข้าราชการ แถมมีลูกน่ารักๆ แล้วถึง 2 คน ผมและแฟนก็ช่วยกันดูแลหลานๆ และหลานๆ ก็รักเราเหมือนพ่อแม่คนที่สอง ก็จัดว่าแฮปปี้กันพอสมควร
ตัวผมกับแฟนทำงานอยู่จังหวัดหนึ่ง พี่ชายของแฟนผมก็ซื้อบ้านสร้างครอบครัวอยู่อีกจังหวัดหนึ่ง ห่างกันราวๆ 200 กม. แต่ก็ไปมาหาสู่กันบ่อยๆ ประมาณเดือนละครั้ง บางเดือนก็ 2 ครั้ง ที่ไปหาบ่อยๆ เพราะพี่ชายของแฟนให้แม่มาช่วยเลี้ยงลูก เดิมทีแม่แฟนผมอยู่ต่างจังหวัด พอพี่ชายของแฟนมีลูกเลยให้แม่มาช่วยเลี้ยง อันนี้ผมคงอธิบายไม่งงกันนะครับ (ส่วนพ่อของแฟนผมเสียชีวิตไปหลายสิบปีแล้ว จึงไม่ขอพูดถึง)
แม่แฟนผมไปเลี้ยงลูกให้พี่ชายแฟน ที่บ้านของพี่ชายแฟนผม ก็ดูปกติดี ไม่มีอะไรต้องกังวล ทุกคนในครอบครัวมีสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาก วันหยุดผมและแฟนก็จะขับรถไปหาแม่ พาแม่ หลานๆ เที่ยวสนุกสนานตามประสาชีวิตครอบครัวเล็กๆ
แล้วมันมีปัญหาตรงไหน......#####
สิบกว่าปีก่อนที่ผมตามจีบแฟน ผมตามไปถึงบ้านเกิดของเธอ ซึ่งอยู่ทางภาคอีสาน แม่ยายผมในปัจจุบัน เธอเป็นคนที่ชอบเล่นหวยมาก แต่ละงวดเล่นหนักพอสมควร แต่ผมก็ทำเป็นไม่สนใจ บอกตรงๆ เพราะหวังได้ลูกสาวเขา เลยทำเป็นเมิน เออ-ออ ไปทุกเรื่อง แต่คิดไว้แล้วว่าเล่นหวยแบบนี้สักวันคงหมดตัวแน่นอน
แฟนผมเองก็เหมือนรู้พฤติกรรมของแม่มาโดยตลอด ผมก็ไม่ได้ยุ่งหรือพูดมากอะไร ก็มีเตือนผ่านแฟนผมบ้างว่าให้ปรามๆ แม่บ้าง จวบจนเมื่อ 8 เดือนก่อน แม่ยายผมมีแผนจะขายที่ดินมรดกในต่างจังหวัด ราคาก็หลักล้าน และแกก็ติดต่อหาคนซื้อได้แล้ว แม่ยายได้ขอให้ผมกับแฟนพาแกกลับบ้านเพื่อไปเคลียร์เรื่องการขายที่ดิน ผมก็พาไปด้วยดีไม่มีปัญหาอะไร
ตลอดเวลาที่ไปดำเนินการเรื่องการขายที่ดิน ผมรู้สึกแปลกๆ แต่ก็เก็บสิ่งที่สงสัยไว้ในหัวมาตลอด ด้วยความที่ผมไม่อยากยุ่งกับเงินของครอบครัวแฟน ผมเลยทำหน้าที่เป็นคนขับรถอย่างเดียว ไม่ยุ่งอะไรกับเขามาก แต่ก็แอบเก็บข้อมูลอยู่ห่างๆ
หลังจากแม่ยายขายที่ดินเสร็จ ผู้ซื้อก็ตกลงกันว่าจะจ่ายก่อนครึ่งหนึ่ง เนื่องจากเงินมันเยอะ ผู้ซื้อเตรียมเงินมาไม่พอ และอีกครึ่งสุดท้ายจะจ่ายให้ไม่เกิน 1 เดือนพร้อมกันในวันเซ็นโอน จริงๆ ผมกับแฟนก็ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ เพราะก่อนมาตกลงกันแล้วว่าจะจ่ายครบและไปโอนเลย แต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะแม่ยายผมออกอารมณ์ เหมือนไม่อยากให้ผมกับแฟนเข้าไปเกี่ยว และอ้างเสมอว่าคนซื้อเป็นคนรู้จักกันดีไม่น่าโกงกัน (คนซื้อที่ดินเป็นเพื่อนแม่ยายผม และเป็นครูสมัยปฐมของแฟนผม)
สรุปก็เอาเป็นว่า เราไปต่างจังหวัดเพื่อขายที่ดินราคาประมาณล้านกว่าๆ แต่ได้เงินมาแค่ครึ่งเดียว แม่ยายผมเอาเงินสดให้แฟนผม 2 แสน แล้วบอกว่าเป็นเงินที่แฟนผมเคยใช้หนี้ให้ (เมื่อก่อนที่ดินผืนที่จะขายเคยติดจำนอง แฟนผมกู้เงินธนาคารไปไถ่คืนมาให้แม่) และแม่ก็เก็บเงินส่วนที่เหลือ 3 แสน ไว้กับตัว จนเรากลับมาถึงบ้านพี่ชาย
หลังจากนั้นอีกหลายเดือน ก็ไม่มีวี่แววว่าผู้ซื้อที่ดินจะโทรมาหาเราเลย ผมก็ได้แต่เตือนแฟนว่า "ถามแม่หรือยังทำไมเงียบไป เงินเหลืออีกตั้งหลายแสน เขาจะจ่ายเราไหม" แฟนผมก็ได้แต่บอกว่าเขายังไม่ติดต่อมา จนเลยมาถึง 8 เดือน ก็ยังเงียบ
แล้วจู่ๆ...พี่ชายแฟนซึ่งตอนนี้ปฏิบัติงานอยู่ชายแดนก็โทรมาหาแฟนผม บอกว่ามีคนโทรไปทวงหนี้กับแก 2 แสนกว่าบาทเพราะแม่ไปกู้ไว้แล้วไม่คืนตามกำหนด ผมและแฟนตกใจมากจึงไปคั้นเอาความจริงจากแม่ สุดท้ายถึงรู้ว่าแกเอาเงินจากการขายที่ไปลงทุนกับหวยใต้ดิน ทั้งเล่นเอง และรับเป็นเจ้ามือ สุดท้ายหมุนเงินไม่ทันจนต้องเป็นหนี้เพิ่ม
ผมช๊อก!!! มาก เพราะเงินที่แม่ยายผมเก็บติดตัวไว้ก็ตั้ง 3 แสน หมดเกลี้ยง แถมเป็นหนี้เพิ่มมาอีก 2 แสนกว่าๆ ด้วยความที่ผมยังมีสติจึงบอกแฟนว่าเดี๋ยวไปเบิกเงินที่แม่เคยให้มา 2 แสน ไปใช้หนี้ให้แม่ล่ะกัน แต่สิ่งที่แฟนผมพูดกลับมาทำให้ผมแทบทรุด เพราะแฟนผมบอกว่า เงินส่วนหนึ่งแม่ก็ขอคืนไปแล้วเกือบแสน ที่เหลือก็ซื้อทองเก็บไว้นิดหน่อย สรุปคือ เงิน 2 แสนที่มีกันก็แทบเกลี้ยงและผมก็ไม่รู้เลยว่ามันเกลี้ยงแล้ว (ผมคือคนแรกที่สงสัย แต่ก็เป็นคนสุดท้ายที่รู้เรื่อง)
ผมมานั่งคิด เอาวะ..!! ก็คงเหลืออีกทางเดียว คือติดต่อคนที่ซื้อที่ดิน เพราะเขาค้างเงินไว้อยู่ครึ่งล้าน แฟนผมเลยโทรไปหาคนที่ซื้อที่ดินเรา แต่ที่ทำให้เราแทบสิ้นใจคือ คนที่ซื้อที่บอกกับผมและแฟนว่า เขาโอนเงินส่วนที่เหลือเกือบๆ 5 แสน มาให้แม่หมดแล้วมีหลักฐานการโอนครบ เพราะแม่โทรไปทวงเอง แถมเขาก็รออยู่ว่าเมื่อไหร่เราจะไปโอนที่ให้เขาสักที.....พระเจ้าจอร์ช ถึงจุดนี้ ผมนี่..อยากมุดดินหนีเลย
สรุปคือ แม่ยายผมขายที่ดินเอาเงินก้อนแรกไป 3 แสน เล่นหวยจนหมด แล้วมาขอเงินจากแฟนผมไปอีก 1 แสน ก็หมด แล้วโทรไปทวงเงินขายที่อีก 5 แสน มาลงกับหวยจนหมดอีก และตอนนี้ก็เป็นหนี้นอกระบบเพิ่มมากอีก 2 แสน เบ็ดเสร็จแกหมดเงินไปกับหวยในเวลา 8 เดือน เป็นเงินสดๆ 8 แสนบาท พร้อมกับมีหนี้นอกระบบขึ้นมาอีก 2 แสนบาท โอย...เงิบ
ตอนนี้ พี่ชายแฟนผม และแฟนผม เครียดกันมาก แม้แต่ละคนจะทำงานเงินเดือนสูงกันแล้ว แต่การหาเงินก้อนเป็นแสนภายในเวลาไม่กี่วันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย และที่น่าเสียใจคือเราปล่อยให้แม่หมกมุ่นอยู่กับหวยใต้ดินจนสิ้นเนื้อประดาตัว
ที่ผ่านมา แม่ยายผมแกก็ไม่เคยลำบากอะไร แกอยู่บ้านเลี้ยงหลาน 2 คน กับลูกสะใภ้ เงินทองลูกๆ ส่งให้แกใช้ไม่ขาดมือ ภาระในบ้านแม่ไม่เคยต้องออกเงินอะไร แกเองก็ได้แต่ก้มหน้ายอมรับว่าผิดไปแล้ว ที่ลูกๆ เสียใจคือ ในอดีตแกก็เคยเล่นหวยจนหมดตัว เอาที่ดินไปจำนอง ลูกสาว (แฟนผม) ก็ไปหาเงินมาไถ่ถอนให้ แต่แกก็ยังไม่เข็ดหลาบ จมไปกับหวยอีก ซึ่งครั้งนี้มันมากมายจริงๆ
หลังจากที่รู้เรื่อง 3-4 วันมานี้ แฟนผมร้องไห้ทุกวัน ผมเห็นแฟนร้องไห้แล้วเวทนามากๆ เพราะเงินที่สูญไปมันไม่ใช่น้อยๆ (เป็นล้าน) และยังมีหนี้ที่ต้องช่วยใช้อีก 2 แสนกว่าบาท (นอกระบบ ดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อเดือน) แฟนผมเธอรักแม่มาก และเธอก็เสียใจมากที่แม่หวนกลับไปซ้ำรอยเดิม เธอได้แต่ร้องไห้เสียใจ...
ตอนนี้ผมเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร คิดไว้ว่าจะขายรถ แล้วก็ทองกับข้าวของที่มี เอาเงินไปเคลียร์หนี้ให้แม่ยาย แต่วันข้างหน้าก็ไม่รู้ว่าแกจะกลับมาทำแบบนี้อีกหรือเปล่า เราคนเป็นลูกว่าแม่มากก็ไม่ได้ เพราะยังไงก็คือแม่ เวลาที่เราเตือนหรือห้ามแกก็รับปาก แต่หลับหลังแกก็ไปทำอีก
ที่ออกมาพูดมาเขียนให้ฟังไม่ใช่อยากจะประจานปัญหาในครอบครัวนะครับ เพียงแค่อยากระบายให้ฟังกันเป็นอุทาหรณ์ และวันนี้เวลานี้ แฟนผมก็ยังเสียใจ ร้องไห้ไม่เป็นอันกิน นอน หรือทำงาน .... เศร้าใจจริงๆ