ลดความอ้วนในระยะเวลา3เดือนของตุ๊ดขี้มโน BY น้องหน่อย

[CR] ลดความอ้วนในระยะเวลา3เดือนของตุ๊ดขี้มโน BY น้องหน่อย

กระทู้รีวิว

ศัลยกรรมความงาม ลดความอ้วน ปัญหาชีวิต วิ่งเพื่อสุขภาพ

ลดความอ้วนในระยะเวลา3เดือนของตุ๊ดขี้มโน BY น้องหน่อย

กราบบบ สวัสดีเพื่อนๆทุกคนอีกครั้งนะค่ะ หลังจากที่ไม่ได้เข้ามาเจอะเจอกันน๊านนานมากมายเป็นปีก็ว่าได้เลย กับเมื่อคราวก่อนหน้านี้ที่เคยมารีวิว การทำสวย
ศัลยกรรม ให้ดูกันไป เดียวเอามาแปะให้ดูด้านล่างค่า
http://ppantip.com/topic/31401074
รีวิวการ "โมดิฟายหน้า" พัฒนาตัวเองให้ดูดีขึ้น by น้องหน่อย
http://ppantip.com/topic/31522845
" รีวิว ปากกระจับ " By น้องหน่อย

มาถึงตอนนี้ต้องเกริ่นก่อนว่า ตัวเองเกิดมาเป็นคนอ้วนตั้งแต่เด็กเพราะกินเยอะมากจริงๆ จำความได้ว่าตั้งแต่อยู่ชั้น ป.4 น้ำหนักประมาณ 63 และก็ขึ้นแบบไม่มีท่าทีจะปราณีร่างกันเลยทีเดียว แต่ก็เคยลดสำเร็จมาแล้วตอนม.ปลาย ครั้งนึวแต่ตอนนั้นลดด้วยวิธัที่เรียกว่าแบบ ไม่โอเค และทรมานมาก คือ ไม่ได้ใช้การออกกำลังกายเลย แต่เลือกใช้วิธี อดอาหาร แต่อดอาหารแบบ ในเวลาสองวัน กินแค่มื้อเที่ยงของวันทั่สอง ง่ายๆก็คือ สองวันกินมื้อเดียว ทำให้ตอนนั้นระยะเวลาเดือนครึ่งลดไปเกือบ ยี่สิบกิโล เพื่อนทัก เป็นเอดส์หรอ ? 555 เล่นยาหรอ 5555 แต่ด้วยตอนนั้นเป็นช่วงปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น กระตุ่นรัก ไงค่ะ เลยเอาแต่นอนอยู่บนเตียง ทั้งวันไม่กินอะไรเลย แต่พอเราน้ำหนักลงมาแล้วเราก็ ปล่อยตัวแบบเอ๊ะชั้นผอมนะจนมันก็ขึ้นมาเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆ จนแตะ 70 แตะ 80 เฉียด 90 ตอนขึ้นมหาลัยอีกที แต่ลืมบอกทุกคนไปว่า น้องพึ่งยาลดน้ำหนัก กับ อาหารเสริมมาตั้งแต่ประมาณช่วง ม.2 และกินมาเรื่อยๆ นับนี่ห้อไม่ได้คงเป็นร้อยอะค่ะ (ขออณุญาติแทนตัวเองว่าน้องนะค่ะ ) อันนี้คือการท้าวความ 5555 เอาเป็นว่า เราก็บวมมาเรื่อยๆบวกกับโยโย่ ด้วย จนมาถึงประมาณ สามเดือนที่แล้ว เราไปชั่งน้ำหนักอ้าว 85 คือตกใจ
1. เวลาเราส่องกระจกตัวเราเราก็บอกตัวเองทุกวันนะค่ะว่าเราก็เหมือนเดิม สวย เหมือนเดิม
2.ช่วงนั้นมีการเข้าทำกิจกรรมของมหาลัย ซึ่งมีการวอร์ม และเสียเหงื่อ แต่ไม่มากมายเราก็หลอกตัวเองว่า ชั้นเหนื่อยนะกินได้ กว่าจะเลิกกิจกรรมของมหาลัยเสร็จก็ ประมาณ สี่ทุ่มถึงห้าทุ่มแล้ว ออกมาจากมหาลัยก็จัด ข้าวมันไก่ หน้าโลตัส น้ำตกข้าวเหนียวบ้าง อุปส์ ไม่ขึ้นได้ไง
สำคัญมากคือชอบหลอกตัวเองอยู่ทุกวัน เพราะเวลาเราถ่ายรูปตัวเองในมือถือของเรา เรามักถ่ายแค่หน้าหรือเวลาให้เพื่อนถ่ายให้ก็เวลาเรา แอค ท่าสวยๆบีบตัว หันมุมนั่นนี่ ที่ดูผอมที่สุด ภาพที่ออกจากมือถือเรา จึงไม่ต่างกับตอนผอมเท่าไรมั้ง 5555 ถ่ายหน้าตัวเองมาก็เอีะ ก็สวยเหมือนเดิม นี่นาาา ไอเราเองก็ทำหน้ามาทั้งหน้าแล้วด้วย ต้องสวยสิ แต่มีวันนึงเราได้ไปดูรูปกิจกรรม ของมหาลัย ที่เพื่อนถ่ายจากกล้องโปร แล้วทำให้รู้สึกว่า นี่กูอุปโหลกมานานขนาดไหนแล้ว ไม่ต้องสงสัยว่าทำไมหาผัวไม่ได้สักที ตอบดจทย์ทุกสิ่งอย่าง ทั้งกล้องความจริง ทั้งมุมเผลอ ตายนะค่ะ
ยอมรับเลยว่ามีความคิดแบบนี้ตลอดว่า หน้ามาก่อนหุ่นเสมอ ด้วยความที่ตัวเราทำหน้ามาทั้งหน้าแล้ว ตา จมูก คาง ปาก เป็นความคิดของคนทำหน้ามาทั้งหน้า อะไรประมาณน้นว่า ยังไงหน้ากูก็สวย โอเคอะ แต่พอมาเจอรูปคือ พักก่อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน

เป็นตุ๊ดอ้วนนนตั้งแต่ ม.ต้น

ปีาดดดดดดดดดดดดดดดด มาถึงช่วงมหาลัยปีหนึ่ง สวยปะหละ (ทำจมูกมาแล้วแต่จมูกอย่างเดียว)

อ่ะ ข้ามมมมมมมมมาถึงตอนช่วงง แต่งหญิงเต็มสตรีม ทำหน้ามาหมดแล้ว

จากนั้นก็ปล่อยตัวๆๆๆๆๆๆๆ บางคนอาจจะถามเอ๊ะทำไมตอนแต่งหญิงดูผอมไรงี้ แหมมมคุณพี่ ผ่านกล้องมือถือผ่านแอป มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้บ้างค่ะ 555
จากนั้นมาเราก็ตัดผม เพราะเบื่อการแต่งหญิงบางคนอาจงงเอ๊ะ เบื่อเฉย แต่เราเบื่อจริงๆ เอาเป็นว่าพแตัวผงตัดผมไรเสร็จก็เข้าทำกิจกรรมของมหาลัยตามที่บอกไว้ จากนั้นก็กินๆๆๆๆไม่ยั้ง ทั้งชีวิตที่ผ่านมา ทำทุกวิถีทางเพื่อจะผอม กินยา ทาครีม เซรั่ม ครีมอาบน้ำ ทำมาโหม้ดดดด ลดๆเพิ่มๆ ยกเว้น การออกกำลังกาย หลอกตัวเองมาทุกวัน ทั้งกล่องมือถือเอยทั้งนิสัยขี้มโนเอย จนมาเจอรูปจากกล้องโปร เป็นเช่นนี้ (ก่อนหน้านี้ประมาณ เกือบๆสามเดือน)
อุ๊ต้ะ นี่ด้านหลังนะ ในใจตอนนั้นคือ ทำไมตุ๊ดยักษ์ขนาดนี้

แตแดแดแด๊ แตแดแด๊แดแด่แด๊ 555

มาดาม สวย สวยอีก สวยอีก สวยอีก

แถมจากกล้องมือถือเพื่อนอีก

เห็นภาพพวกนี้แล้วตี้ขี้มโนอย่างเรา เหมือนดึงตัวเองกลับมาสู้โลกแห่งความจริงว่า ถ้าปล่อยตัวแบบนี้ ต้องหาผัวไม่ได้ไปตลอดชีวิตแน่ๆ หลังจากนั้นอีกสองสามวัน ฝืนตัวเองไปวิ่งในมหาลัย คิดในใจไม่กี่อย่าง นี่จ่ายค่าเทอมมาตั้งแพงแล้วใช้สถานที่ในมหาลัยให้คุ้มหน่อย ทำเพื่อตัวเองๆ เพื่อสวยๆ บลาๆๆ 555 เราหาแรงบรรดาลใจนะก่อนที่เราจะไปวิ่ง หารูปผู้ชายในไอจี ดารา หรือคนที่เราชอบๆ อยากได้เป็นแฟน เค้าหน้าตาดี๊ดีอะ ถ้าเราอยากได้แฟนหน้าตาระดับเค้า หรือถ้าเราอยากจะดุดีแบบเค้า เราก็ต้องลดด่วนนะอีหน่อยๆๆๆๆ ทำทั้งหน้าถ้าไม่ผอมก็ดับวูบนะเว้ย 555 บอกตัวเองแบบนั้น
เริ่มแรกเราเริ่มวิ่งจาก หน้ามหาลัยไปหลังมหาลัยและวิ่งกลับ และโหลดแอพจับระยะทางมาใช้ คือแอพ Runkeeper
จากหน้าม. ไปหลังม. ได้ระยะทางประมาณ 3 กิโล แต่เราว่ามันน้อยไปวันพรุ่งนี้ต้องเพิ่มระยะทาง ในอาทิตย์แรก เราวิ่งไล่กิโลเมตร จาก 3 เป็น 4 เป็น 5 เป็น 6 เป็น 7 เป็น 8 เป็น 9 เป็น 10 ทุกวัน วิ่งทุกวันวิ่งให้มันผอม ท่องไว้แค่นี้ เรากลัวตัวเองจะขี้เกียจ มากๆ เราต้องตั้งนาฬิกาเตือนไว้ตลอดว่าถึงเวลาวิ่งแล้ว เราคงตัวที่ระยะ 6-10 กิโลเมตร ต่อวันตั้งแต่อาทิตย์ที่สองเป็นต้นมา จนถึงทุกวันนี้ หลายคนบอกว่าเราวิ่งหนักมาก บ้ามาก แต่เราก็บอกถ้าไม่ทำเมื่อไรจะสวย การออกกำลังกายไม่เคยให้ผลเสียใคร เอ๊ะบางคนต้อง งง ว่าวิ่งยังไงให้ 10 กิโล ก็วิ่งหน้ามหาลัยมาท้ายมหาลัย เจอที่จอดรถ สนามบาส สนามบอล สนามไรก็ได้ ก็วิ่งให้หมด วิ่งให้มันถึงระดับที่เราตั้งเอาไว้
จากแอพ Runkeeper

วันที่อาจจะไม่เรียงกันเพราะดูเองแล้วงงเอง กราบขออภัยค่ะท่าน ตามที่บอก เราวิ่งไล่ๆๆระดับขึ้นมา สิ่งที่เราคิดตอนนี้คือ เพราะเราไม่ขี้เกียจ ถ้าล้มเลิกไปตั้งแต่อาทิตย์แรกก็คงไม่ลดแน่ๆ ยังตัวบวมตายอยู่

รูปนี้เป็นรูปที่เริ่มออกกำลังกายเป็นกิจวัตร ได้ประมาณ สามอาทิตย์

จะสังเกตุได้ว่าตัวเริ่มผอมลง เหนียงเริ่มหายไปนิสนุงๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อิอิ
เราเข้าไปวิ่งทุกวันเวลาประมาน หกโมงเย็น ทุ่มนึงบ้าง ถ้าติดงาน กิจกรรมใน มหาลัย เมื่อเลิกงานก็ต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้ามาวิ่งให้ได้ ดึกสุด ห้าทุ่มออกมาวิ่งก็ทำ เหมือนแบบพอเราทำเราจะเริ่มวิตกกังวลว่า จะอ้วนแน่ๆเลยเพราะทำงานเสร็จออกมากินข้าวนะ ถ้าวนไหนกลับบ้านก็มีการ วิ่งในห้องนอน จับเวลา ให้ได้ที่กำหนด ไม่ก็ไปวิ่งที่สวนสารธารณะต่างๆ สวนลุมบ้างอะไรบ้างในช่วงเช้า ยังไงก้ได้ คือแบบให้ทุกวันตัวเราได้เบิรน์ และได้ขับเหงื่อออกจากร่าง งั้นจะไม่สบายตัว เริ่มติดเป็นนิสัยนะ5555
สภาพที่วิ่งเสร็จเหงื่อจะออกท่วมยิ่งกว่าอาบน้ำ แบบนี้

หน้าเริ่มเรียวๆ 5555 ไปมหาลัยคนทักเลนยว่า อีหน่อยไปทำอะไรมา เป็นเอดส์ (อีกแล้วหราเจอคำถามนี้ตั้งแต่ม.ต้นเห็นชั้นเป็นคนยังไงกัน) ฉีดหน้ามาหรอ เรียวเชียว เราก็ตอบ ป่าวไม่มีตังค์ฉีด ไม่มีปัญญา (เรื่องจริง) ผอมลงไง ออกกำลังกาย ไม่ได้ตอบเหมือนดารานะ ผอมลงหน้าเรียวไรงี้ เรายอมรีบว่าเวลาเราวิ่งที เราวิ่งแบบ เหนื่อยเหมือนตายทุกวัน พูดเหมือนเคยตาย มันคือการเปรียบเทียบของตุ๊ดขี้มโน ว่ามันต้องโคตรเหนื่อย
รูปต่อจากนี้ บอกระยะเวลาไม่ค่อยได้แต่อยู่ในระยะเวลา ไม่เกินสามเดือนนี้ 5555 น่าจะเห็นคามเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนนะค่ะ

5555555 ชอบมาเน้นที่รูปจัง ทุกคนคงคิด ก็แบบเราเป็นคนชอบเซลฟี่ อะกล้องมือถือคือด้านบนที่เห็น ส่วนกล้องโปรด้านต่อจากนี้ (ไม่ได้มาขายกล้องนะค่ะ) ช่วงหลังๆแบบช่วงนี้ถ้าไม่มีเวลาไปวิ่งใน มหาลัยแบบทำงานเสร็จก็พร้อมโดนเตียงดูดอะไรประมาณนี้ เราก็ต้องวิ่งในห้องเรา แม้ว่าจะแคบอาจจะเผาผลาญน้อยกว่า แต่ก็ต้องออกกำลังกายขับเหงือ

แต่งหญิงเป็นอีเวนท์เบาๆ ตุ๊ดใส่กี่เพ๊าาาา

คนชอบบอกว่าเราบ้า 555 อาจจะบ้าจริง

มุมเผลอยังเซกซี่ ดิริเชียวเว่อร์ๆเลยอ้ะ 55555 อย่าโฟกัสหน้า

คิดว่าทุกคนคงได้เห็นความแตกต่าง ความเปลี่ยนแปลงนะค่ะ ในระยะเวลาไม่ถึงสามเดือน เราว่ามันเร็วนะ ถึงตอนนี้ก็ไม่ได้ผอมขนาดนั้น แต่ก็ผอมลงเยอะ สิ่งที่ได้รับกลับมีแต่สิ่งดีๆ ดูดีขึ้นเยอะ น่ารักขึ้น ตัวเราเองก็มีความมั้นใจขึ้น ตอนนี้รู้แล้วว่า ทั้งหน้าตาและรูปร่างมันต้องพึ่งพาอาศัยกัน ต้องทำให้มันพอดีๆกัน ถ้าหน้าเล็ก แต่ตัวใหญ่เป็นยักษ์ ก็ไม่โอเค ตัวผอมแต่หน้าแย่ก็ไม่โอเค ชิมิค่ะ น้องหน่อยขอเป็นอีกกำลังใจหนึ่งสำหรับคนที่กำลังมองหา แรงบรรดาลใจอยู่ ว่าถ้าเราพยายาม ท่องไว้ทุกวันว่าต้องสวยๆ ไม่นานเราก็ต้องสวยสิค่ะ 555555 อีกอย่างอยากบอกว่าในระยะเวลานี้ เราแทบไม่ต้องควบคุมเรื่องอาหารเลย อาจจะมีแป้งน้อยลง ของทอดบ้างๆ แต่น้ำอัดลม น้ำหมานน้ำผลไม้ คือแทบไม่มีการแตะต้องเลย และจะทำแบบนี้ไปเรื่อยๆจนถึงเป้าหมาย อยากลดอีกสิบกิโล และจะควบคุมไม่ให้กลับมาเหมือนเดิมด้วย เพราะ เตือนตัวเองว่า รู้ไว้ว่ามันเหนื่อยขนาดไหน สู้ๆนะค่ะทุกคน ^^ใครมีข้อสงสัยอยากสอบถามไม่ว่า เรื่องศัลยกรราม หรือ ลดน้ำหนักสามารถแอดเฟสมาคุยกัลได้เบยยยยย (ตั้งแต่วันที่ลดจนถึงวันนี้ยังไม่ได้ชั่งน้ำหนักเลยย แอบกลัว)

https://www.facebook.com/miicky.mitkachornkiat (แอบโปรโมทแพพส์)

**กราบขอออภัยที่ใช้คำพูดอาจจะไม่สุภาพเท่าไร และอาจจะมีการพิมพ์ผิดพลาด กราบขออภัยค่ะท่าน ไม่อยากให้อ่านอะไรที่มันดูซีเรียสและน่าเบื่อ ไม่มีการโลกสวยนะค่ะ 555 ตุ๊ดยุคใหม่ทำอะไรก็ต้องมารีวิว** เดี๋ยวจะคอยมารีวิวเรื่องต่างๆกันเรื่อยๆนะค่ะขอบพระคุณทุกท่าน [/cente