ดิฉันได้ซื้อรถจอร์นเดียร์เมื่อ 24 พ.ย. 54 เป็นปีที่น้ำท่วมอย่างหนักพอดี โรงงานแถว อยุธยา พอวันที่ 28 ธค54 พบปัญหารถเร่งไม่ขึ้น จึงได้ตามช่างจากตัวแทนจำหน่าย มาดู ก็แก้ปัญหาโดยถ่ายน้ำมันออกให้หมด แล้วเปลี่ยนน้ำมันใหม่ ล้าง ก็พอช่วยได้ เขาบอกว่าถังน้ำมันที่เราเอาใส่น้ำมัน สกปรก ต้องเอาถังที่ใหม่ ทำให้ตะกอนอุดตัน จนป่านนี้ปัญหาดังกล่าวก็มีมาตลอด ต้องเปลี่ยนล้างบ่อย ๆ เราก็ทำใจไม่เป็นไร
พอ กค 56 พบว่า ผานหน้ายกไม่ขึ้นเบรกติด ทั้งๆ รถที่ใช้ไปได้สามร้อยกว่า ไมล์เอง รถใช้เองไม่ได้รับจ้างค่ะ ต้องตามช่างมาดูที่บ้าน จ่ายค่าแรง นอกสถานที่ แพงเหมือนกัน เพราะร้านตัวแทนจำหน่าย ช่วงหลังเขาเปลี่ยนเป็น ยันร์ม่า แทน ไม่ขายจอร์นเดียร์แล้ว ช่างยันร์ม่าแก้ปัญหาจอร์นเดียไม่ค่อยได้ ทีนี้ช่างข้างนอกต้องถอดออกมาดูว่าติดเพราะสาเหตุอะไร ผลปรากฏว่า สนิมเหลืองมากๆ มากที่สุด ดิฉันได้ถ่ายรูปให้ศูนย์จอร์นเดียดูเขาบอกว่า ช่วงนั้น จอร์นเดียประเทศไทยยังไม่เข้ามา มีแต่ตัวแทนจำหน่ายคือบริษัทเอเซียแทรคเตอร์ คุณต้องประสางานกับบริษัทเอเซีย แต่ตอนนี้เอเซียร์บอกว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนจอร์นเดียร์แล้ว ให้ติดต่อกับจอร์นเดียเอง โยนกันไปโยนกันมา ด้วยสาเหตุคือ สงสัยรถน้ำท่วม เพราะรถสองปี ไม่น่าจะสนิมเกอระ ขนาดนี้ ดิฉันได้ถ่ายรูปไว้ แต่ไม่ได้เอามาลงประกอบค่ะ
ทีนี้ดิฉันขอช่างจากจอร์นเดียมาเช็คว่าใช่หรือเปล่า ไม่งั้นจะฟ้อง สคบ เพราะรถมีปัญหาเร่งไม่ขึ้นตั้งแต่ซื้อมาตั้งแต่เดือนแรก ปัญหาสองก็ตามมาเรื่อยๆ เข้าใจว่า รถผ่านมาปีหนึ่งมันก็ต้องซ่อมกันบ้าง แต่มันไม่ได้ซ่อมจากการใช้งาน แต่เป็นการซ่อม เพราะสนิมที่มีมากจากข้างใน ช่างให้เหตุผลว่าเราจอดรถตากแดด ตากฝนมั่ง เราบอกไม่เลย รถเราจอดที่ร่มมีหลังคาอย่างดี เครื่องมือ ทุกชิ้นเก็บในร่ม ทำที่เก็บไว้เป็นล๊อคๆ เขาก็พากันหาเหตุผล เขาให้เหตุผลว่า จะฟ้องก็ฟ้องได้ แต่ต้องฟ้องกับผู้ขาย บริษัทที่เราซื้อ คือ ตัวแทนในอำเภอ ทีนี้เราก็ไม่อยากเรื่องมากอะไรนักหนา ช่างบอกจะเคลมให้ในระยะเวลา หนึ่งปี ฟรีค่าแรง แต่อะไหล่ซื้อเอง ร้านตัวแทนในอำเภอ เสนออย่างนี้ เราก็ตกลง ไม่อยากมีปัญหาอะไรมากมาย ก็เข้าใจร้านตัวแทน
เข้าประเด็นปัญหา คือรถราคารวมอุปกรณ์ประมาณ 1,200,000 ต้นๆ เราจ่ายเงินสดไปแล้ว 850.000 บาท ทีนี้ปี 56 รถเรามีปัญหาตลอดกับไม่มีงานเข้า เพราะรถไม่ค่อยมีแรงเร่งไม่ขึ้น ไถไม่ดี เราเลยขอเลื่อนร้านตัวแทนในอำเภอ ขอจ่าย เดือน ตค ปี 57 แต่ไม่แจ้งว่าเท่าไหร่ พอวันที่ 3 พย 57 มีพนักงานมาถามที่บ้านว่า จะจ่ายใหม เราก็บอกว่าวันที่ สิบ จะเข้าไป จ่ายที่ร้าน สองหมื่น วันที่สิบบ่ายๆ เกือบสี่โมงเราก็เข้าไป พนักงานก็เตรียมเลิกงานแล้ว เราก็บอก งั้นเราขอจ่ายพรุ่งนี้กับผู้จัดการที่รู้ปัญหาเรื่องรถของเรา อยากคุยรายละเอียดว่าเหลือเท่าไหร่ ยังไง พรอ้มทะเบียนรถ พนักงานคนอื่นก็ไม่รู้เรื่อง
พอพรุ่งนี้บ่ายสองเรามาจ่าย เจ้าของร้าน เห็นเรา บอกว่า มานี่ มานี่เลย จะจ่ายกะใครทำไมต้องเรื่องมากๆ บอกจะไปเอายึดรถเราอย่างเดียว เราก็งง ว่าทำไม ต้องพูดกันขนาดนี้ ทีนี้ เขาไม่ยอมรับเงิน จะไปเอารถเราอย่างเดียว ทั้งๆ ที่ไม่แจ้งล่วงหน้าทั้งว่า และหนังสือแต่อย่างเดียว เราก็งง ถ้ารู้ว่าจะมาไม้นี้เราพาเพื่อนมาก็ด้วยแล้ว มิหนำซ้ำ ดุด่าเราด้วยวาจาหยาบคาย เราไม่ขอบอกว่ายังไง
เขาให้พนักงานไปเอารถเรามาจากบ้าน โดยใช้กุญแจตัวอื่นไข ไปขับมาดื้อ ๆ เราก็งง งง คือในการ์ดลูกหนี้เลื่อน ตค ปี 57 เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เขาไม่ให้เรา รวมทั้งสัญญาซื้อขายด้วย เราก็ไม่ได้ เขาบอกร้านเขาไม่เคยให้สัญญาลูกค้า เราไปแจ้งความในตอนเย็นที่เขามาเอารถ ตำรวจก็บอกจะให้เขามาเจรจา พอเขาไม่มา ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่มีสัญญาซื้อขาย เราก็งี่เง่าเอง ไม่มีสัญญาซื้อขาย แต่เรามีใบเสร็จในการรับเงินทุกอย่าง ตำรวจออกใบบันทึกประจำวันให้เราไปแจ้ง สคบ เราก็ไม่อยากเสียเวลา เราอยากเอารถออก เราบอกจะจ่ายสามหมื่น เขาบอกไม่ได้ ต้องจ่ายหกหมื่นกว่าๆ ดอกสองปี ซึ่งเรารับสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ย เราก็หาเงินมาได้ห้าหมื่น เพื่อจะเอารถออก แต่กว่าจะเอาออกได้ เกือบสองวันเพราะให้เหตุผลว่า ต้องรอทนายประจำร้านร่างหนังสือ แต่สุดท้าย ก็ไม่ใช่ทนายร่าง เป็นร้านตัวแทนนั่นแหล่ะร่างเอง คือ หนังสือรับสภาพนี้ กำหนดไว้เลยให้เราจ่ายวันรับรถคืน ห้าหมื่น และเดือน ธค อีก สี่หมื่นกว่าบาท และจ่ายทุกๆ เดือน ๆ ละสามหมื่นสองพันบาทต้นรวมดอกเบี้ย รวมสิบเอ็ดเดือน ให้หมดภายในหนึ่งปี เราก็ยอมจำใจเซ้นต์ เพราะต้องการเอารถออก เพราะไม่อยากมีปัญหา
ทีนี้ ปัญหาคือเขาไม่ยอมให้ผ่อนรายปี ต้องรายเดือนเท่านั้น เดือนละสามหมื่นกว่า ๆ เราจะเอาที่ไหนกิน มีใครให้คำแนะนำบ้างคะ ร้านนี้ เป็นเจ้าของคนเดียว เอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เขาบอก มีลูกค้าฟ้อง สคบ เขาชนะทุกครั้งที่มีการฟ้อง ถ้าเราอยากฟ้องให้ฟ้องเลย เราเข้าใจว่าเป็นหนี้ต้องจ่าย แต่เราได้ตกลงกันแล้วว่า เราจะจ่าย ตค ปีนี้เพราะฤดูเก็บเกี่ยว เนื่องจากปีที่แล้ว รถเรามีปัญหาตลอดปี ซ่อมบ่อยรายได้ไม่มี เขาก็เลื่อนให้ แต่บังคับกันจ่ายแบบนี้ เหมือนจะสูบเลือดสูบเนื้อกันเลย ครั้นจะเอารถคืน ก็จ่ายมาเกินครึ่งไปเยอะแล้ว
อ่านจะงง ๆ หน่อยนะคะ ไม่รู้จะเรียบเรียงอย่างไรดี
ปัญหารถจอร์นเดียร์
พอ กค 56 พบว่า ผานหน้ายกไม่ขึ้นเบรกติด ทั้งๆ รถที่ใช้ไปได้สามร้อยกว่า ไมล์เอง รถใช้เองไม่ได้รับจ้างค่ะ ต้องตามช่างมาดูที่บ้าน จ่ายค่าแรง นอกสถานที่ แพงเหมือนกัน เพราะร้านตัวแทนจำหน่าย ช่วงหลังเขาเปลี่ยนเป็น ยันร์ม่า แทน ไม่ขายจอร์นเดียร์แล้ว ช่างยันร์ม่าแก้ปัญหาจอร์นเดียไม่ค่อยได้ ทีนี้ช่างข้างนอกต้องถอดออกมาดูว่าติดเพราะสาเหตุอะไร ผลปรากฏว่า สนิมเหลืองมากๆ มากที่สุด ดิฉันได้ถ่ายรูปให้ศูนย์จอร์นเดียดูเขาบอกว่า ช่วงนั้น จอร์นเดียประเทศไทยยังไม่เข้ามา มีแต่ตัวแทนจำหน่ายคือบริษัทเอเซียแทรคเตอร์ คุณต้องประสางานกับบริษัทเอเซีย แต่ตอนนี้เอเซียร์บอกว่าตอนนี้ไม่ได้เป็นตัวแทนจอร์นเดียร์แล้ว ให้ติดต่อกับจอร์นเดียเอง โยนกันไปโยนกันมา ด้วยสาเหตุคือ สงสัยรถน้ำท่วม เพราะรถสองปี ไม่น่าจะสนิมเกอระ ขนาดนี้ ดิฉันได้ถ่ายรูปไว้ แต่ไม่ได้เอามาลงประกอบค่ะ
ทีนี้ดิฉันขอช่างจากจอร์นเดียมาเช็คว่าใช่หรือเปล่า ไม่งั้นจะฟ้อง สคบ เพราะรถมีปัญหาเร่งไม่ขึ้นตั้งแต่ซื้อมาตั้งแต่เดือนแรก ปัญหาสองก็ตามมาเรื่อยๆ เข้าใจว่า รถผ่านมาปีหนึ่งมันก็ต้องซ่อมกันบ้าง แต่มันไม่ได้ซ่อมจากการใช้งาน แต่เป็นการซ่อม เพราะสนิมที่มีมากจากข้างใน ช่างให้เหตุผลว่าเราจอดรถตากแดด ตากฝนมั่ง เราบอกไม่เลย รถเราจอดที่ร่มมีหลังคาอย่างดี เครื่องมือ ทุกชิ้นเก็บในร่ม ทำที่เก็บไว้เป็นล๊อคๆ เขาก็พากันหาเหตุผล เขาให้เหตุผลว่า จะฟ้องก็ฟ้องได้ แต่ต้องฟ้องกับผู้ขาย บริษัทที่เราซื้อ คือ ตัวแทนในอำเภอ ทีนี้เราก็ไม่อยากเรื่องมากอะไรนักหนา ช่างบอกจะเคลมให้ในระยะเวลา หนึ่งปี ฟรีค่าแรง แต่อะไหล่ซื้อเอง ร้านตัวแทนในอำเภอ เสนออย่างนี้ เราก็ตกลง ไม่อยากมีปัญหาอะไรมากมาย ก็เข้าใจร้านตัวแทน
เข้าประเด็นปัญหา คือรถราคารวมอุปกรณ์ประมาณ 1,200,000 ต้นๆ เราจ่ายเงินสดไปแล้ว 850.000 บาท ทีนี้ปี 56 รถเรามีปัญหาตลอดกับไม่มีงานเข้า เพราะรถไม่ค่อยมีแรงเร่งไม่ขึ้น ไถไม่ดี เราเลยขอเลื่อนร้านตัวแทนในอำเภอ ขอจ่าย เดือน ตค ปี 57 แต่ไม่แจ้งว่าเท่าไหร่ พอวันที่ 3 พย 57 มีพนักงานมาถามที่บ้านว่า จะจ่ายใหม เราก็บอกว่าวันที่ สิบ จะเข้าไป จ่ายที่ร้าน สองหมื่น วันที่สิบบ่ายๆ เกือบสี่โมงเราก็เข้าไป พนักงานก็เตรียมเลิกงานแล้ว เราก็บอก งั้นเราขอจ่ายพรุ่งนี้กับผู้จัดการที่รู้ปัญหาเรื่องรถของเรา อยากคุยรายละเอียดว่าเหลือเท่าไหร่ ยังไง พรอ้มทะเบียนรถ พนักงานคนอื่นก็ไม่รู้เรื่อง
พอพรุ่งนี้บ่ายสองเรามาจ่าย เจ้าของร้าน เห็นเรา บอกว่า มานี่ มานี่เลย จะจ่ายกะใครทำไมต้องเรื่องมากๆ บอกจะไปเอายึดรถเราอย่างเดียว เราก็งง ว่าทำไม ต้องพูดกันขนาดนี้ ทีนี้ เขาไม่ยอมรับเงิน จะไปเอารถเราอย่างเดียว ทั้งๆ ที่ไม่แจ้งล่วงหน้าทั้งว่า และหนังสือแต่อย่างเดียว เราก็งง ถ้ารู้ว่าจะมาไม้นี้เราพาเพื่อนมาก็ด้วยแล้ว มิหนำซ้ำ ดุด่าเราด้วยวาจาหยาบคาย เราไม่ขอบอกว่ายังไง
เขาให้พนักงานไปเอารถเรามาจากบ้าน โดยใช้กุญแจตัวอื่นไข ไปขับมาดื้อ ๆ เราก็งง งง คือในการ์ดลูกหนี้เลื่อน ตค ปี 57 เขียนเป็นลายลักษณ์อักษร แต่เขาไม่ให้เรา รวมทั้งสัญญาซื้อขายด้วย เราก็ไม่ได้ เขาบอกร้านเขาไม่เคยให้สัญญาลูกค้า เราไปแจ้งความในตอนเย็นที่เขามาเอารถ ตำรวจก็บอกจะให้เขามาเจรจา พอเขาไม่มา ตำรวจก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะเราไม่มีสัญญาซื้อขาย เราก็งี่เง่าเอง ไม่มีสัญญาซื้อขาย แต่เรามีใบเสร็จในการรับเงินทุกอย่าง ตำรวจออกใบบันทึกประจำวันให้เราไปแจ้ง สคบ เราก็ไม่อยากเสียเวลา เราอยากเอารถออก เราบอกจะจ่ายสามหมื่น เขาบอกไม่ได้ ต้องจ่ายหกหมื่นกว่าๆ ดอกสองปี ซึ่งเรารับสัญญาว่าจะจ่ายดอกเบี้ย เราก็หาเงินมาได้ห้าหมื่น เพื่อจะเอารถออก แต่กว่าจะเอาออกได้ เกือบสองวันเพราะให้เหตุผลว่า ต้องรอทนายประจำร้านร่างหนังสือ แต่สุดท้าย ก็ไม่ใช่ทนายร่าง เป็นร้านตัวแทนนั่นแหล่ะร่างเอง คือ หนังสือรับสภาพนี้ กำหนดไว้เลยให้เราจ่ายวันรับรถคืน ห้าหมื่น และเดือน ธค อีก สี่หมื่นกว่าบาท และจ่ายทุกๆ เดือน ๆ ละสามหมื่นสองพันบาทต้นรวมดอกเบี้ย รวมสิบเอ็ดเดือน ให้หมดภายในหนึ่งปี เราก็ยอมจำใจเซ้นต์ เพราะต้องการเอารถออก เพราะไม่อยากมีปัญหา
ทีนี้ ปัญหาคือเขาไม่ยอมให้ผ่อนรายปี ต้องรายเดือนเท่านั้น เดือนละสามหมื่นกว่า ๆ เราจะเอาที่ไหนกิน มีใครให้คำแนะนำบ้างคะ ร้านนี้ เป็นเจ้าของคนเดียว เอาอารมณ์อยู่เหนือเหตุผล เขาบอก มีลูกค้าฟ้อง สคบ เขาชนะทุกครั้งที่มีการฟ้อง ถ้าเราอยากฟ้องให้ฟ้องเลย เราเข้าใจว่าเป็นหนี้ต้องจ่าย แต่เราได้ตกลงกันแล้วว่า เราจะจ่าย ตค ปีนี้เพราะฤดูเก็บเกี่ยว เนื่องจากปีที่แล้ว รถเรามีปัญหาตลอดปี ซ่อมบ่อยรายได้ไม่มี เขาก็เลื่อนให้ แต่บังคับกันจ่ายแบบนี้ เหมือนจะสูบเลือดสูบเนื้อกันเลย ครั้นจะเอารถคืน ก็จ่ายมาเกินครึ่งไปเยอะแล้ว
อ่านจะงง ๆ หน่อยนะคะ ไม่รู้จะเรียบเรียงอย่างไรดี