คืนหน้าร้อนจันทร์เสี้ยวเหมือนแสยะยิ้ม ฉันและเพื่อนรวมกันเจ็ดชีวิตนั่งดื่มกินกันจนเหล้าขวดที่สามหมด แพทอดตัวอยู่กลางผืนน้ำกว้างสุดลูกหูลูกตา เสียงเพลงและเสียงกีตาร์เงียบลง เพื่อนผู้หญิงสามคนเข้านอนแล้ว เหลือแต่ชายหนุ่มและพี่อ้วนเจ้าของแพที่ติดลมยังไม่อยากนอน “เล่นอะไรสนุก ๆ กัน” เสียงต้นเอ่ย “เล่นอะไรดีดึกป่านนี้แล้ว ไปนอนดีกว่ามั้ง” ผมถามพลางกระดกเหล้าที่เหลือลงลำคอ “ผีถ้วยแก้วไง ไอ้อ๊อดมันเจ้าพิธีกรรมนะโว๊ย” ต้นหัวเราะเสียงดัง
พี่อ้วนเจ้าของแพ และเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยทำหน้าเสียก่อนเอ่ยว่า
“ที่นี่เจ้าที่เจ้าทางแรง อย่าเล่นอะไรแบบนี้เลยนะพี่ขอร้อง” “โธ่พี่ ใจหน่อย สนุก ๆ” ต้นว่าแล้วลุกไปหยิบกระเป๋าเอาปากกาเมจิกและกล่องเบียร์มากางอออกแล้วขีดตาราง เขียนตัวอักษร สระและตัวเลข “เตือนแล้วไม่ฟัง” เจ้าของแพหนุ่มว่าแบบเสียงอู้อี้ ลุกขึ้นเก็บจานกับแกล้มและแก้วเหล้าซ้อน ๆ กันไปวางไว้อีกฝาก นั่งมองพวกเราอยู่ห่างๆ
วงผีถ้วยแก้วขี้เหล้ากำลังจะเริ่ม เราหัวเราะขำพี่อ้วนที่เมาเต็มที่ ยั่วเย้ากันสนุกสนานด้วยฤทธิ์เหล้าและแรงอวดดีต่อเกมส์ที่กำลังจะได้เผชิญ อ๊อดเพื่อนร่างโย่งจุดธูปดอกเดียวเดินออกไปปักข้างเสาแพ คลื่นน้ำซัดเข้ามาเบา ๆ ควันธูปโชยสวนลมพัดแทบจะปกคลุมแพลำนี้เอาไว้เหมือนอยู่ในอุ้งมือของปีศาจ แผ่นกระดาษลังเบียร์ถูกวาง อ๊อดว่าคาถาเชิญดวงวิญญาณ แล้วให้เรายื่นมือมาแตะที่ถ้วยน้ำจิ้มใบจิ๋ว ฉันยื่นมือไปแตะและหันไปมองพี่อ้วนที่ดื่มหนักมาตั้งแต่เย็น แกนั่งพิงเสาคอพับหมดเรี่ยวแรง
เสียงเห่าหอน กู่ร้องของสัตว์ป่าเริ่มหนาเสียง แพเริ่มไหวคลื่นน้ำเหมือนซัดเข้าหาแพถี่ขึ้น “ชื่ออะไร” อ๊อดถาม ถ้วยนั้นก็เลื่อนไปมาดุจใครสักคนในวงเป็นคนดันมัน ต้นอ่านออกเสียง “สำเริง” ฉันรู้ตามสูตรต่อไปจะต้องถามว่าเป็นอะไรตาย ต้นก็ถามว่า “สำเริงเป็นอะไรตาย ?” สิ้นเสียงถ้วยนั้นก็วิ่งวนไปวนมาราวนาทีเศษ ฉันสะกดคำและอ่านตามได้ว่า “เรียกกูมาทำไม” สิ้นเสียงอ่านจบ ไฟหลอดตรงที่เรานั่งล้อมวงก็แตกดังโป๊ะ ต้นร้องเฮ้ยด้วยความตกใจ เศษดวงไฟชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระเด็นใส่ศีรษะพวกเราถ้วนหน้า อ๊อดตะโกนบอก “อย่าปล่อยมือ ๆ เดี๋ยวของเข้าตัว” ในขณะที่อีกฟากได้ยินเสียงพี่อ้วนโก่งคออาเจียนดังลั่น ความมืดห่มหุ้มอดีตวงเหล้า ฉันรู้สึกเหมือนติดกับดักที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จะเลิกเล่นก็ไม่ได้ไม่สนุกแล้ว ถ้วยยังวิ่งไปอีกตรงอักษรบอใบไม้ อออ่าง กอไก่ มอม้า สระอา ฉันเหมือนได้ยินเสียงของเขากำลังโกรธ “ขอโทษครับ ขอโทษ” ต้นหลับตาปี๋และผุดลุกผุดนั่งผิดกับตอนแรกเริ่มพิธี “อ๊อดเชิญพี่เขาออกเถอะ” ฉันบอก แต่อ๊อดยังไม่ทันขยับปาก แพก็สั่นแรงขึ้นเหมือนมีคนสักสิบคนพร้อมใจกันขย่ม
เสียงกรีดร้องในห้องเพื่อนผู้หญิงดังลั่นแทบในนาทีเดียวกัน ประตูห้องเหมือนถูกถีบ พวกเธอพากันวิ่งออกมาอย่างเสียขวัญ ร้องโวยวายว่ามีผู้ชายอยู่ในห้องจะลากพวกเธอจากเตียงไปลงน้ำ นก เมย์และแก้วตรงไปหาพี่อ้วน พี่อ้วนลืมตาตื่นแล้วอ้าปากค้างเมื่อเห็นสภาพโดยรอบ แพยิ่งไหวหนักขึ้นตามแรงตกใจและกระทืบเท้าของพวกเธอเมื่อเห็นพวกเราอยู่ในเงามืด ฉันตัดสินใจปล่อยมือจากถ้วยวิ่งออกไปหาพี่อ้วน “พี่อ้วนช่วยด้วย” ฉันดึงตัวเขาลุกขึ้น มองไปยังหลุมมืดดำกลางแพที่ทั้งต้นและอ๊อดกำลังกล่าวขอโทษขอโพยต่อสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่ไม่หยุดปาก ต้นเริ่มร้องไห้ ลำแขนเล็กของเขาเกร็งแน่นมานับสิบนาที ทำท่าจะไม่ไหวในการยื้อยุดต่อการเดินวิ่งไม่หยุดของถ้วยน้ำจิ้มนั้น พี่อ้วนเดินเข้าไปในครัวเอาขวดน้ำที่อยู่หน้าหิ้งพระออกมา สาวสามนางนั่งกอดกันตัวกลม ชายร่างใหญ่ที่อาวุโสสุดในแพ เปิดขวดพลาสติกที่มีขี้เทียนและคราบเขม่าดำรดไปที่ชายหนุ่มทั้งสองและอุปกรณ์การเล่นที่สยองขวัญนั้น “เอามือออกได้” พี่อ้วนบอกห้วน ๆ แล้วก้มยกแผ่นลังและถ้วยที่เปียกน้ำนั่นโยนลงผืนน้ำดำสนิท
เสียงโห่หอนกู่ร้องจากป่าดังชัดขึ้นตลอดเวลาที่พี่อ้วนขับเรือลากแพเข้าฝั่ง ฉันยังได้ยินเสียงร้องไห้ แต่ไม่มีใครพูดคุยอะไรกันเลยเรื่องราวเมื่อชั่วโมงก่อนยังสนิทในความรู้สึก ใกล้รุ่งสางแล้ว ฉันนึกถึงสำเริง ฆาตกรสิบศพที่ต้นเคยเล่าให้ฟังว่าบิดาของเขาวิสามัญอาชญากรผู้โหดเหี้ยมได้
สำเริง
พี่อ้วนเจ้าของแพ และเป็นรุ่นพี่ที่มหาวิทยาลัยทำหน้าเสียก่อนเอ่ยว่า
“ที่นี่เจ้าที่เจ้าทางแรง อย่าเล่นอะไรแบบนี้เลยนะพี่ขอร้อง” “โธ่พี่ ใจหน่อย สนุก ๆ” ต้นว่าแล้วลุกไปหยิบกระเป๋าเอาปากกาเมจิกและกล่องเบียร์มากางอออกแล้วขีดตาราง เขียนตัวอักษร สระและตัวเลข “เตือนแล้วไม่ฟัง” เจ้าของแพหนุ่มว่าแบบเสียงอู้อี้ ลุกขึ้นเก็บจานกับแกล้มและแก้วเหล้าซ้อน ๆ กันไปวางไว้อีกฝาก นั่งมองพวกเราอยู่ห่างๆ
วงผีถ้วยแก้วขี้เหล้ากำลังจะเริ่ม เราหัวเราะขำพี่อ้วนที่เมาเต็มที่ ยั่วเย้ากันสนุกสนานด้วยฤทธิ์เหล้าและแรงอวดดีต่อเกมส์ที่กำลังจะได้เผชิญ อ๊อดเพื่อนร่างโย่งจุดธูปดอกเดียวเดินออกไปปักข้างเสาแพ คลื่นน้ำซัดเข้ามาเบา ๆ ควันธูปโชยสวนลมพัดแทบจะปกคลุมแพลำนี้เอาไว้เหมือนอยู่ในอุ้งมือของปีศาจ แผ่นกระดาษลังเบียร์ถูกวาง อ๊อดว่าคาถาเชิญดวงวิญญาณ แล้วให้เรายื่นมือมาแตะที่ถ้วยน้ำจิ้มใบจิ๋ว ฉันยื่นมือไปแตะและหันไปมองพี่อ้วนที่ดื่มหนักมาตั้งแต่เย็น แกนั่งพิงเสาคอพับหมดเรี่ยวแรง
เสียงเห่าหอน กู่ร้องของสัตว์ป่าเริ่มหนาเสียง แพเริ่มไหวคลื่นน้ำเหมือนซัดเข้าหาแพถี่ขึ้น “ชื่ออะไร” อ๊อดถาม ถ้วยนั้นก็เลื่อนไปมาดุจใครสักคนในวงเป็นคนดันมัน ต้นอ่านออกเสียง “สำเริง” ฉันรู้ตามสูตรต่อไปจะต้องถามว่าเป็นอะไรตาย ต้นก็ถามว่า “สำเริงเป็นอะไรตาย ?” สิ้นเสียงถ้วยนั้นก็วิ่งวนไปวนมาราวนาทีเศษ ฉันสะกดคำและอ่านตามได้ว่า “เรียกกูมาทำไม” สิ้นเสียงอ่านจบ ไฟหลอดตรงที่เรานั่งล้อมวงก็แตกดังโป๊ะ ต้นร้องเฮ้ยด้วยความตกใจ เศษดวงไฟชิ้นเล็กชิ้นน้อยกระเด็นใส่ศีรษะพวกเราถ้วนหน้า อ๊อดตะโกนบอก “อย่าปล่อยมือ ๆ เดี๋ยวของเข้าตัว” ในขณะที่อีกฟากได้ยินเสียงพี่อ้วนโก่งคออาเจียนดังลั่น ความมืดห่มหุ้มอดีตวงเหล้า ฉันรู้สึกเหมือนติดกับดักที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ จะเลิกเล่นก็ไม่ได้ไม่สนุกแล้ว ถ้วยยังวิ่งไปอีกตรงอักษรบอใบไม้ อออ่าง กอไก่ มอม้า สระอา ฉันเหมือนได้ยินเสียงของเขากำลังโกรธ “ขอโทษครับ ขอโทษ” ต้นหลับตาปี๋และผุดลุกผุดนั่งผิดกับตอนแรกเริ่มพิธี “อ๊อดเชิญพี่เขาออกเถอะ” ฉันบอก แต่อ๊อดยังไม่ทันขยับปาก แพก็สั่นแรงขึ้นเหมือนมีคนสักสิบคนพร้อมใจกันขย่ม
เสียงกรีดร้องในห้องเพื่อนผู้หญิงดังลั่นแทบในนาทีเดียวกัน ประตูห้องเหมือนถูกถีบ พวกเธอพากันวิ่งออกมาอย่างเสียขวัญ ร้องโวยวายว่ามีผู้ชายอยู่ในห้องจะลากพวกเธอจากเตียงไปลงน้ำ นก เมย์และแก้วตรงไปหาพี่อ้วน พี่อ้วนลืมตาตื่นแล้วอ้าปากค้างเมื่อเห็นสภาพโดยรอบ แพยิ่งไหวหนักขึ้นตามแรงตกใจและกระทืบเท้าของพวกเธอเมื่อเห็นพวกเราอยู่ในเงามืด ฉันตัดสินใจปล่อยมือจากถ้วยวิ่งออกไปหาพี่อ้วน “พี่อ้วนช่วยด้วย” ฉันดึงตัวเขาลุกขึ้น มองไปยังหลุมมืดดำกลางแพที่ทั้งต้นและอ๊อดกำลังกล่าวขอโทษขอโพยต่อสิ่งที่มองไม่เห็นอยู่ไม่หยุดปาก ต้นเริ่มร้องไห้ ลำแขนเล็กของเขาเกร็งแน่นมานับสิบนาที ทำท่าจะไม่ไหวในการยื้อยุดต่อการเดินวิ่งไม่หยุดของถ้วยน้ำจิ้มนั้น พี่อ้วนเดินเข้าไปในครัวเอาขวดน้ำที่อยู่หน้าหิ้งพระออกมา สาวสามนางนั่งกอดกันตัวกลม ชายร่างใหญ่ที่อาวุโสสุดในแพ เปิดขวดพลาสติกที่มีขี้เทียนและคราบเขม่าดำรดไปที่ชายหนุ่มทั้งสองและอุปกรณ์การเล่นที่สยองขวัญนั้น “เอามือออกได้” พี่อ้วนบอกห้วน ๆ แล้วก้มยกแผ่นลังและถ้วยที่เปียกน้ำนั่นโยนลงผืนน้ำดำสนิท
เสียงโห่หอนกู่ร้องจากป่าดังชัดขึ้นตลอดเวลาที่พี่อ้วนขับเรือลากแพเข้าฝั่ง ฉันยังได้ยินเสียงร้องไห้ แต่ไม่มีใครพูดคุยอะไรกันเลยเรื่องราวเมื่อชั่วโมงก่อนยังสนิทในความรู้สึก ใกล้รุ่งสางแล้ว ฉันนึกถึงสำเริง ฆาตกรสิบศพที่ต้นเคยเล่าให้ฟังว่าบิดาของเขาวิสามัญอาชญากรผู้โหดเหี้ยมได้