สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 8
ขอบคุณ คุณป้าเป็นอย่างสูงยิ่งเลยนะคะ ที่มาฝากความหวังดีให้
ทราบซึ้งใจจริงๆค่ะ ^^
ตอนแรกๆหนูก็เหมือนลูกสาวป้าเนี่ยแหละค่ะ ก็ติ่งเกาหลีมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม
เสียเงินไปตั้งเท่าไหร่ก็ไม่รู้ค่ะ ให้ใครก้ไม่รู้อีกต่างหากนะคะ เสียเป็นแสนแขนยังไม่ได้จับเลยค่ะ
ตอนนั้นก็กังวลเหมือนกันค่ะ ว่าจะมีใครว่าอะไรไหมนะ ติ่งเกาหลีไปจะเดือดร้อนสังคมหรือเปล่า
ช่วงนั้นเครียดมากๆเลยค่ะ แต่สุดท้ายพอติ่งไปติ่งมา รู้ตัวอีกทีก็ติ่งจะเป็น 10 ปีแล้วค่ะ
ถึงได้รู้ว่า เห้ยย เราติ่งเกาหลี ก็ไม่ได้หนักหัวใครเลยนะ พ่อแม่ก็มีความสุขดี แถมสังคมมันก็ยังฟอนเฟะเหมือนเดิม
ปัจจุบันก็หาเงินเลี้ยงตัวเองได้ ดูแลพ่อแม่ได้ ติ่งเกาหลีไป คนในครอบครัวก็ไม่มีใครเดือดร้อนนี้หว่า
เลยได้รู้ค่ะ ว่าการที่คนจะเสียคน เรียนไม่จบ ชีวิตบัดซบได้ ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลล้วนๆเลยค่ะ
มีเวลา 24 ชม ทำงาน ทำงานอดิเรก ออกกำลังกาย ดูแลพ่อแม่ สร้างสรรค์สิ่งมีประโยชน์ให้สังคมได้เยอะเลยค่ะ
แถมยังเหลือเวลาไปกรี้ดผู้ชายอีกนะคะ ชีวิตแฮปปี้มีความสุขมากๆเลยค่ะ ^^
ทราบซึ้งใจจริงๆค่ะ ^^
ตอนแรกๆหนูก็เหมือนลูกสาวป้าเนี่ยแหละค่ะ ก็ติ่งเกาหลีมาตั้งแต่ยุคแรกเริ่ม
เสียเงินไปตั้งเท่าไหร่ก็ไม่รู้ค่ะ ให้ใครก้ไม่รู้อีกต่างหากนะคะ เสียเป็นแสนแขนยังไม่ได้จับเลยค่ะ
ตอนนั้นก็กังวลเหมือนกันค่ะ ว่าจะมีใครว่าอะไรไหมนะ ติ่งเกาหลีไปจะเดือดร้อนสังคมหรือเปล่า
ช่วงนั้นเครียดมากๆเลยค่ะ แต่สุดท้ายพอติ่งไปติ่งมา รู้ตัวอีกทีก็ติ่งจะเป็น 10 ปีแล้วค่ะ
ถึงได้รู้ว่า เห้ยย เราติ่งเกาหลี ก็ไม่ได้หนักหัวใครเลยนะ พ่อแม่ก็มีความสุขดี แถมสังคมมันก็ยังฟอนเฟะเหมือนเดิม
ปัจจุบันก็หาเงินเลี้ยงตัวเองได้ ดูแลพ่อแม่ได้ ติ่งเกาหลีไป คนในครอบครัวก็ไม่มีใครเดือดร้อนนี้หว่า
เลยได้รู้ค่ะ ว่าการที่คนจะเสียคน เรียนไม่จบ ชีวิตบัดซบได้ ขึ้นอยู่ที่ตัวบุคคลล้วนๆเลยค่ะ
มีเวลา 24 ชม ทำงาน ทำงานอดิเรก ออกกำลังกาย ดูแลพ่อแม่ สร้างสรรค์สิ่งมีประโยชน์ให้สังคมได้เยอะเลยค่ะ
แถมยังเหลือเวลาไปกรี้ดผู้ชายอีกนะคะ ชีวิตแฮปปี้มีความสุขมากๆเลยค่ะ ^^
ความคิดเห็นที่ 117
อ่านมาก็เยอะ หลายคอมเมน
เห็นกันอยู่ว่าเรื่องเล็กก็ทำเป็นเรื่องใหญ่ได้ง่ายมาก
ด้วยความเคารพ เรียน จขกท. ผมเข้าใจ จขกท. ดี และอยากเป็นกำลังใจให้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ ขอติคอมเมน จขกท. จากที่อ่านมา คุณเหมือนทำตัวเป็นเจ้าตีกรอบให้กับคนอื่น ซึ่งก็คือลูกคุณเอง เป็นสิ่งดีที่คุณจะดูแลเขา วาดขอบเขตให้ แต่ก็ทำเกินไปในเรื่องอิสระของการเลือก ที่จะชอบ ที่จะรัก แม้แค่ดาราศิลปินที่เขาชอบ คุณเป็นแม่คุณก็น่าจะรู้และเข้าใจลุกตัวเองมากที่สุด สาเหตุที่เขาเป็นอย่างนั้น สาเหตุที่คุณต้องมาโพสต์อย่างนี้ คุณไม่ได้แก้ปัญหา แต่คุณโยนปัญหา และเรื่องเงินๆทองๆ เป็นตัวบอกอย่างดีเลยว่าคุณยึดติดกับวัตถุเงินทอง ต้องมีก่อนถึงมีความสุขได้ เห็นได้ชัดเจน เราเป็นมนุษย์เราต้องขออนุญาตเงินมีความสุขด้วยหรอ ไม่มีมันจะตายหรอ สิ่งที่คุณควรทำคือมีความสุขไปกับสิ่งที่ลูกคุณมีความสุข คุณอยู่ได้อีกนานเท่าไรกัน ไม่อยากมีภาพแห่งความสุขดีๆเก็บไว้ คุณควรสนับสนุนเขา ถ้าเขาไม่ทำความเดือดร้อนมากมายอะไร แล้วซักวัน(อาจเป็นวันที่สาย แต่ก็ดีกว่า)เขาจะเป็นอย่างที่คุณหวัง ซึ่งรวมถึงชาวติ่งคนอื่นๆด้วย
เช่นเดียวกัน ผมก็เป็นติ่ง ขอติชาวติ่งด้วยว่า ควรพิจารณาบนฐานความเท่าเทียม คิดเขาคิดเรา หลายคอมเมน ว่าให้ จขกท. อย่างเดียว ไม่ได้ดูตัวเอง ที่ จขกท.สื่อถึง คือกลุ่มติ่งที่สุดขั่ว ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ชนทุกอย่างเพื่อความเป็นติ่ง(ที่สุดขั้ว) ก็ประมาณพวกไม่ทำอะไร ไม่เรียน ไม่ทำงาน แต่เผาทรัพย์เพื่อดารา ซึ่งถ้าพวกคุณไม่เป็นแบบนั้น คุณจะร้อนตัวทำไม? ถ้าคุณทำตัวคุณดี ก็ทำต่อไป ไม่เดือดร้อนอะไรนี่? แต่เมื่อคุณมาทำพฤติกรรมเสื่อมในนี้ ทั้งความเห็น ความคิด มันทำให้ภาพพจน์ติ่ง เสียหายหมด ผู้หลักผู้ใหญ่เขาก็ไม่เข้าใจเราสักที เราต้องตระหนักอยู่ว่าเราเป็นอนาคต ไม่ใช้แค่ของเรา แต่เป็นอนาคตของพ่อแม่ ของญาติ ของคนไทย ของประเทศ ที่เป็นอย่างนี้เพราะผู้ใหญ่เป็นห่วงเรา เราจะขับเคลื่อนประเทศได้ไหม อนาคตจะเป็นยังไง? ไม่ผิดที่ผู้ใหญ่เป็นห่วงเรา ไม่ผิดที่เราชอบดาราเกาหลี หรืออื่นๆ แต่ที่ผิด และผิดทั้งหมดคือ เราไม่ยอมรับความเห็นของกันและกัน ยกตัวเองใหญ่ หยิ่งผยอง ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ถูกเสมอไป เพราะท่านตามโลกปัจจุบันไม่ทัน ข้อนี้ท่านยอมรับดีกว่า ผู้น้อยโต้แย้งได้ แต่ให้อยู่ในขอบเขตของความเคารพ นอบน้อมให้เกียรติผู้ใหญ่ ถ้าเราจะเดินสวนทางกัน แล้วมาชนกัน ปิดปากทั้งสองฝั้ง คนขยับซ้าย คนขยับขวา เราก็เดินต่อไปได้ไม่มีปัญหา จริงไหมครับ? ถ่อมใจ
เห็นกันอยู่ว่าเรื่องเล็กก็ทำเป็นเรื่องใหญ่ได้ง่ายมาก
ด้วยความเคารพ เรียน จขกท. ผมเข้าใจ จขกท. ดี และอยากเป็นกำลังใจให้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ ขอติคอมเมน จขกท. จากที่อ่านมา คุณเหมือนทำตัวเป็นเจ้าตีกรอบให้กับคนอื่น ซึ่งก็คือลูกคุณเอง เป็นสิ่งดีที่คุณจะดูแลเขา วาดขอบเขตให้ แต่ก็ทำเกินไปในเรื่องอิสระของการเลือก ที่จะชอบ ที่จะรัก แม้แค่ดาราศิลปินที่เขาชอบ คุณเป็นแม่คุณก็น่าจะรู้และเข้าใจลุกตัวเองมากที่สุด สาเหตุที่เขาเป็นอย่างนั้น สาเหตุที่คุณต้องมาโพสต์อย่างนี้ คุณไม่ได้แก้ปัญหา แต่คุณโยนปัญหา และเรื่องเงินๆทองๆ เป็นตัวบอกอย่างดีเลยว่าคุณยึดติดกับวัตถุเงินทอง ต้องมีก่อนถึงมีความสุขได้ เห็นได้ชัดเจน เราเป็นมนุษย์เราต้องขออนุญาตเงินมีความสุขด้วยหรอ ไม่มีมันจะตายหรอ สิ่งที่คุณควรทำคือมีความสุขไปกับสิ่งที่ลูกคุณมีความสุข คุณอยู่ได้อีกนานเท่าไรกัน ไม่อยากมีภาพแห่งความสุขดีๆเก็บไว้ คุณควรสนับสนุนเขา ถ้าเขาไม่ทำความเดือดร้อนมากมายอะไร แล้วซักวัน(อาจเป็นวันที่สาย แต่ก็ดีกว่า)เขาจะเป็นอย่างที่คุณหวัง ซึ่งรวมถึงชาวติ่งคนอื่นๆด้วย
เช่นเดียวกัน ผมก็เป็นติ่ง ขอติชาวติ่งด้วยว่า ควรพิจารณาบนฐานความเท่าเทียม คิดเขาคิดเรา หลายคอมเมน ว่าให้ จขกท. อย่างเดียว ไม่ได้ดูตัวเอง ที่ จขกท.สื่อถึง คือกลุ่มติ่งที่สุดขั่ว ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น ชนทุกอย่างเพื่อความเป็นติ่ง(ที่สุดขั้ว) ก็ประมาณพวกไม่ทำอะไร ไม่เรียน ไม่ทำงาน แต่เผาทรัพย์เพื่อดารา ซึ่งถ้าพวกคุณไม่เป็นแบบนั้น คุณจะร้อนตัวทำไม? ถ้าคุณทำตัวคุณดี ก็ทำต่อไป ไม่เดือดร้อนอะไรนี่? แต่เมื่อคุณมาทำพฤติกรรมเสื่อมในนี้ ทั้งความเห็น ความคิด มันทำให้ภาพพจน์ติ่ง เสียหายหมด ผู้หลักผู้ใหญ่เขาก็ไม่เข้าใจเราสักที เราต้องตระหนักอยู่ว่าเราเป็นอนาคต ไม่ใช้แค่ของเรา แต่เป็นอนาคตของพ่อแม่ ของญาติ ของคนไทย ของประเทศ ที่เป็นอย่างนี้เพราะผู้ใหญ่เป็นห่วงเรา เราจะขับเคลื่อนประเทศได้ไหม อนาคตจะเป็นยังไง? ไม่ผิดที่ผู้ใหญ่เป็นห่วงเรา ไม่ผิดที่เราชอบดาราเกาหลี หรืออื่นๆ แต่ที่ผิด และผิดทั้งหมดคือ เราไม่ยอมรับความเห็นของกันและกัน ยกตัวเองใหญ่ หยิ่งผยอง ผู้ใหญ่ก็ไม่ได้ถูกเสมอไป เพราะท่านตามโลกปัจจุบันไม่ทัน ข้อนี้ท่านยอมรับดีกว่า ผู้น้อยโต้แย้งได้ แต่ให้อยู่ในขอบเขตของความเคารพ นอบน้อมให้เกียรติผู้ใหญ่ ถ้าเราจะเดินสวนทางกัน แล้วมาชนกัน ปิดปากทั้งสองฝั้ง คนขยับซ้าย คนขยับขวา เราก็เดินต่อไปได้ไม่มีปัญหา จริงไหมครับ? ถ่อมใจ
ความคิดเห็นที่ 3
แม่เราเห็นต่างกับคุณจขกท.มากๆเลยค่ะ แม่เราอนุญาตให้เราติ่งได้เต็มที่ เพราะท่านเชื่อว่ามันเป็น win-win นะ เราชอบเขา เขาก็มีคนสนับสนุน ส่วนเรา ก็ได้เรื่องบันดาลใจ ได้ความสุขจากการเป็นติ่ง อีกอย่างคือแม่เราเชื่อในตัวเรา ว่าเราร็ลิมิตตัวเองและมีความรับผิดชอบพอค่ะ ดังนั้นแม่เราเลยไว้ใจเราและสนับสนุนเรื่องติ่งมากๆเลย ^^
เราไม่รู้ว่าสมาคมที่จขกท.พูดนี้หมายถึงอะไรนะคะ แต่จากการที่เราชอบดาราเกาหลี เรามีเพื่อนที่ทำเวปบอร์ด หรือแฟนเบส ให้ดาราเกาหลี ถึงบางครั้งจะไม่ได้เงิน แต่ได้มิตรภาพและประสบการณ์หลายๆอย่างนะคะ มีบางสกิลสามารถเอามาใช้ในเรื่องอื่นได้เยอะด้วย
ปล.ตอนนี้เรียนป.โทอยู่ค่ะ
เราไม่รู้ว่าสมาคมที่จขกท.พูดนี้หมายถึงอะไรนะคะ แต่จากการที่เราชอบดาราเกาหลี เรามีเพื่อนที่ทำเวปบอร์ด หรือแฟนเบส ให้ดาราเกาหลี ถึงบางครั้งจะไม่ได้เงิน แต่ได้มิตรภาพและประสบการณ์หลายๆอย่างนะคะ มีบางสกิลสามารถเอามาใช้ในเรื่องอื่นได้เยอะด้วย
ปล.ตอนนี้เรียนป.โทอยู่ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ฝากเตือนบรรดาติ่งทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นติ่งดารานักร้องเกาหลีหรือไทยและอื่นๆที่อาการหนัก ว่าเอาเวลาไปทำสิ่งมีสาระดีกว่าไหม
คือถ้าชื่นชอบธรรมดา เราจะไม่ว่าเลยคือฟังเพลงเขา หรือดู Concert บ้างก็ไม่ได้เสียหายถือเป็นการพักผ่อน แต่สิ่งที่เห็นแล้วไม่ก่อประโยชน์เลยคือ ถึงขั้นตั้งกลุ่มสมาคมอะไรก็ไม่รู้ ตัวดิฉันมองว่าเป็นเรื่องที่ไร้ประโยชน์อย่างยิ่ง ได้เคยตามไปดูสมาคมของลูก แต่ละคนหน้าที่การงานก็ไม่ใช่จะรุ่ง บางคนยังเรียนอยู่เลย ถ้าเทียบกับเด็กต่างประเทศซึ่งเอาเวลาว่างไปก่อให้เกิดประโยชน์ไปศึกษาหาความรู้ รับงานเสริม รับ Job พิเศษ ลงเรียนภาษา หรืออะไรก็ได้ที่สร้างรายได้เสริม หรือสร้างทักษะที่จะสามารถสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้น แต่กลุ่มคนพวกนี้รวมถึงลูกดิฉันที่ยังเงินเดือนน้อยๆ กลับเอาเวลาว่างแทนที่จะหาวิธีเพิ่มทักษะของตัวเองเพื่อให้ได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้น หรือบางทีเก่งมากพออาจเป็นเจ้าของธุรกิจก็เป็นได้ แล้วดิฉันก็ไปถามๆดูพบสิ่งที่น่าตกใจว่าพวกนี้ส่วนใหญ่รายได้แทบจะไม่พอกับชีวิตประจำวัน ทำไมไม่คิดจะไปรับ Job พิเศษหารายได้เสริม มีมากมายหลายวิธีที่จะหารายได้เสริม ที่ดิฉันพูดมาไม่ได้หมายความว่าจะไม่ให้ไม่พักผ่อนจากงานจากเรียนเลย แต่เวลาพักผ่อนต่อ 1 วัน เราควรจัดสรรอย่างเหมาะสม เช่น ออกกำลังกายวันละ 2 ชั่วโมง สันทนาการ บันเทิง 1-2 ชม ที่เหลือนอน วันหยุด ก็จัดสรรค์หารายได้พิเศษ ลงเรียน หรืออ่านหนังสือเพิ่มทักษะ จัดเวลา meeting ก็ได้สัก 1-2 ชม แต่ไม่ใช่จัดกันจริงจังเป็นบ้าเป็นหลัง ตามดารานักร้องกันทั้งวัน ไม่ได้ประโยชน์เลยสักนิด
อยากบอกกลุ่มคนพวกนี้ว่า แทนที่เราจะไปตามเขาซึ่งยิ่งตาม เขามีแต่สำเร็จมากขึ้น แต่ตัวเรามีแต่จะตกต่ำเราเพราะมันแต่เอาเวลาไปเสียกับเรื่องไร้สาระ ทำไมไม่คิดว่าเราจะไปยืนอยู่จุดนั้นซะเอง
หาใครสักคนเป็นไอดอล แล้วพยายามที่จะขึ้นไปอยู่จุดนั้น คุณไม่จำเป็นต้องหล่อ ต้องสวย คุณก็เป็นคนสำคัญที่ให้คนอื่นตามได้ ในไทยก็มีเยอะแยะในทุกวงการ แค่คุณสร้างตัวคุณเองให้มีคุณค่า มีทักษะ หรือประสบความสำเร็จ อย่างนี้จะดีกว่าไหม ตอนนี้ลูกดิฉันหลังจากฟังดิฉันเทศน์ยาวๆ ก็กลับใจและตอนนี้ภายใน 2 ปี เงินเดือนลูกดิฉันเพิ่มขึ้นเกือบ 3 เท่า และได้เลื่อนตำแหน่งเป็นที่เรียบร้อย ลูกเพื่อนดิฉันที่ไปด้วยกันตอนนี้ก็เป็นเจ้าของกิจการเองแล้ว ก่อนหน้านั้น เขารับงานจนเกิดความชำนาญและทำสำเร็จ
สุดท้ายดิฉันเพียงอยากจะบอกว่ากลุ่มคนที่อยู่ในพวกที่ดิฉัน หากได้อ่าน ดิฉันเจตนาดีจริงๆ และได้สั่งสอนลูกจนสำเร็จแล้ว จึงอยากนำมาแชร์ ยังไม่สายแรกๆลูกดิฉันทำใจยากมากที่จะออกจากกรุ๊ปสมาคมตามนักร้องนั่น เพราะเพื่อนๆอยู่ในนั้น แต่เชื่อเถอะ สิ่งที่ดิฉันให้ลูกทำคือค่อยๆลด จากอาทิตย์นึงต้องไปสมาคมไรนั่น 4 วัน ให้ลดลงทีละวัน และสุดท้ายใช้งานการนัดกินข้าวเอา เดือนละ 1-2 ครั้ง ไม่ต้องไปตั้งสมาคมอะไรนั่น
ที่ดิฉันเอามาตั้งเพราะมีคนไทยจากที่ดิฉันเห็น ไม่น่าเชื่อว่ามีการรวมกลุ่มค้างคืนกันราวๆ 20-30 คนได้ เพื่อติดตามชีวิตดารา และทำ webboard กลุ่มมีการแบ่งหน้าที่จริงจังอย่างกับเป็นบริษัท ถ้าพ่อแม่คนไหนเห็นลูกๆมีพฤติกรรมเหล่านี้ก็ลองอ่านคำแนะนำและลองนำไปใช้ดูนะค่ะ หรือน้องๆคนไหนที่อยากสำเร็จอยากยืนอยู่ในจุดที่เป็นคนถูกตาม ไม่ใช่ คนตาม ก็ลองลดๆ ปรับตัวดูนะค่ะ
ปล
อีกอย่างนะค่ะ ดิฉันรู้ดีอยู่แล้วค่ะ ว่าตั้งกระทู้แบบนี้มีหวังโดนถล่มตายคาบอร์ดนี่แหละค่ะ ก็เหมือนครูที่สอนนักเรียนหลายร้อย แน่นอนค่ะ ดิฉันแค่หวังว่าช่วยคนเพียงไม่กี่คนได้ ดิฉันก็ดีใจแล้ว ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนโรงเรียนที่มีนักเรียนจำนวนมากมาย ถ้าปั้นให้คน Entrane ติดคณะสูงสุด แพทย์ ได้ไม่กี่คน คุณครูก็ดีใจและปลื้มใจแล้วค่ะ ( ดิฉันไม่ได้บอกว่าอาชีพอื่นไม่ดีนะ่ะ แค่ยกตัวอย่างอาชีพที่สร้างรายได้สูงแน่นอนเท่านั้นเองค่ะ )
***เตรียมใจรับคำต่อว่าและคำด่าก่อน post แล้วคะ เพราะว่าถ้าทุกคนคิดได้หมดประเทศนี้ก็จะไม่มีผู้ตาม , คนรายได้น้อย , คนเรียนไม่เก่ง , คนไม่ประสบความสำเร็จ และอื่นๆ อยู่แล้ว แต่หวังว่าบางคนที่คิดได้ทัน ช่วยได้แค่นั้น ในกระทู้นี้เรียกดิฉันว่าป้า เอาเป็นว่า ป้าก็ดีใจแล้วละค้า***
ด้วยความหวังดี
***จากการที่ได้อ่านหลาย Comment อันที่จริงป้าก็ได้เตรียมใจไว้แต่แรกแล้วคะว่าจะต้องมีคนพูดทำนองนี้นะคะ และต้องมีคนคอยจับผิดภาษาไทยแน่ๆ เพราะมีหลายตัวอย่างแล้ว สาบานว่าป้าคิดล่วงหน้าไว้เลย และถ้าจะให้ถูกหลักภาษาไทยเป๊ะๆ นั้นคำว่า ติ่ง ก็ไม่มีนะคะ แต่เอาเถอะเพื่อความสุขมวลประชาติ่ง ป้าไม่ได้ถือสาอะไรหรอกคะ เพราะเขียนในนี้ก็ไม่ได้จะอะไรทางการอยู่แล้ว หากจะเป็นทางการตรวจคำผิด google คงจะไม่เกินปัญญา แต่บางอย่างนั้นเป็นการพิมพ์แบบเร็วๆ ไม่ได้นึกอะไร ถ้าการให้ทราบเพียงสารที่แท้จริงที่ต้องการสื่อเท่านั้น
ถ้าลองอ่านสารที่ป้าต้องการจะสื่อจริงๆ ป้าไม่ได้ให้เลิกติ่งนะคะ การรวมตัวเพื่อสังสรรถือเป็นกิจกรรมทางสังคม ป้าเข้าใจ และการที่ศึกษาภาษาต่างประเทศเพื่อดู ฟังศิลปินที่ชื่นชอบนั้น ป้าก็เข้าใจ และป้าไม่เคยคิดจะดูถูกนักร้องเกาหลีเลยรับรองได้ ป้าได้ดูละคร MV และเบื้องหลังที่ลูกๆป้าติดตาม ป้าก็เห็นอยู่แล้วว่าระดับสุดยอดจริงๆ ละครก็สร้างได้ดี การแสดง MV ก็ดีมาก คงผ่านการฝึกฝนและเก็บตัวเพื่อฝึกซ้อม อีกทั้งทุ่มเทอย่างหนัก เพื่อให้ผลงานออกมาดีขนาดนี้ และยังรู้มาอีกว่ากลุ่มนักร้องพวกนี้ต้องมีการเก็บตัวในบ้านเพื่อซ้อมอย่างหนักจนผลงานออกมาก้าวสู่แนวหน้าระดับอินเตอร์ได้ ทำไมป้าจะไม่เข้าใจ ได้เห็นก็ชื่นชมและน้อยใจว่า ประเทศนี้เคยจนกว่าเราเสียอีก ลองไปศึกษาประวัติศาสตร์ดู แต่ตอนนี้ประเทศเกาหลีก้าวหน้าไปมาก เพราะการนิยมสร้างจุดเด่นในประเทศ และ "ส่วนใหญ่" ชาตินิยม แต่เปิดรับความคิดใหม่ๆ ถ้าการที่ติ่งจะดูและเอาเป็นตัวอย่างว่าเขาทำได้ เราต้องทำได้ นี่จะเป็นเรื่องที่ดี ป้าไม่ได้หมายความว่าเราจะต้องเป็นนักร้อง นักแสดงดังอะไรอย่างเขา มีหลายหลายวิธีที่จะคนเป็นชั้นแนวหน้า ดูอย่างคุณตัน ก็ไม่ได้เป็นดารานักร้อง ไม่ได้หล่ออะไร แต่ยิ่งใหญ่ นี่คือสิ่งที่ป้าหมายถึง
ป้าขอย้ำอีกทีการมีกิจกรรมเสริมเพื่อผ่อนคลายจากการทำงานเป็นเรื่องที่ดี แต่อะไรที่มันเกินพอดีมันก็ไม่ใช่ จริงอยู่ที่เป้าหมายของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ที่เหมือนกันแน่ๆคือ การอยากมั่นคง (ไม่ใช่ว่าจำเป็นต้องมั่งคั่ง) เวลามันผ่านไปเร็วนัก ถ้าเรามั่นคงแล้วเราจะทำอะไรมันก็ไม่มีอะไรเสียหรอก เราลองอ่านประวัติผู้ประสบความสำเร็จดูที่ตอนนี้เขาเที่ยว กิน ใช้ชีวิต เจ็บป่วยมีเงินรักษา สามารถตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ได้ดีที่สุด แต่สิ่งที่พวกเขาเหล่านั้นจะได้มาเขาต้องแลก ลำบากเสียสละบางอย่าง แค่เพียงช่วงเวลาหนึ่ง บางที 5-10 ปีด้วยซ้ำ
การที่เรียนจบแล้ว อย่างที่อาจารย์หลายคนบอกมันเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของชีวิตเท่านั้น ป้าเชื่อว่าติ่งหลายๆคนเข้าใจเพราะสิ่งที่ป้าอธิบายไปนั้นไม่ได้ซับซ้อนอะไรเลย แต่พยายามหลีกหนีเพื่อทำสิ่งที่ใจเรียกร้องจนลืมอะไรบางอย่างไปมากกว่า(เช่น ยกตัวอย่างว่าป้าเชื่อว่านักเรียนทุกคนรู้ว่าต้องเรียนแบบขยันถึงจะสอบได้คะแนนดี แต่ก็มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถทำได้ เพราะส่วนใหญ่รู้แต่ไม่ทำ จัดสรรเวลาไปกับใจรักมากกว่า จนเวลาที่ผ่านไปรวดเร็วมันก็ผ่านไปแล้วนึกย้อนกลับไปว่าทำไมตอนนั้นเราไม่....ก็ทำไม่ได้เสียแล้ว เวลาไม่เคยหยุด อายุก็เช่นกัน เวลาทุกนาทีมีค่าจัดสรรค์มันให้ดีก็เท่านั้น ติ่งที่จัดสรรค์ได้ดี ชีวิตตัวเองตอนนี้ดีอยู่แล้ว ป้าก็ไม่ได้ว่าอะไร แต่ป้าเห็นติ่งบางคน เห็นแล้วเป็นห่วงอนาคตแทนจริงๆ) และป้าก็ไม่ได้เอาเงินมาวัดความสำเร็จ แต่มันเป็นสิ่งที่ง่ายที่สุดในการยกตัวอย่าง ป้าแค่อยากจะเตือนเท่านั้นเองว่าความสุขทางใจเราต้องดี แต่ต้องให้พอดีๆ อยู่ในความเหมาะสม และพิจารณาดูสถานะของตัวเองว่าควรทำอะไร และควรทำตามใจถึงระดับไหนเท่านั้น
สุดท้ายอย่างที่ป้าบอกไป 1000 คนอ่านเชื่อว่า เกิน 80-90% เข้าใจสิ่งที่ป้าเขียน แต่มีเพียงไม่กี่เปอร์เซ็นต์ที่พร้อมจะเปลี่ยนแปลง(ไม่ได้ให้หมายความว่างดบันเทิง แค่ลดตามความเหมาะสมของสถานะตนซึ่งแต่ละคนไม่เหมือนกัน) ป้าจะขอยกตัวอย่างที่ไม่ถูกใจหลายๆคนแต่จำเป็นต้องเขียนเพื่อเห็นภาพง่ายขึ้นว่า ประเทศนี้ถ้าทุกคนเข้าใจ และรู้ว่าจังหวะชีวิตของตน ณ ตอนนั้นๆ ต้องทำอะไร จัดลำดับอะไรก่อนหลัง หรือควรจัดเวลาอย่างไรถึงจะเหมาะสม เพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาดีต่อตนเอง ครอบครัว ประเทศชาติ "ประเทศนี้คงไม่มีคนที่บ่นว่ารายได้ไม่พอ ,คงไม่มีคนที่อยู่ระดับล่างในการทำงาน , คงไม่มีคำว่าลูกน้อง , คงไม่มีคำว่าคนรายได้น้อย และในทางตรงกันข้าม คนที่มีเงินฝากในธนาคารเกิน 1 ล้านบาท คงมีมากกว่านี้เพราะตอนนี้ถ้าเทียบกับประชากรทั้งหมดนั้นน้อยมาก , คนคงเป็นเจ้านายกันหมด , คนทุกคนคงมีเงินสนอง need ได้หมด และถ้าเกิดเหตุฉุกเฉินในครอบครัว คงไม่มีปัญหาเพราะได้เก็บออมเงินสำรองเองไว้แล้ว นอกจากเหตุสุดวิสัย
ป้าไม่ได้ว่าติ่งทุกคนนะ อย่าดราม่ามากนะคะ เพราะติ่งบางคน ติ่งรุนแรงโดยไม่ดูสถานะของตนเลยว่าจัดสรรเวลาแบบนี้เหมาะสมจริงไหม หรือควรปรับลดลง หารายไดด้เสริมหรือ.......อะไรก็ตามเพื่อสร้างชีวิตที่ดีก่อน แล้วค่อยเพิ่มอัตราติ่งดีไหม คนที่อยากเป็นศิลปินก็ไปเอาจริงเอาจังลงเรียนแบบที่เกาหลีเขาทำกัน ฝึกฝนกันอย่างจริงจังดีไหม (ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของแต่ละคน)
แล้วลองคิดดูนะคะ สิ่งที่ป้ามาเขียนป้าได้อะไรบ้างคะ ไม่ได้อะไรเลย เงินทองก็ไม่ได้ คนชื่มชมยิ่งหายาก โดยเฉพาะ Tag ห้องติ่งโดยเฉพาะ มีแต่เสียกับเสีย โดนด่าทั้งนั้น แต่ป้าก่อน post ก็ยอมใจแต่แรกแล้วอย่างที่ป้าบอกขอช่วยคนแม้จะน้อยนิดที่ช่วยได้ แค่นี้ป้าก็ดีใจแล้ว พวกเราต้องยอมรับนะคะ เวลาเราหิวข้าว เขาไม่ให้เรากินฟรี เวลาเราป่วย เขาก็ไม่รักษาดีๆให้น้องๆฟรี สังคมที่เป็นอยู่มันต้องมีการแลกเปลี่ยนเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการแลกเงินเพื่อสิ่งของหรือบริการ แลกความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นด้วยการแลกไปทำสิ่งที่ไม่ได้รับอะไรตอบแทนนอกจากความสุขทางใจ แต่จงจำหลักความเป็นจริงว่า โลกนี้อยากได้อะไร เงินเป็นสิ่งแลกเปลี่ยนนะคะ ป้าไม่ได้ให้บ้าเงินนะคะ
แล้วติ่งที่จัดสรรเวลาได้ดีเหมาะสมกับสถานะของเราแล้ว ชีวิตความเป็นอยู่ดีแล้ว หรือบ้านรวยอยู่แล้ว ก็ดีอยู่แล้วนะคะที่จัดสรรเวลาได้เหมาะสมกับตัวเองอยู่แล้ว การรวมกลุ่มสังสรรเป็นเรื่องที่ดี มีสังคม แต่ความถี่หรือนานเท่าไร ก็จัดสรรเวลาอย่างที่อธิบายไปนะคะ "เหมาะกับสถานะของตน"
#### ตอนนี้มีหลายคนเกินกว่าที่ป้าคาดหวังไว้พอสมควรเลยส่งข้อความมาให้กำลังใจ และเนื้อความส่วนใหญ่คือเข้าใจเจตนาที่ต้องการเตือนสติ จากคนอาบน้ำร้อนมาก่อน ไม่ได้สั่งสอน และส่วนใหญ่ไม่กล้าออกมาpost เพราะจะโดนรุมอย่างหนักจากคนที่ไม่เห็นด้วยส่วนใหญ่ แค่นี้ป้าก็ดีใจแล้ว อย่างที่ป้าอยากจะย้ำ คือป้าไม่ได้หมายถึงติ่งทุกคน หรือติ่งหลายคนที่จัดสรรเวลาติ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ "เหมาะสมกับสถานะ" ของตนอยู่แล้วนะคะ บางคนบ้านมีฐานะอยู่แล้ว บางคนมีหน้าที่การงานดี เงินดี เลี้ยงตัวเองและครอบครัวอยู่แล้ว บางคนเรียนดีอยู่แล้ว เชื่อว่าติ่งพวกนี้เขาแค่ติ่งอดิเรกในสิ่งที่เขาชอบ คือจัดสรรเวลา งาน เรียน ครอบครัว หารายได้เสริมเป็นหลัก หรืออะไรก็แล้วแต่ แล้วติ่งอดิเรกยามว่างก็ติดตามศิลปินที่ชื่นชอบ ฟังเพลง ดูหนัง นัดเจอคนที่ชอบพอเหมือนกันเป็นครั้งคราว หรืออะไรก็ตามที่เหมาะสม และถ้าหากบางคนบ้านรวยอยู่แล้วใช้เงินทั้งชีวิตก็ไม่มีวันหมดแบบไม่ต้องทำงานด้วยซ้ำ หรือบางคนกิจการมั่นคงมีคนไว้ใจดูงานแทน จะติ่ง ALL THE TIME แบบ 7/11 ก็ยังได้ ป้าถึงบอกว่าจะติ่งระดับไหนต้องดูสถานะของตนว่าควรติ่งที่ระดับไหน จัดสรรเวลาติ่งอย่างไร สุดท้ายสิ่งที่ป้าพูดไม่ใช่การสั่งสอน ใครคิดว่าดีก็นำไปปรับใช้ ใครคิดว่าไม่ดี ก็ไม่ต้องนำไปใช้ เป็นข้อแนะนำเท่านั้น อย่างที่บอก และยกตัวอย่างที่หลายคนได้อ่านจะขัดหูขัดตา บางคนเห็นด้วย แต่พอเจอคำนี้ถึงกับชะงัก คือ " คนรวย คนประสบความสำเร็จ คนมีรายได้เพียงพอให้ชีวิตที่ดีได้ มีไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น แน่นอนคนพวกนี้คือคนกลุ่มน้อยคะ แล้วคนส่วมมากทำอะไรคิดอย่างไรถึงไม่ได้เ