อาชีพเสริมหรืออาชีพที่สอง เป็นคำที่เรามักได้ยินบ่อยๆ ในบทนี้ผมขอเล่าถึง เทคนิค และ วิธีการเล็กๆน้อยๆ สำหรับการเลือกทำอาชีพเสริมให้ประสบผมสำเร็จเล่าจากประสบการณ์จริงของผมและเรื่องราวของผู้คนรอบกายที่มีงานประจำและมีอาชีพเสริมควบคู่กันไปด้วย


1. เลือกอาชีพเสริมที่เราสามารถดูแลได้ด้วยเวลาที่เรามี


คำว่า อาชีพเสริม แค่ชื่อก็บอกแล้วครับว่าเป็นอาชีพรองที่ทำนอกเหนือจากอาชีพหลักๆที่เรากำลังทำ เงื่อนไขสำคัญของการทำอาชีพเสริมคือ “เรื่องของเวลา” เพราะ เราต้องทำสองอาชีพควบคู่กันไป ดังนั้นอาชีพเสริมที่ทำจะต้องไม่เบียดเบียนงานประจำ ... ด้วยเงื่อนไขของเวลา อาชีพเสริมโดยมากมักจะต้องเป็นอาชีพที่มีอิสระด้านเวลา หรือ ช่วงเวลาในการทำอาชีพที่ไม่ตรงกัน ... ด้วยความคาบเกี่ยวกันเหล่านี้ วินัยเรื่องของเวลารวมถึงจากจัดสรรเวลาจึงเป็นสิ่งสำคัญ ... หลายๆท่านที่ผมเห็นทำอาชีพเสริมแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ มีเหตุผลมากมายที่ทำแล้วล้มเหลว แต่เหตุผลหลักที่หลายๆคนมักอ้างไปถึงบ่อยๆคือคำว่า “ไม่มีเวลา” ไม่มีเวลาไปดูต้นทุน ไม่มีเวลาไปคุมคุณภาพ ไม่มีเวลาไปดูลูกน้อง หรือ กล่าวรวมๆคือ ไม่มีเวลาดูแลนั่นเอง ... แต่ถ้ามองเข้าไปลึกๆของปัญหาด้านเวลาเหล่านี้ ต้นตอของความล้มเหลวเหล่านี้ คือ ความผิดพลาดชนิดหนึ่งตั้งแต่เริ่มต้นคือ ... เลือกอาชีพเสริมที่ไม่เหมาะสมกับเวลาของตัวเอง

ผมเองทำงานประจำ จันทร์ถึงศุกร์ทำงาน 8.00 น. เลิกงาน 17.30 น. วันเสาร์ทำเสาร์เว้นเสาร์ ดังนั้นช่วงเวลาว่างคือเช้าตรู่และเย็น รวมถึงวันเสาร์(บางเสาร์)และวันอาทิตย์ ... เช่นอาชีพเสริมของผม คือ สร้างบ้านขาย ... ผมมักจะไปตรวจงานก่อสร้างตั้งแต่ตอนเช้าตรู่ ก่อนออกไปทำงาน ผมมักจะไปถึงหน้าโซด์ก่อสร้าง ราวๆ หกโมงกว่า เพื่อเดินสำรวจตรวจตาพร้อมผู้รับเหมา วันเสาร์และวันอาทิตย์ก็มาดูบ้างเป็นบางสัปดาห์ (ปล. ผู้รับเหมาทีมนี้เคยราวงานกันมาก่อน เป็นรุ่นน้องที่สนิทกัน รู้ใจกันดี ผมไว้วางใจเขาพอสมควร) ... บ้านเช่า เก็บเงินเดือนละครั้ง ตอนไปหาบ้านก็ไปดูวันอาทิตย์เป็นหลัก ผมจัดการได้สบาย มีซ่อมแซมบ้างแต่ก็นานๆที ด้วยเวลาในการทำงานที่ไม่ทับซ้อนกันเหล่านี้ทำให้ผมจัดการอาชีพเสริมของผมได้เป็นอย่างดี รวมถึงงานประจำก็ไม่เสียหาย

ขอเซนเซอร์หน้านิดนะครับ  ... เอ่อออ เซนเซอร์แล้วแลดูแย่กว่าเดิมไงไม่รู้ โจรโรคจิตชัดๆ 555+





2. เลือกอาชีพเสริมที่พึ่งพาแรงกายของเราเป็นหลัก

ความผิดพลาดอย่างร้ายแรงอย่างหนึ่งของการเลือกอาชีพเสริมคือ พึ่งพาคนอื่นมากเกินไป … จริงๆแล้วประเด็นนี้น่าจะประยุกต์ใช้ได้กับทุกอาชีพ ทุกธุรกิจ ... การที่เราจะทำอะไรบางอย่างแต่หวังพึ่งพาคนอื่นมากเกินไป เป็นความคิดที่มองโลกในแง่ดีเกินไป ในโลกแห่งความจริงคุณต้องอย่าลืมว่า ไม่มีใครจะดูแลและทำในสิ่งที่คุณทำได้เท่าตัวคุณเอง ... เราต้องคุมปัจจัยหลักๆจุดชี้เป็นชึ้ตายของกิจการให้ได้ดัวยตัวเอง ... ผมขอยกตัวอย่างจะประสบการณ์ตรงของผม ผมและภรรยาเคยเปิดร้านส้มตำไก่ย่างเล็กๆเพื่อเป็นอาชีพเสริม แต่ผมและภรรยาทำอาหารไม่เป็น  โดยที่ผมจ้างแม่ครัวมาทำและดูแลให้เกือบทั้งหมด ... แต่พอแม่ครัวจากไปกิจการก็ล้มไม่เป็นท่าในเวลาไม่นานหลังจากนั้น … เห็นได้ชัดว่ากิจการนี้นอกจากผมทำเองไม่ได้แล้วผมพึ่งพาคนอื่นมากเกินไปอีกต่างหาก

เราลองมาดูตัวอย่างอาชีพเสริมที่ประสบความสำเร็จกันบ้าง เพื่อนผมท่านหนึ่งเป็นวิศวกร ปัจจุบันทำงานอยู่ที่การไฟฟ้า มีภรรยาเป็นครูภาษาอังกฤษ ... เมื่อราวสามสี่ปีก่อนเขาทั้งคู่ก็เริ่มมองหาอาชีพเสริมที่จะสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัวได้บ้าง ... ภรรยาเขาเริ่มจากสอนพิเศษกลุ่มเล็กๆในบ้านตัวเอง จาก 1 กลุ่ม เป็น 2 กลุ่ม จาก 2 เป็น 3 ... ต่อมาเพื่อนผมจึงเข้าร่วมในการสอนด้วย ... สองคนสามีภรรยาที่มีงานประจำทั้งคู่ จากงานอาชีพสอนพิเศษเล็กๆ ตอนนี้ได้กลายเป็นอาชีพเสริมที่สำคัญ เดิมทีสอนสองคนสามีภรรยาแต่ตอนนี้ มีครูช่วยสอนเพิ่มอีก 3 คน จากแรกเริ่มที่ใช้บ้านตัวเองก็ เริ่มไปเช่าที่สอนต่างหากและปัจจุบันก็กำลังกู้ซื้ออาคารพาณิชย์เพื่อใช้สอนเป็นของตนเอง





3. เลือกอาชีพเสริมจากสิ่งที่เราถนัด

การเลือกอาชีพที่เราถนัดอยู่แล้ว จะทำให้เราเริ่มต้นได้ง่ายขึ้นเยอะ ... เริ่มจากงานอดิเรก เริ่มจากงานที่เราสนใจ เริ่มจากงานที่ถนัด เริ่มจากงานที่เรามีความรู้อยู่เป็นทุนเดิม อันนี้มีตัวอย่างเยอะครับ ... หลายเดือนก่อน ผมไปนั่งทานข้าวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ... นั่งไปนั่งมาผมเห็นรุ่นน้องที่รู้จักกันกำลังเล่นดนตรีอยู่บนเวที ... ผมแปลกใจเล็กๆจำได้ว่าน้องเขาทำงานเป็นนักวิจัยอยู่นี่นา ... ผมมอง เขาเห็นผมก็พยักหน้าให้ หลังลงจากเวทีก็เดินมาคุยด้วย ... เขาเล่าว่าปกติเขาชอบเล่นดนตรีเป็นงานอดิเรกอยู่มาวันหนึ่งก็มีคนชวนมาเคสที่ร้านอาหาร น้องเขาก็ไปเคสดูสรุปว่าผ่าน ก็เลยเล่มมาเรื่อยๆ ... กลางวันเป็นนักวิจัยกลางคืนเป็นนักดนตรี แต่เขาเลือกเล่นแค่ช่วงหัวค่ำเป็นหลัก จากที่ฟังเหมือนว่าเงินดีกว่างานนักวิจัยอีก ผมก็ถามต่อว่าทำไมไม่ออก เขาบอกว่าจะออกทำไมในเมื่อทำสองอย่างได้สบายๆ … เพื่อนอีกคนชอบทำขนม ทำขนมเป็นงานอดิเรก ทำมากเข้าๆ เพื่อนฝูงชมบ่อย เลยเริ่มไปวางขายตามร้านนู้นร้านนี้ ผลตอบรับก็ดีเกินคาด ... ขออีกสักตัวอย่างหนึ่ง เพื่อนสนิทผมทำงานสายออกแบบ แต่ด้วยความที่ชอบศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมในเรื่องของเวปไซท์เสมอ … จึงเริ่มพัฒนาฝีมือ รับงานพิเศษนอกเวลามาทำ งานออกแบบเวปไซท์ ปรับปรุงดูแลเวป รับทำ SEO ฯลฯ เห็นว่ารายรับปีๆหนึ่งรวมๆก็หลายเงินอยู่เหมือนกัน


  


4. ในเมื่อเลือกได้แล้ว ... ก็จงกล้าที่จะลงมือทำ!!!

ถ้าแค่คิดอยู่แต่ในหัว ถ้ามัวเขียนอยู่แต่ในกระดาษ รับรองชาตินี้ก็ไม่มีเกิดผล ... ต้องกล้าที่จะลอง พี่ชายที่ผมรู้จักท่านหนึ่งได้ก้าวข้ามขีดจำกัดและเงื่อนไขของตัวเอง โดยการปั้นแบรนด์และขายแฟรนไชส์ ทั้งๆยังที่ทำงานประจำอยู่!!! ปัจจุบันนี้ขยายไปแล้วกว่า 65 สาขา ... สำหรับพี่ท่านนี้ผมคงไม่ขออารัมภบทอะไรมาก ... ลองอ่านในสิ่งที่พี่เขาเขียนไว้ใน Facebook ดูครับ





นี่เป็นแนวทางการเลือกอาชีพเสริมครับที่ผมอยากเล่าสู่กันฟัง

แต่ต้องอย่าลืมนะครับว่าการเลือก เป็นเพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น ยังมีหนทางอีกยาวไกลที่จะพิสูจน์ว่าคุณจะประสบผลสำเร็จหรือไม่ และแน่นอนว่าหนทางยังอีกยาวไกล ความลำบากที่ต้องเผชิญยังมีอีกมาก ... แต่ผมเชื่อว่าเราจะผ่านมันไปได้ ด้วยความอดทน ด้วยความมุ่งมั่นที่เรามี


ขอให้ประสบความสำเร็จในอาชีพเสริมนะครับ


…[^_^]…