สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงานครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call ทุกๆท่าน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index เริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมา หลังจากมีกระแสข่าวที่ว่า ตลท อาจจะออกมาตราการใหม่ๆ
ออกมาเพื่อคุมดูแล หลักทรัพย์ ที่มีอัตราแกว่งของราคาค่อนข้างรุนแรง กับอีกปัจจัยกดดัน ก็คือ ราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลงมาแรง
ตามราคาน้ำมันโลกที่ทำสถิติลงมาต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งปัจจัยนี้ อาจจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นที่มีธรุกิจเกี่ยวกับ น้ำมัน
ซึ่งเหตุนี้ จะมีผลทำให้ขาดทุนสต๊อกน้ำมันสูง ดังนั้น จึงทำให้ SET index ย่อตัวลงมาปิดไปที่ระดับ 1575 จุด -1.33 จุด
วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นไปได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 161.59 จุด หรือ 0.92% แตะที่ 17,329.24 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการ
ได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.6%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มประกัน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มก่อสร้าง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างทรงตัวเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดขยับลงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น
ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นครั้งที่หกในรอบเจ็ดวันทำการที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา
เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการเข้าลงทุน หลังจากที่ตลาดเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ และทำสถิติใหม่หลายครั้งในรอบสัปดาห์
ดัชนีดาวโจนส์ดลง 18.05 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 17,634.74 จุด
ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 0.49 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 2,039.82 จุด
ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 8.40 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 4,688.54 จุด
สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.3% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งทั้งสองดัชนีต่างเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่
ส่วน NASDAQ พุ่ง 1.2% โดยดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ห้าในวันศุกร์ และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2543
ภาวะการซื้อขายในวันศุกร์ค่อนข้างเงียบเหงา โดยถึงแม้ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมที่เป็นบวก แต่นักลงทุนลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้น
หลังจากที่ดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้นมีอยู่หลายรายการ
ด้วยกัน โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า
จะเพิ่มขึ้น 0.2% นับเป็นสัญญาณสดใสที่บ่งชี้ว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ในขณะที่สหรัฐกำลัง
จะเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายซื้อของเนื่องในเทศกาลวันหยุด
กระทรวงพาณิชย์รายงานในวันเดียวกันว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดขายของภาคธุรกิจแทบไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่ผลสำรวจโดยทอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นแตะที่ระดับ 89.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 และสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ด้านกระทรวงแรงงานเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าของสหรัฐลดลง 1.3% ในเดือนต.ค. โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลง ขณะที่ราคาส่งออกลดลง 1.0%
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นลงระหว่างแดนบวกและลบในระหว่างวัน และสามารถปิดปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุด
เป็นประวัติการณ์ได้หลายครั้ง ขณะที่นักลงทุนพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการภาคเอกชน ควบคู่ไปกับการประเมินราคาหุ้น
เพื่อใช้เป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจในการเข้าลงทุน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงได้สร้างแรงกดดันให้หุ้นของบริษัทพลังงาน
แต่ขณะเดียวกันก็เป็นปัจจัยสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค
"ฝั่งยุโรป"
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อย (14 พ.ย.) โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มเหมือง
ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสาม แต่การฟื้นตัวยังคงเป็นไปอย่างซบเซา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 335.63 จุด โดยทั้งสัปดาห์ดัชนีขยับขึ้น 0.1%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 14.51 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,202.46 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเพิ่มขึ้น 4.43 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 9,252.94 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 6,654.37 จุด
ภาวะการซื้อขายในวันศุกร์ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพ โดยหุ้นโนวาร์ติส เอจี ปรับตัวลงเกือบ 1% ในตลาดหุ้นสวิส และแอสตร้า
เซนเนก้า ร่วงลง 1.6% ในตลาดหุ้นอังกฤษ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(จีดีพี) ในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 18 ประเทศขยายตัว 0.2% ในไตรมาสสามของปี 2557 ขณะที่จีดีพีในอียู ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 28 ประเทศ
ขยายตัว 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า การขยายตัวอย่างซบเซาของเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ผ่านมานั้นตอกย้ำความกังวลว่า ภูมิภาคกำลัง
ได้รับผลกระทบจากการลงทุนที่ลดลง และการว่างงานที่อยู่ในระดับสูง
โดยเศรษฐกิจประเทศยักษ์ใหญ่ของภูมิภาคอย่างฝรั่งเศส และเยอรมนี ต่างก็ขยายตัวเพียงเล็กน้อยในไตรมาสสาม ซึ่งบ่งชี้ว่ายูโรโซนยังคงเผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซา
คริสเตียน นัวเยร์ สมาชิกคณะมนตรีบริหารของธนาคารกลางยุโรปเผยว่า อีซีบีอาจซื้อพันธบัตรรัฐบาล หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจยุโรปอีกครั้งจนทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
- หุ้นบริษัทเหมืองและผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงเช่นกัน นำโดยอุโตคุมปู และอังโกล อเมริกัน เพราะถูกกดดันจากราคาโลหะที่ร่วงลง
จากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
- หุ้นอาเบนโกอา บริษัทพลังงานไฟฟ้าของสเปน ร่วงลงหนักสุด โดยดิ่งลงถึงราว 40% ในตลาดหุ้นสเปน เนื่องจากนักลงทุนเกิดความสับสน
เกี่ยวกับการรับประกันหุ้นกู้ของบริษัท
- หุ้นโนเกียร่วงลงกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการปรับเพิ่มเป้าหมายผลกำไรของกลุ่มบริษัท
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะยืนเหนือ ระดับ 1580 จุด แต่ก็เจอแรงเทขายออกมาเป็นระยะๆ
ตลอดทั้งวัน จึงทำให้ย่อตัวลงมา และปิดแท่งเทียนไปแบบ "Dark Cloud Cover" ซึ่งทำให้สัญญาณระยะสั้น กลับมาดูแย่ลง
ดังนั้น คาดว่า แนวโน้มวันนี้ มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาได้ต่อ / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัวลงมา และสามารถ กลับขึ้นไปยืนเหนือ 1580 จุด ได้อีกครั้ง
จะเป็นการยืนยัน รูปแบบการกลับตัว "Descending Broadening Wedge" และมีโอกาสขึ้นไป ทดสอบระดับ 1600 จุด ก็เป็นได้
S50Z14 TF day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะขึ้นไปยืนเหนือ ระดับ 1060 จุด แต่ไม่สำเร็จ เพราะเจอแรงเทขาย
ออกมาเป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน จึงทำให้ย่อตัวลงมา และปิดแท่งเทียนรูปแบบ "Dark Cloud Cover" พร้อมกับเกิด "Triple Top"
ดังนั้น จึงคาดว่า แนวโน้มวันนี้ มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาได้ต่อ / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัว ก็ลุ้นให้ ทะลุขึ้นไปปิดเหนือ 1060 จุด ให้ได้
แล้วจะทำให้ ภาพของ Dark Cloud + Triple Top จางหายไป แล้วมีโอกาส ขึ้นไปทำ All Time High ได้อีกครั้ง
TF60 : ช่วงวันศุกร์ มีพยายามทะลุ 1060 จุด แต่ไม่สำเร็จ และกลายเป็น Tripple Top ขึ้นมาทันที จึงทำให้ตลอดทั้งวัน
ได้เห็นการย่อตัวลงมา ซึ่งถ้าหากวันนี้ หลุดเส้น EMA25 วัน ลงไป มีโอกาสที่จะร่วงลงไปปิด Gap ที่เปิดไว้ด้านล่าง
แต่ถ้าหากไม่หลุด EMA25 วัน ก็มีโอกาสที่จะเกิด Technical Rebound ขึ้นไปทดสอบ ระดับ 1060 อีกครั้ง ก็เป็นได้
Resistance 1057 1060 1066 / 1580 1585 1590
Support 1052 1047 1043 1040 / 1570 1565 1560
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call (17 Nov 14 )
สวัสดียามเช้าวันจันทร์ วันแรกของสัปดาห์การทำงานครับ พี่ๆ น้องๆ ชาว ขาS และ ขาL & ชาว Put,Call ทุกๆท่าน
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET index เริ่มเห็นแรงเทขายทำกำไรออกมา หลังจากมีกระแสข่าวที่ว่า ตลท อาจจะออกมาตราการใหม่ๆ
ออกมาเพื่อคุมดูแล หลักทรัพย์ ที่มีอัตราแกว่งของราคาค่อนข้างรุนแรง กับอีกปัจจัยกดดัน ก็คือ ราคาหุ้นกลุ่มพลังงาน ร่วงลงมาแรง
ตามราคาน้ำมันโลกที่ทำสถิติลงมาต่ำสุดในรอบ 4 ปี ซึ่งปัจจัยนี้ อาจจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงาน โดยเฉพาะหุ้นที่มีธรุกิจเกี่ยวกับ น้ำมัน
ซึ่งเหตุนี้ จะมีผลทำให้ขาดทุนสต๊อกน้ำมันสูง ดังนั้น จึงทำให้ SET index ย่อตัวลงมาปิดไปที่ระดับ 1575 จุด -1.33 จุด
วันนี้มาติดตามกันต่อ ว่าจะสามารถฟื้นตัวขึ้นไปได้หรือไม่
Fundamental
"เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลง 161.59 จุด หรือ 0.92% แตะที่ 17,329.24 จุด หลังจากตลาดเปิดทำการ
ได้เพียง 15 นาทีในวันนี้ หลังจากรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ไตรมาส 3 ปีนี้ หดตัวลง 1.6%
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า หุ้นที่ปรับตัวลงในช่วงเช้าวันนี้ รวมถึงหุ้นกลุ่มประกัน กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ และกลุ่มก่อสร้าง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีหุ้นนิวยอร์กค่อนข้างทรงตัวเมื่อวันศุกร์ (14 พ.ย.) โดยดาวโจนส์ปิดขยับลงเล็กน้อย ขณะที่ดัชนี S&P 500 ขยับขึ้น
ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์อีกครั้งหนึ่ง โดยเป็นครั้งที่หกในรอบเจ็ดวันทำการที่ผ่านมา ท่ามกลางภาวะซื้อขายที่ค่อนข้างเงียบเหงา
เนื่องจากนักลงทุนส่วนหนึ่งชะลอการเข้าลงทุน หลังจากที่ตลาดเคลื่อนไหวแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ และทำสถิติใหม่หลายครั้งในรอบสัปดาห์
ดัชนีดาวโจนส์ดลง 18.05 จุด หรือ 0.10% ปิดที่ 17,634.74 จุด
ดัชนี S&P500 ขยับขึ้น 0.49 จุด หรือ 0.02% ปิดที่ 2,039.82 จุด
ดัชนี NASDAQ เพิ่มขึ้น 8.40 จุด หรือ 0.18% ปิดที่ 4,688.54 จุด
สำหรับตลอดทั้งสัปดาห์ ดัชนีดาวโจนส์ปรับตัวขึ้น 0.3% และ S&P 500 เพิ่มขึ้น 0.4% ซึ่งทั้งสองดัชนีต่างเดินหน้าขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่
ส่วน NASDAQ พุ่ง 1.2% โดยดัชนีปรับตัวขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ห้าในวันศุกร์ และแตะระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2543
ภาวะการซื้อขายในวันศุกร์ค่อนข้างเงียบเหงา โดยถึงแม้ว่ามีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจโดยรวมที่เป็นบวก แต่นักลงทุนลังเลที่จะเข้าซื้อหุ้น
หลังจากที่ดัชนีทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลายครั้งในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้นมีอยู่หลายรายการ
ด้วยกัน โดยกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐเปิดเผยว่า ยอดค้าปลีกของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.3% ในต.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า
จะเพิ่มขึ้น 0.2% นับเป็นสัญญาณสดใสที่บ่งชี้ว่า การปรับตัวลงของราคาน้ำมันช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของภาคครัวเรือน ในขณะที่สหรัฐกำลัง
จะเข้าสู่ฤดูกาลจับจ่ายซื้อของเนื่องในเทศกาลวันหยุด
กระทรวงพาณิชย์รายงานในวันเดียวกันว่า สต็อกสินค้าคงคลังภาคธุรกิจเพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนก.ย. ขณะที่ยอดขายของภาคธุรกิจแทบไม่เปลี่ยนแปลง
ขณะที่ผลสำรวจโดยทอมสัน รอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกนบ่งชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐในเดือนพ.ย.ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 7 ปี
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเบื้องต้นแตะที่ระดับ 89.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค.2550 และสูงกว่าการคาดการณ์ของตลาด
ด้านกระทรวงแรงงานเผยว่า ดัชนีราคานำเข้าของสหรัฐลดลง 1.3% ในเดือนต.ค. โดยมีสาเหตุหลักมาจากราคาเชื้อเพลิงที่ปรับตัวลง ขณะที่ราคาส่งออกลดลง 1.0%
ทั้งนี้ ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นลงระหว่างแดนบวกและลบในระหว่างวัน และสามารถปิดปรับตัวขึ้นทำสถิติสูงสุด
เป็นประวัติการณ์ได้หลายครั้ง ขณะที่นักลงทุนพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจและผลประกอบการภาคเอกชน ควบคู่ไปกับการประเมินราคาหุ้น
เพื่อใช้เป็นปัจจัยประกอบการตัดสินใจในการเข้าลงทุน
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด โดยราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลงได้สร้างแรงกดดันให้หุ้นของบริษัทพลังงาน
แต่ขณะเดียวกันก็เป็นปัจจัยสนับสนุนการใช้จ่ายของผู้บริโภค
"ฝั่งยุโรป"
ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเล็กน้อย (14 พ.ย.) โดยภาวะการซื้อขายถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพ และกลุ่มเหมือง
ขณะเดียวกันมีการเปิดเผยตัวเลขจีดีพีซึ่งบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจยูโรโซนขยายตัวขึ้นเล็กน้อยในไตรมาสสาม แต่การฟื้นตัวยังคงเป็นไปอย่างซบเซา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.1% ปิดที่ 335.63 จุด โดยทั้งสัปดาห์ดัชนีขยับขึ้น 0.1%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 14.51 จุด หรือ 0.35% ปิดที่ 4,202.46 จุด
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันเพิ่มขึ้น 4.43 จุด หรือ 0.05% ปิดที่ 9,252.94 จุด
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนเพิ่มขึ้น 18.92 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 6,654.37 จุด
ภาวะการซื้อขายในวันศุกร์ถูกกดดันจากแรงขายหุ้นกลุ่มบริการสุขภาพ โดยหุ้นโนวาร์ติส เอจี ปรับตัวลงเกือบ 1% ในตลาดหุ้นสวิส และแอสตร้า
เซนเนก้า ร่วงลง 1.6% ในตลาดหุ้นอังกฤษ
สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์นั้น สำนักงานสถิติแห่งสหภาพยุโรป หรือยูโรสแตท รายงานว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ
(จีดีพี) ในกลุ่มประเทศที่ใช้เงินยูโร 18 ประเทศขยายตัว 0.2% ในไตรมาสสามของปี 2557 ขณะที่จีดีพีในอียู ซึ่งประกอบด้วยสมาชิก 28 ประเทศ
ขยายตัว 0.3% จากไตรมาสก่อนหน้า การขยายตัวอย่างซบเซาของเศรษฐกิจยูโรโซนในไตรมาสที่ผ่านมานั้นตอกย้ำความกังวลว่า ภูมิภาคกำลัง
ได้รับผลกระทบจากการลงทุนที่ลดลง และการว่างงานที่อยู่ในระดับสูง
โดยเศรษฐกิจประเทศยักษ์ใหญ่ของภูมิภาคอย่างฝรั่งเศส และเยอรมนี ต่างก็ขยายตัวเพียงเล็กน้อยในไตรมาสสาม ซึ่งบ่งชี้ว่ายูโรโซนยังคงเผชิญภาวะเศรษฐกิจซบเซา
คริสเตียน นัวเยร์ สมาชิกคณะมนตรีบริหารของธนาคารกลางยุโรปเผยว่า อีซีบีอาจซื้อพันธบัตรรัฐบาล หากอัตราดอกเบี้ยปรับตัวสูงขึ้น หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญเกิดขึ้นกับเศรษฐกิจยุโรปอีกครั้งจนทำให้ตัวเลขเงินเฟ้อไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้
- หุ้นบริษัทเหมืองและผู้ผลิตสินค้าโภคภัณฑ์ปรับตัวลงเช่นกัน นำโดยอุโตคุมปู และอังโกล อเมริกัน เพราะถูกกดดันจากราคาโลหะที่ร่วงลง
จากความกังวลเกี่ยวกับการขยายตัวของเศรษฐกิจโลก
- หุ้นอาเบนโกอา บริษัทพลังงานไฟฟ้าของสเปน ร่วงลงหนักสุด โดยดิ่งลงถึงราว 40% ในตลาดหุ้นสเปน เนื่องจากนักลงทุนเกิดความสับสน
เกี่ยวกับการรับประกันหุ้นกู้ของบริษัท
- หุ้นโนเกียร่วงลงกว่า 5% เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับการปรับเพิ่มเป้าหมายผลกำไรของกลุ่มบริษัท
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเควสท์
Technical Analysis
SET index TF Day : เมื่อวานศุกร์ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะยืนเหนือ ระดับ 1580 จุด แต่ก็เจอแรงเทขายออกมาเป็นระยะๆ
ตลอดทั้งวัน จึงทำให้ย่อตัวลงมา และปิดแท่งเทียนไปแบบ "Dark Cloud Cover" ซึ่งทำให้สัญญาณระยะสั้น กลับมาดูแย่ลง
ดังนั้น คาดว่า แนวโน้มวันนี้ มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาได้ต่อ / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัวลงมา และสามารถ กลับขึ้นไปยืนเหนือ 1580 จุด ได้อีกครั้ง
จะเป็นการยืนยัน รูปแบบการกลับตัว "Descending Broadening Wedge" และมีโอกาสขึ้นไป ทดสอบระดับ 1600 จุด ก็เป็นได้
S50Z14 TF day : เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา มีความพยายามที่จะขึ้นไปยืนเหนือ ระดับ 1060 จุด แต่ไม่สำเร็จ เพราะเจอแรงเทขาย
ออกมาเป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน จึงทำให้ย่อตัวลงมา และปิดแท่งเทียนรูปแบบ "Dark Cloud Cover" พร้อมกับเกิด "Triple Top"
ดังนั้น จึงคาดว่า แนวโน้มวันนี้ มีโอกาสที่จะย่อตัวลงมาได้ต่อ / แต่ถ้าหากไม่ย่อตัว ก็ลุ้นให้ ทะลุขึ้นไปปิดเหนือ 1060 จุด ให้ได้
แล้วจะทำให้ ภาพของ Dark Cloud + Triple Top จางหายไป แล้วมีโอกาส ขึ้นไปทำ All Time High ได้อีกครั้ง
TF60 : ช่วงวันศุกร์ มีพยายามทะลุ 1060 จุด แต่ไม่สำเร็จ และกลายเป็น Tripple Top ขึ้นมาทันที จึงทำให้ตลอดทั้งวัน
ได้เห็นการย่อตัวลงมา ซึ่งถ้าหากวันนี้ หลุดเส้น EMA25 วัน ลงไป มีโอกาสที่จะร่วงลงไปปิด Gap ที่เปิดไว้ด้านล่าง
แต่ถ้าหากไม่หลุด EMA25 วัน ก็มีโอกาสที่จะเกิด Technical Rebound ขึ้นไปทดสอบ ระดับ 1060 อีกครั้ง ก็เป็นได้
Resistance 1057 1060 1066 / 1580 1585 1590
Support 1052 1047 1043 1040 / 1570 1565 1560
*EOD End of day
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
สำหรับพี่ๆ น้องๆ ที่ เล่น Put,Call Option ครับ ผมอาจจะไม่ ถนัดด้านนี้
แต่ ในกระทู้นี้ รับรองว่ามี จอมขมังเวทย์ Option เยอะครับ เชิญแชร์ iDea เจ๋งๆ เด็ดๆ / หรือข้อสงสัย สอบถามกันตามสบายเลยครับ