ดิฉันโดนตำรวจนายหนึ่งที่ สภ.ดอนฉิมพลี อ.บางน้ำเปรี้ยว จ.ฉะเชิงเทรา กลั่นแกล้ง จนทำให้ดิฉันและลูกชายของดิฉันรู้สึกเป็นทุกข์อย่างแสนสาหัส หัวอกคนเป็นแม่ ต้องทนดูตำรวจสร้างตราบาปให้ลูกดิฉันซึ่งอายุแค่ 12 ปี ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กขี้คุก สังคมตราหน้าลูกชายดิฉันว่าเกเรติดคุกติดตารางตั้งแต่ยังเด็ก เนื่องจากวันที่ 8 พฤศจิกายน 2557 เวลาประมาณ 17.00น. ที่โรงเลี้ยงไก่ในหมู่บ้านของดิฉันเอง ลูกชายดิฉันเป็นเด็กที่ชอบเลี้ยงไก่ ซึ่งชาวบ้านในหมู่บ้านรู้กันดีว่าลูกชายของดิฉันชอบเลี้ยงไก่มากๆ ลูกชายของดิฉันได้บังเอิญไปที่โรงเลี้ยงไก่หรือสถานที่เกิดเหตุเพื่อดูไก่ในสิ่งที่เค้าชอบ บังเอิญตำรวจงานสืบสวน สภ.ดอนฉิมพลี ได้เข้าไปจับกุมเด็กๆทั้งหมด 5 คน เป็นเยาวชน 2 คน ซึ่งหนึ่งในเยาวชนนั้น คือลูกชายของดิฉันและกล่าวหาว่า ร่วมกันครอบครองน้ำใบพืชกระท่อม เพียงลูกชายไปถึงโรงเลี้ยงไก่ ตำรวจงานสืบสวนก็เข้ามาพอดี และได้จับลูกชายดิฉันมาด้วยทั้งๆที่คนในที่เกิดเหตุแจ้งแล้วว่าเยาวชน 2คนนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้อง แต่ตำรวจไม่ยอมฟัง ช่วงที่จับเยาวชนตำรวจยังถามลูกชายของดิฉันอีกว่าทำไมไม่หนี ลูกชายของดิฉันตอบว่าผมไม่ได้ทำผิดอะไรทำไมต้องหนี ตำรวจคนหนึ่งในงานสืบสวนบอกกับพวกเด็กๆและลูกชายของดิฉันว่าวันหลังให้ไปทำใกล้ๆชายคลองจะได้กระโดดน้ำหนี ดิฉันคิดว่าคำพูดนี้ไม่น่าออกจากปากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นผู้พิทักษ์สันติราช แทนที่จะว่ากล่าวตักเตือนเพราะเห็นว่าเป็นเด็ก ทำไมตำรวจถึงไม่ทำ ซึ่งถ้าลูกดิฉันกระทำความผิดแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว ก็สมควรดำเนินคดีตามกฏหมาย แต่นี้ลูกดิฉันไม่ได้กระทำความผิดแค่ไปอยู่ในสถานที่เกิดเหตุ แต่ทำไมตำรวจให้ข้อกล่าวหาร่วมกันครอบครองน้ำใบพืชกระท่อม ใช่ว่าเป็นตำรวจมีกฏหมายอยู่ในมือแล้วจะทำอะไรกับประชาชนตาดำๆที่ไม่รู้กฏหมายก็ได้หรือ ขนาดเด็กรุ่นพี่ที่โดนจับไปด้วยกันบอกว่า ลูกดิฉันเค้าพึงมาที่โรงไก่หรือ สถานที่เกิดเหตุ ไม่ได้เสพหรือครอบครอง ตำรวจก็ไม่ฟัง แถมยังบอกว่าอยู่ในที่เกิดเหตุถือว่าร่วมกันกระทำความผิดทุกคน แล้วทำไมไม่จับตาที่นั่งปลอกมะพร้าวอยู่ตรงนั้นด้วยละ เด็กทั้ง5คนนี้ ไม่ได้นั่งมั่วสุมกินน้ำใบพืชกระท่อมกันตามข้อกล่าวหาแต่อย่างใด คนเด็กหนึ่งนั่งเล่นเกมในมือถือ และเด็กสองคนช่วยกันปลอกมะพร้าวกับตา เยาวชนสองคนพึ่งมาถึงที่โรงเลี้ยงไก่พอดี แล้วตำรวจก็ไปหาหลักฐานมาจากไหนก็ไม่รู้มาเป็นหลักฐานจับเด็ก แล้วบอกกับเด็กว่าหลักฐานนี้เป็นของเด็กทุกคนที่อยู่ตรงนั้น แล้วอย่างนี้ ถ้าตำรวจจะยัดอะไรใส่มือเรา เราก็ต้องยอมรับว่าเป็นของเราหรือ ทั้งที่มันไม่ใช่ เราไม่มีสิทธอธิบายหรือเรียกร้องความถูกต้อง ต้องก้มหน้ารับกรรมตามที่ตำรวจยัดข้อกล่าวหาให้เลยหรือ ดิฉันอยากข้อความช่วยเหลือจากผู้ที่อ่านกระทู้ ว่าพอจะมีวิธีไหนช่วยให้ลูกดิฉันพ้นมลทินได้บ้าง หัวอกของคนเป็นแม่หัวใจแทบสลายที่ตำรวจทำกับลูกดิฉัน และในระหว่างควบคุมตัวมาโรงพัก ต้องผ่านสถานที่ทำงานของดิฉัน ลูกชายของดิฉันบอกว่าให้จอดที่ทำงานของดิฉันเพื่อบอกดิฉันว่า โดนจับกุม ตำรวจนายหนึ่ง จึงพูดว่า แม่ทำงานที่นี้หรอ ตำรวจนายนี้จึงรู้ว่าเป็นลูกชายของดิฉัน ตำรวจนายนี้ พูดคุยกับลูกชายดิฉันว่า จะได้เอาคืน หัวอกคนเป็นแม่เมื่อรู้ว่าลูกชายโดนจับไปโรงพักก็ตามลูกชายไป แล้วตำรวจนายนี้ก็พูดกับดิฉันว่า คุณเป็นผู้ปกครองหรือแม่เด็กต้องอยู่เซ็นชื่อรับทราบเป็นผู้ปกครอง ก่อนที่ดิฉันจะเซ็นก็หันไปถามลูกชายว่า ดื่มน้ำใบกระท่อมหรือเปล่า ลูกชายยืนยันว่าไม่ได้ดื่ม พึ่งไปถึง แต่ตำรวจนายนี้ ก็พูดขึ้นว่า อยู่ในที่เกิดเหตุถือว่ามีความผิดร่วมกัน ดิฉันงงมาก ที่ดิฉันเซ็นใบบันทึกการจับ เข้าใจว่าเซ็นรับทราบเป็นผู้ปกครองเท่านั้น ในบันทึกการจับ ดิฉันอ่านก่อนเซ็นแต่ก็ไม่เข้าใจเท่าไรเนื่องจากดิฉันไม่รู้เรื่องกฎหมายเป็นเพียงประชาชนตาดำๆ ที่ไม่รู้และไม่เก่งเรื่องกฎหมาย ตำรวจนายนี้ บอกกับดิฉันว่า เซ็นไปก่อนเพื่อที่จะได้ไปประกันตัวลูกชายได้ ด้วยความที่ไม่รู้ และด้วยความเป็นห่วงลูกชาย ก็เลยเซ็นชื่อ ต่อมากลายเป็นว่าดิฉันเซ็นรับทราบว่าลูกชายร่วมกันครอบครองน้ำใบกระท่อมไปเสียแล้ว เลยประกันตัวไม่ได้ ทั้งที่ ตำรวจนายนี้ บอกว่าถ้าเซ็นแล้วจะประกันตัวได้ ทำให้ลูกชายต้องนอนคุกทั้งๆที่ไม่ได้กระทำผิดอะไรเลย ดิฉันเป็นแม่ เลี้ยงลูกมาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าคนเป็นแม่จะปกป้องลูกตัวเองมิได้ หัวอกคนเป็นแม่หัวใจแทบสลาย ต้องทนดูลูกชายนอนคุกทั้งทีลูกชายไม่ได้ทำความผิด วันรุ่งขึ้นดิฉันมาโรงพักให้ปากคำกับร้อยเวณ และถามลูกชายว่า ลูกชายบอกให้ตำรวจจอดรถบอกแม่ที่ทำงานหรอ ลูกชายบอกว่าใช้ ตำรวจนายนั้นก็ พูดขึ้นว่าแม่ทำงานที่นี้หรือ ลูกชายบอกว่าใช้ ตำรวจนายนี้ บอกว่าดีเลย จะได้เอาคืน ลูกชายดิฉันมาเล่าให้ฟัง ดิฉันก็มานั่งคิดว่า ตำรวจนายนี้ เขาโกธรเคืองเรื่องอะไร และดิฉันไม่เคยรู้จักและเจอหน้ากันมาก่อน นึกไม่ออกว่าเคยไปทำอะไรให้เขา ถึงขนาดต้องเอาคืนดิฉันด้วย ดิฉันเป็นเพียงประชาชนคนธรรมดาตาดำๆคนหนึ่งไปทำอะไรให้ตำรวจนายนี้ โกรธแค้นถึงขนาดเอ่ยปากกับลูกชายของดิฉันว่าต้องเอาคืน และยัดข้อกล่าวหาว่าลูกชายครอบครองน้ำใบกระท่อม ทั้งๆที่ดิฉันถามลูกชายแล้วว่าน้ำใบกระท่อมเป็นของลูกชายหรือไม่ ลูกชายยืนยันว่าไม่ใช่ ตำรวจยังบอกว่าลูกชายของดิฉันอยู่ในที่เกิดเหตุถือว่ากระทำความผิดร่วมกัน และยังบังคับให้ลูกชายของดิฉันถ่ายรูปกับของกลาง(ใบกระท่อม) ดิฉันนอนคิดทั้งคืนที่ตำรวจจับกุมลูกชายของดิฉันทำให้ดิฉันนอนไม่หลับ หัวอกคนเป็นแม่ไม่รู้ไปทำอะไรให้ตำรวจนายนี้ โกรธแค้นต้องเอาคืน คิดไปคิดมาจึงนึกได้ว่าเคยเจอ ตำรวจนายนี้ ที่ไหน มีอยู่วันหนึ่ง ตำรวจนายนี้ มาที่ทำงานของดิฉันกับสืบสวนสองนาย และพูดจาเสียงดังวางอำนาจ ดิฉันจึงหลุดปากพูดไปว่า "พูดเบาก็ได้คุณตำรวจจะเอาเอกสารอะไรเดี๋ยวดิฉันจะหาให้" เป็นเหตุทำให้ ตำรวจนายนี้ ไม่พอใจหรือเปล่าที่ไปพูดดักคอ เค้าในขณะ เค้ากำลังแสดงถ้าทีที่วางอำนาจอยู่ จึงทำให้ ตำรวจนายนี้ ใช้ลูกชายเป็นเครื่องโดยไม่คิดถึงอนาคตของเด็ก และจะเป็นตราบาปกับเด็กไปชั่วชีวิต เพียงแค่ว่าดิฉันพูดจาขัดคอกับ ตำรวจนายนี้ แค่นั้นหรือ แสดงว่าประชาชนไม่มีสิทธพูดหรือแสดงความคิดเห็นใดๆใน ขณะที่ตำรวจมาวางอำนาจใส่เลยหรือ ทำให้ลูกชายดิฉันต้องติดคุกทั้งที่ ยังอายุแค่12 ปี นอนคุกหนึ่งคืน แต่แค่เพียงหนึ่งคืนสังคมตราหน้าว่าลูกดิฉันเป็นเด็กขี้คุกแล้ว ตำรวจนายนี้ จะรู้สึกอะไรบ้างไหม แต่ถ้าเปลี่ยนจากลูกดิฉันเป็นลูกของคุณบ้างจะรู้สึกอย่างไร แล้วตอนนี้สถานพินิจให้ไปตรวจร่างกาย เจ้าหน้าที่สถานพินิจ จ.ฉะเชิงเทรา ก็มาตำหนิดิฉันว่าเป็นแม่ ทำไมไม่ดูแลลูก ดิฉันนั่งคิดว่าดิฉันดูแลลูกไม่ดีตรงไหน ในเมื่อลูกดิฉัน มิได้ทำอะไรผิด แค่ไปดูไก่ คุณกลับมาตำหนิดิฉันว่ามีความผิดด้วยที่ไม่ดูแลลูก สังคมไทย มันแย่ตรงที่ประชาชนจนๆคนหนึ่ง ถูกใครจะด่าจะว่าจะกลั่นแกล้งอะไรดิฉันก็ได้ เพียงเพราะดิฉันเป็นประชาชนคนจน เท่านั้นหรือ แล้วยังระบุว่าให้ไปบำบัดทุกอาทิตย์ จนครบ16อาทิตย์ แล้วแบบนี้มันหมายความว่ายังไง ศาลเยาวชนยังไม่ได้สอบปากคำลูกชายดิฉันเลย แล้วทำไมต้องนัดบำบัด คนที่บำบัดคือคนที่ติดยาไม่ใช่หรือ ทั้งๆที่ในขณะควบคุมตัวลูกชายดิฉันก็ให้การปฎิเสธตลอดว่าไม่ได้เสพหรือครอบครองแล้วทำไมตำรวจจึงใช้ศาลเตี้ยตัดสินในสิ่งที่ ตำรวจนายนี้ กล่าวหามาทำให้ดิฉันรู้สึกไม่สบายใจ ว่าความยุติธรรมมันอยู่ตรงไหน จึงอยากข้อความเมตตาสงสารเห็นใจจาก ผู้ที่อ่านกระทู้นี้แล้ว ได้โปรดช่วยดิฉันด้วย อยากให้ ตำรวจนายนี้ และงานสืบสวนที่กลั่นแกล้งดิฉันและลูกชาย ให้ ได้รับโทษตามกฎหมายที่ได้สร้างตราบาปให้ลูกชายของดิฉัน หัวอกคนเป็นแม่ทุกข์เกินจะบรรยาย อนาคตลูกชายดิฉันจะเป็นอย่างไร แม่อย่างดิฉันทุกข์เหลือเกิน จึงขอความกรุณาจากผู้ที่ได้อ่านเรื่องนี้ ได้แนะนำดิฉันด้วยค่ะ ขอบพระคุณค่ะ
หัวอกคนเป็นแม่