คือแบบนี้ค่ะ เราเรียนจบวิทยาศาสตร์ ทำงานเป็นเลขานุการได้ 1 ปี กับประสานงานบริษัท 4เดือน ก่อนลาออกมารับงานนักเขียนและนักแปลอิสระ และเราเพิ่งทำงานแปลมาได้ปีนึงพอดี มีเข้าคอร์สปะปรายยังอ่อนประสบการณ์ค่ะ (มีขายของออนไลน์ด้วย เผื่อคนอ่านกระทู้ที่ผ่านมาแล้วจะงงว่าเราเป็นอะไรกันแน่555)
ปีหน้าก็กะจะลงเรียนเพิ่มของรามคำแหง ปอโทนักแปลเพราะเราตัดสินใจทำจริงจังแล้ว (ต้องฝึกอีกเยอะ ตอนแรกนึกว่าทำได้ดีพอ ทะนงมาก ชั้นคะแนนอิ้งดีนะตอนเรียน แต่ทำไปทำมา รู้สึกโง่มาก 555 ตระหนักได้ครั้งแรกตอนมาตั้งกระทู้แปลเพลง ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าง่อยมาก555 แกกล้ามากที่ลาออกมาทำ อิบร้า แต่นั่นล่ะค่ะ ข้อผิดพลาดที่ได้เรียนรู้วันนั้น ทำให้เราศึกษาและเรียนมากขึ้น แล้วก็รับงานด้วยความระมัดระวังว่าเป็นงานที่ทำได้จริง จึงหนักไปทางงานแปลบทความวิชาการตามที่จบมาเพราะคล่อง TT)
ทีนี้เลยวางแผนอยากขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลยุติธรรม ซึ่งต้องมีประสบการณ์ 5 ปีในด้านที่ขอค่ะ
เราอยากขอเรื่องการแปลเพราะอยากรับงานเอกสารที่ใช้ขึ้นศาลค่ะ มีงานติดต่อมาเยอะเลยแต่ทุกวันนี้ไม่กล้ารับเลยเพราะไม่มีใบอนุญาติ(แต่เราก็งงนะว่าถ้าไม่รับงานเราจะเก็บแต้มไปยื่นผลงานได้ยังไง ใครทราบบอกที) เอาล่ะเข้าเรื่องทีนี้ด้วยความที่เราเป็นนักแปลอิสระจะมีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าเราทำงานนี้มาห้าปี เพราะเราไม่มีผู้บังคับบัญชาค่ะ พอจะใช้เอกสารเรื่องการเสียภาษีได้มั้ย เพราะเราก็มีแปลให้บ.บ้างเป็นเอกสารด้านอสังหาริมทรัพย์
อีกส่วนที่กังวลคือคำรับรองจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งผู้บังคับบัญชาของเราเนี่ย มี 1 คน ตอนเป็นเลขา ปัญหาคือ พี่เค้าเสียแล้ว แง้ ส่วนบริษัทที่สองที่ทำสี่เดือน เพิ่งปิดไปเดือนสิงหาคมนี้เอง(ดีนะออกก่อน) เราพอจะใช้ชื่อผู้จ้างงานระยะยาว ได้ไหมคะ เพราะเราแปลบทความให้เว็บของบริษัทแห่งหนึ่งได้หกเดือน และคาดว่าจะยาวไป หรือควรทำงานกับสำนักพิมพ์ดีคะ
คือหลายคนอาจจะว่าเราเว่อร์นะว่าวางแผนก่อนนานๆ คือเราอยากมั่นใจว่าถ้าเราเรียน สะสมประสบการณ์ไปเราจะมีสิทธิ์สอบ
คือเรารู้สึกว่ายังขาดอีกหลายด้าน แต่เราก็ตั้งใจจะเก็บประสบการณ์ค่ะ เราไม่รีบ แค่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแปลที่ดีเหมือนหลายๆคนในนี้
ยังไงขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล. สำหรับผู้มีความพร้อมที่จะขอขึ้นทะเบียน เชิญที่
http://www.jla.coj.go.th/info.php?info=sub_menu&cid=146&pm=9
แต่เป็นคนละกันกับโนตารีนะคะ อันนั้นต้องจบกฎหมาย มีตั๋วทนายแล้วไปอบรม
ขอคำแนะนำการขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลยุติธรรม นักแปล
ปีหน้าก็กะจะลงเรียนเพิ่มของรามคำแหง ปอโทนักแปลเพราะเราตัดสินใจทำจริงจังแล้ว (ต้องฝึกอีกเยอะ ตอนแรกนึกว่าทำได้ดีพอ ทะนงมาก ชั้นคะแนนอิ้งดีนะตอนเรียน แต่ทำไปทำมา รู้สึกโง่มาก 555 ตระหนักได้ครั้งแรกตอนมาตั้งกระทู้แปลเพลง ไม่ได้รู้ตัวเลยว่าง่อยมาก555 แกกล้ามากที่ลาออกมาทำ อิบร้า แต่นั่นล่ะค่ะ ข้อผิดพลาดที่ได้เรียนรู้วันนั้น ทำให้เราศึกษาและเรียนมากขึ้น แล้วก็รับงานด้วยความระมัดระวังว่าเป็นงานที่ทำได้จริง จึงหนักไปทางงานแปลบทความวิชาการตามที่จบมาเพราะคล่อง TT)
ทีนี้เลยวางแผนอยากขึ้นทะเบียนเป็นผู้เชี่ยวชาญของศาลยุติธรรม ซึ่งต้องมีประสบการณ์ 5 ปีในด้านที่ขอค่ะ
เราอยากขอเรื่องการแปลเพราะอยากรับงานเอกสารที่ใช้ขึ้นศาลค่ะ มีงานติดต่อมาเยอะเลยแต่ทุกวันนี้ไม่กล้ารับเลยเพราะไม่มีใบอนุญาติ(แต่เราก็งงนะว่าถ้าไม่รับงานเราจะเก็บแต้มไปยื่นผลงานได้ยังไง ใครทราบบอกที) เอาล่ะเข้าเรื่องทีนี้ด้วยความที่เราเป็นนักแปลอิสระจะมีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าเราทำงานนี้มาห้าปี เพราะเราไม่มีผู้บังคับบัญชาค่ะ พอจะใช้เอกสารเรื่องการเสียภาษีได้มั้ย เพราะเราก็มีแปลให้บ.บ้างเป็นเอกสารด้านอสังหาริมทรัพย์
อีกส่วนที่กังวลคือคำรับรองจากผู้บังคับบัญชา ซึ่งผู้บังคับบัญชาของเราเนี่ย มี 1 คน ตอนเป็นเลขา ปัญหาคือ พี่เค้าเสียแล้ว แง้ ส่วนบริษัทที่สองที่ทำสี่เดือน เพิ่งปิดไปเดือนสิงหาคมนี้เอง(ดีนะออกก่อน) เราพอจะใช้ชื่อผู้จ้างงานระยะยาว ได้ไหมคะ เพราะเราแปลบทความให้เว็บของบริษัทแห่งหนึ่งได้หกเดือน และคาดว่าจะยาวไป หรือควรทำงานกับสำนักพิมพ์ดีคะ
คือหลายคนอาจจะว่าเราเว่อร์นะว่าวางแผนก่อนนานๆ คือเราอยากมั่นใจว่าถ้าเราเรียน สะสมประสบการณ์ไปเราจะมีสิทธิ์สอบ
คือเรารู้สึกว่ายังขาดอีกหลายด้าน แต่เราก็ตั้งใจจะเก็บประสบการณ์ค่ะ เราไม่รีบ แค่ใฝ่ฝันอยากเป็นนักแปลที่ดีเหมือนหลายๆคนในนี้
ยังไงขอคำแนะนำจากผู้มีประสบการณ์ด้วยนะคะ
ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ
ปล. สำหรับผู้มีความพร้อมที่จะขอขึ้นทะเบียน เชิญที่
http://www.jla.coj.go.th/info.php?info=sub_menu&cid=146&pm=9
แต่เป็นคนละกันกับโนตารีนะคะ อันนั้นต้องจบกฎหมาย มีตั๋วทนายแล้วไปอบรม