ชื่อกระทู้ฟังดูซีเรียสมั้ยครับ?
เปล่าครับ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันเหมือนกับหลายกระทู้ที่เค้ามาพูดเรื่องของตัวเอง เรื่องของการเจอใครซักคน แต่คราวนี้ดันเป็นเรื่องของตัวเองที่เพิ่งเจอมาหมาดๆ และความรู้สึกยังค้างอยู่เต็มๆ
จนถึงกับต้องถอดล็อคอินมาตั้งกระทู้ (เพราะล็อคอินเป็นชื่อตัวเอง เดี๋ยวเพื่อนๆ เห็นจะอาย
)
วันนี้วันที่ 10 พฤศจิกา 57 ผมขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีสุทธิสาร เพื่อที่จะเดินทางไปทำงานที่สถานีคลองเตย
ก็เหมือนทุกๆ วันครับ แตะบัตร เข้าประตู เดินมารอรถ ก้มหน้ากดมือถือ...แต่วันนี้มีอะไรที่ผิดไป? รู้สึกเหมือนมีอะไร
หันไปมองด้านซ้ายมือตัวเอง เจอผู้หญิงคนหนึ่ง ตัวเล็กๆ ขาวๆ ใส่เสื้อสีาว กระโปรงลายดอกไม้ ถ้าจำไม่ผิดนะครับ...บอกเลยว่า ณ นาทีนั้นคือทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ได้แต่เดินเข้ารถไฟฟ้าที่มาเทียบชานชาลา แล้วก็แอบดูจากไกลๆ
ไม่ได้เป็นพวกโรคจิตครับ แต่วินาทีนั้นมันทำได้แค่นั้นจริงๆ เธอมาเจอเพื่อนคนหนึ่งเป็นผู้หญิง เจอกันในรถไฟฟ้าใต้ดิน แล้วก็ยืนคุยกันมาตลอดทาง ผมพยายมคิดมุกหาเรื่องคุย อยากเดินเข้าไปคุย แต่คิดอะไรไม่ออกเลยครับ หัวหมุนไปหมด
จนกระทั่งถึงสถานีสุขุมวิท เธอกับเพื่อนก็เดินลงจากรถไป....ก็คงเหมือนกับสาวๆ คนอื่นที่ผมเห็นว่าน่ารักดี แล้วก็ปล่อยผ่านไป แถมผมเป็นพวกชอบรถโอกาสรอบสอง หลอกตัวเองว่าถ้าได้เจออีกรอบมันก็คงเป็นพรหมลิขิตแหละนะ คิดได้อย่างนั้น....ผมก็เดินลงมาจากรถแล้วครับ!
ปรากฏว่าเธอเดินอยู่ข้างหลังครับ คิดอะไรไม่ออก จะอยู่ๆ กลับหลังหันไปคุยก็กลัวเธอจะกลัว เลยเดินออกจากแถวไป แล้วกลับมาเป็นฝ่ายเดินตามออกจากสถานีรถใต้ดิน หวังว่าจะขอเวลาอีกซักนิด ให้คิดมุกเข้าไปคุยได้หน่อย แต่หัวก็ตื้อไปหมด
เธอเดินขึ้นไปต่อรถ BTS ก็รอเธอต่อคิวซื้อตั๋ว คุยกับเพื่อน จนกระทั่งกำลังจะเดินเข้าสถานีแล้ว ถึงตอนนั้นแหละครับ รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี หัวใจนี่รัวเป็นกลองทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว มุกเมิกอะไรคิดไม่ออกซักนิด ตรงเข้าไปเปิดประเด็นทันที
"ขอโทษนะครับ เมื่อกี้ผมเห็นคุณที่รถใต้ดิน แล้วแบบว่า..คือ อยากรู้จัก..."
ยังไม่ทันจบประโยคเพื่อนเธอก็ตัดบททันที "พอดีรีบไปทำงานน่ะค่ะ" ประกอบกับตัวเธอเองก็ทำหน้าแบบแอบกลัวๆ ด้วยนิดนึง ผผมเลยเข้าใจทันทีว่า...แห้วละครับ 55555555555555
หลังจากนั้นก็ได้แต่เดินยิ้มออกมาจากสถานีรถไฟฟ้า เพื่อจะกลับลงมาใต้ดิน กลับไปทำงานตามวิถีชีวิตปกติของตัวเอง และพอขึ้นรถปุ๊ป ก็โทรหาเพื่อนสาวทันทีเพื่อระบายความเขินบวกความหน้าด้านที่เพิ่งทำลงไป ถึงจะไม่สำเร็จก็ตาม.....
ตอนนี้หายมือสั่นแล้วครับ ใจก็ไม่ได้เต้นเหมือนเมื่อกี้ แต่ยังยิ้มอยู่ครับ คิดแล้วก็ยังเสียดาย นี่เป็นครั้งแรกที่กล้าเดินเข้าไปทำความรู้จักใครซักคนแบบนี้ แต่ดันไม่นิ่งพอที่จะคิดมุกดีๆ ในการชวนคุยไม่ให้เธอกลัว (ก็เข้าใจครับว่าคนสมัยนี้ไว้ใจกันยาก หนวดก็ไม่โกน เค้าอาจจะคิดว่าโจรก็ได้ 55555) จริงๆ เอาอาชีพตัวเองเป็นข้ออ้างในการชวนคุยก็ยังได้ เวลาก็มีเยอะแยะตอนแรก ดันไม่ยอมเดินเข้าไป รู้ดีว่าควรทำอะไรบ้าง แต่ดั๊นนนน อายเกิ๊นนนนน อายุก็เลยวัยรุ่นมาพอดู แฟนก็ไม่ใช่ไม่เคยมี ทำมั๊ยยยยยยย ถึงเขินได้ขนาดนั้นไม่รุ้ >///<
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อยากฝากกระทู้นี้เอาไว้ครับ เผื่อเธอ หรือเพื่อนเธอผ่านมาเห็น อยากจะบอกว่า ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายนะครับ แค่อยากรู้จักแค่นั้นจริงๆ เป็นเพื่อนกันก็ยังดี หากมีโอกาสแล้ว ก็เสียดายโอกาสดีๆ ที่จะได้รู้จักกันครับ ^_^
เพื่อนๆ ในนี้มีใครที่เคยมีประสบการณ์บนรถไฟฟ้าแบบนี้กันบ้างมั้ยครับ มาแชร์ให้เพื่อนๆ ยิ้มด้วยกันบ้างนะครับ
สาบานว่าเรื่องจริง ตอนนี้ผมยังเขินอยู่เร้ยยยย 5555555555555555555
เรื่องจริงที่เกิดขึ้นบนรถไฟฟ้าใต้ดินวันนี้
เปล่าครับ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่อย่างนั้นเลย มันเหมือนกับหลายกระทู้ที่เค้ามาพูดเรื่องของตัวเอง เรื่องของการเจอใครซักคน แต่คราวนี้ดันเป็นเรื่องของตัวเองที่เพิ่งเจอมาหมาดๆ และความรู้สึกยังค้างอยู่เต็มๆ
จนถึงกับต้องถอดล็อคอินมาตั้งกระทู้ (เพราะล็อคอินเป็นชื่อตัวเอง เดี๋ยวเพื่อนๆ เห็นจะอาย )
วันนี้วันที่ 10 พฤศจิกา 57 ผมขึ้นรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีสุทธิสาร เพื่อที่จะเดินทางไปทำงานที่สถานีคลองเตย
ก็เหมือนทุกๆ วันครับ แตะบัตร เข้าประตู เดินมารอรถ ก้มหน้ากดมือถือ...แต่วันนี้มีอะไรที่ผิดไป? รู้สึกเหมือนมีอะไร
หันไปมองด้านซ้ายมือตัวเอง เจอผู้หญิงคนหนึ่ง ตัวเล็กๆ ขาวๆ ใส่เสื้อสีาว กระโปรงลายดอกไม้ ถ้าจำไม่ผิดนะครับ...บอกเลยว่า ณ นาทีนั้นคือทำอะไรไม่ถูกจริงๆ ได้แต่เดินเข้ารถไฟฟ้าที่มาเทียบชานชาลา แล้วก็แอบดูจากไกลๆ
ไม่ได้เป็นพวกโรคจิตครับ แต่วินาทีนั้นมันทำได้แค่นั้นจริงๆ เธอมาเจอเพื่อนคนหนึ่งเป็นผู้หญิง เจอกันในรถไฟฟ้าใต้ดิน แล้วก็ยืนคุยกันมาตลอดทาง ผมพยายมคิดมุกหาเรื่องคุย อยากเดินเข้าไปคุย แต่คิดอะไรไม่ออกเลยครับ หัวหมุนไปหมด
จนกระทั่งถึงสถานีสุขุมวิท เธอกับเพื่อนก็เดินลงจากรถไป....ก็คงเหมือนกับสาวๆ คนอื่นที่ผมเห็นว่าน่ารักดี แล้วก็ปล่อยผ่านไป แถมผมเป็นพวกชอบรถโอกาสรอบสอง หลอกตัวเองว่าถ้าได้เจออีกรอบมันก็คงเป็นพรหมลิขิตแหละนะ คิดได้อย่างนั้น....ผมก็เดินลงมาจากรถแล้วครับ!
ปรากฏว่าเธอเดินอยู่ข้างหลังครับ คิดอะไรไม่ออก จะอยู่ๆ กลับหลังหันไปคุยก็กลัวเธอจะกลัว เลยเดินออกจากแถวไป แล้วกลับมาเป็นฝ่ายเดินตามออกจากสถานีรถใต้ดิน หวังว่าจะขอเวลาอีกซักนิด ให้คิดมุกเข้าไปคุยได้หน่อย แต่หัวก็ตื้อไปหมด
เธอเดินขึ้นไปต่อรถ BTS ก็รอเธอต่อคิวซื้อตั๋ว คุยกับเพื่อน จนกระทั่งกำลังจะเดินเข้าสถานีแล้ว ถึงตอนนั้นแหละครับ รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มี หัวใจนี่รัวเป็นกลองทั้งๆ ที่ก็ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว มุกเมิกอะไรคิดไม่ออกซักนิด ตรงเข้าไปเปิดประเด็นทันที
"ขอโทษนะครับ เมื่อกี้ผมเห็นคุณที่รถใต้ดิน แล้วแบบว่า..คือ อยากรู้จัก..."
ยังไม่ทันจบประโยคเพื่อนเธอก็ตัดบททันที "พอดีรีบไปทำงานน่ะค่ะ" ประกอบกับตัวเธอเองก็ทำหน้าแบบแอบกลัวๆ ด้วยนิดนึง ผผมเลยเข้าใจทันทีว่า...แห้วละครับ 55555555555555
หลังจากนั้นก็ได้แต่เดินยิ้มออกมาจากสถานีรถไฟฟ้า เพื่อจะกลับลงมาใต้ดิน กลับไปทำงานตามวิถีชีวิตปกติของตัวเอง และพอขึ้นรถปุ๊ป ก็โทรหาเพื่อนสาวทันทีเพื่อระบายความเขินบวกความหน้าด้านที่เพิ่งทำลงไป ถึงจะไม่สำเร็จก็ตาม.....
ตอนนี้หายมือสั่นแล้วครับ ใจก็ไม่ได้เต้นเหมือนเมื่อกี้ แต่ยังยิ้มอยู่ครับ คิดแล้วก็ยังเสียดาย นี่เป็นครั้งแรกที่กล้าเดินเข้าไปทำความรู้จักใครซักคนแบบนี้ แต่ดันไม่นิ่งพอที่จะคิดมุกดีๆ ในการชวนคุยไม่ให้เธอกลัว (ก็เข้าใจครับว่าคนสมัยนี้ไว้ใจกันยาก หนวดก็ไม่โกน เค้าอาจจะคิดว่าโจรก็ได้ 55555) จริงๆ เอาอาชีพตัวเองเป็นข้ออ้างในการชวนคุยก็ยังได้ เวลาก็มีเยอะแยะตอนแรก ดันไม่ยอมเดินเข้าไป รู้ดีว่าควรทำอะไรบ้าง แต่ดั๊นนนน อายเกิ๊นนนนน อายุก็เลยวัยรุ่นมาพอดู แฟนก็ไม่ใช่ไม่เคยมี ทำมั๊ยยยยยยย ถึงเขินได้ขนาดนั้นไม่รุ้ >///<
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
อยากฝากกระทู้นี้เอาไว้ครับ เผื่อเธอ หรือเพื่อนเธอผ่านมาเห็น อยากจะบอกว่า ผมไม่ได้มีเจตนาร้ายนะครับ แค่อยากรู้จักแค่นั้นจริงๆ เป็นเพื่อนกันก็ยังดี หากมีโอกาสแล้ว ก็เสียดายโอกาสดีๆ ที่จะได้รู้จักกันครับ ^_^
เพื่อนๆ ในนี้มีใครที่เคยมีประสบการณ์บนรถไฟฟ้าแบบนี้กันบ้างมั้ยครับ มาแชร์ให้เพื่อนๆ ยิ้มด้วยกันบ้างนะครับ
สาบานว่าเรื่องจริง ตอนนี้ผมยังเขินอยู่เร้ยยยย 5555555555555555555