เหตุเกิดขณะรอจ่ายเงินค่าสินค้า มีผญ.คนนึงมาแซงคิว แต่เนื่องจากว่า ผญ.คนนั้นมา พร้อมอุ้มลูกน้อยวัยประมาณขวบเศษ และมีเด็กน้อยอีกคนไม่น่าเกิน 3 ขวบมาด้วย เราจึงเลือกที่จะเงียบ เพราะสงสารเห็นเด็ก ๆ เริ่มงอแง และเข็นรถเข็นมาไว้หลังผญ.คนนั้น ผ่านไป 2 นาที มีผช.คนนึง (อายุน่าจะ 20 กว่า) เดินมาแซงคิวอีก ยืนต่อหลัง ผญ.คนนั้นเลย
เรา: โทษนะคะ ต่อคิวอยู่ค่ะ
ผช.: อ้าวอี
แล้วใครไปแซง ฺ ต่อก็ต่อไปดิ กูแซงคิวเมิงยัง แล้วแถวอยู่ตรงนี้
ไปยืนไมตรงนั้น
เรา: (รถเข็นก็ต่ออยู่ท้ายผญ.แท้ ๆ) โทษนะคะ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกเฉย ๆ น่ะค่ะ กัวคุณไม่ทราบว่าต่อคิวอยู่ เหมือนพี่ผญ.คนนั้นอะค่ะ เพราะว่ายืนต่อคิวอยู่
พี่ผญ.ได้ยินดังนั้นจึงหลบมายืนต่อหลังเรา
ผช: เมิงไม่
บอกเค้าล่ะ ไม่มีใครเค้าจะไปแซงคิวเมิงหรอก อี
หน้าอย่างกะ ทำนิสัยอีก
เดี๋ยวกูโทรเรียกเมียกูมาตบเมิงเลย ถ้าไม่ใช่ผญ.นี่กูตบแล้ว
นาทีนั้นเราเลือกที่จะเงียบ ถามว่าโกรธมั๊ย ตอบเลยว่าโกรธ เพราะไม่ชอบคนพูดไม่เพราะ แต่สิ่งที่มาเหนือความโกรธ คือ ความน่าสมเพช ไม่เข้าใจว่าคนสมัยนี้เค้าเลี้ยงลูกยังไงให้ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ แค่คำพูดไม่กี่คำ และพูดด้วยน้ำเสียงปกติ จะทำให้คนเราเป็นไปได้ขนาดนี้
ระหว่างรอคิว ผช.คนนั้นก็ยังยืนอยู่ข้างหลังกะเพื่อนผช.อีก 2-3 คน และก็พร่ำด่าเราไม่หยุด ด้วยถ้อยค่ำที่ต่ำ ๆ ไม่เข้าใจว่าคนเป็นเพือนกันไม่พูดไม่เตือนเพื่อนกันบ้างเลยเหรอ กับกิริยาที่ต่ำแบบนั้น เราจึงหยิบโทรศัพท์มาเล่น FB ระหว่างรอจ่ายเงิน
ผช: เมิงจะโทรหาใคร เมิงเรียกมาเลยนะ กูไม่กลัวเมิงหรอก เมิงเรียกมาเลย เมิงโทรไปตามเลย เมิงเอาใครมากูก็ไม่กลัวเมิงหรอก
เราก็ยังคงไม่สนใจ เพราะสำเนียงส่อภาษากริยาส่อสกุล ไม่มีประโยชน์จะไปต่อล้อต่อเถียง ผ่านไประมาณ 5 นาที แฟนเราซึ่งไปซื้ออาหารที่ศูนย์อาหารเดินกลับมาหาเรา เราได้ยินเสียงผช.คนนั้นพูดว่า "อี
เมิงรอดไป "
พอมันพูดคำนั้นมาสิ่งนึงที่เราคิดอยู่ในใจ ถ้าเรามาคนเดียวล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราจ่ายเงินเสร็จแล้วมันเดินตามเราไปล่ะ สังคมสมัยนี้มันอยู่ยาก
ขนาดนั้นเลย
คนสมัยนี้ EQ ต่ำ กันแบบนี้เลยเหรอ
เรา: โทษนะคะ ต่อคิวอยู่ค่ะ
ผช.: อ้าวอี แล้วใครไปแซง ฺ ต่อก็ต่อไปดิ กูแซงคิวเมิงยัง แล้วแถวอยู่ตรงนี้ ไปยืนไมตรงนั้น
เรา: (รถเข็นก็ต่ออยู่ท้ายผญ.แท้ ๆ) โทษนะคะ ก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่บอกเฉย ๆ น่ะค่ะ กัวคุณไม่ทราบว่าต่อคิวอยู่ เหมือนพี่ผญ.คนนั้นอะค่ะ เพราะว่ายืนต่อคิวอยู่
พี่ผญ.ได้ยินดังนั้นจึงหลบมายืนต่อหลังเรา
ผช: เมิงไม่บอกเค้าล่ะ ไม่มีใครเค้าจะไปแซงคิวเมิงหรอก อี หน้าอย่างกะ ทำนิสัยอีก เดี๋ยวกูโทรเรียกเมียกูมาตบเมิงเลย ถ้าไม่ใช่ผญ.นี่กูตบแล้ว
นาทีนั้นเราเลือกที่จะเงียบ ถามว่าโกรธมั๊ย ตอบเลยว่าโกรธ เพราะไม่ชอบคนพูดไม่เพราะ แต่สิ่งที่มาเหนือความโกรธ คือ ความน่าสมเพช ไม่เข้าใจว่าคนสมัยนี้เค้าเลี้ยงลูกยังไงให้ไม่รู้จักยับยั้งชั่งใจ แค่คำพูดไม่กี่คำ และพูดด้วยน้ำเสียงปกติ จะทำให้คนเราเป็นไปได้ขนาดนี้
ระหว่างรอคิว ผช.คนนั้นก็ยังยืนอยู่ข้างหลังกะเพื่อนผช.อีก 2-3 คน และก็พร่ำด่าเราไม่หยุด ด้วยถ้อยค่ำที่ต่ำ ๆ ไม่เข้าใจว่าคนเป็นเพือนกันไม่พูดไม่เตือนเพื่อนกันบ้างเลยเหรอ กับกิริยาที่ต่ำแบบนั้น เราจึงหยิบโทรศัพท์มาเล่น FB ระหว่างรอจ่ายเงิน
ผช: เมิงจะโทรหาใคร เมิงเรียกมาเลยนะ กูไม่กลัวเมิงหรอก เมิงเรียกมาเลย เมิงโทรไปตามเลย เมิงเอาใครมากูก็ไม่กลัวเมิงหรอก
เราก็ยังคงไม่สนใจ เพราะสำเนียงส่อภาษากริยาส่อสกุล ไม่มีประโยชน์จะไปต่อล้อต่อเถียง ผ่านไประมาณ 5 นาที แฟนเราซึ่งไปซื้ออาหารที่ศูนย์อาหารเดินกลับมาหาเรา เราได้ยินเสียงผช.คนนั้นพูดว่า "อี เมิงรอดไป "
พอมันพูดคำนั้นมาสิ่งนึงที่เราคิดอยู่ในใจ ถ้าเรามาคนเดียวล่ะ จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าเราจ่ายเงินเสร็จแล้วมันเดินตามเราไปล่ะ สังคมสมัยนี้มันอยู่ยาก
ขนาดนั้นเลย