ตามหัวข้อเลย อย่าได้ลองถ้าคุณไม่หน้าหนาพอ
ช่วง 4 ทุ่มที่ผ่านมา ผมได้รอคิวรถใต้ดินสถานีหนึ่ง โดยยืนเป็นคิวที่ 3 แล้วมีคนมาต่อคิวกันสัก 4-5 คนได้หลังจากผมมายืน โดยตำแหน่งที่ยืนใกล้บันไดเลื่อน (แถวก็ปัดตามแนวบันไดเลื่อนไป)
แล้วจู่ ๆ ก็มี หญิงสาววัยรุ่นตอนปลายมายืนขนาบข้างผมโดยเธอยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 แถวหน้าตาเฉย (ไม่รู้ทำไมต้องมายืนขนาบผม ที่ให้ยืนแซงมีตั้งเยอะ)
จากตำแหน่งที่ยืนลำบากผมต้องเป็นคนเตือนน้องเค้า (รายละเอียดคำพูดอาจไม่ตรงแป๊ะ ๆ นะ เพราะยังมึน ๆ อยู่จากการโดนด่า)
โดยตอนแรกผมก็หันไปมองหน้าน้องเค้า น้องเค้าก็ทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ กระแอมก็แล้ว ก็ไม่สนใจ จนต้องพูดเตือน
ผม : น้องครับไปยืนในแถวซิครับ
หญิงสาว : รู้ รู้ มีความคิดเป็นของตัวเอง ยืนเป็น (ภาษาอะไรของมันไม่รู้ ฟังแล้วผมมึน ๆ) มันติดบันไดขวางทางคนต้องมายืนหลบ ๆ ตอนเข้าเข้าเป็น (คือมันประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ แล้ว คนก็ไม่ได้เยอะมากเท่าช่วงทุ่มสองทุ่ม ถ้าจะเดินไปหาจุดยืนที่แถวไม่ยาวมากมันก็พอได้อยู่น่ะ)
ผม : น้องไม่แซงแถวแน่น่ะ
หญิงสาว : เออ ถ้าเมิงกลัวโดนแซงนัก โน่นเมิงไปยืนข้างหน้าสุดเลย อย่าเ..ือกเรื่องชาวบ้าน
ผม : แล้วน้องเล่นมายืนตรงกลางแบบนี้แล้วคนที่ออกจากรถไฟฟ้าเขาจะออกยังไงล่ะ แล้วแน่ใจนะว่าจากที่ยืนอยู่จะไม่แซงคนที่ยืนหลังพี่
จากนั้น..นางก็ด่าผม เสียงดังฟังชัดชุดใหญ่จัดเต็ม แบบไม่อายใครเลยทีเดียว
คนรอบข้างคงงง ๆ ว่ามันทะเลาะอะไรกัน
คือ..ตอนนั้นอารมณ์ทั้งอายทั้งโกรธเลยทีเดียว อะไรมันจะดื้อรั้น ไร้ยางอายขนาดนั้น ทำผิดแล้วขึ้นเสียงด่าชาวบ้านประจาน เป็นเด็กที่บ้ามากเลย
จากนันก็มีโต้เถียงกันเสียงดังกันสักแป๊บได้ละครับ (แต่เสียงผมคงสู้เสียงน้องเค้าไม่ไหว เพราะไม่ค่อยมีเสียงเท่าไร) มีหลุดด่าคำหยาบใส่ไปบ้างพอประมาณ (แต่ผมไม่ได้มองคนรอบข้างเลย ไม่รู้อารมณ์คนอื่นเขาตื่นตระหนกกันขนาดไหน)
อารมณ์ตอนนั้นคือ เดี๋ยวตอนเข้ารถไฟฟ้าถ้ายังหน้าด้านแซงคนอื่นเข้ามา ผมคงถีบออกจารถไฟฟ้าแน่ เพราะโกรธมาก
แต่สุดท้ายพอรถไฟฟ้ามา นางก็เดินเข้าไปเข้าอีกตู้หนึ่งแทน (แสดงว่ายังพอมียางอายสักนิดในสำนึกบ้าง)
จากประสบการณ์เลวร้ายนี้ จึงอยากขอเล่าเป็นอุทาหรณ์เตือนคนที่คิดจะตักเตือนคนที่แซงคิวทั้งหลายว่า ลองมองดูให้ดีนะ ถ้าคู่กรณีคุณเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ถ้าคุณไม่หน้าหนาพอ อย่าเสี่ยง...นะครับ
คำเตือน อย่าริตักเตือนคนแซงคิวรถใต้ดินถ้าคุณไม่แกร่งพอ
ช่วง 4 ทุ่มที่ผ่านมา ผมได้รอคิวรถใต้ดินสถานีหนึ่ง โดยยืนเป็นคิวที่ 3 แล้วมีคนมาต่อคิวกันสัก 4-5 คนได้หลังจากผมมายืน โดยตำแหน่งที่ยืนใกล้บันไดเลื่อน (แถวก็ปัดตามแนวบันไดเลื่อนไป)
แล้วจู่ ๆ ก็มี หญิงสาววัยรุ่นตอนปลายมายืนขนาบข้างผมโดยเธอยืนอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 แถวหน้าตาเฉย (ไม่รู้ทำไมต้องมายืนขนาบผม ที่ให้ยืนแซงมีตั้งเยอะ)
จากตำแหน่งที่ยืนลำบากผมต้องเป็นคนเตือนน้องเค้า (รายละเอียดคำพูดอาจไม่ตรงแป๊ะ ๆ นะ เพราะยังมึน ๆ อยู่จากการโดนด่า)
โดยตอนแรกผมก็หันไปมองหน้าน้องเค้า น้องเค้าก็ทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ กระแอมก็แล้ว ก็ไม่สนใจ จนต้องพูดเตือน
ผม : น้องครับไปยืนในแถวซิครับ
หญิงสาว : รู้ รู้ มีความคิดเป็นของตัวเอง ยืนเป็น (ภาษาอะไรของมันไม่รู้ ฟังแล้วผมมึน ๆ) มันติดบันไดขวางทางคนต้องมายืนหลบ ๆ ตอนเข้าเข้าเป็น (คือมันประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ แล้ว คนก็ไม่ได้เยอะมากเท่าช่วงทุ่มสองทุ่ม ถ้าจะเดินไปหาจุดยืนที่แถวไม่ยาวมากมันก็พอได้อยู่น่ะ)
ผม : น้องไม่แซงแถวแน่น่ะ
หญิงสาว : เออ ถ้าเมิงกลัวโดนแซงนัก โน่นเมิงไปยืนข้างหน้าสุดเลย อย่าเ..ือกเรื่องชาวบ้าน
ผม : แล้วน้องเล่นมายืนตรงกลางแบบนี้แล้วคนที่ออกจากรถไฟฟ้าเขาจะออกยังไงล่ะ แล้วแน่ใจนะว่าจากที่ยืนอยู่จะไม่แซงคนที่ยืนหลังพี่
จากนั้น..นางก็ด่าผม เสียงดังฟังชัดชุดใหญ่จัดเต็ม แบบไม่อายใครเลยทีเดียว
คนรอบข้างคงงง ๆ ว่ามันทะเลาะอะไรกัน
คือ..ตอนนั้นอารมณ์ทั้งอายทั้งโกรธเลยทีเดียว อะไรมันจะดื้อรั้น ไร้ยางอายขนาดนั้น ทำผิดแล้วขึ้นเสียงด่าชาวบ้านประจาน เป็นเด็กที่บ้ามากเลย
จากนันก็มีโต้เถียงกันเสียงดังกันสักแป๊บได้ละครับ (แต่เสียงผมคงสู้เสียงน้องเค้าไม่ไหว เพราะไม่ค่อยมีเสียงเท่าไร) มีหลุดด่าคำหยาบใส่ไปบ้างพอประมาณ (แต่ผมไม่ได้มองคนรอบข้างเลย ไม่รู้อารมณ์คนอื่นเขาตื่นตระหนกกันขนาดไหน)
อารมณ์ตอนนั้นคือ เดี๋ยวตอนเข้ารถไฟฟ้าถ้ายังหน้าด้านแซงคนอื่นเข้ามา ผมคงถีบออกจารถไฟฟ้าแน่ เพราะโกรธมาก
แต่สุดท้ายพอรถไฟฟ้ามา นางก็เดินเข้าไปเข้าอีกตู้หนึ่งแทน (แสดงว่ายังพอมียางอายสักนิดในสำนึกบ้าง)
จากประสบการณ์เลวร้ายนี้ จึงอยากขอเล่าเป็นอุทาหรณ์เตือนคนที่คิดจะตักเตือนคนที่แซงคิวทั้งหลายว่า ลองมองดูให้ดีนะ ถ้าคู่กรณีคุณเป็นวัยรุ่นเลือดร้อน ถ้าคุณไม่หน้าหนาพอ อย่าเสี่ยง...นะครับ