แชร์ เรื่องหวานและขมของคู่เรา หลังจากแยกกันมาหลายปี (พี่ป.พาสจบ 18+นิดๆ)

เด๋วนะขอนับนิ้วก่อนว่า กว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันมานานแค่ไหน....ถ้านับจากเราตามจีบ พี่ป.ก็ 4 ปีเนอะ + เท่าไหร่จำไม่ได้แระ 55555+ ครือมันนานมากอ่ะ จำได้แต่ว่า ตอนเราโซเดมาคอม เราอายุประมาณ 26 คริคริ

    ช่วงก่อนหน้านั้น เราก็เป็นแฟนกันปกติเน้อ และการที่ฮีทำงานเกี่ยวกับโทรศัพท์อยู่ที่บ้านเกิด จนเปลี่ยนเป็นเล่นดนตรีในผับ จนเปลี่ยนเป็นดีเทล เราก็ยังมีกิจกรรมร่วมกับฮีตลอด เช่น

    ตอนฮีทำงานโทรศัพท์ก็ต้องเดินทางไปโน่นนี่บ่อยๆ ช่วงนั้นโทรศัพท์แบบเคลื่อนที่สำหรับบริษัทต่างๆ ต้องใช้วิธีการตั้งเสาน่ะค่ะ เค้าก็ตระเวนทั่วทั้งภาคใต้ เราก็เคยไปเที่ยวด้วยบ้างแค่ครั้งสองครั้ง จนวันหนึ่งก็เกิดเรื่องให้ฮีต้องเปลี่ยนงาน สาเหตุมันแบบนี้เลยคร่า คุณผู้โช้มมมม...

    ฮีมาหาเราที่บ้าน แล้วติดพันไม่ยอมกลับ จนสุดท้ายที่ทำงานโทรมาตาม เพราะฮีลานานมากร่วมๆครึ่งเดือนอะจ้า แต่ทางโน้นก็อยากให้ฮีไปทำงานต่อเพราะฮีขยันและทำงานเร็ว สุดท้ายฮียอมกลับนะคะ นั่งรถทัวร์ไปค่า (จุ๊ๆๆๆ ฟามลับ อีพี่ป.เป็นโรคกลัวเครื่องบินค่ะ ฮีจะไม่นั่งเครื่องเป็นอันขาด >//<)
    เราก็โล่งใจ กลับไปซะทีเฟ้ย !! คือเรากลัวทางญาติเค้าเสียงานเสียการน่ะค่ะ แต่ที่ไหนได้ ฮีนั่งรถทัวร์ไปตอนกลางคืน พออีกวันฮีโผล่กลับมาหาเรา O_๐
    เราตกใจนะคะว่าทำไมถึงมาอีก ฮีบอกว่าพอนั่งรถไปถึงกรุงเทพ ก็คิดๆๆๆ สุดท้ายแทนที่จะนั่งรถต่อไปอีก ฮีตีตั๋วกลับมาหาเราคร่า>//< (แกจะเดินทางไปทำไมวะเนี่ย ไปแล้วก็กลับนะฮึ มันเสียเวลารู้ม้ายย!!) พอฮีกลับมาเราไม่สบายใจนะคะ แต่พี่ป.อะ ลั้ลลามาก แต่คุณเธอก็ดีใจได้ไม่กี่วัน เพราะคราวนี้โดนจิกตัวโดยพี่สาวคนโต แห้วไปค่ะ กลับไปทั้งหน้าหงอยๆ ...สม 55555+

    พอฮีกลับไปก็เปลี่ยนงานเพราะเพื่อนชวนไปช่วยร้านอาหาร เพื่อนฮีเปิดร้านยุ แล้วขอร้องให้ฮีไปเล่นดนตรีให้ ฮีก็ตามเพื่อนเหมือนเดิมอะค่ะ รักกันจริ๊ง! พวกเพื่อนๆเนี่ย!! แต่เราก็ไม่ว่านะตอนฮีบอก เพราะคงเป็นวัยคบกับเพื่อน (อายุฮีตอนนั้นน่าจะประมาณ 26 ล่ะค่ะ กะลังไฟแรง 5555+ (พี่ป.ทำงานที่นี่ ปีกว่าค่ะแล้วก็มาทำร้านอาหารอีกปีกว่า รวม 3 ปีได้มั้ง)


    คราวนี้ตอนฮีทำงานที่ร้านอาหาร เราก็นัดคุยโทรศัพท์กันนะคะ จะคุยช่วงที่ฮีพักเบรก ประมาณ 5 ทุ่ม ตอนนั้นบ้านเรายังไม่มีโทสับ เราก็ต้องร่อนมอไซด์ออกไปโทรข้างนอก คุยกันสัก 10 นาทีก็พอละเนอะ คุยมากเปลืองเงิน ^^ เราก็ทำแบบนี้เรื่อยๆ จนช่วงเราหยุดงาน เราก็ลงไปหาฮีอะจ้า ฮีก็พาเราไปร้านอาหารตอนกลางคืนด้วย

    ตอนไปร้านอาหารก็เจอเพื่อนฮีแหละค่ะ คุยกันไปนั่งทานไปฟังเพลงไป...เราสังเกตนะคะ ช่วงที่พี่ป.เล่นดนตรี แขกมักจะยื่นแก้วให้บ่อยมาก ทั้งสาวทั้งหนุ่มแหละค่า ฮีก็ดื่มบ้างวางบ้าง บางคนถ้าไม่ดื่มต่อหน้าก็คะยั้นคะยอ จนพี่ป.ต้องจิบ แต่แขกเยอะถึงจะจิบก็มากขึ้นๆอะเนาะ กว่าจะขับรถพาเรากลับบ้านได้ ฮีก็เป๋แล้วอ่า (ลืมไป เราก็เป๋นะคะ เพราะเพื่อนพี่ป.หลายคนที่ดูแลเราอยู่ที่โต๊ะ ยัดให้บ่อยๆเหมือนกัน)
    เราไม่รู้นะคะ จำไม่ได้ด้วยกลับถึงบ้านยังไง พอถึงก็หลับไปแบบไม่รู้ตัว (นอนตรงไหนยังไม่รู้ด้วยซ้ำ)...แต่พอตื่นมาเกือบเที่ยงแระคร้า ทีนี้พี่สาวคนโตของฮีนั่งรออยู่

    พี่สาว...เมาทั้งคู่ ใครช่วยใครไม่ได้เล้ย ดีนะที่กลับมาถึงบ้านจนได้ ป.ก็เหมือนกัน ถ้าพาลูกสาวเค้าไปตาย เราจะทำยังไง
    ฮีและเรา...เงียบเป็นเป่าสาก นั่งก้มหน้าไปแพร้บ พี่ป.ก็สวนกลับแบบวีนๆ (ต๊ายย..ยังกล้าเถียงเนาะ)
    พี่ป...กลับมาแล้วไง เห็นอยู่ว่านั่งอยู่นี่
    พี่สาว...ออกจากงานเหอะป.ขืนเป็นแบบนี้ได้ตายเข้าสักวัน

    พี่ป.ทำงาน 2 ที่ ประมาณ 2 ปีได้ ตอนนั้นเงินเดือนร้านอาหารก็พอประมาณค่ะ หมื่นกว่า (ยุค 20 กว่าปีก่อนอะนะ) ฮีก็ส่งเงินให้เราเก็บนะคะ แต่ไม่ได้เยอะหรอก เพราะฮีบอกว่า หมดไปกับเพื่อนๆ ที่มาเที่ยว ครือออ บางทีเพื่อนต่างก๊วนมาเที่ยวกันพอเช็คบิลสั่งลงบัญชีเค้าเฉยเลย สุดท้าย ฮีเลยบอกว่า ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไป นอกจากฮีอาจตายเพราะเหล้า เงินก็ยังจะไม่เหลืออีก

    ฮีได้งานใหม่เป็นดีเทลอ่ะค่ะ คราวนี้ลุคเปลี่ยนไปมาก เพราะต้องแต่งตัวดูดี ตอนฮีทำงานแรกๆ ฮีได้เขตภาคกลางค่ะ และฮีก็นั่งรถเพื่อไปทำงานนะคะ ไปตามโรงพยาบาลต่างๆในแต่ละอำเภอ ช่วงเราหยุดงานปิดเทอม เราเคยไปกับฮีครั้งหนึ่ง นั่งรถประจำทางแล้วเดินเข้าไปโรงพยาบาลอีกเป็นกิโล
    เราเห็นเค้าทำงานและการเดินทางที่ลำบาก เราเลยตัดสินใจน่ะค่ะ เอาเงินที่เก็บรวมกันไว้สองคน เอามาซื้อรถมือสองให้ฮีใช้ทำงาน เพราะเราคิดว่าถ้ามีรถ เค้าจะสะดวกขึ้นและเดินทางได้เร็วขึ้น ทำยอดได้มากขึ้น ซึ่งมันก็จริงๆนั่นแหละค่ะ งานพี่ป.เจริญก้าวหน้าดีจนย้ายจากโลโค่เมทไปเป็นออริจินอล ซึ่งเป็นของบริษัทต่างชาติ

    ช่วงหลังมาฮีก็ทำงานหนักขึ้นและเครียดกับตัวเลขออเดอร์ที่มากมายมหาศาล เราเริ่มทะเลาะกันค่ะ ทะเลาะเพราะว่าพี่ป.เครียดกับตัวเลขโดยที่เค้าไม่รู้ตัวว่าเครียดแม้สักนิด...ฮีเริ่มกินยานอนหลับ และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ จนที่หนักสุด 5 เม็ดก็ยังไม่นอน พอฮีโทรมาหาเราเล่าให้เราฟัง เราก็ลางานแล้วเดินทางไปหาและพอดีช่วงนั้นตรงกับวันหยุดปีใหม่ด้วย เราเลยได้ลากยาวร่วม 10 วัน

    เราไปถึงภูเก็ต เค้าหน้าตาปกตินะคะ โดยรวมๆดูแข็งแรงสดชื่นดี แต่แววตาหมกมุ่นตลอด หัวคิ้วเนี่ยแทบจะชนกันเลยคร้า...(ลืมบอกอีกแระ ช่วงย้ายมาอยู่ออริจินอล ฮีได้เขตภาคใต้ค่ะ) เราพบเค้าแป๊บเดียว พี่ป.ก็ออกไปทำงานอีก เพราะว่าช่วงนั้นทางบริษัทเปิดสาธิตเครื่องมือใหม่ให้กับพวกหมอและโรงบาลน่ะค่ะ จัดที่โรงแรมใหญ่เลยแหละ

    พี่ป.ทิ้งเราไว้ที่ห้องแล้วเค้าก็ไปสาธิตในงานนั่นแหละค่ะ มันก็อยู่ในบริเวณโรงแรมเดียวกันเนาะ เราก็ไม่เป็นไรรอได้...แต่กว่าเค้าจะกลับมา เราก็หลับไปแล้ว พอเราตื่นเค้าก็ออกไปพร้อมทิ้งโน้ตไว้น่ะค่ะ...เราโดนทิ้งอยู่ 3 วัน เริ่มมีอารมณ์แระ เราเลยคิดว่า ถ้าวันนี้ฮีไม่กลับตามเวลาที่บอกไว้ เราจะขึ้นเครื่องกลับบ้านแล้วค่า

    อีชั้นรอจนถึงสี่โมงเย็น ทั้งที่ฮีบอกว่างานสัมมนาเลิกเที่ยงวัน คราวนี้เราเริ่มนอยด์แล้วค่ะ เก็บกระเป๋า...แต่คิดไปคิดมา ความคิดบ้าๆก็เกิดขึ้น เราเอากระเป๋ายัดใต้เตียงค่ะ แล้วออกจากห้องไปเดินเล่นที่ตลาด กะว่าถ้าฮีกลับมา ฮีจะต้องตกใจแน่ๆเลยที่ไม่เจอเรา ยิ่งไม่มีกระเป๋าวางไว้ให้เห็น อีช้อยคงได้สะใจกะท่าทางตกตะลึงของฮี คริคริ

    แต่ๆๆๆ อีชั้นคาดผิด เพราะหลังจากเดินเล่นประมาณ 2 ชั่วโมงจนเริ่มมืด เราก็ย่องกลับห้อง ที่ไหนได้ห้องยังล็อค เปิดเข้าไปฮียังไม่กลับอ๊า..กรี๊ดดด นางอยากจะหวีดร้อง คราวนี้เราวีนแตกแล้วค่า ตั้งท่าเตรียมพร้อมว่า ถ้าฮีกลับมาถึงปุ๊บเราจะเฉ่งทันที...เรารอจนผ่านไปอีกชั่วโมงนึง โทรสับในห้องเราดังค่ะ
    สายโน้น...อาบน้ำเสร็จหรือยังพี่ป. เด๋วหนูไปรอที่ผับน้า นัดกันที่นั่นนะคะ จุ๊บๆ
    เรา...เย้ย...
    …………………………………………..
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่