บทก่อนหน้า
บทที่ ๑
http://ppantip.com/topic/32012168
บทที่ ๒
http://ppantip.com/topic/32150649
บทที่ ๓
http://ppantip.com/topic/32175985
บทที่ ๔
http://ppantip.com/topic/32186430
บทที่ ๕
http://ppantip.com/topic/32205446
บทที่ ๖
http://ppantip.com/topic/32219524
บทที่ ๗
http://ppantip.com/topic/32236238
บทที่ ๘
http://ppantip.com/topic/32452555
บทที่ ๙
http://ppantip.com/topic/32473494
บทที่ ๑๐
ปรวีร์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยมีร่างอุ่นนุ่มในอ้อมแขน ใบหน้างามซุกอยู่กับอกเขา เส้นผมสีดำยาวสลวยกระจายเต็มหมอน หอมกลิ่นแชมพูอ่อน ๆ ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบผมนุ่มนั้นด้วยความรู้สึกอ่อนโยนในหัวใจ หญิงสาวนอนหลับตาพริ้ม มองเห็นแพขนตางอนหนาน่ามอง ใบหน้าเนียนใสอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ
เมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับสนิทด้วยจังหวะหายใจสม่ำเสมอ ชายหนุ่มจึงก้มลงฝังจุมพิตแผ่วลงไปบนแก้มใสอย่างห้ามใจไม่อยู่ ก่อนที่จะนอนมองคนหลับราวต้องมนตร์ ยิ่งมีเธอนอนอยู่แนบชิดเช่นนี้ ชายหนุ่มแน่ใจ... เขาอยากให้เธอเป็นสิ่งแรกที่เขามองเห็นในทุก ๆ เช้าที่ตื่นขึ้นมา... ความอยากที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเป็นจริงหรือไม่ หากเธอจะมองเห็นเขาเป็นเพียงพี่ชายอยู่เช่นนี้
ปรวีร์ไม่แน่ใจว่าเขานอนมองหญิงสาวอยู่นานเพียงใด เพราะเมื่อได้นอนเคียงกันอยู่เช่นนี้ มีเธอซุกซบอยู่ในอ้อมอกเช่นนี้ ก็ดูเหมือนจะทำให้เขาหลงลืมสิ่งรอบข้างไปเสียสิ้น หากไม่เป็นเพราะหญิงสาวขยับตัว เขาก็คงจะนอนมองเธออยู่เช่นนี้ไปอีกนาน
ชายหนุ่มขยับออกห่างจากคนหลับเมื่อรู้สึกว่าเธอไม่ได้นอนนิ่งอย่างคนหลับสนิทอีกต่อไป และเมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เขาก็สามารถยิ้มทักเธอได้ราวกับเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา เขาไม่ได้ขโมยหอมแก้มและนอนมองเธออยู่เนิ่นนานเลย
“มอร์นิ่งครับน้องดา”
“พี่วี ตื่นนานแล้วหรือคะ” ดาริกาถามคนที่ยังนอนเคียงกันอยู่บนเตียง หากไม่มีสีหน้าง่วงงุนอย่างคนที่เพิ่งตื่นเลย
“เพิ่งตื่นได้สักพัก เห็นน้องดายังหลับพี่วีเลยไม่กวน” ชายหนุ่มบอก พลางขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ดาริกามองตามเห็นเขาเดินตรงไปยังห้องน้ำ
“น้องดานอนต่อก็ได้นะ ยังเช้าอยู่เลย” เขาว่าก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ หากหญิงสาวตื่นเต็มตาแล้วจึงลุกขึ้นจัดที่นอนให้เรียบร้อย แล้วลุกเดินออกไปข้างนอกในระหว่างรอชายหนุ่มทำธุระส่วนตัว
ทะเลยามเช้าค่อนข้างสงบ มีคลื่นลูกเล็ก ๆ ซัดมากระทบหาด ผืนน้ำยังคงมองเห็นเป็นสีคล้ำด้วยพระอาทิตย์ยังไม่ส่องแสง ลมทะเลพัดแผ่วพาความเย็นในตอนเช้าตรู่มากระทบผิวกาย หญิงสาวจึงเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งเพื่อหยิบผ้าคลุมไหล่มาคลุมเพิ่มความอบอุ่น ด้วยตั้งใจจะลงไปเดินเล่นริมหาด หากขณะกำลังจะเปิดประตูห้องออกไปอีกครั้ง คนที่อยู่ในห้องน้ำก็เดินออกมาพอดี
ชายหนุ่มใส่กางเกงนอนขายาวเพียงตัวเดียว อวดแผงอกกำยำและหน้าท้องหนั่นแน่นไปด้วยลอนกล้ามเนื้อ เขาชะงักไปนิดเมื่อเห็นเธอหันกลับไปมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง ก่อนที่จะยิ้มทักทาย
“น้องดาจะไปไหนหรือ”
“ว่าจะลงไปเดินเล่นริมหาดน่ะค่ะพี่วี” ดาริกาตอบ หลบตาคมเป็นพัลวัน ขัดเขินกับรูปร่างงดงามสมชายตรงหน้า เป็นความรู้สึกใหม่ที่เพิ่งรู้จัก ทั้ง ๆ ที่เคยเห็นเขาอยู่ในเสื้อผ้าที่เปิดเผยมากกว่านี้มานักต่อนัก แต่ไม่เคยรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบ หัวใจกระหน่ำในอกเช่นนี้มาก่อนเลย
“รอพี่วีแต่งตัวแป๊บหนึ่งได้ไหม พี่วีไปด้วย” ชายหนุ่มว่าขณะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อผ้าออกมาสวมใส่
“ถ้าอย่างนั้นน้องดาล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะคะ” ดาริกาตัดสินใจ หญิงสาววางผ้าคลุมไหล่ไว้บนเตียงแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ ไม่นานก็กลับออกมาในเสื้อผ้าชุดใหม่
ปรวีร์หยิบผ้าคลุมไหล่ที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมาคลุมให้ ก่อนจะยื่นแขนให้อย่างเช่นทุกครั้ง หากครั้งนี้เธอกลับทอดสายตามองมือเขาอย่างลังเล ก่อนที่จะถอนหายใจและยื่นมือไปเกี่ยวแขนเขาอย่างที่ทำเป็นปกติ เมื่อบอกตัวเองว่า แม้ใจเธอจะคิดกับเขาไม่เหมือนเดิม แต่เธอก็ควรจะปฏิบัติตัวเช่นเดิมกับเขา เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ยังคงเป็นพี่วีคนเดิมของเธออยู่นั่นเอง
คิดได้ดังนั้นดาริกาจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนที่เธอเกี่ยวแขนอยู่ เห็นเขาทอดสายตาลงสบกับเธอพร้อมยิ้มรับ ขณะเดินลงจากบ้านไปยังชายหาดที่มองเห็นอยู่ไม่ไกล
ขณะเดินเคียงกันไปบนผืนทรายหยุ่นเท้า ดาริกาปล่อยมือจากชายหนุ่มเพื่อกระชับผ้าคลุมไหล่ให้แน่นขึ้น เนื่องจากเริ่มหลุดลุ่ยจากสายลมที่พัดผ่าน คนที่เดินอยู่เคียงข้างจึงยกมือขึ้นโอบไหล่ ก้มลงถามเสียงอ่อนโยน
“หนาวหรือ”
“แค่เย็นนิด ๆ ค่ะพี่วี อากาศยามเช้าเย็นสดชื่นดีนะคะ”
“ที่นี่อากาศดีมาก พี่วีชักจะติดใจเสียแล้ว” ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ สายตาทอดยาวไปตามผืนน้ำเบื้องหน้า พระอาทิตย์ดวงโตเริ่มปรากฏโฉมพร้อมฉายแสงกระทบผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับ สีน้ำทะเลเริ่มกลับมาเป็นสีเขียวครามอย่างที่เห็นจนเจนตาในเวลาที่พระอาทิตย์สาดส่องเต็มที่
“ติดใจก็มาบ่อย ๆ สิคะ น้องดาไม่หวงหรอก” หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ
“น้องดาอยากทำอะไรหรือเปล่า”
“คะ”
“เกาะดาริกา น้องดาอยากจะทำอะไรหรือเปล่า หรือจะปล่อยไว้แบบนี้”
“น้องดายังไม่ได้คิดเลยค่ะพี่วี จริง ๆ ถ้าทำรีสอร์ทก็คงจะดี แต่น้องดาก็หวง อยากเก็บไว้เป็นที่พักผ่อน เวลาที่น้องดาอยากอยู่สงบ ๆ ก็หนีมาพักที่นี่ได้”
“หนีพี่วีหรือ” ชายหนุ่มเย้ายิ้ม ๆ มองเห็นคนถูกเย้ามองค้อนมา
“พี่วีจะหนีมาด้วยกันก็ได้นะคะ ถ้าไม่ห่วงงาน” ว่าพลางหลิ่วตาให้ คนถูกเหน็บจึงหัวเราะเสียงก้อง
“ไม่ห่วงหรอก เพราะเดี๋ยวพี่วีจะมีผู้ช่วยคนใหม่แล้ว”
“อ้าว... ใครหรือคะ”
“คนนี้ไง” ชายหนุ่มว่าพลางใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปบนหน้าผากของคนถาม มองเห็นคนถูกจิ้มทำคอย่น แล้วบ่นกระปอดกระแปด
“พี่วีน่ะ จะให้น้องดาทำงานเรื่อยเลย”
“โตแล้วนะเรา ไม่ใช่เด็ก ๆ” ชายหนุ่มว่า ดาริการู้ว่าเขาไม่ได้ตำหนิจริงจังนัก จึงไม่ได้ถือเป็นจริงเป็นจัง แม้จะรู้ว่าคุณลุงและพี่วีอยากให้เธอเข้ามาช่วยงาน แต่หากเธอยังไม่พร้อม ทั้งสองก็จะไม่บังคับเธออย่างแน่นอน หญิงสาวรู้ดีว่าสักวันจะต้องเข้าไปช่วยงานพี่วีแน่ ๆ เพียงแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าวิชาการเต้นที่เธอไปร่ำเรียนมาถึงระดับปริญญาจะเอามาช่วยอะไรเขาได้
“น้องดาไม่รู้ว่าไอ้ที่เรียนจบมานี่จะเอามาช่วยงานพี่วีได้อย่างไร” หญิงสาวพึมพำสิ่งที่กำลังคิดออกมา
“แล้วใครบอกให้ไปเรียนสาขานั้นเล่า”
“น้องดาชอบนี่คะ” ตอบเสียงขึ้นจมูก พี่วีอย่าได้มาวิจารณ์ในสิ่งที่น้องดารักเชียวนะ
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาความรู้ที่มีมาทำธุรกิจสิ น้องดาอยากเปิดโรงเรียนสอนเต้นหรือเปล่า”
“อยากสิคะ แต่คุณพ่อก็มีธุรกิจอย่างอื่นที่ทิ้งไว้ให้น้องดา ที่ตอนนี้พี่วีช่วยดูแลให้ น้องดาจะหนีไปเปิดโรงเรียนสอนเต้นแล้วทิ้งงานไว้ให้พี่วีได้อย่างไรคะ” แม้ปากจะพูดว่าไม่อยากทำงาน แต่ดาริการู้ดีว่า ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเข้าบริหารธุรกิจที่บิดาทิ้งไว้ให้ ซึ่งเป็นธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทอย่างที่ปรวีร์กำลังทำอยู่
“ถ้ามันเป็นสิ่งที่น้องดารักและอยากทำ พี่วีก็ยินดีจะดูแลอย่างอื่นให้ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน จำได้หรือเปล่า” ชายหนุ่มว่าอย่างใจดีและหมายความตามนั้น ความสุขของคนในอ้อมแขนคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขา
ดาริกาเอียงศีรษะซบไหล่ของชายหนุ่มพลางถามอย่างน้ำเสียงอ่อนออด
“น้องดาบอกหรือยังนะว่าน้องดารักพี่วีที่สุดในโลก”
“บอกแล้วบอกอีกก็ได้” ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ หัวใจพองโต แม้ความรักของเธอจะไม่ใช่รักแบบที่เขารัก แต่อย่างน้อยเธอก็รักเขาล่ะน่า
“น้องดารักพี่วีค่ะ” แต่ไม่ได้รักแบบพี่ชายอย่างที่พี่วีคิดหรอกนะ
“พี่วีก็รักน้องดา” ชายหนุ่มบอกพลางกระชับอ้อมแขนและก้มลงฝังจุมพิตหนัก ๆ บนกลุ่มผมนุ่ม ดาริกายกมือขึ้นโอบเอวชายหนุ่มขณะพากันเดินไปตามผืนทรายทอดยาว
จวบจนพระอาทิตย์เริ่มสาดแสงร้อน ทั้งสองจึงชวนกันกลับเข้าบ้าน ด้วยคิดว่าป่านนี้พี่จอยคงตั้งโต๊ะอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วและบิดาของชายหนุ่มอาจจะกำลังรอรับประทานอาหารเช้าอยู่ โดยหารู้ไม่ว่าภาพที่ทั้งสองเดินโอบกอดกันอยู่ริมหาด ตกอยู่ในสายตาของคุณปวินท์ตั้งแต่แรกและทำให้ชายสูงวัยยิ้มอย่างสมใจ
พันธนาการสีกุหลาบ บทที่ ๑๐
บทที่ ๑ http://ppantip.com/topic/32012168
บทที่ ๒ http://ppantip.com/topic/32150649
บทที่ ๓ http://ppantip.com/topic/32175985
บทที่ ๔ http://ppantip.com/topic/32186430
บทที่ ๕ http://ppantip.com/topic/32205446
บทที่ ๖ http://ppantip.com/topic/32219524
บทที่ ๗ http://ppantip.com/topic/32236238
บทที่ ๘ http://ppantip.com/topic/32452555
บทที่ ๙ http://ppantip.com/topic/32473494
ปรวีร์ตื่นขึ้นมาในตอนเช้าโดยมีร่างอุ่นนุ่มในอ้อมแขน ใบหน้างามซุกอยู่กับอกเขา เส้นผมสีดำยาวสลวยกระจายเต็มหมอน หอมกลิ่นแชมพูอ่อน ๆ ชายหนุ่มอดไม่ได้ที่จะยกมือขึ้นลูบผมนุ่มนั้นด้วยความรู้สึกอ่อนโยนในหัวใจ หญิงสาวนอนหลับตาพริ้ม มองเห็นแพขนตางอนหนาน่ามอง ใบหน้าเนียนใสอยู่ห่างจากเขาไม่ถึงคืบ
เมื่อเห็นว่าเธอยังคงหลับสนิทด้วยจังหวะหายใจสม่ำเสมอ ชายหนุ่มจึงก้มลงฝังจุมพิตแผ่วลงไปบนแก้มใสอย่างห้ามใจไม่อยู่ ก่อนที่จะนอนมองคนหลับราวต้องมนตร์ ยิ่งมีเธอนอนอยู่แนบชิดเช่นนี้ ชายหนุ่มแน่ใจ... เขาอยากให้เธอเป็นสิ่งแรกที่เขามองเห็นในทุก ๆ เช้าที่ตื่นขึ้นมา... ความอยากที่ไม่รู้ว่าจะมีโอกาสเป็นจริงหรือไม่ หากเธอจะมองเห็นเขาเป็นเพียงพี่ชายอยู่เช่นนี้
ปรวีร์ไม่แน่ใจว่าเขานอนมองหญิงสาวอยู่นานเพียงใด เพราะเมื่อได้นอนเคียงกันอยู่เช่นนี้ มีเธอซุกซบอยู่ในอ้อมอกเช่นนี้ ก็ดูเหมือนจะทำให้เขาหลงลืมสิ่งรอบข้างไปเสียสิ้น หากไม่เป็นเพราะหญิงสาวขยับตัว เขาก็คงจะนอนมองเธออยู่เช่นนี้ไปอีกนาน
ชายหนุ่มขยับออกห่างจากคนหลับเมื่อรู้สึกว่าเธอไม่ได้นอนนิ่งอย่างคนหลับสนิทอีกต่อไป และเมื่อเธอลืมตาขึ้นมา เขาก็สามารถยิ้มทักเธอได้ราวกับเมื่อครู่ใหญ่ที่ผ่านมา เขาไม่ได้ขโมยหอมแก้มและนอนมองเธออยู่เนิ่นนานเลย
“มอร์นิ่งครับน้องดา”
“พี่วี ตื่นนานแล้วหรือคะ” ดาริกาถามคนที่ยังนอนเคียงกันอยู่บนเตียง หากไม่มีสีหน้าง่วงงุนอย่างคนที่เพิ่งตื่นเลย
“เพิ่งตื่นได้สักพัก เห็นน้องดายังหลับพี่วีเลยไม่กวน” ชายหนุ่มบอก พลางขยับตัวลุกขึ้นจากเตียง ดาริกามองตามเห็นเขาเดินตรงไปยังห้องน้ำ
“น้องดานอนต่อก็ได้นะ ยังเช้าอยู่เลย” เขาว่าก่อนจะผลุบหายเข้าไปในห้องน้ำ หากหญิงสาวตื่นเต็มตาแล้วจึงลุกขึ้นจัดที่นอนให้เรียบร้อย แล้วลุกเดินออกไปข้างนอกในระหว่างรอชายหนุ่มทำธุระส่วนตัว
ทะเลยามเช้าค่อนข้างสงบ มีคลื่นลูกเล็ก ๆ ซัดมากระทบหาด ผืนน้ำยังคงมองเห็นเป็นสีคล้ำด้วยพระอาทิตย์ยังไม่ส่องแสง ลมทะเลพัดแผ่วพาความเย็นในตอนเช้าตรู่มากระทบผิวกาย หญิงสาวจึงเดินเข้าไปในห้องนอนอีกครั้งเพื่อหยิบผ้าคลุมไหล่มาคลุมเพิ่มความอบอุ่น ด้วยตั้งใจจะลงไปเดินเล่นริมหาด หากขณะกำลังจะเปิดประตูห้องออกไปอีกครั้ง คนที่อยู่ในห้องน้ำก็เดินออกมาพอดี
ชายหนุ่มใส่กางเกงนอนขายาวเพียงตัวเดียว อวดแผงอกกำยำและหน้าท้องหนั่นแน่นไปด้วยลอนกล้ามเนื้อ เขาชะงักไปนิดเมื่อเห็นเธอหันกลับไปมองด้วยดวงตาเบิกกว้าง ก่อนที่จะยิ้มทักทาย
“น้องดาจะไปไหนหรือ”
“ว่าจะลงไปเดินเล่นริมหาดน่ะค่ะพี่วี” ดาริกาตอบ หลบตาคมเป็นพัลวัน ขัดเขินกับรูปร่างงดงามสมชายตรงหน้า เป็นความรู้สึกใหม่ที่เพิ่งรู้จัก ทั้ง ๆ ที่เคยเห็นเขาอยู่ในเสื้อผ้าที่เปิดเผยมากกว่านี้มานักต่อนัก แต่ไม่เคยรู้สึกว่าใบหน้าร้อนวูบวาบ หัวใจกระหน่ำในอกเช่นนี้มาก่อนเลย
“รอพี่วีแต่งตัวแป๊บหนึ่งได้ไหม พี่วีไปด้วย” ชายหนุ่มว่าขณะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อหยิบเสื้อผ้าออกมาสวมใส่
“ถ้าอย่างนั้นน้องดาล้างหน้าแปรงฟันก่อนนะคะ” ดาริกาตัดสินใจ หญิงสาววางผ้าคลุมไหล่ไว้บนเตียงแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าในตู้ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำ ไม่นานก็กลับออกมาในเสื้อผ้าชุดใหม่
ปรวีร์หยิบผ้าคลุมไหล่ที่วางอยู่บนเตียงขึ้นมาคลุมให้ ก่อนจะยื่นแขนให้อย่างเช่นทุกครั้ง หากครั้งนี้เธอกลับทอดสายตามองมือเขาอย่างลังเล ก่อนที่จะถอนหายใจและยื่นมือไปเกี่ยวแขนเขาอย่างที่ทำเป็นปกติ เมื่อบอกตัวเองว่า แม้ใจเธอจะคิดกับเขาไม่เหมือนเดิม แต่เธอก็ควรจะปฏิบัติตัวเช่นเดิมกับเขา เพราะไม่ว่าจะอย่างไรเขาก็ยังคงเป็นพี่วีคนเดิมของเธออยู่นั่นเอง
คิดได้ดังนั้นดาริกาจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้คนที่เธอเกี่ยวแขนอยู่ เห็นเขาทอดสายตาลงสบกับเธอพร้อมยิ้มรับ ขณะเดินลงจากบ้านไปยังชายหาดที่มองเห็นอยู่ไม่ไกล
ขณะเดินเคียงกันไปบนผืนทรายหยุ่นเท้า ดาริกาปล่อยมือจากชายหนุ่มเพื่อกระชับผ้าคลุมไหล่ให้แน่นขึ้น เนื่องจากเริ่มหลุดลุ่ยจากสายลมที่พัดผ่าน คนที่เดินอยู่เคียงข้างจึงยกมือขึ้นโอบไหล่ ก้มลงถามเสียงอ่อนโยน
“หนาวหรือ”
“แค่เย็นนิด ๆ ค่ะพี่วี อากาศยามเช้าเย็นสดชื่นดีนะคะ”
“ที่นี่อากาศดีมาก พี่วีชักจะติดใจเสียแล้ว” ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ สายตาทอดยาวไปตามผืนน้ำเบื้องหน้า พระอาทิตย์ดวงโตเริ่มปรากฏโฉมพร้อมฉายแสงกระทบผืนน้ำเป็นประกายระยิบระยับ สีน้ำทะเลเริ่มกลับมาเป็นสีเขียวครามอย่างที่เห็นจนเจนตาในเวลาที่พระอาทิตย์สาดส่องเต็มที่
“ติดใจก็มาบ่อย ๆ สิคะ น้องดาไม่หวงหรอก” หญิงสาวว่ายิ้ม ๆ
“น้องดาอยากทำอะไรหรือเปล่า”
“คะ”
“เกาะดาริกา น้องดาอยากจะทำอะไรหรือเปล่า หรือจะปล่อยไว้แบบนี้”
“น้องดายังไม่ได้คิดเลยค่ะพี่วี จริง ๆ ถ้าทำรีสอร์ทก็คงจะดี แต่น้องดาก็หวง อยากเก็บไว้เป็นที่พักผ่อน เวลาที่น้องดาอยากอยู่สงบ ๆ ก็หนีมาพักที่นี่ได้”
“หนีพี่วีหรือ” ชายหนุ่มเย้ายิ้ม ๆ มองเห็นคนถูกเย้ามองค้อนมา
“พี่วีจะหนีมาด้วยกันก็ได้นะคะ ถ้าไม่ห่วงงาน” ว่าพลางหลิ่วตาให้ คนถูกเหน็บจึงหัวเราะเสียงก้อง
“ไม่ห่วงหรอก เพราะเดี๋ยวพี่วีจะมีผู้ช่วยคนใหม่แล้ว”
“อ้าว... ใครหรือคะ”
“คนนี้ไง” ชายหนุ่มว่าพลางใช้นิ้วชี้จิ้มลงไปบนหน้าผากของคนถาม มองเห็นคนถูกจิ้มทำคอย่น แล้วบ่นกระปอดกระแปด
“พี่วีน่ะ จะให้น้องดาทำงานเรื่อยเลย”
“โตแล้วนะเรา ไม่ใช่เด็ก ๆ” ชายหนุ่มว่า ดาริการู้ว่าเขาไม่ได้ตำหนิจริงจังนัก จึงไม่ได้ถือเป็นจริงเป็นจัง แม้จะรู้ว่าคุณลุงและพี่วีอยากให้เธอเข้ามาช่วยงาน แต่หากเธอยังไม่พร้อม ทั้งสองก็จะไม่บังคับเธออย่างแน่นอน หญิงสาวรู้ดีว่าสักวันจะต้องเข้าไปช่วยงานพี่วีแน่ ๆ เพียงแต่ตอนนี้ยังนึกไม่ออกว่าวิชาการเต้นที่เธอไปร่ำเรียนมาถึงระดับปริญญาจะเอามาช่วยอะไรเขาได้
“น้องดาไม่รู้ว่าไอ้ที่เรียนจบมานี่จะเอามาช่วยงานพี่วีได้อย่างไร” หญิงสาวพึมพำสิ่งที่กำลังคิดออกมา
“แล้วใครบอกให้ไปเรียนสาขานั้นเล่า”
“น้องดาชอบนี่คะ” ตอบเสียงขึ้นจมูก พี่วีอย่าได้มาวิจารณ์ในสิ่งที่น้องดารักเชียวนะ
“ถ้าอย่างนั้นก็เอาความรู้ที่มีมาทำธุรกิจสิ น้องดาอยากเปิดโรงเรียนสอนเต้นหรือเปล่า”
“อยากสิคะ แต่คุณพ่อก็มีธุรกิจอย่างอื่นที่ทิ้งไว้ให้น้องดา ที่ตอนนี้พี่วีช่วยดูแลให้ น้องดาจะหนีไปเปิดโรงเรียนสอนเต้นแล้วทิ้งงานไว้ให้พี่วีได้อย่างไรคะ” แม้ปากจะพูดว่าไม่อยากทำงาน แต่ดาริการู้ดีว่า ไม่ว่าจะอย่างไรเธอก็หนีไม่พ้นที่จะต้องเข้าบริหารธุรกิจที่บิดาทิ้งไว้ให้ ซึ่งเป็นธุรกิจโรงแรมและรีสอร์ทอย่างที่ปรวีร์กำลังทำอยู่
“ถ้ามันเป็นสิ่งที่น้องดารักและอยากทำ พี่วีก็ยินดีจะดูแลอย่างอื่นให้ เราเป็นครอบครัวเดียวกัน จำได้หรือเปล่า” ชายหนุ่มว่าอย่างใจดีและหมายความตามนั้น ความสุขของคนในอ้อมแขนคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเขา
ดาริกาเอียงศีรษะซบไหล่ของชายหนุ่มพลางถามอย่างน้ำเสียงอ่อนออด
“น้องดาบอกหรือยังนะว่าน้องดารักพี่วีที่สุดในโลก”
“บอกแล้วบอกอีกก็ได้” ชายหนุ่มว่ายิ้ม ๆ หัวใจพองโต แม้ความรักของเธอจะไม่ใช่รักแบบที่เขารัก แต่อย่างน้อยเธอก็รักเขาล่ะน่า
“น้องดารักพี่วีค่ะ” แต่ไม่ได้รักแบบพี่ชายอย่างที่พี่วีคิดหรอกนะ
“พี่วีก็รักน้องดา” ชายหนุ่มบอกพลางกระชับอ้อมแขนและก้มลงฝังจุมพิตหนัก ๆ บนกลุ่มผมนุ่ม ดาริกายกมือขึ้นโอบเอวชายหนุ่มขณะพากันเดินไปตามผืนทรายทอดยาว
จวบจนพระอาทิตย์เริ่มสาดแสงร้อน ทั้งสองจึงชวนกันกลับเข้าบ้าน ด้วยคิดว่าป่านนี้พี่จอยคงตั้งโต๊ะอาหารเช้าเรียบร้อยแล้วและบิดาของชายหนุ่มอาจจะกำลังรอรับประทานอาหารเช้าอยู่ โดยหารู้ไม่ว่าภาพที่ทั้งสองเดินโอบกอดกันอยู่ริมหาด ตกอยู่ในสายตาของคุณปวินท์ตั้งแต่แรกและทำให้ชายสูงวัยยิ้มอย่างสมใจ