Whiplash (2014) . . . วิถีสู่ยอดมนุษย์
(ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
ย้อนไปหลายสิบปีก่อน เช้าๆใครเคยตื่นมานั่งเฝ้าหน้าทีวีเพื่อรอดู
Dragon Ball บ้างครับ (แหม่ ยกมือกันให้รึ่ม)
"โกคู" (หรือที่บ้านเราคุ้นหูว่าโงกุน -_- ) ต้องผ่านการฝึกกรำอย่างหนักหน่วงในห้องกาลเวลาที่มีแรงโน้มถ่วงกดดันมากกว่าปรกติหลายสิบหลายร้อยเท่า แต่กระนั้นผลแห่งการฝึกหนักก็ยังไม่สามารถจะทำให้เขาเก่งกาจขนาดจะเทียบเคียง ฟรีซเซอร์ ร่างสุดยอดได้
สิ่งสุดท้ายที่ทำให้โกคูทะลุขีดจำกัดคือการโดน
"ฟาดแส้" อย่างหนักโดยศัตรูของเขานั่นเองด้วยบทเรียนอันเจ็บแสบคือการฆ่า คุริลิน เพื่อนรักที่สุดของเขา
วินาทีนั้นโกคูก็ได้ก้าวข้ามไปสู่พรหมแดนใหม่แห่งความเก่งกาจที่เขาไม่เคยนึกฝัน พรสรรค์ถูกปลุกขึ้นมา และได้กลายเป็นโคตรนักรบ
ซูเปอร์ไซย่า แห่งตำนานได้ในห้วงสุดท้ายแห่งความเป็นความตายในที่สุด
ในบางครั้งครับ การฝึกโหดในระดับธรรมดามันก็ไม่สามารถที่จะพาให้คนเราทะลุกำแพงสูงชันที่เรียกว่า
"ขีดจำกัด" ไปได้
Andrew Newman (Miles Teller) มือกลองเพชรในตมแห่ง
Whiplash ก็ไม่ต่างกัน แม้ตัวเขาจะมีทั้งพรสรรค์ทั้งความสามารถ และพร้อมจะยอมทุ่มเทให้กับการฝึกโหดของ
Fletcher (J.K. Simmons) ครูฝึกดนตรีผู้เสพติดการปั้นดินให้เป็นดาวในทุกวิถีทาง จนจิตใจแทบจะแตกสลายเป็นผุยผงก็ตาม
แต่กระนั้นในความเป็นจริงแล้ว
"ขีดจำกัด" มันก็ไม่ได้ก้าวข้าวไปได้ง่ายดายอย่างที่คิด และ
Whiplash ก็มีความเด็ดขาดอย่างมากครับในการสื่อถึงความหนักหนาสาหัสสากรรจ์ในการพยายาม
"ข้ามกำแพง" ไปสู่ความเหนือมนุษย์ทั้งในแง่ของ
"เพชร" และคนที่กำลัง
"เจียรนัยเพชร"
Whiplash เป็นหนังคนสู้ฝันธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่างที่สุด เนื่องด้วยความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นของฝ่ายฝึกและฝ่ายถูกฝึกที่มันไม่ได้ ฟีลกู๊ด อบอุ่น ดีงาม เหมือนหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่นๆ ความความสัมพันธ์ของ
Newman และ
Fletcher มันเหมือนศัตรูคู่อาฆาตที่พยายามฉกฉวยประโยชน์ซึ่งกันและกันแล้วในขณะเดียวกันก็พยายามจะหาจังหวะต่อยฝ่ายตรงข้ามให้จมดินไปด้วยเสียเลย ซึ่งความรู้สึกแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าขาดการแสดงสุดสะพรึงของสองนักแสดงนำ
Miles Teller และ
JK. Simmon ที่ต่างไม่ยอมลดราวาศอกให้กันแม้แต่มิลลิเมตรเดียว... นี่มันคือหนึ่งในการแสดงที่ควรค่าแก่การชมให้ได้สักครั้งก่อนสิ้นลมจริงๆนะครับแหม่
นอกเหนือไปกว่านั้น ผกก.
Damien Chazelle ยังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสร้างบรรยากาศและโยนความกดดันในแบบที่ยากจะหาสัมผัสได้จากหนังเรื่องใดๆมาให้ผู้ชมได้แบบที่แทบจะอกแตกตายคาโรงกันข้างนึง
Damien Chazelle แกดูจะสนุกสนานมากนะครับในการค่อยๆพาเราไต่ระดับความพีคขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ตูมมมมมมมมมมมมเหมือนระเบิดปรมาณูในบั้นปลายอย่าง ยิ่งใหญ่ รุนแรง แต่งดงามสุดๆ ซึ่งผมฟันธงได้เลยว่ามันจะต้องถูกจดจำต่อไปอีกเนิ่นนานอย่างแน่นอน
Whiplash มันคือปรากฏการณ์
"ฟาดแส้" อันมหัศจรรย์ที่ไม่ว่าใครก็น่าจะลองเข้าไปสัมผัสมันให้ได้สักครั้ง... ปรากฏการณ์แปลงร่างเป็น ซูเปอร์ไซย่า ของ
Miles Teller ครั้งนี้มันจะเป็นอย่างไร บอกเลยว่าแค่ที่ผมเล่ามานี่มันยังไม่ได้เศษเสี้ยวของความรู้สึกจริงๆ...
ได้โปรดอย่าเพิ่งตั้งแง่ว่ามันเป็น หนังรางวัล หนังอินดี้ แล้วจะดูยากเลยนะครับ ผมกล้ารับประกันเลย มันทั้งดูเพลิน ดูง่าย และมันจะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงคุณค่าที่หนังเรื่องนี้คู่ควรอย่างแน่นอน...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12"
www.facebook.com/SeatNoE12
[CR] [No Spoil] Whiplash (2014) . . . วิถีสู่ยอดมนุษย์
(ไม่เปิดเผยเนื้อหาสำคัญ)
ย้อนไปหลายสิบปีก่อน เช้าๆใครเคยตื่นมานั่งเฝ้าหน้าทีวีเพื่อรอดู Dragon Ball บ้างครับ (แหม่ ยกมือกันให้รึ่ม)
"โกคู" (หรือที่บ้านเราคุ้นหูว่าโงกุน -_- ) ต้องผ่านการฝึกกรำอย่างหนักหน่วงในห้องกาลเวลาที่มีแรงโน้มถ่วงกดดันมากกว่าปรกติหลายสิบหลายร้อยเท่า แต่กระนั้นผลแห่งการฝึกหนักก็ยังไม่สามารถจะทำให้เขาเก่งกาจขนาดจะเทียบเคียง ฟรีซเซอร์ ร่างสุดยอดได้
สิ่งสุดท้ายที่ทำให้โกคูทะลุขีดจำกัดคือการโดน "ฟาดแส้" อย่างหนักโดยศัตรูของเขานั่นเองด้วยบทเรียนอันเจ็บแสบคือการฆ่า คุริลิน เพื่อนรักที่สุดของเขา
วินาทีนั้นโกคูก็ได้ก้าวข้ามไปสู่พรหมแดนใหม่แห่งความเก่งกาจที่เขาไม่เคยนึกฝัน พรสรรค์ถูกปลุกขึ้นมา และได้กลายเป็นโคตรนักรบ ซูเปอร์ไซย่า แห่งตำนานได้ในห้วงสุดท้ายแห่งความเป็นความตายในที่สุด
ในบางครั้งครับ การฝึกโหดในระดับธรรมดามันก็ไม่สามารถที่จะพาให้คนเราทะลุกำแพงสูงชันที่เรียกว่า "ขีดจำกัด" ไปได้ Andrew Newman (Miles Teller) มือกลองเพชรในตมแห่ง Whiplash ก็ไม่ต่างกัน แม้ตัวเขาจะมีทั้งพรสรรค์ทั้งความสามารถ และพร้อมจะยอมทุ่มเทให้กับการฝึกโหดของ Fletcher (J.K. Simmons) ครูฝึกดนตรีผู้เสพติดการปั้นดินให้เป็นดาวในทุกวิถีทาง จนจิตใจแทบจะแตกสลายเป็นผุยผงก็ตาม
แต่กระนั้นในความเป็นจริงแล้ว "ขีดจำกัด" มันก็ไม่ได้ก้าวข้าวไปได้ง่ายดายอย่างที่คิด และ Whiplash ก็มีความเด็ดขาดอย่างมากครับในการสื่อถึงความหนักหนาสาหัสสากรรจ์ในการพยายาม "ข้ามกำแพง" ไปสู่ความเหนือมนุษย์ทั้งในแง่ของ "เพชร" และคนที่กำลัง "เจียรนัยเพชร"
Whiplash เป็นหนังคนสู้ฝันธรรมดาที่ไม่ธรรมดาอย่างที่สุด เนื่องด้วยความสัมพันธ์อันพิลึกพิลั่นของฝ่ายฝึกและฝ่ายถูกฝึกที่มันไม่ได้ ฟีลกู๊ด อบอุ่น ดีงาม เหมือนหนังแนวเดียวกันเรื่องอื่นๆ ความความสัมพันธ์ของ Newman และ Fletcher มันเหมือนศัตรูคู่อาฆาตที่พยายามฉกฉวยประโยชน์ซึ่งกันและกันแล้วในขณะเดียวกันก็พยายามจะหาจังหวะต่อยฝ่ายตรงข้ามให้จมดินไปด้วยเสียเลย ซึ่งความรู้สึกแบบนี้มันจะไม่เกิดขึ้นถ้าขาดการแสดงสุดสะพรึงของสองนักแสดงนำ Miles Teller และ JK. Simmon ที่ต่างไม่ยอมลดราวาศอกให้กันแม้แต่มิลลิเมตรเดียว... นี่มันคือหนึ่งในการแสดงที่ควรค่าแก่การชมให้ได้สักครั้งก่อนสิ้นลมจริงๆนะครับแหม่
นอกเหนือไปกว่านั้น ผกก. Damien Chazelle ยังประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการสร้างบรรยากาศและโยนความกดดันในแบบที่ยากจะหาสัมผัสได้จากหนังเรื่องใดๆมาให้ผู้ชมได้แบบที่แทบจะอกแตกตายคาโรงกันข้างนึง Damien Chazelle แกดูจะสนุกสนานมากนะครับในการค่อยๆพาเราไต่ระดับความพีคขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ตูมมมมมมมมมมมมเหมือนระเบิดปรมาณูในบั้นปลายอย่าง ยิ่งใหญ่ รุนแรง แต่งดงามสุดๆ ซึ่งผมฟันธงได้เลยว่ามันจะต้องถูกจดจำต่อไปอีกเนิ่นนานอย่างแน่นอน
Whiplash มันคือปรากฏการณ์ "ฟาดแส้" อันมหัศจรรย์ที่ไม่ว่าใครก็น่าจะลองเข้าไปสัมผัสมันให้ได้สักครั้ง... ปรากฏการณ์แปลงร่างเป็น ซูเปอร์ไซย่า ของ Miles Teller ครั้งนี้มันจะเป็นอย่างไร บอกเลยว่าแค่ที่ผมเล่ามานี่มันยังไม่ได้เศษเสี้ยวของความรู้สึกจริงๆ...
ได้โปรดอย่าเพิ่งตั้งแง่ว่ามันเป็น หนังรางวัล หนังอินดี้ แล้วจะดูยากเลยนะครับ ผมกล้ารับประกันเลย มันทั้งดูเพลิน ดูง่าย และมันจะทำให้คุณสัมผัสได้ถึงคุณค่าที่หนังเรื่องนี้คู่ควรอย่างแน่นอน...
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
"โรงภาพยนตร์ที่ 3 ที่นั่ง E12"
www.facebook.com/SeatNoE12