Whiplash ตีทะลุฝัน

ถ้าเราเดาหนังจากเรื่องย่อและหน้าหนังอย่างง่ายๆ Whiplash ก็คงเข้าทำนองหนังที่ว่าด้วยการตามความฝันด้วยความมุ่งมั่น โดยมีคนคอยช่วยชี้แนะ ฟันฝ่าอุปสรรคจนกระทั่งประสบความสำเร็จในที่สุด ทิ้งความซาบซึ้งและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนดู

แต่ Whiplash ไม่ใช่อย่างสิ้นเชิง!

เรื่องราวไปไกลกว่านั้นเยอะ และที่สุดสามารถท้าทายคนดูให้พิจารณาถึงประเด็นที่หนังหยิบเอามาเล่นอย่างใหญ่โต ประเด็นซึ่งมีทั้งด้านสีขาวและด้านสีดำ ประเด็นซึ่งตอบยากเหลือเกินว่าถ้าเป็นเรา เราจะเลือกแบบไหน

ทุกสิ่งย่อมมีราคาที่เราต้องจ่าย
ไม่มีอะไรที่เราจะได้มาฟรีๆ

ถ้าอยากเป็นเลิศก็ต้องหมั่นฝึกซ้อม และถ้าอยากเป็นยิ่งกว่านั้นก็ต้องซ้อมแล้วซ้อมอีก เพื่อให้ได้เป็นคนที่ทุกคนจะจดจำ

เรื่องราว และประเด็นที่เล่นในหนังว่าดีแล้ว การดำเนินเรื่องยิ่งดีเข้าไปใหญ่ หนังให้ความรู้สึกกดดันครอบคลุมไปถ้วนทั่วทั้งเรื่อง กระทั่งแผ่มาถึงคนดูอย่างเราให้มีส่วนร่วมกับเรื่องราวและเหตุการณ์ในหนังอย่างน่าติดตาม โดยเฉพาะในตอนท้ายเรื่องที่ตัวละครฟาดฟันกันอย่างถึงพริกถึงขิง คนดูอย่างเราได้ทั้งความสะใจ ความสนุก ตื่นเต้น เร้าใจ และ ทึ่ง ที่สุด

การรุกและรับของตัวละครหลักทั้งสองซึ่งนำแสดงโดย J.K. Simmons และ Miles Teller ทำได้อย่างน่าประทับใจมิรู้ลืม J.K. Simmons เล่นด้วยความอาวุโสแบบสั่งสมประสบการณ์มาเยอะจนเมื่อเจอบทที่ใช่ และเล่นได้ใหญ่พอ การแสดงของเขาจึงเต็มไปด้วยพลังและสมจริงอย่างเหลือเชื่อ ในขณะที่ Miles Teller ก็ได้ฉายแสงทางการแสดงอย่างเต็มเปี่ยมในบทบาทนี้

ไม่ใช่แค่สนุก แต่มันทำให้เรา ทึ่ง

#Whiplash #ตีให้ลั่นเพราะฝันยังไม่จบ

https://www.facebook.com/watchnwrite