มีคนอยากรู้ประโยชน์ของการปั่นจักรยานเพิ่มเติมจากที่ผมเล่าว่า คนอ้วนอายุ 50 เป็นโรคเก้าท์อย่างหนัก แต่ทำให้โรคเก้าท์หยุดกำเริบได้ด้วยการปั่นจักรยานเป็นประจำระดับเกิน 100 กม ในวันหยุด
นี่คือเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งที่ผมตอบในกระทู้นั้นแล้ว แต่อยากให้รู้ทั่วๆ กันว่า ในไทยก็มีสุดยอดสามีที่รักภรรยา
สมัยผมปั่นกับสมาคมจักรยานสุขภาพซึ่งตอนนั้นเป็นแค่ชมรมราวๆ 10 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั่งรถกลับจากการปั่นหลายวันต่างจังหวัด พิธีกรขอให้สามีภรรยาเล่าประสพการณ์ให้เพื่อนๆ ฟัง ทั้งสองวัย ปลาย 40 หรือต้นๆ 50 มีลูก 2 คน ก่อนหน้าที่จะมาปั่นจักรยาน ภรรยาป่วยกะเสาะกะแสะ ไปหาหมอ รพ เอกชน หลายแห่ง ตรวจแล้วตรวจอีก ก็หาสาเหตุโรคไม่ได้ ลงความเห็นคล้ายๆ กันหลาย รพ ว่า เป็นโรคหัวใจอ่อนแอ เสียค่าหมอ/ยา กว่า 1 ล้านบาท ใน 10 ปี จนวันหนึ่งในขณะที่รอหมออยู่ สามีได้อ่านนิตยสาร หมอชาวบ้าน มีคอลัมน์หนึ่งแนะนำให้เดินออกกำลังกายสำหรับคนที่ไม่แข็งแรง ไม่ใช่มัวแต่นั่งๆ นอนๆ กินยา พอหาหมอเสร็จได้ยามา ถึงบ้าน สามีก็จูงภรรยาเดินรอบๆ บ้าน ตอนที่เล่าถึงตอนนี้ ภรรยาเสริมว่า ตอนนั้นด่าสามีว่า กูจะตายอยู่แล้ว แรงก็ไม่มี ยังลากให้กูเดินไปมาอยู่ได้ จะรีบให้กูตายไปมีเมียใหม่หรือ แต่สามีไม่ตอบ อดทนจูงภรรยาเดินรอบบ้าน เหนื่อยก็นั่งพัก แล้วพาประคองจูงเดินอีก วันแรกก็แค่ 10 นาที ทำแบบนี้จนครบ 1 ปีก็เดินได้เป็น ชั่วโมง เวลาพักระหว่างเดินก็เริ่มน้อยลง จนในที่สุดครบ 1 ปี สามารถเดินในบริเวณบ้านไปมาโดยแทบไม่พักนานเลย
เพื่อให้ภรรยาไม่เบื่อ หลังจากนั้นสามีพาภรรยาไปเดินรอบสวนลุมระยะทาง 4 กม 1 รอบในวันแรก สามารถเดินได้โดยไม่ต้องนั่งพัก แล้วก็เพิ่มเป็น 2 3 4 รอบได้ แข็งแรงขึ้นมาก
สามีรักภรรยากลัวเบื่อออกกำลังกาย ก็เลยซื้อเสือภูเขาสองคันมาปั่นด้วยกัน วันแรกก็ปั่นได้แค่ 1-2 รอบ ในสวนลุมก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็เพิ่มระยะได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 10 รอบ จากนั้นก็สมัครเป็นสมาชิกกับสมาคมออกทริปสั้นๆ ก่อน 30-40 กม และเริ่มขยายเป็น 50-60 จนเกิน 100 กม ใน 1 วันได้ และเริ่มออกทริปต่างจังหวัดหลายวัน ถึงตอนนี้ไม่ไปหาหมออีกแล้ว ยาก็ไม่กินอีกแล้วครับ
จากคนที่ป่วยกะเสาะกะแสะ หมอไม่รู้สาเหตุ ให้แต่ยาบำรุงมากินและให้พักผ่อนมากๆ เสียเงินเป็นล้าน ร่างกายก็อ่อนแอลงทุกทีจนต้องนั่งๆ นอนๆ แทบเดินไม่ได้ ภายใน 2 ปีก็สามารถปั่นจักรยานได้เกิน 100 กม ใน 1 วัน และไม่ต้องกินยาหรือไปหาหมอให้เสียตังอีกเลย
ตอนนี้สองสามีภรรยาก็คงใกล้ 60 แล้วมั้ง ผมไม่ได้เห็นมานานแล้ว เพราะไม่ได้ไปปั่นกับสมาคมแล้วครับ เพราะปั่นช้าเกินไป พักบ่อย ทริปหนึ่งๆ ก็แค่ 40-60 กม เท่านั้น ต่างจังหวัดนานๆ ผมก็ไปกับสมาคมที แต่ไม่บ่อยนัก
สุดยอดสามีที่รักภรรยา
นี่คือเรื่องเล่าอีกเรื่องหนึ่งที่ผมตอบในกระทู้นั้นแล้ว แต่อยากให้รู้ทั่วๆ กันว่า ในไทยก็มีสุดยอดสามีที่รักภรรยา
สมัยผมปั่นกับสมาคมจักรยานสุขภาพซึ่งตอนนั้นเป็นแค่ชมรมราวๆ 10 กว่าปีมาแล้ว ตอนนั่งรถกลับจากการปั่นหลายวันต่างจังหวัด พิธีกรขอให้สามีภรรยาเล่าประสพการณ์ให้เพื่อนๆ ฟัง ทั้งสองวัย ปลาย 40 หรือต้นๆ 50 มีลูก 2 คน ก่อนหน้าที่จะมาปั่นจักรยาน ภรรยาป่วยกะเสาะกะแสะ ไปหาหมอ รพ เอกชน หลายแห่ง ตรวจแล้วตรวจอีก ก็หาสาเหตุโรคไม่ได้ ลงความเห็นคล้ายๆ กันหลาย รพ ว่า เป็นโรคหัวใจอ่อนแอ เสียค่าหมอ/ยา กว่า 1 ล้านบาท ใน 10 ปี จนวันหนึ่งในขณะที่รอหมออยู่ สามีได้อ่านนิตยสาร หมอชาวบ้าน มีคอลัมน์หนึ่งแนะนำให้เดินออกกำลังกายสำหรับคนที่ไม่แข็งแรง ไม่ใช่มัวแต่นั่งๆ นอนๆ กินยา พอหาหมอเสร็จได้ยามา ถึงบ้าน สามีก็จูงภรรยาเดินรอบๆ บ้าน ตอนที่เล่าถึงตอนนี้ ภรรยาเสริมว่า ตอนนั้นด่าสามีว่า กูจะตายอยู่แล้ว แรงก็ไม่มี ยังลากให้กูเดินไปมาอยู่ได้ จะรีบให้กูตายไปมีเมียใหม่หรือ แต่สามีไม่ตอบ อดทนจูงภรรยาเดินรอบบ้าน เหนื่อยก็นั่งพัก แล้วพาประคองจูงเดินอีก วันแรกก็แค่ 10 นาที ทำแบบนี้จนครบ 1 ปีก็เดินได้เป็น ชั่วโมง เวลาพักระหว่างเดินก็เริ่มน้อยลง จนในที่สุดครบ 1 ปี สามารถเดินในบริเวณบ้านไปมาโดยแทบไม่พักนานเลย
เพื่อให้ภรรยาไม่เบื่อ หลังจากนั้นสามีพาภรรยาไปเดินรอบสวนลุมระยะทาง 4 กม 1 รอบในวันแรก สามารถเดินได้โดยไม่ต้องนั่งพัก แล้วก็เพิ่มเป็น 2 3 4 รอบได้ แข็งแรงขึ้นมาก
สามีรักภรรยากลัวเบื่อออกกำลังกาย ก็เลยซื้อเสือภูเขาสองคันมาปั่นด้วยกัน วันแรกก็ปั่นได้แค่ 1-2 รอบ ในสวนลุมก็เหนื่อยแล้ว แต่ก็เพิ่มระยะได้มากขึ้นเรื่อยๆ จนถึง 10 รอบ จากนั้นก็สมัครเป็นสมาชิกกับสมาคมออกทริปสั้นๆ ก่อน 30-40 กม และเริ่มขยายเป็น 50-60 จนเกิน 100 กม ใน 1 วันได้ และเริ่มออกทริปต่างจังหวัดหลายวัน ถึงตอนนี้ไม่ไปหาหมออีกแล้ว ยาก็ไม่กินอีกแล้วครับ
จากคนที่ป่วยกะเสาะกะแสะ หมอไม่รู้สาเหตุ ให้แต่ยาบำรุงมากินและให้พักผ่อนมากๆ เสียเงินเป็นล้าน ร่างกายก็อ่อนแอลงทุกทีจนต้องนั่งๆ นอนๆ แทบเดินไม่ได้ ภายใน 2 ปีก็สามารถปั่นจักรยานได้เกิน 100 กม ใน 1 วัน และไม่ต้องกินยาหรือไปหาหมอให้เสียตังอีกเลย
ตอนนี้สองสามีภรรยาก็คงใกล้ 60 แล้วมั้ง ผมไม่ได้เห็นมานานแล้ว เพราะไม่ได้ไปปั่นกับสมาคมแล้วครับ เพราะปั่นช้าเกินไป พักบ่อย ทริปหนึ่งๆ ก็แค่ 40-60 กม เท่านั้น ต่างจังหวัดนานๆ ผมก็ไปกับสมาคมที แต่ไม่บ่อยนัก