ถ้าคิดจะปรับทัศนะคติของ เทียดเอง คงต้องใช้เวลาหน่อยนะครับ

กระทู้สนทนา
เพราะทัศนะคติของผม มันเป็นการสะสมจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาตลอดแปดปีทีเดียวเชียว มันเป็นการสั่งสมจากความอยุติธรรม มันเป็นความขมขื่นจากการถูกกระทำ และยังเป็นความน้อยเนื้อต่ำใจที่ผู้มีอำนาจไม่เคยเห็นหัว

มีคนเข้าใจว่า ตลอดเวลาที่ผมแสดงความคิดเห็นทางการเมือง เพราะยึดติดกับคุณทักษิณบ้าง เพราะได้รับเงินจากคุณทักษิณบ้าง หรือแม้กระทั่งเป็นทีมงานจัดตั้ง เพื่อหวังผลทางการเมืองให้กับฝ่ายคุณทักษิณ

ซึ่งข้อกล่าวหาทั้งหมดนี้ ผมขอปฏิเสธในทุกข้อหาครับ จริงอยู่แรกเริ่มต้องเกี่ยวกับคุณทักษิณแน่ๆ แต่หลังๆเมื่อเหตุการณ์ผ่านมาถึงวันนี้ สถานการณ์บ้านเมืองนั้น มันไม่ใช่เรื่องของคุณทักษิณอีกแล้วครับ แต่เป็นเรื่องของตัวเองทั้งหมด

ในช่วงแรกออกมาเพื่อปกป้องคนที่ผมเลือกมา และคุณทักษิณยังเป็นนายกฯคนแรกที่เห็นแก่ความทุกข์สุขของชาวรากหญ้าอย่างผม คุณทักษิณยังเป็นคนที่ทำให้ประเทศชาติเดินหน้า จนอย่าว่าแต่แค่อาเซี่ยนเลยนะครับ แต่มันขึ้นไปถึงระดับเอเชียเลยทีเดียว เป็นหนึ่งในความภาคภูมิใจที่ผมได้เกิดเป็นคนไทย ภายใต้การนำของคุณทักษิณ และยังเป็นนายกฯคนแรกที่ผมเลือกมากับมือ หลังจากที่ไม่เคยสมหวังกับเหล่านายกฯที่ผ่านมา

แต่แล้วก็กำเนิดพันธมิตรปกป้องประชาธิปไตย ที่ออกมาชุมนุมขับไล่ที่ไม่เป็นไปหลักประชาธิปไตย ด้วยข้อหาเดิมๆ คุณทักษิณคอรัปชั่นมากมาย คุณทักษิณเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตัวเองและพวกพ้อง ซ้ำร้ายกล่าวหาคุณทักษิณเกี่ยวกับเรื่องของสถาบันอันเป็นที่เคารพของประชาชนทั้งประเทศ

และพยายามสร้างความวุ่นวายด้วยวิธีการที่ไม่คำนึงความเสียหายของประเทศ ไม่สนใจกับการฉุดประเทศให้กลับมาสู่จุดเดิม เพื่อสร้างเงื่อนไขให้กองทัพออกมายึดอำนาจคุณทักษิณให้ได้

ในช่วงแรกๆ ผมเกือบจะเชื่อไปกับข้อมูลเสกสรรปั้นแต่งของคนเหล่านั้น เกือบจะเชื่อว่าคุณทักษิณเหลิงอำนาจถึงกับคิดลบหลู่สถาบัน เกือบจะเชื่อเรื่องการทุจริตอย่างมโหฬารของคุณทักษิณ เกือบจะเชื่อเรื่องคุณทักษิณขายชาติ และยังเกือบจะเชื่อเรื่องคุณทักษิณหวังผลประโยชน์ของตัวเองมากกว่าผลประโยชน์ของชาติและประชาชน เพราะตอนนั้นข่าวสารต่างๆล้วนแต่นำเสนอข้างเดียวตลอด เมื่อรับฟังหลายครั้งเข้า แน่นอนครับ ใจผมเริ่มเป๋ เริ่มเอนเอียงที่จะเชื่อเหมือนคนทั่วๆไป

แต่โชคดีที่ผมได้รู้จักพันทิพ ได้รู้จักราชดำเนินแห่งนี้ ทำให้ผมต้องขวนขวายที่จะเข้ามาหาข้อมูลในนี้ แล้วความจริงเริ่มทำให้ผมต้องกลับมาพินิจวิเคราะห์เรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยอาศัยข้อมูลจากสองฝ่าย แล้วมาหล่อหลอมรวมกับสามัญสำนึกที่มีอยู่ ทำให้ผมพบว่า

ถ้าคุณทักษิณทุจริตมากมายตามข้อกล่าวหาจริง ทำไมจึงต้องใช้คู่ปฏิปักษ์ที่มีอำนาจทั้งสอบสวน สืบสวนได้อย่างเต็มที่ และยังมีอำนาจในการสั่งฟ้องเองอีกต่างหาก แค่นี้ยังไม่พอ ยังมีการออกกฎหมายคุ้มครองเหล่า คตส.อีกด้วย เป็นแบบนี้แล้ว สามัญสำนึกบอกผมว่า มันเป็นการจองล้างกันโดยไม่คำนึ่งถึงนิติรัฐ นิติธรรมเลยนี่ครับ

ถ้าคุณทักษิณทุจริตมากมายดังที่กล่าวหา ทำไมจึงไม่เลือกการทุจริตที่แจ่มชัด ทำไมไม่เลือกการทุจริตที่ทำให้ประเทศชาติเกิดความเสียหายมากมาย แต่กลับไปเล่นงานในเรื่องการเซ็นชื่อให้เมียซื้อที่ และยังลงโทษไม่รอลงอาญา ติดคุก 2 ปี ทำให้คุณทักษิณ มีคำว่า นช.ติดตัว ทั้งๆที่มีกรณีเทียบเคียง ในอดีตก็ให้รอลงอาญารัฐมนตรีของอีกขั้ว ด้วยเหตุผลเคยทำคุณประโยชน์ให้กับประเทศ อย่างนี้จะให้ผมมองเป็นอย่างอื่นไม่ได้ นอกจากเป็นเพียงเกมการเมืองครับ

ถ้าคุณทักษิณเอื้อประโยชน์ให้กับธุรกิจตัวเอง จนทำให้เกิดการยึดทรัพย์ไปร่วม 4 หมื่นล้านนั้น เมื่อผมดูจากข้อมูลแล้ว ในยุคคุณทักษิณไม่เพียงแต่เอไอเอสที่มีกำไร แต่ทุกบริษัทที่ทำอาชีพเดียวกัน ล้วนแต่มีผลกำไรมหาศาลทั้งสิ้น และเมื่อถึงวันนี้ วันที่เอไอเอสไม่ใช่ของคุณทักษิณแล้ว เอไอเอสก็ยังคงกำไรเป็นกอบเป็นกำอยู่ดี ดังนั้นมันจึงน่าสงสัย เป็นเรื่องการรักษาผลประโยชน์ของชาติ หรือต้องการกำจัดนักการเมืองคู่แข่งกันแน่

ถ้าต้องการกำจัดปีศาจร้ายอย่างคุณทักษิณ ทำไมจึงต้องร่างรัฐธรรมนูญขึ้นมา เพื่อลงโทษย้อนหลังนักการเมืองที่อยู่ฝั่งเดียวกับคุณทักษิณ ทั้งๆที่กฎหมายให้คุณเท่านั้น จึงบังคับย้อนหลังได้ อย่างนี้แล้วมันแสดงออกอย่างชัดเจนว่า เจตนาเพียงแค่ให้พรรคการเมืองที่เป็นพันธมิตรกันมีโอกาสจะได้จัดตั้งรัฐบาลเท่านั้นเอง

และเมื่อไม่สมหวังทั้งๆที่รัฐธรรมนูญนั้นร่างขึ้นเองแท้ๆ นายกฯสมัครที่ผมเลือกมา ก็มีอันต้องตกจากเก้าอี้ เพียงเพราะทำกับข้าวออกทีวี พรรคพลังประชาชนต้องถูกยุบ เพราะการทำหน้าที่อย่างสุกเอาเผากินของผู้มีอำนาจวินิจฉัย และตอนนี้นายกฯยิ่งลักษณ์กำลังจะถูกถอดถอน ด้วยข้อหาไม่ยับยั้งนโยบายที่แถลง ด้วย สนช.ที่ไม่มีอำนาจจากรัฐธรรมนูญชั่วคราว หรือ จากความผิดในรัฐธรรมนูญที่ถูกฉีก แบบนี้มันเป็นการจองล้างจองผลาญกันหรือเปล่าครับ

และนี่ก็ไม่ใช่การต่อสู้ทางการเมืองของนักการเมืองสองฝ่าย แต่ยังเป็นการต่อสู้ของประชาชนที่สนับสนุนทั้งสองฝ่ายด้วย แล้วความชัดเจนก็เกิดขึ้นกับการเลือกปฏิบัติไม่ว่าจากพรรคการเมืองหรือประชาชนที่สนับสนุน ดังนั้นความขัดแย้ง จึงกลายเป็นปัญหาสร้างความแตกแยกให้ประเทศไทยจนยากกลับคืนสู่ความเป็นปกติ ดังนั้นการนำคู่ขัดแย้งเพียงฝ่ายเดียวไปปรับทัศนะคติ คงไม่ได้ผลเต็มเม็ดเต็มหน่วยอย่างแน่นอนครับ

ดังนั้นที่ผมบอกว่า ตอนแรกที่ออกมาปกป้องคุณทักษิณ ก็เพราะคนที่อาสาเข้ามาทำงานให้กับประเทศ จนประชาชนให้ความรักมากมาย ยังต้องถูกกระทำอย่างไม่เป็นธรรมแบบนี้ แล้วต่อไปยังจะมีคนเก่ง คนมีความสามารถที่ไหน จะกล้าเข้ามาทำงานให้ประชาชนผู้ยากไร้อีกล่ะครับ สู้ทำตัวเป็นเด็กดี แล้วรอให้ถูกคัดสรร ไม่ดีกว่าหรือครับ เพราะเมื่อเป็นคนดี เป็นเด็กดี กฎหมายมักจะเอื้อมไม่ถึงสักที

ดังนั้นที่ผมบอกว่า ตอนหลังทำเพื่อตัวเองนั้น ก็เพราะคนกลุ่มนั้นไม่มีความชอบธรรมใดๆมาทำลายความหวัง มาทำลายความฝันและยังมาทำลายสิทธิเสรีภาพในการกำหนดทิศทางอนาคตของตัวเองอีกด้วย แล้วจะให้ผมแปรทัศนะคติไปเข้ากับคนกลุ่มนั้นง่ายๆได้อย่างไรครับ

แต่เมื่อสถานการณ์ความขัดแย้งก็ทำให้ประเทศต้องจมปลักอยู่กับความทุกข์ยาก เมื่อมีคนอาสาที่จะเข้ามาสร้างความปรองดอง ปฏิรูปประเทศ และจะสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ผมก็จำเป็นต้องรอครับ รอด้วยความหวังที่ประเทศจะได้เดินไปถึงจุดนั้นโดยไว

แม้ใจจะไม่เชื่อสักเท่าไหร่นัก หลังจากเห็นกลุ่มคนกลุ่มเดิมที่คอยป่วนประเทศ สร้างความวุ่นวาย จนได้เข้ามานั่งในสภากันสลอนก็ตาม แต่ผมยังเผื่อใจให้กับท่านนายกฯประยุทธ์ที่พูดอยู่เสมอ เข้ามาหวังแก้ปัญหาให้กับประเทศ ซึ่งคงไม่ใช่เรื่องยากถ้าท่านจะทำ เพราะประเด็นการแก้ไขในทุกเรื่องจะสำเร็จได้ ก็แค่ใช้ความยุติธรรมในมาตรฐานเดียวกัน จนทุกฝ่ายยอมรับ จะได้ร่วมมือกันพัฒนาประเทศให้เดินหน้าต่อไป

ถึงตอนนั้น ทัศนะคติของผมคงจะแปรเปลี่ยนไป หากได้เห็นความยุติธรรม ความเท่าเทียม ที่พึงมีพึงได้ โดยไม่จำเป็นให้ใครเรียกไปปรับทัศนะคติหรอกครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่