^_^ จากอดีตโปรแกรมเมอร์ สู่พ่อค้า ร้านกล้วยปิ้ง ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของกิจการ ^_^

จากอดีตโปรแกรมเมอร์ สู่พ่อค้า ร้านกล้วยปิ้ง ตอนที่ 1 จุดเริ่มต้นของกิจการ
อมยิ้ม16

บทความต่อไปนี้ ผมจะเล่าเรื่องราว ของการทำกิจการเล็กๆ ของตัวเอง โดยที่จะพยายามลงรายละเอียด
ปัญหาที่พบเจอ ประสบการณ์ด้านต่างๆ ที่ได้รับ จากการเปิดร้านขายกล้วยปิ้งเล็กๆ ดอกไม้

ด้วยหวังว่าจะเป็นบทเรียน และกรณีศึกษาให้กับหลายๆ ท่านที่คิดจะทำกิจการสักอย่างเป็นของตนเอง
หรือแม้แต่จะเปิดร้านกล้วยปิ้งก็ตาม
( ปล. แต่อย่ามาเปิดใกล้ๆ กันนะ หมูสองตัวห้ามอยู่ใกล้กัน โบราณเค้าถือ(ให้หนักทำไมกะไม่ไม่รุ) ยกเว้นหมูคนละเพศกับกระต่ายน้อยแสนสวย :p)
หมูนานาโอเค

จุดเริ่มต้นของคนที่อยากจะมีกิจการเล็กๆ ของตัวเองทุกคน ต้องเจอกับคำถามแรกเสมอๆ ก็คือ “จะทำหรือ จะขายอะไรดี?”
ปัญหานี้เป็นปัญหาโลกแตกยิ่งกว่าไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน
เพราะมันเป็นปัญหาที่ไม่ได้เกิดกับไก่แต่มันเกิดกับตัวกรู ปัญหาที่ใกล้อยู่ภายในตัวเลย

ผมก็เช่นกัน เมื่อเริ่มหาเหาใส่หัว หวังจะเป็นเจ้าสัวในอนาคตกับเค้าสักคน (สุขกับมโนเล็กๆ ของตนเอง)
ก็เริ่มจะปวดหัว อ่านหนังสือ ดูตำรา หาข้อมูล กันเพียบ
ตอนแรกจะเปิดร้านขายก๋วยเตี๋ยวเรือ ที่อยุธยา บ้านที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
ก็เริ่มตระเวนหาทำเล ศึกษาสูตรก๋วยเตี๋ยวต่างๆ การทำน้ำซุป การหาวัตถุดิบ เทียบกับการซื้อแฟรนไซน์
บวกลบคูณหาร ประเมินหลายๆ ได้ ร้านก๋วยเตี๋ยว สามสิบที่นั่ง เงินลงทุน เงินสำรอง
ค่าสร้างร้าน เทียบกับเช่าตึก พอๆ กัน เพราะสร้างร้านบนที่ของญาติๆ กัน
ตัวเลขที่ออก...แอ๊น.. แอน แอ๊นนนน รางวัลที่ 1 ประจำงวดกิจการร้านก๋วยเตี๋ยวของตัวเอง

เลขที่ออก หก สี่ สาม ศูนย์ ศูนย์ ศูนย์ หกแสนสี่หมื่นสามพัน โดยประมาณ...!!!! (รวมเงินหมุนเวียนในร้าน)  ร้องไห้

พับโครงการก่อนได้เลยครับ ลงทุนก้อนใหญ่ในภาวะเศรษฐกิจชะงักงัน เงินฝืดแบบนี้
ยืนระยะไม่เกินสองยก เจอชกไปนอนดมกลิ่นผืนผ้าใบกลับไปนอนซมกินน้ำใบบัวบกช้ำในอก กระซิก กระซิก อยู่ในบ้านแน่ๆ

เพื่อนที่รักบอกว่า ลองขายกล้วยปิ้งดูมั๊ยพี่ มาดูร้านพี่สาวผมก่อนได้เลย ลงทุนน้อย เริ่มต้นได้ดี
เอ๊ะๆๆๆ น่าสนใจมาก ข้อเสนอที่ไม่ทรมานตัวเลขในบัญชีและไม่บีบบี้กระเป๋าให้บี้แบน(ไปกว่าสถานะที่แทบเป็นกระเบื้องแผ่นเรียบในเวลานี้)

ก็นัดแนะกับเพื่อน ไปดูร้านพี่สาวเพื่อน (ร้านกล้วยช่วยได้ ทางลงต่างระดับวัชรพล ตรงข้ามกับ Big C สายไหม)
ร้านพี่สาวเพื่อนเป็นร้านดังเลยครับ ตอน ณเดช ออกรายการตีสิบ ได้เล่าว่าตนเองไปซื้อกล้วยร้านนี้กินเป็นประจำ
เพราะอร่อยมาก พอ ณเดชออกรายการชีวิตเปลี่ยนเลย ขายดีเหมือนโยนหวีกล้วยทิ้งลงแม่น้ำ
จากนั้นร้านกล้วยช่วยได้ก็ดัง เรียกว่าใครไปช้ากว่าบ่ายสาม โอกาสอดกินสูงถึง 99.99% เพราะหมดก่อน
จากนั้นก็ได้ออกรายการทีวีอีกหลายรายการเลย (กล้วยช่วยได้จริงๆ)

พูดถึงร้านพี่สาวเพื่อนซะยาวเลย พอไปถึง ก็ไปเรียนรู้วิธีปิ้งกล้วยขาย การหั่นกล้วย การดูกล้วย
การติดเตา สอบถามโน่นนี่ การทำน้ำจิ้ม ลักษณะลูกค้า ข้อมูลต่างๆ อีกเพียบ ซึ่งพี่สาวเพื่อนก็ใจดีมาก
เพื่อนก็ตามมาช่วยอำนวยความสะดวกทุกอย่าง (ต้องขอบคุณมิตรภาพ มาในโอกาสนี้จริงๆ)
กลับมาบ้าน คุยกับแม่ น้องชาย ว่าจะขายกล้วยปิ้ง แม่ก็ยิ้มไม่ว่าอะไร น้องชายก็บอกว่า เอาไงเอากัน

ได้มา P แรกตามหลัก 4 P ของการตลาดแล้ว คือ Product รู้แล้วว่าจะขา)ยกล้วยปิ้ง ที่นี้ก็คิดชื่อร้าน

งานหนักไม่แพ้กัน พี่สาวเพื่อนใช้ร้านกล้วยช่วยได้ เพื่อนเล่าให้ฟังว่า ตอนสมัยทำงานเป็นเซลกันใหม่ๆ
แม่จะตากกล้วยเอาไว้ ให้เป็นเสบียง เวลาเดินทางไปขายของ ถ้าหิวก็ให้กินกล้วยตาก
แม่เค้าบอกว่า “กล้วยช่วยได้” จึงเป็นที่มาของร้าน

เพื่อนอีกคนหนึ่ง ก็ไปขายกล้วยเช่นกัน ดูมาจากร้านพี่สาวเพื่อนคนนี้เช่นกัน
ไปเปิดขายแถวทาวน์อินทาวน์ ตรงข้าม TDRI ชื่อร้านเรื่องกล้วยกล้วย
(มีเพจในเฟสบุ๊คชื่อbanana.aroi (เรื่องกล้วยกล้วย)) ถึงคราวตัวเองบ้าง
จะเอาชื่ออะไรดีน้า คิดโน่นนี่มาหลายชื่อ
ในที่สุดก็ได้ชื่อร้านจากนางฟ้าประทานมาว่า

“กล้วยปิ้งลิงจ๋อ”
ลิงพลุพลุโอ่ง
รีบเปิดเพจ Facebook กล้วยปิ้งลิงจ๋อทันที
จุดเริ่มต้นของร้านกล้วยปิ้งจากคนที่ไม่เคยปิ้งกล้วยมาก่อนในชีวิต เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมมิ่ง
แต่วันนี้ถึงทีต้องมาปิ้งกล้วย ก็หวังว่า กล้วยปิ้งลิงจ๋อ
คงจะไม่ทำให้นักโปรแกรมมิ่งต้องเกรียมเหมือนกล้วยที่โดนปิ้งแล้วลืมทิ้งไว้บนเตา

เมื่อได้ชื่อร้านแล้วต่อมาก็ต้องหาทำเล P ที่ 3 แล้วซินะ
(P ที่ 2 Price ที่ผมได้เกิดหลัง Place P 3 ครับ)
เดี๋ยววันพรุ่งนี้ผมจะเล่าต่อนะครับ ขออนุญาตไปปิ้งกล้วยก่อน ^_^

ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/32785004
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่