สรุปและฟันประเด็น เรื่อง "อาหารและกรุ๊ปเลือด" ครับผม

จริงๆ หลายๆ ท่านน่าจะทราบกันแล้วสำหรับเรื่องนี้ล่ะครับ

แต่ผมเอง ขออนุญาตสรุปลงมาอีกที สำหรับประเด็น "อาหารตามกรุ๊ปเลือด" หรือประเภท "กรุ๊ปเลือดนี้ ห้ามกินไอ้นี่ไอ้นั่น"

"กรุ๊ปเลือด"
ถ้าไล่เรียงกันไปถึงต้นตอ ระบบหมู่โลหิตหรือกรุ๊ปเลือดนั้น มีการค้นพบมา 100 กว่าปีแล้ว โดย Karl Landsteiner ซึ่งเป็นคนยุคแรกๆ
ที่ศึกษาและค้นคว้าการถ่ายเลือดให้ระหว่างกันของมนุษย์ (ซึ่งต้องขอบคุณมากๆ ที่ช่วยให้คนหลายคนมีชีวิตรอดได้จากระบบนี้)

ในเลือดของคนเรามีองค์ประกอบมากมาย แบ่งออกแบบหยาบๆ ก็ได้แค่ น้ำเลือด โปรตีนที่ช่วยให้เลือดแข็งตัว เม็ดเลือดขาว(ที่ช่วยดักจับสิ่งแปลกปลอมและเชื้อโรค) และเม็ดเลือดแดง (ที่ทำให้เลือดเรามีสีแดง และทำหน้าที่ขนส่งสารอาหารและออกซิเจนนี่ล่ะ)

ตัวการสำคัญที่กำหนดว่าเลือดจากใคร กรุ๊ปอะไรนั้น ? คือสิ่งที่เรียกว่า Antigen ที่แปะอยู่บนผิวของเม็ดเลือดแดง  (ไม่รู้ว่าพจนานุกรมไทยบัญญัติเป็นคำว่าอะไรนะ สำหรับ Antigen) แต่หน้าที่ของ antigen ก็เป็นเสมือนกับ "ป้ายแทคสินค้า" ล่ะครับ ที่บ่งบอกว่า เม็ดเลือดแดงนี้ๆ มีลักษณะเป็น A หรือ B
ซึ่งบางคน จะไม่มีป้ายสินค้านี้เลย ก็เลยเป็นเลือดกรุ๊ป O ส่วนบางคนที่มีทั้งป้ายสองชนิดนี้ ก็เลยเป็นเลือดกรุ๊ป AB

ทีนี้ พอจะเห็นแล้วว่า มันเป็นแค่การติดป้ายแทคลงบนเม็ดเลือดแดงเท่านั้น สิ่งที่กำหนดมาว่าให้ใครกรุ๊ปอะไร ไม่ใช่ชะตากรรมนะฮะ แต่คือ
"เลือดของคุณพ่อคุณแม่ต่างหาก" ที่เป็นตัวกำหนดว่าคุณเลือดกรุ๊ปอะไร

"อาหารตามกรุ๊ปเลือด"

อันนี้ ผมขอไปคุ้ยมาเลยนะฮะ ว่าเค้ายกมาว่าอะไรบ้าง และเคลียร์ๆ กันไปเป็นข้อๆ นะฮะ

Group A
คนเลือดกรุ๊ปนี้ส่วนใหญ่จะมีกรดในกระเพาะต่ำ ทำให้ระบบการย่อยไม่ค่อยดี
เอ่อ....... คือสรีรวิทยาของคนเราน่ะ กระเพาะจะมีค่าความเป็นกรดอยู่ประมาณ 1.5-3.5 ซึ่งเป็นกรดแก่มาก
ส่วนจะสูงต่ำยังไง้....ยังไง ก็ไม่มีทางหลุดจากค่าตรงนี้ไปได้ ปัจจัยที่เปลี่ยนแปลงค่านี้คือ อาหารที่รับประทานเข้ามากระตุ้นการหลั่งกรดเพิ่มหรือเปล่า ? เช่น เนื้อสัตว์ในปริมาณมากๆ เป็นต้น

กินปลาอาทิตย์ละ 3-4 ครั้งเพื่อเสริมโปรตีน หลีกเลี่ยงปลาเนื้อขาว
ปลาก็คือปลาน่ะนะ จะเนื้อสีอะไรก็กินไปเถอะ ยังไง 30 กรัมของเนื้อปลาสุกก็ให้โปรตีน 7 กรัมอยู่ดีน่ะ ส่วนแซลมอนหรือสวาย มันจะมีสัดส่วนไขมันเพิ่มเข้ามากว่าปลาเนื้อสีขาวๆ เท่านั้นเอง

กินผลไม้แทบทุกชนิด ยกเว้นแตงโม แคนตาลูป มะม่วง มะละกอ กล้วย ส้ม เพราะย่อยยาก พวกชาสมุนไพรจะไปเพิ่มกรดในกระเพาะ ไวน์แดงดื่มได้ แต่ควรเลี่ยงเบียร์ และน้ำอัดลม
ผลไม้ก็เช่นกัน กินๆ ไปเถอะจ้าาาา และหลายๆ คน รวมถึงกรุ๊ปอื่นๆ เช่นกัน การกินผลไม้ช่วงท้องว่าง จะทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะและทำให้อาหารย่อยยากขึ้นไปอีกอยู่ดี ฉะนั้น กรุ๊ปไหนก็ไม่ต่างนะ ส่วนชาสมุนไพร........ เจาะจงไม่เป็นเร้ออออ ว่าชาอะไร อีกอย่าง ชาส่วนใหญ่ (จากใบชา) จะมีสาร tannin ซึ่งมีฤทธิ์ฝาดสมาน อาจทำให้อาหารย่อยยากขึ้นเล็กน้อย แค่ก็ยังย่อยได้อยู่ดีล่ะครับ
ไวน์แดง น่ะ มีงานวิจัยว่ามีสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ ฉะนั้น ดื่มก็ดีกว่าการดื่มแอลกอฮอลอื่นๆ อยู่แล้ว เบียร์กะน้ำอัดลม ไม่ต้องบอกก็รู้นิ ว่ากินมากไปก็ไม่ดี

กรุ๊ป B อ้วนง่าย >>> กินเยอะก็อ้วนง่ายทั้งนั้นล่ะ จบ

คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้ ส่วนใหญ่มีปัญหากับไวรัส และภูมิคุ้มกันบกพร่อง ระบบประสาทไม่ค่อยดี ชอบปวดตามข้อ
คือ........ ไวรัสหรืออะไรก็ตามน่ะ มันไม่ได้เดินตามหานะ ว่าเจ๊เลือดกรุ๊ปอะไร แล้วค่อยมาติดหรือแสดงตัวน่ะ ฉะนั้โอกาสติดเท่านั้นทุกกรุ๊ปจ้ะ ส่วนจะต้านได้ไม่ได้ ภูมิมีไม่มี มันขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัย เช่น การได้รับวัคซีน ประวัติในอดีต
ระบบประสาทไม่ดี.... เดี๋ยวนะ..... นักวิทยาศาสตร์หรือศิลปินหลายๆ คนก็ B นะ งั้นพวกนี้ก็ประสาทเสียหมดสิฮะ เอาอะไรมาพูดเนี่ย
ปวดตามข้อ น้ำหนักเกิน ไม่ออกกำลังกาย โรคที่เกิดจากความเสื่อมก็ให้ผลอย่างนี้ทั้งนั้นล่ะฮะ

ควรกินเนื้อกระต่าย กวาง แกะ ไก่งวง ปลาน้ำลึก
จบฮะ หากินตามนี้หมด ไม่ต้องไปกินอะไรแล้วครับ ดำแปซิฟิกไปกินปลา บุกป่าล่ากระต่ายและกวางมากิน ลุยทุ่งหญ้าฆ่าแกะเลยมั้ยยยย
อ่อ เดี๋ยวจะหาว่ามีแต่อารมณ์ คือ เนื้อสัตว์อะครับ จะให้สารอาหารโปรตีน ไขมัน วิตามิน B6 B12 B1 B2 บ้างอยู่แล้วครับ จะเนื้ออะไรก็ไม่ต่างฮะ

กรุ๊ป O

กระเพาะมีความเป็นกรดสูง สามารถย่อยอาหารจำพวกเนื้อได้ดีกว่าเลือดกรุ๊ปอื่น แต่ระบบการเผาผลาญไม่ค่อยดี ระดับฮอร์โมนไทรอยด์ไม่ค่อยคงที่ จึงทำให้อ้วนง่าย ตามติดมาด้วยปัญหาเลือดแข็งตัวช้า

เรื่องกระเพาะ ผมคุยไปละ ข้างต้นฮะ
การเผาผลาญ เอางี้ ขอรวบเลย จากทุกกรุ๊ป

การเผาผลาญของร่างกาย
คือร่างกายคนเราเนี่ย จะมีการใช้พลังงานออกมาหลักๆ 3 รูปแบบ
1) พลังงานพื้นฐานที่ร่างกายต้องใช้เพื่อรักษาให้มีชีวิตรอด (Basal energy expenditure) ได้แก่ พลังงานที่ให้หัวใจเอาไว้เต้น ให้สมองเอาไว้ใช้ ให้อวัยวะต่างๆ ได้ทำงานอย่างปกติ คิดเป็น ร้อยละ 60 ของพลังงานทั้งหมดที่คุณๆ ใช้กันในแต่ละวัน
2) พลังงานที่ใช้ในการเคลื่อนไหว (Physical activity) คือ พลังงานที่ทำให้คุณๆ ทั้งหลาย ย้ายตัวออกไปทำงาน หาเงิน เดินซื้อของ เที่ยว เล่นฟิตเนส จีบสาว เมาท์หนุ่ม ได้น่ะล่ะครับ ส่วนนี้ คิดเป็น ร้อยละ 25-35 ของพลังงานที่คุณใช้ในแต่ละวัน ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้จากการออกกำลังกายและการมีกิจกรรมทางกายให้มากขึ้น และยังเป็นตัวกำหนดน้ำหนักคุณเลยนี่ล่ะ
3) พลังงานที่ใช้ในการสันดาปอาหารและพลังงาน คือพลังงานที่ใช้ในการย่อย ขนส่งสารอาหารและสูญเสียไปในระหว่างการเผาผลาญนี่ล่ะครับ คิดเป็นแค่ร้อยละ 5-10

จากข้างต้นที่ผมกล่าวไป เท่ากับว่าการเผาผลาญคุณๆ ทุกคนจะมาจากทั้งหมดที่กล่าวมา
กรณีอื่นๆ ที่นอกเหนือ ได้แก่ การได้รับยา สารบางชนิด อาการป่วย เช่น โรค Hyperthyroid เท่านั้นล่ะครับ ที่จะแก้ไขการเผาผลาญได้ ไม่ใช่ antigen บนเม็ดเลือดแดง

กลับมาๆๆ ที่กรุ๊ปเลือดต่อ

เลือกกินเนื้อได้ตามใจชอบ กินอาหารทะเลได้เป็นประจำ เพื่อป้องกันโรคเลือดไม่แข็งตัว และไทรอยด์ แต่ระวังเรื่องไขมันและโคเรสเตอรอลด้วย
จ้าๆๆๆๆ จ้ะๆๆ กินเนื้อตามใจชอบ ระวังไขมันในเลือดพุ่งนะฮะ (อ่อ เค้าบอกไว้ละ) แต่เอ๊ ไม่บอกก็รู้ปะฟะ ?
คือคนเราน่ะ กินอะไรให้มันมีบันยะบันยังบ้าง ก็ไม่มีปัญหาต่อสุขภาพหรอกฮะ
ส่วนเลือดไม่แข็งตัวน่ะ
ร่างกายจะสร้าง Vitamin K ได้จากแบคทีเรียในลำไส้อยู่แล้ว หรือการรับประทานตับสัตว์ (สุกนะ อย่าจกดิบ) บลอคโคลีหรือเนื้อสัตว์อื่นๆ เอง ก็จะมี Vitamin K ที่ช่วยในการแข็งตัวของเลือดอยู่แล้วครับ
ส่วน Thyroid ที่ผมแพลมไว้ด้วย
เอาจริงๆ นะฮะ ปัจจัยที่ก่อให้เกิดโรคไทรอยด์ "พูดยาก" แต่เชื่อว่าพันธุกรรมมีส่วนสำคัญเช่นกัน และการรับประทาน iodine ไม่เพียงพอก็จะทำให้เป็นไทรอยด์ตกได้ แต่อย่าเพิ่งวิตกจริตไป ปัจจุบัน หลายๆ ผู้ผลิตได้ใส่เอา iodine ลงในเครื่องปรุงต่างๆ อยู่แล้ว ซึ่งประเด็นจะไปที่กินเครื่องปรุงเกินเสียมากกว่า ไว้ค่อยมาต่อกันประเด็นหน้าเนาะ

ผลไม้กินได้แทบทุกชนิดโดยเฉพาะตระกูลเกรปฟรุต ตระกูลเบอร์รี่ (ยกเว้นแบล็คเบอร์รี่) ช่วยลดน้ำหนัก ควรเลี่ยงแคนตาลูป มะพร้าว ส้ม และสตรอเบอร์รี่ เพราะมีกรดสูงเกินไป ชา สมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพ อาทิเปปเปอร์มินท์ Licorice Tea Parsley ฯลฯ ไม่ควรดื่มเบียร์ ชา กาแฟ เพราะจะเพิ่มกรดในกระเพาะให้หนักเข้าไปอีก

ผมพูดไปละ........... จะถามเพิ่มก็มาละกันฮะ

เริ่มขี้เกียจละอ่า.....

กรุ๊ป AB

ขอก๊อปมาวางละกัน ขี้เกียจพิมพ์เองละ

กรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานระหว่างกรุ๊ปเลือด A กับ B ดังนั้นวิธีการกินที่เหมาะสมกับคนกรุ๊ปนี้เป็นการผสมผสานการกินมังสวิรัติหน่อย ๆ กับการกินแบบกรุ๊ปบี นิด ๆ คนที่มีเลือดกรุ๊ปนี้มีจุดอ่อนเรื่องสุขภาพอยู่ที่ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ และกรดในกระเพาะต่ำ
อาหารที่เหมาะกับกรุ๊ปเลือด
ได้แก่ ผลิตภัณฑ์จากถั่วเหลือง และเต้าหู้ สามารถกินเนื้อแกะ กวาง กระต่าย และไก่งวงได้นิดหน่อย ไม่ควรกินปลาเนื้อขาว และแซลมอนรมควัน เพราะย่อยยากและเป็นพิษต่อระบบทางเดินอาหาร สามารถกิน นม เนย ไข่ และโยเกิร์ตไขมันต่ำได้ จำพวกข้าว ข้าวโอ๊ต ข้าวไรย์มีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ควรงดเว้นการกินถั่วแดง งา เมล็ดฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ข้าวโพด เพราะจะชะลอการทำงานของอินซูลิน ทำให้น้ำตาลในเลือดลดลงเฉียบพลัน ผักสดกินได้แทบทุกชนิด ช่วยป้องกันมะเร็ง และโรคหัวใจ
ผลไม้กินได้ดีเป็นบางอย่าง อาทิ องุ่น พลัม ตระกูลเบอร์รี่ สับปะรด ส้มโอ ฯลฯ เพราะช่วยสร้างความสมดุลของกรดในเนื้อเยื่อ ไม่ควรกินกล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม

มาเป็นประเด็นๆ ละกันนะฮะ
- แกะ กวาง กระต่าย >>>  เชิญญญญ ที่ป่าจ้าาาาา ใครจะเอาก็เอานะ ระวังกรมป่าไม้ไล่ยิงนะเทอวววว
- งดการกิน...... เอ๊อะ !!!! เดี๋ยว !!! มาจนปัจจุบันยังไม่มีการค้นพบทางวิทยาศาสตร์ตัวไหนเลยนะ ที่บอกว่าไอ้พวกนี้มีสารที่จะมายับยั้งการทำงานของตับอ่อนที่หลัง insulin ได้ ฉะนั้น "มั่วววววว แจ้...."
- ไม่ควรกินกล้วย มะม่วง ฝรั่ง ส้ม >>> ไม่มีหลักฐานรับรองจ้าาาา มั่ววววววว

จบซักที......

ก่อนจะจากไป ผมเอาเรื่องล่าสุดมาจาก
มีงานวิจัยเกี่ยวกับกรุ๊ปเลือดและอาหาร ที่เพิ่งคลอดออกมาเลย ปี 2014
เรื่อง ABO Genotype, ‘Blood-Type’ Diet and Cardiometabolic Risk Factors จาก PLOS

ขี้เกียจอ่านก็ สรุปให้เลยครับ
"Adherence to certain ‘Blood-Type’ diets is associated with favorable effects on some cardiometabolic risk
factors, but these associations were independent of an individual’s ABO genotype, so the findings do not support the
‘Blood-Type’ diet hypothesis"

หรือ คือการยึดการกินเอาตามกรุ๊ปเลือดเนี่ย อาจส่งผลดีให้กับการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจนะ แต่ว่าความสัมพันธ์เนี้ย มันไม่ได้เกี่ยวกับลักษณะของกรุ๊ปเลือดเลย ซึ่งทำให้พบได้ว่าไอเดียการกินตามกรุ๊ปเลือดเนี่ย ไม่มีหลักฐานอิงเพียงพอ"

ลากันไปก่อนนะฮะ

มีอารมณ์จะหาเรื่องมาตีแผ่ฟาดฟันอีกเน่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่