KP Warriors : โรงเรียนนักรบ แหวนเทวะ ตอนที่ 15 : วันที่พญาวิหคสะบัดปีก

กระทู้สนทนา
"ย๊ากกกกกกกกกกกกก กกกกกกก กกกกกกก"

         เสียงคำรามของรามูเนสดังสนั่นไปทั่ว พร้อมกับการเปิดฉากการห่ำหั่นกันระหว่างมิโนทอรัสและผู้กล้าสีน้ำเงินที่ในตอนนี้เขาพุ่งเข้าไปหาอสูรกายตรงหน้าอย่างไม่เกรงกลัวต่อสิ่งใด กำปั้นอันหนักหน่วงของรามูเนสหวดเข้าไปที่ใบหน้าของมิโททอรัสที่สูงใหญ่บวกกับแรงกระโดดลอยตัวจากพื้นขึ้นมาทำให้แรงอัดของมันทวีคูณเป็นเท่าตัว ใบหน้าบูดเบี้ยวแสดงให้เห็นออกมาหลังจากที่ถูกกำปั้นของรามูเนสเข้าไป ด้วยพลังมหาสารนั้นทำให้ร่างอันใหญ่โตของมิโนทอรัสปลิ้วกระเด็นไปราวกับถูกอะไรบางอย่างพุ่งเข้าชนกับมันอย่างแรง ตึกที่ตั้งอยู่เด่นตระหง่านอยู่ทางหลังนั้นก็รับแรงกระแทกจากร่างของมิโนทอรัสที่พุ่งเข้ามาเข้าไปเต็มๆ เพราะความรุนแรงของพลังหมัดของรามูเนสและร่างอันใหญ่โตของมิโนทอรัสทำให้ตึกถล่มลงมากลบร่างของมิโนทอรัสไป

         รามูเนสยืนดูผลงานของตัวเองตรงหน้านั้นแล้วพ่นลมหายใจของตัวเองแรงๆพร้อมกับใช้มือปัดฝุ่นที่พุ้งกระจายไปทั่วหลังจากที่ได้เกิดตึกถล่มขึ้นมา แต่ไม่นานเสียงคลืนๆที่คล้ายกับแผ่นดินไหวได้ดังขึ้นมา หลังจากนั้นกำปั้นใหญ่ได้โผล่ขึ้นมาเหนือกองซากตึกพวกนั้น ตามมาด้วยเสียงคำรามอันกึกก้องของมิโนทอรัสใต้ซากนั้น

         ทันใดนั้นเองเศษซากตึกที่กองทับถมกันก็ได้กระเด็นกระดอนแตกกระจายออกมาจนเผยให้เห็นร่างของมิโนทอรัสอีกครั้ง พร้อมกับท่าทางที่ดูเกรี้ยวกราดยิ่งกว่าเดิม มันไม่รอช้าเมื่อสายตาของมันเห็นว่าศัตรูขในชุดเกราะสีน้ำเงินกำลังยืนอยู่ตรงหน้า มือคู่ใหญ่ที่กำลังถือค้อนปอนขนาดมหึมาออกแรงเหวี่ยงมันไปด้วยความโกรธเกรี้ยวทำให้เศษซากตึกกองโตที่กองอยู่ตรงหน้าของมันปลิวพุ่งไปยังรามูเนสที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้า เมื่อเห็นดั่งนั้นรามูเนสจึงคิดหาทางทำอะไรซักอย่างๆใจเย็น

         เศษซากตึกหลายต่อหลายชิ้นพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วแต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีผลต่อรามูเนสเท่าไรนัก เขาใช้มือปัดออกไปราวกับว่ากำลังปัดของที่ไม่ต้องการออกไปให้ห่างตัวจนซากติดที่ลอยเข้ามากระเด็นออกไปคนละทิศคนละทาง และซากตึกก้อนขนาดใหญ่ที่กำลังลอยพุ่งเข้ามา รามูเนสก็ออกจากฝีเท่าเพื่อกระโดดขึ้นมาจากพื้นดิน และออกแรงง้างเท้าซัดเข้าไปที่ซากตึกขนาดที่ลอยเข้ามาให้กลับไปหามิโนทอรัสด้วยความเร็วและแรงเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว ซากตึกสีขาวขุ่นขนาดใหญ่พุ่งเข้าไปกระทบกับร่างของมิโนทอรัสอย่างแรงที่แม้แต่ร่างอันใหญ่โตของมันยังต้องเซถอยหลังไป

         ในตอนนั้นเองที่รามูเนสกำลังจะพุ่งเข้าไปซ้ำเมื่อเห็นว่ามิโนทอรัสไม่รู้สึกสะทบสะท้านกับการสวนกลับของตัวเองซักเท่าไร สายฟ้าสีเหลืองกับลูกบอลพลังสีม่วงพุ่งเข้าไปมามิโนทอรัสอย่างรวดเร็ว ความรุนแรงของมันทำให้มิโนทอรัสถึงกับกระเด็นไปอีกครั้งหนึ่ง และเมื่อสิ้นเสียงระเบิดจากสัตว์ยักษ์ตรงหน้าของรามูเนสนั้น ผู้กล้าอีกสองคนในชุดเกราะประจำตัวก็ลงมาปรากฏกายต่อหน้าของเขาจากฟากฟ้า


         "ซิกฟรีด! แองเจโล่!" เมื่อเจ้าของชื่อทั้งสองได้ยินสหายของตัวเองเรียกก็รีบหันหลังมาหาแทนการตอบรับของพวกเขา

         "นึกว่านายจะเสร็จมิโนทอรัสไปซะแล้วนะ" ซิกฟรีดพูดดูแคลนสหายของตัวเองที่พึ่งเข้ามาใหม่จนรามูเนสแอบฉุนเล็กน้อย แต่เขาก็ตั้งระงับอารมณ์ส่วนนั้นเอาไว้ก่อนเพื่อหาทางรับเมื่อกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า

         "ก็เกือบไปเหมือนกันนั่นแหละ" รามูเนสตอบแบบห้วนๆ "ไอ้ตัวนี้ร้ายกาจชะมัดยาก"

         "มันไม่ใช่เรื่องเล่นๆนะ ดีแค่ไหนแล้วนะครับที่รับมือกับมิโนทอรัสตามลำพังแล้วยังมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้น่ะ" แองเจโล่หันมาต่อว่าซิกฟรีดที่ทำดูเหมือนจะพูดโดยที่ไม่ได้ดูสถานการณ์ในตอนนี้ซักเท่าไร ซึ่งซิกฟรีดเองก็ไม่ได้สนใจอะไรมากนัก ในหัวของเขาตอนนี้กำลังวางแผนอะไรบางอย่างอยู่

         "เอาเถอะ! ตอนนี้สนใจไอ้ตัวที่มันอยู่หน้าเราซะก่อนดีกว่า"

         ซิกฟรีดพูดตัดบทเมื่อเห็นมิโนทอรัสที่เคยล้มลงไปแล้วกำลังลังลุกขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พร้อมกับหยิบค้อนปอนขนาดยักษ์คู่ใจของมันขึ้นมาด้วย

         "แองเจโล่! วิเคราะห์จุดอ่อนของมันให้ที!" ซิกฟรีดสั่งพร้อมกับตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะต่อสู้ เมื่อแองเจโล่ได้ยินคำสั่งดั่งนั้นก็หันกลับมาในทันทีเพื่อที่จะบอกแผนการต่อไป

         "ค้อนอันนั้นน่ะ!... ถ้าลองทำลายอาวุธประจำตัวของมันแล้ว มันน่าหมดพิษสงลงไปบ้างนะ" แองเจโล่ตอบพร้อมกับหยิบมีดคู่ของตัวเองที่แนบอยู่ข้างลำตัวขึ้นมา

         "งั้นเอาตามนั้น!" ซิกฟรีดพูดขึ้น "รามูเนส เบนความสนใจมันที"

         "อย่ามาสั่งฉันนะเจ้าบ้า!!" รามูเนสหันมาตวาดด้วยความไม่พอใจ แต่ทว่าคนที่ถูกตวาดก็บินออกจากตรงนั้นไปซะก่อนหน้านั้นแล้ว ทำให้รามูเนสเห็นว่าถึงหัวเสียต่อไปก็ไม่ได้อะไรขึ้นมา จึงต้องรีบทำบินออกมาจากตรงนั้นและตามที่ซิกฟรีดบอกโดนทันที



          รามูเนสบินตรงไปหยุดอยู่ตรงหน้าของมิโนทอรัส และมันได้ผล มันเริ่มเหวี่ยงค้อนปอนไปรอบๆตัวที่รามูเนสบินหลอกล่อ แม้ค้อนปอนจะใหญ่จนสามารถที่จะกวาดสิ่งกีดขวางรอบๆตัวไปอย่างง่ายดาย แต่ด้วยความเร็วในการบินของรามูเนสที่เนือกว่ามากๆบวกกับการเคลื่อนไหวที่เชื่องช้าของมิโนทอรัสทำให้เหมือนกับว่ามันแค่เหวี่ยงค้อนของมันเล่นไปมากลางอากาศเท่านั้น

         รามูเนสยังคงบินวนไปรอบๆและปล่อยพลังหมัดยั่วโมโหมันไปบ้างเพื่อเบนความสนใจมิโนทอรัสที่กำลังโกรธอยู่นี้ให้อยู่หมัด เพื่อให้เป็นไปตามแผนการที่วางเอาไว้ ซิกฟรีดและแองเจโล่ที่บินอ้อมไปทางด้านหลังแล้วก็เริ่มรวมพลังกันขึ้นมา รอคอยจังหวะดีๆในการใช้พลังนี้

         ออร่าแสงสีเหลืองและสีม่วงส่องสว่างไปทั่วพื้นที่แห่งนั้น และช่วงที่มิโนทอรัสเหวี่ยงค้อนปอนพลาดหวังที่จะทุบรามูเนสให้แบนติดไปกับพื้นดิน แต่กลับเป็นว่าสิ่งที่มันได้ทำลายของไปเป็นแค่พื้นถนนที่ว่างเปล่าเท่านั้น ด้วยความรุนแรงบวกกับขนาดของค้อนปอนขนาดใหญ่ทำให้ค้อนจมลงไปในพื้นถนนจนมันเอาออกมาไม่ได้ ทำให้ซิกฟรีดและแองเจโล่คิดว่านี่เป็นโอกาสที่เหมาะสมที่สุดแล้ว


- ฟาววว วววว เปรี่ยง!!!!! ตูม!!!!!!! -
         ลูกบอลพลังสองลูกถูกปล่อยออกไปจากฝ่ามือของผู้กล้าทั้งสอง ลูกบอลพุ่งลงไปยังค้อนปอนที่อยู่ด้านล่างกระทบกับมันจนเกิดเป็นแสงสว่างจ้าขึ้นมา และตามมาด้วยเสียงระเบิดที่ดังสนั่นหวั่นไหวไปทั่วพื้นที่แถวนั้น


         ฝุ่นฟุ้งกระจายไปทั่วพื้นที่แห่งนั้นจนรามูเนสที่กำลังยืนอยู่ต้องใช้มือปัดฝุ่นที่ฟุ้งเข้าจมูกของเขาไปมากลางอากาศ แต่ทว่าสิ่งที่น่าตกใจสำหรับเขานั้นกำลังจะปรากฏขึ้นในไม่ช้า เมื่อหลังจากที่ฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่นั้นค่อยๆจางหายไป ก็ปรากฏร่างของมิโนทอรัส กับอาวุธคู่ใจของมันอยู่ในมือดั่งเดิม สร้างความประหลาดใจให้กับผู้กล้าทั้งสามเป็นอย่างมาก

         นัยน์ตาสีน้ำตาลนั้นสะท้อนร่างของอสูรกายที่กำลังเหวี่ยงค้อนปอนมาหาเขาด้วยความรวดเร็วจนได้ยินเสียงแหวกผ่านอากาศเข้ามา แต่รามูเนสรู้สึกตัวอีกทีร่างกายของเขาก็ถูกซัดปลิวไปจากตรงนั้นแล้ว รุนแรงอันมหาสารทำให้ร่างของรามูเนสพุ่งเร็วดุจจรวดตรงไปยังซากคอนกรีตกองโต และตามมาด้วยเสียงที่ดังสนั่นหวั่นไหวอีกครั้งจากแผ่นหลังของเขาที่กระทบกับกองคอนกรีตนั้น

         เมื่อซิกฟรีดและแองเจโล่เห็นว่าเพื่อนของเขากำลังจะเสียท่าให้กับมิโนทอรัสที่ในตอนนี้มันกำลังย่างสามขุมเข้าไปหารามูเนส ที่กำลังนอนอยู่อย่างไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้นมาได้กลางรูโบ๋ขนาดใหญ่ที่เกินจากแรงปะทะของเขา เขาทั้งสองจึงรีบบินถลาลงมาหวังที่จะไปช่วยให้ทันท่วงที แต่ทว่าก่อนหน้านั้นกลับถูกฝนลูกธนูที่ยิงขึ้นมาจากด้านล่างจากพวกยักษ์ธนูที่อยู่ตามถนนและตามด่านฟ้าของตึกต่างๆ ทำให้พวกเขาทั้งสองต้องเบี่ยงตัวหลบลูกธนูมากมายนับร้อยที่ยิงขึ้นมานั้น จนรู้สึกตัวอีกทีเมื่อหลบลูกธนูชุดแรกได้หมด สายตาของพวกเขาทั้งสองก็เห็นมิโนทอรัสยืนหยุดอยู่ตรงหน้าของรามูเนสแล้ว



         รามูเนสค่อยๆลืมตาขึ้นมาอย่างยากลำบากเพราะอาการจุกท้องที่เหลืออยู่ในร่างกายของเขา สิ่งแรกที่เขาเห็นในทันทีที่ลืมตาขึ้นมาได้นั่นก็คือ ค้อนปอนขนาดใหญ่ที่ในตอนนี้มีรอยร้าวอยู่เล็กน้อยและถัดมาก็คือใบหน้าของมิโนทอรัสที่กำลังเกรี้ยวกราด ดวงตาอันดุร้ายของมันจ้องมองมาที่เขาอย่างไม่ลดละ และความรู้สึกของรามูเนสก็กำลังบอกว่ามันกำลังจะลงมือสังหารเขาในตอนนี้แล้ว

         นัยน์ตาของรามูเนสเบิกกว้าง เขาพยายามจะลุกขึ้นหนีไปจากตรงนั้น แต่ทว่าร่างกายที่มันหนักอึ้งนั้นไม่สามารถที่จะทำอะไรได้อีกนอกจากทนนอนดูภาพที่แสนน่ากลัวอยู่ตรงนั้น เสียงคำรามดังกึงก้องขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่จะตามมาด้วยเสียงแหวกอากาศของค้อนปอนขนาดยักษ์ลงมายังร่างของคนที่กำลังนอนอยู่ สายตาของผู้กล้าอีกสองคนเบิกกว้าง หัวใจหล่นวูป พวกเขาไม่สามารถที่จะทำอะไรได้อีกนอกจากดูอยู่เฉยๆอยู่บนฟ้านั้น



- ฟาววววว วววววว ววว เปรี้ยง!!!!!!! -


         เสียงดังสนั่นหวั่นไหวขึ้นมาอีกครั้ง แต่ทว่าครั้งนี้มันกลับแตกต่างกับเสียงที่พวกเขาเคยได้ยินเมื่อครั้งก่อนๆ รามูเนสที่ยกมือมาบังใบหน้าของตัวเองด้วยความกลัวกลับรู้สึกอะไรบางอย่างที่ผิดปกติไป เพราะว่าเขารู้สึกว่าตัวเองน่าจะสมควรถูกบี้แบนเป็นขนมปังไปได้แล้วหลังจากที่ได้ยินเสียงนั้น ด้วยความประหลาดใจเขาจึงรีบลดมือลงอย่างรวดเร็วและสิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจยิ่งขึ้นไปอีก ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าของเขานั่นแล้ว

         แสดงสว่างสีเขียวกำลังเจิดจ้าอยู่ตรงหน้าของเขานั้น เมื่อเขาเพ่งสายตาดูดีๆก็พบกับร่างของผู้กล้าอีกคนหนึ่ง ในตอนนั้นหมัดขวาที่เต็มไปด้วยออร่าสีเขียวของเขานั้นกำลังรับกับค้อนปอนของมิโนทอรัสตัวนั้นอยู่ และทันทีที่เขาออกแรงยกหมัดขึ้นมา เสียงคำรามของสัตว์ในตำนานก็ได้ดังขึ้นมา


- หมัดมังกรเหิน โลกันต์!!!!!!!!!! -


         เสียงระเบิดคำรามดังขึ้นมาพร้อมร่างของมังกรสีเขียวที่เลื้อยขึ้นมาจากพื้นดิน ทะละผ่านค้อนปอนและร่างอันใหญ่ยักษ์ของมิโนทอรัสไปจนร่างกายอันใหญ่โตของมันลอยกระเด็นถอยไปด้านหลัง ค้อนปอนที่เคยอยู่กับมือใหญ่ยักษ์ของมันไม่ห่างก็หลุดลอยไปอยู่กลางอากาศ ก่อนที่จะแตกสลายและระเบิดไปในที่สุด ชิ้นส่วนของค้อนปอนกระจัดกระจายไปทั่ว รามูเนสที่นั่งดูอยู่มองภาพเหตุการณ์เหล่านี้ด้วยความประหลาดในจนกระทั่งเขาได้ยินเสียงผ้าคลุมสะบัดและมองตามเสียงนั้นไป

         ชายหนุ่มผมสีเขียวกับชุดเกราะชุดคลุมยาวลายมังกรนั้น ทั้งรูปร่างและใบหน้าค่าตาของเขาคนนั้น เป็นคนที่รามูเนสรู้จักเป็นอย่างดี

         "อคิลลิส!!!" ชายชุดเกราะสีเขียวหันมาหารามูเนสมองเขาด้วยสายตาที่เป็นห่วงและยื่นมือให้กับรามูเนสพร้อมกับดึงเขาขึ้นมา ซิกฟรีดและแองเจโล่บินลงมาสมทบด้วยสีหน้าที่แสดงความดีใจออกมา

         "อคิลลิสหายดีแล้วเหรอ!" ซิกฟรีดถามขึ้นมาด้วยความแปลกใจ "ก็เมื่อกี้ฉันยังเห็นนายกำลังนอนบาดเจ็บอยู่เลยนี่น่า"

         "เรื่องนั้นช่างมันก่อนเถอะ!" อคิลลิสรีบพูดตัดบทเมื่อเขาเห็นสิ่งที่อยู่ตรงหน้านั้นกำลังเคลื่อนไหวอีกครั้ง


         มิโนทอรัสที่ถูกหมัดของเขาเข้าไปนั้นในตอนนี้กลับมายืนขึ้นได้อีกครั้งหนึ่งแล้ว และมันก็ทวีความโกรธเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเพราะว่าความอาวุธคู่ใจสุดหวงแหนของมันถูกทำลายไปด้วยน้ำมือของผู้กล้าสีเขียว ในตอนนี้ดวงตาแสนอาฆาตของมันจ้องมองแต่อคิลลิสที่กำลังยืนอยู่ตรงหน้านั้น และมันเริ่มเร่งฝีเท้าที่หนักอึ้งของมันวิ่งเข้ามาหาเหล่าผู้กล้าทั้งสี่อย่างไม่เกรงกลัว เมื่อผู้กล้าเห็นดั่งนั้นก็รีบตื่นตัวและตั้งท่าต่อสู้ขึ้นมาอีกครั้ง

         "จัดการมันเลยพวกเรา!!"

         "โอ๊ส!!!!"


         เมื่อสิ้นเสียงของอคิลลิสเขาก็ระเบิดพลังขึ้นมาอีกครั้ง ออร่าสีเขียวที่กำลังรายล้อมร่างกายของเขานั้นกำลังพาตัวเขาขึ้นไปบนท้องฟ้า ซิกฟรีดเองก็ไม่รอช้ายิงพลังหมัดใส่ร่างของมิโนทอรัสไปชุดใหญ่เพื่อชะลอความเร็วของมันลง เช่นเดียวกันกับรามูเนสที่เริ่มร่ายรำวิชาที่ตัวเองได้ร่ำเรียนมาเพื่อเรียกพลังภายใน ไม่นานนักเสือเขี้ยวดาบก็ค่อยปรากฏกายขึ้นมาและเดินวนรอบตัวของรามูเนสนั้น และทันทีที่รามูเนสปล่อยหมัดออกไปมันก็วิ่งกระโจนออกจากตรงนั้นไป เมื่อปลายเท้าของมันสะกิดพื้นถนนร่างของมันก็สลายลงไปกลายเป็นน้ำแข็งทางยาวที่ครอบคลุมพื้นที่ตรงนั้น และในช่วงเวลาต่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่