เรื่องนี้เกิดขึ้นกับเพื่อนผมเองครับ
เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา เพื่อนผมถูกตำรวจนอกเครื่องแบบ มาเชิญตัวที่ออกจากสวนจิรดา (ซึ่งเป็นที่ทำงาน) และจับกุมไป ถูกแจ้งข้อหาว่าข่มขืนกระทําชําเรา อายุต่ำกว่า 15 ปี โดยตำรวจได้แจ้งว่ามีพ่อลูกคู่หนึ่งได้แจ้งความไว้ตั้งแต่ปี 2552 ว่าถูกชายคนหนึ่งข่มขืน ตำรวจทำการค้นหาประวัติและรูปถ่ายผู้กระทำผิดในเขตพื้นที่บางบัวทอง ทางตำรวจได้ปริ๊นรูปถ่ายซึ่งเป็นรูปของเพื่อนผมที่หน้าคล้ายคลึงกับผู้กระทำผิดให้ผู้เสียหายชี้ตัว และผู้เสียหายได้ชี้ตัวในรูปว่าเพื่อนผมเป็นผู้กระทำผิด แต่ ณ ตอนนั้นเพื่อนผมไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ซึ่งไปอาศัยอยู่บ้านแฟนที่จังหวัดนครปฐม เพื่อนผมให้การปฏิเสธและประกันตัวออกมาสู้คดี โดยที่เพื่อนผมไม่เคยเห็นหน้าของผู้เสียหายเลยสักครั้ง จนศาลชั้นต้นตัดสินให้เพื่อนผมจำคุกตลอดชีวิต ต่อมาเพื่อนของผมได้ประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทรณ์ และครั้งนี้ผู้เสียหายได้เดินทางมาชี้ตัวที่ศาล ผู้เสียหายและพยานให้การว่าเพื่อนของผมไม่ใช่ผู้กระทำผิด ผู้พิพากษาได้บอกกับผู้เสียหายว่า
"จะมากลับคำให้การไม่ได้ทำให้รูปคดีเสีย" ผู้พิพากษาได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น โดยชี้แจงว่าทางจำเลยอาจทำการข่มขู่ หรือ กระทำการว่าจ้างให้โจทย์ปฏิเสธว่าเพื่อนผมไม่ใช่คนกระทำผิด
ปล ตั้งแต่ปี 2552-2556 ทางตำรวจไม่เคยมีหมายเรียกจับมาที่บ้านเลย และเพื่อนผมยังไปทำงานตามปกติมาโดยตลอด ตามที่ทางภรรยาของเพื่อนผมและญาติๆ ได้สืบค้นและพูดคุยกับผู้เสียหายและพยานต่าง ๆ ผู้เสียหายได้ย้ายตามครอบครัวมาทำงานที่บางบัวทอง (ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่ลาดหลุมแก้วแล้ว) น่าจะเป็นงานรับเหมาเพราะว่ามีหัวหน้างาน และ หัวหน้างานก็คือพ่อของผู้กระทำผิดตัวจริงที่ชื่อเดียวกันและใบหน้าคล้ายคลึงกับเพื่อนของผม พ่อของผู้กระทำผิดได้เล่าว่าหลังจากเกิดเหตุลูกชายได้หลบหนีไปอยู่นครสวรรค์ หลังจากนั้นก็เสียชีวิต ตอนนี้เพื่อนผมต้องถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำบางขวาง ผมต้องการขอความเป็นธรรมให้เพื่อนของผมต้องทำอย่างไรบ้างครับ
ขอความช่วยเหลือกับการจับ "แพะ"
เมื่อปี 2556 ที่ผ่านมา เพื่อนผมถูกตำรวจนอกเครื่องแบบ มาเชิญตัวที่ออกจากสวนจิรดา (ซึ่งเป็นที่ทำงาน) และจับกุมไป ถูกแจ้งข้อหาว่าข่มขืนกระทําชําเรา อายุต่ำกว่า 15 ปี โดยตำรวจได้แจ้งว่ามีพ่อลูกคู่หนึ่งได้แจ้งความไว้ตั้งแต่ปี 2552 ว่าถูกชายคนหนึ่งข่มขืน ตำรวจทำการค้นหาประวัติและรูปถ่ายผู้กระทำผิดในเขตพื้นที่บางบัวทอง ทางตำรวจได้ปริ๊นรูปถ่ายซึ่งเป็นรูปของเพื่อนผมที่หน้าคล้ายคลึงกับผู้กระทำผิดให้ผู้เสียหายชี้ตัว และผู้เสียหายได้ชี้ตัวในรูปว่าเพื่อนผมเป็นผู้กระทำผิด แต่ ณ ตอนนั้นเพื่อนผมไม่ได้อยู่ในเขตพื้นที่ซึ่งไปอาศัยอยู่บ้านแฟนที่จังหวัดนครปฐม เพื่อนผมให้การปฏิเสธและประกันตัวออกมาสู้คดี โดยที่เพื่อนผมไม่เคยเห็นหน้าของผู้เสียหายเลยสักครั้ง จนศาลชั้นต้นตัดสินให้เพื่อนผมจำคุกตลอดชีวิต ต่อมาเพื่อนของผมได้ประกันตัวออกมาสู้คดีในชั้นอุทรณ์ และครั้งนี้ผู้เสียหายได้เดินทางมาชี้ตัวที่ศาล ผู้เสียหายและพยานให้การว่าเพื่อนของผมไม่ใช่ผู้กระทำผิด ผู้พิพากษาได้บอกกับผู้เสียหายว่า
"จะมากลับคำให้การไม่ได้ทำให้รูปคดีเสีย" ผู้พิพากษาได้ตัดสินยืนตามศาลชั้นต้น โดยชี้แจงว่าทางจำเลยอาจทำการข่มขู่ หรือ กระทำการว่าจ้างให้โจทย์ปฏิเสธว่าเพื่อนผมไม่ใช่คนกระทำผิด
ปล ตั้งแต่ปี 2552-2556 ทางตำรวจไม่เคยมีหมายเรียกจับมาที่บ้านเลย และเพื่อนผมยังไปทำงานตามปกติมาโดยตลอด ตามที่ทางภรรยาของเพื่อนผมและญาติๆ ได้สืบค้นและพูดคุยกับผู้เสียหายและพยานต่าง ๆ ผู้เสียหายได้ย้ายตามครอบครัวมาทำงานที่บางบัวทอง (ปัจจุบันได้ย้ายไปอยู่ที่ลาดหลุมแก้วแล้ว) น่าจะเป็นงานรับเหมาเพราะว่ามีหัวหน้างาน และ หัวหน้างานก็คือพ่อของผู้กระทำผิดตัวจริงที่ชื่อเดียวกันและใบหน้าคล้ายคลึงกับเพื่อนของผม พ่อของผู้กระทำผิดได้เล่าว่าหลังจากเกิดเหตุลูกชายได้หลบหนีไปอยู่นครสวรรค์ หลังจากนั้นก็เสียชีวิต ตอนนี้เพื่อนผมต้องถูกจองจำอยู่ที่เรือนจำบางขวาง ผมต้องการขอความเป็นธรรมให้เพื่อนของผมต้องทำอย่างไรบ้างครับ