การเดินทางครั้งนี้เริ่มต้นที่อยู่ดีๆ 1 ในกลุ่มเพื่อน (มัธยม) ก็ออกปากชวนว่า "ไปภูกระดึงกันมั๊ย?"
แน่นอนว่าเราไม่เคยปฏิเสธเรื่องเที่ยวๆอยู่ละ ยกมือคนแรกเลยว่าไป สรุปรวมเพื่อนๆที่จะไปภูกระดึงได้ 5 คน
ยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่ได้ชอบเที่ยวอะไรแบบลุยๆเลยยยย ไม่ชอบแดด และขี้หนาว แต่เพราะ "เพื่อน" เป็นไงเป็นกัน ไปโว้ย อย่าไปกลัววว
เพื่อนร่วมทริปเรียนอยู่ที่ขอนแก่น 2 คน อยู่ในกทม.อีก 3 คน แน่นอนเราต้องบินไปหามันที่ขอนแก่น …..
จัดการจองตั๋วหางแดง ในราคาที่โอเคอยู่นะ ไปกลับรวม 1450 บาท/คน (เราเลือกแบบไม่โหลดกระเป๋า ไม่เลือกที่นั่ง ไม่เอาประกัน)
เช็คอินผ่านเว็ปไปเลย ง่าย สะดวกมากๆๆๆ ไปถึงก็เดินเข้า Gate ได้เลย ….
เรามีเวลาเตรียมตัวไปภูกระดึงประมาณเดือนนึง ก็ค้นหาในพันทิปนี่แหละ ว่าต้องไปยังไง เตรียมอะไรไปบ้าง สิ่งของที่จำเป็น บลาๆๆๆๆ
สิ่งที่สำคัญที่หลายคนมักจะมองข้ามคือ
- เสื้อกันฝน (เราห้ามดินฟ้าอากาศไม่ได้ เราคาดเดาไม่ได้ว่าฝนจะมาหรือไม่มา ดังนั้นต้องเอาไป)
- ไฟฉาย (จำเป็นมากกกกกกก ทั้งตอนไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และตอนกลับจากดูพระอาทิตย์ตก และส่องน้องทาก!!ว่าติดตัวเรามาหรือเปล่า)
- ทิชชูเปียก (หนุ่มๆคงไม่จำเป็นซักเท่าไหร่ แต่สาวๆจำเป็นจ้า ระหว่างทางไปผาหล่มสักห้องน้ำไม่ค่อยมี ถึงจะมีบางทีน้ำหมด ไม่ก็สกปรกค่ะ ติดไปเถอะค่ะ)
- ที่เซฟเข่า (ตอนลงเข่าจะมีปัญหาค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้ เราใส่ทั้งตอนขึ้นตอนลง เข่าไม่เป็นอะไรเลยจ้า)
เราใช้แบบนี้ค่ะ แพงเหมือนกันแต่คุ้มค่าสมราคามากๆ
- เงินแบงค์ย่อยๆ (เตรียมพวกแบงค์ 20 แบงค์ 100 ไป จะสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยบนภูมากกว่าแบงค์ 1000 น๊าา)
เราแลกแบงค์ 20 ไปประมาณนี้ กลับมาก็หมดค่ะ 5555555
วันที่ 14 ต.ค 57 เราไปถึงขอนแก่น ช่วงเย็น คืนนี้เราจะนอนที่หอเพื่อนค่ะ แล้วพรุ่งนี้ออกแต่เช้ามืดไปภูกระดึงกันน
วันที่ 15 ต.ค. 57 ตื่นตี 4 เห็นจะได้ นั่ง Taxi ไปลงบขส. ขอนแก่น แล้วตีตั๋วรถทัวร์ ขอนแก่น-เมืองเลย
คนละ 94 บาทจ้าาา
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึง จากนั้นก็เหมารถสองแถวสีแดง 200 บาท ขึ้นไปที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีค่ะ
หน้าตายังง่วงๆกันอยู่เลย ฮาๆๆ พร้อมกันยังไปกัน ๆ ๆ ๆ
หลังจากจัดการเรื่องลูกหาบเสร็จแล้ว (ลูกหาบกิโลละ 30 บาท ค่าแผ่นติดกระเป๋าใบละ 5 บาท)
เราก็เริ่มเดินขึ้นภู เวลา 09:20 น.
เดินขึ้นไป 1 กม. แรก ก็จะถึงซำแฮก เราใช้เวลา 40 นาทีค่ะ
แต่ละซำจะมีของกิน ของขาย เป็นประมาณนี้ค่ะ รสชาติพอใช้ได้เลยนะ เราแวะกินข้าวมื้อแรกกันที่ซำแฮก
แล้วเราก็ซวยนิดๆ เมื่อเพื่อนทำน้ำปลาหกใส่เสื้อตั้งแต่ซำแรกเลย T^T สุดยอดของความเหม็น ……
เดินกันเรื่อยๆค่ะ เหนื่อยก็พัก (พักบ่อยมากกกก) และแล้วเราก็ถึงหลังแป ในเวลา 14:30 น.
(ก่อนจะถึงหลังแปทางค่อนข้างชันมากๆ ต้องใช้มือเกาะบ้าง เดินกันระวังๆนะค่ะ)
ป้ายนี้ที่รอคอย ถ่ายรูปกันอยู่นานเลยค่ะ เห็นป้ายแล้วน้ำตาจะไหล.....นี่เราเดินมา 5.5 กม. เลยนะ!
เดินต่อไปอีก 3 กม. คราวนี้เป็นทางราบแล้วสบายหน่อย ก็จะถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว (จุดที่เราจะนอนกัน)
เราเดินมาถึงก็ประมาณ 16:30 น. ก็จัดการเรื่องเต็นท์ บลาๆๆๆๆ เราไม่ได้จองไว้ค่ะเพราะคิดว่าเพิ่งเปิดภูคนคงยังไม่เยอะมาก
จากนั้นก็เดินไปเอาของที่ลูกหาบ ลูกหาบเดินขึ้นมาทีหลังเรา แต่เขาถึงตั้งแต่เที่ยงแล้ว OMG!!
แต่ไม่ต้องกลัวของจะหายนะค่ะ เพราะเขาจะนั่งรอเราจนกว่าเราจะมาเอาของไป เราจะถึงมืดเขาก็จะรอเราค่ะ
แล้วเราก็จ่ายตังกันตรงนี้ ใครจะทิปเพิ่มให้เขาก็ได้นะคะ เราก็ทิป เป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆค่ะ
โยนของเข้าไปในเต็นท์ แล้วเช่าจักรยานปั่นไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ ผาหมากดูก กันนนนน คันละ 60 บาทจ้า
ไปกลับรวมๆก็ประมาณ 4 กม. จ้าา (ขากลับหนาวมาก)
[บันทึกการเดินทาง] ภูกระดึง ปลายฝนต้นหนาว ประทับใจไม่รู้ลืม ~*
แน่นอนว่าเราไม่เคยปฏิเสธเรื่องเที่ยวๆอยู่ละ ยกมือคนแรกเลยว่าไป สรุปรวมเพื่อนๆที่จะไปภูกระดึงได้ 5 คน
ยอมรับว่าเป็นคนที่ไม่ได้ชอบเที่ยวอะไรแบบลุยๆเลยยยย ไม่ชอบแดด และขี้หนาว แต่เพราะ "เพื่อน" เป็นไงเป็นกัน ไปโว้ย อย่าไปกลัววว
เพื่อนร่วมทริปเรียนอยู่ที่ขอนแก่น 2 คน อยู่ในกทม.อีก 3 คน แน่นอนเราต้องบินไปหามันที่ขอนแก่น …..
จัดการจองตั๋วหางแดง ในราคาที่โอเคอยู่นะ ไปกลับรวม 1450 บาท/คน (เราเลือกแบบไม่โหลดกระเป๋า ไม่เลือกที่นั่ง ไม่เอาประกัน)
เช็คอินผ่านเว็ปไปเลย ง่าย สะดวกมากๆๆๆ ไปถึงก็เดินเข้า Gate ได้เลย ….
เรามีเวลาเตรียมตัวไปภูกระดึงประมาณเดือนนึง ก็ค้นหาในพันทิปนี่แหละ ว่าต้องไปยังไง เตรียมอะไรไปบ้าง สิ่งของที่จำเป็น บลาๆๆๆๆ
สิ่งที่สำคัญที่หลายคนมักจะมองข้ามคือ
- เสื้อกันฝน (เราห้ามดินฟ้าอากาศไม่ได้ เราคาดเดาไม่ได้ว่าฝนจะมาหรือไม่มา ดังนั้นต้องเอาไป)
- ไฟฉาย (จำเป็นมากกกกกกก ทั้งตอนไปดูพระอาทิตย์ขึ้น และตอนกลับจากดูพระอาทิตย์ตก และส่องน้องทาก!!ว่าติดตัวเรามาหรือเปล่า)
- ทิชชูเปียก (หนุ่มๆคงไม่จำเป็นซักเท่าไหร่ แต่สาวๆจำเป็นจ้า ระหว่างทางไปผาหล่มสักห้องน้ำไม่ค่อยมี ถึงจะมีบางทีน้ำหมด ไม่ก็สกปรกค่ะ ติดไปเถอะค่ะ)
- ที่เซฟเข่า (ตอนลงเข่าจะมีปัญหาค่ะ กันไว้ดีกว่าแก้ เราใส่ทั้งตอนขึ้นตอนลง เข่าไม่เป็นอะไรเลยจ้า)
เราใช้แบบนี้ค่ะ แพงเหมือนกันแต่คุ้มค่าสมราคามากๆ
- เงินแบงค์ย่อยๆ (เตรียมพวกแบงค์ 20 แบงค์ 100 ไป จะสะดวกในการจับจ่ายใช้สอยบนภูมากกว่าแบงค์ 1000 น๊าา)
เราแลกแบงค์ 20 ไปประมาณนี้ กลับมาก็หมดค่ะ 5555555
วันที่ 14 ต.ค 57 เราไปถึงขอนแก่น ช่วงเย็น คืนนี้เราจะนอนที่หอเพื่อนค่ะ แล้วพรุ่งนี้ออกแต่เช้ามืดไปภูกระดึงกันน
วันที่ 15 ต.ค. 57 ตื่นตี 4 เห็นจะได้ นั่ง Taxi ไปลงบขส. ขอนแก่น แล้วตีตั๋วรถทัวร์ ขอนแก่น-เมืองเลย
คนละ 94 บาทจ้าาา
ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงนิดๆก็ถึง จากนั้นก็เหมารถสองแถวสีแดง 200 บาท ขึ้นไปที่ อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ใช้เวลาไม่เกิน 10 นาทีค่ะ
หน้าตายังง่วงๆกันอยู่เลย ฮาๆๆ พร้อมกันยังไปกัน ๆ ๆ ๆ
หลังจากจัดการเรื่องลูกหาบเสร็จแล้ว (ลูกหาบกิโลละ 30 บาท ค่าแผ่นติดกระเป๋าใบละ 5 บาท)
เราก็เริ่มเดินขึ้นภู เวลา 09:20 น.
เดินขึ้นไป 1 กม. แรก ก็จะถึงซำแฮก เราใช้เวลา 40 นาทีค่ะ
แต่ละซำจะมีของกิน ของขาย เป็นประมาณนี้ค่ะ รสชาติพอใช้ได้เลยนะ เราแวะกินข้าวมื้อแรกกันที่ซำแฮก
แล้วเราก็ซวยนิดๆ เมื่อเพื่อนทำน้ำปลาหกใส่เสื้อตั้งแต่ซำแรกเลย T^T สุดยอดของความเหม็น ……
เดินกันเรื่อยๆค่ะ เหนื่อยก็พัก (พักบ่อยมากกกก) และแล้วเราก็ถึงหลังแป ในเวลา 14:30 น.
(ก่อนจะถึงหลังแปทางค่อนข้างชันมากๆ ต้องใช้มือเกาะบ้าง เดินกันระวังๆนะค่ะ)
ป้ายนี้ที่รอคอย ถ่ายรูปกันอยู่นานเลยค่ะ เห็นป้ายแล้วน้ำตาจะไหล.....นี่เราเดินมา 5.5 กม. เลยนะ!
เดินต่อไปอีก 3 กม. คราวนี้เป็นทางราบแล้วสบายหน่อย ก็จะถึงจุดบริการนักท่องเที่ยว (จุดที่เราจะนอนกัน)
เราเดินมาถึงก็ประมาณ 16:30 น. ก็จัดการเรื่องเต็นท์ บลาๆๆๆๆ เราไม่ได้จองไว้ค่ะเพราะคิดว่าเพิ่งเปิดภูคนคงยังไม่เยอะมาก
จากนั้นก็เดินไปเอาของที่ลูกหาบ ลูกหาบเดินขึ้นมาทีหลังเรา แต่เขาถึงตั้งแต่เที่ยงแล้ว OMG!!
แต่ไม่ต้องกลัวของจะหายนะค่ะ เพราะเขาจะนั่งรอเราจนกว่าเราจะมาเอาของไป เราจะถึงมืดเขาก็จะรอเราค่ะ
แล้วเราก็จ่ายตังกันตรงนี้ ใครจะทิปเพิ่มให้เขาก็ได้นะคะ เราก็ทิป เป็นสินน้ำใจเล็กๆน้อยๆค่ะ
โยนของเข้าไปในเต็นท์ แล้วเช่าจักรยานปั่นไปดูพระอาทิตย์ตกดินที่ ผาหมากดูก กันนนนน คันละ 60 บาทจ้า
ไปกลับรวมๆก็ประมาณ 4 กม. จ้าา (ขากลับหนาวมาก)