[CR] แก๊งลิงบุกภูกระดึง 3 วัน 2 คืน (20-22 พ.ย. 2020) สนุกสุดปัง แต่ร่างพังมากกกก

🚩 ขอพื้นที่แชร์ประสบการณ์การเดินเขาครั้งแรกในชีวิต (ครั้งแรกในชีวิตก็เลือกภูกระดึงเลยจ้าาา 😂)
ปล. ขออภัยสำหรับภาษาที่ทั้งวิบัติ และมีพิมพ์ผิดมากมาย TT

ทริปเดินขึ้นเขาภูกระดึงที่ผ่านมาเราและเพื่อนๆ อีก 5 คน 👫👭👬 เดินทางกันในวันที่ 20-22 พ.ย. 2563 ที่ผ่านมา โดยแพลนตอนแรกที่จะมา เราตั้งใจจะมาค้างแค่คืนเดียว เราจึงจองเต็นท์ของอุทยานไว้ในคืนของวันที่ 21 พย (จองออนไลน์) ซึ่งก็คือเราจะขึ้นไปหาที่นอนกันเอาหน้างานที่บนยอดภูในคืนวันที่ 20 พย (อย่าทำแบบนี้นะ! โดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาวๆ) 

วันที่ 20 พ.ย. 2563:
เราเริ่มออกเดินทางมาถึงที่ด้านล่างอุทยานก็เกือบ 10.00 น. แล้วอ่า กว่าจะทำเรื่องเอกสารขออนุญาตขึ้น ประกันชีวิต บลาๆๆ ก็ปาไปเกือบ 11.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่เราจะเริ่มเดินขึ้นภูกระดึงกัน และสิ่งที่พวกเราทั้ง 6 คนแพลนเอาไว้คือ เราทุกคนจะจ้างลูกหาบ แต่!!! เมื่อมาถึงจุดเริ่มต้นก็พบว่า " ลูก หาบ เต็ม!!" 
ก็แหมมมมม เล่นเดินทางมาถึงกันซะเกือบเที่ยง!!  เหมือนเป็นประชาชนกลุ่มสุดท้ายที่จะขึ้นภู
หลังจากนั้นพวกเราทั้ง 6 คนก็ทำใจและเตรียมตัวแบกเป้ที่แสนจะหนักของตัวเองขึ้นภูกระดึง พวกเราก็ศึกษาข้อมูลเบื้องต้นกันมาบ้างว่าที่ภูกระดึงนี้จะมีอยู่ 2 ซำที่โหดที่สุดคือ ซำแฮก และ ทางขึ้นช่วงสุดท้ายก่อนถึงหลังแปร ซำแฮกหรือที่ใครๆ มักเรียกว่า “ซำแหก” ขอบอกเลยว่าแหกสมชื่อ!! ก็คือเริ่มเดิน ไม่ต้องมีการอุ่นเครื่องใดใดจ้า เดินขึ้นเนินเขาชันๆ กันไปเลย กว่าจะถึงก็แหกไปตามๆ กัน
หลังจากนั้นเราก็พักหาข้าวเที่ยงกินกันที่ซำนี้แหละ (แค่ซำเดียวก็ไม่เหลือพลังงานกันแล้วจ้า) 
พอกินข้างกลางวันกันเสร็จเรียบร้อยเราก็เดินทางไปเรื่อยๆ พยายามเปิดเพลงสนุกๆ ฟังไประหว่างที่เราเดินผ่านซำต่างๆ เพื่อให้ลืมความเหนื่อยทั้งหมด (สุดท้ายก็เหนื่อยกว่าเดิม เพราะเดินไปร้องเพลงไป หายใจแทบไม่ทันน 555+) พวกเราทั้ง 6 คนอาจจะเดินทิ้งห่างกันบ้างแต่สุดท้ายเราจะมีจุดนัดพบที่เราทุกคนต้องหยุดรอกัน คือ ป้ายของแต่ละซำ เก็บรูปหมู่ check-in กันไปทุกซำเลยจ้า (ไม่ได้ใส่รูปมาครบนะ 😂)
Finallyyyyyy!!! เราก็ถึงหลังแปร ซึ่งเป็นจุดที่ทุกคนจะมาถ่ายรูปกับป้ายที่บอกว่าคุณคือผู้พิชิตภูกระดึง พวกเราก็ไปถ่ายแหละ
(เผื่อไม่ได้มาอีกในชีวิตนี้ 555+)
แต่ช้าแต่! การเดินทางมั้นยังไม่สิ้นสุดจ่ะ เราต้องเดินทางราบอีกประมาน 3-4 กิโลเมตร เพื่อไปให้ถึงจุดกลางเต๊นท์ (หืมมมม ได้โปรดฆ่าพวกชั้นให้ตายที!!!)
เราก็เดินทางต่อเพื่อไปจุดกางเต็นท์ ซึ่งมั้นก็เริ่มมืดและสุดท้ายก็มืดตึ๊ดตื๋อ ไฟทางก็สลัวๆ (ไฟฉายจำเป็นมาก แต่ถามว่าเอามามั้ย หม่ายยยยยยยยย) 
เมื่อถึงจุดกลางเต็นท์ของอุทยานเราดีใจมากกกก จะได้พักแล้ว ล้างเนื้อล้างตัว กินข้าวแล้วว แต่!! เต็นท์อุทยานที่เราหวังไว้ว่าจะมีให้เรา (ที่บอกไปตอนต้นเราจองได้แค่คืนที่สอง คืนแรกมาเสี่ยงดวง) มันหมดจ้า!!!! เหตุเพราะมวลมหาประชาชนครึ่งประเทศไทยได้เดินทางขึ้นภูกระดึงวันนี้ไง จบดิ จบมั้ย จบยังไง สุดท้ายพวกเราก็ต้องไปเช่าเต็นท์ของร้านค้าบนภูกระดึงแหละนอน แต่เต็นท์มันจะไม่ได้ดีเท่าของอุทยาน พื้นที่ที่กางเต็นท์ก็ไม่เรียน นอนไม่หลับเลย แต่ก็ด้วยความเหนื่อย เราก็รีบกินข้าวเย็น (พวกเรากินหมูกระทะที่ทุกคนเค้าต้องมากินกัน เพื่ออะไรไม่รู้นะ 555+) หลังจากนั้นก็แยกย้ายกันไปทำภารกิจส่วนตัวแล้วเข้านอน (นอนหลับมั้ย ให้ทาย??)

วันที่ 21 พ.ย. 2563:
GOOD MORNING!! เช้าวันแรกบนภูเราตื่นกันประมาณตีสี่ เพื่อไปล้างหน้าแปรงฟันทำธุระส่วนตัวในยามเช้ามืดด (ขอพักอาบน้ำก่อนโน๊ะ รู้ๆ กัน ว่ามันหนาววว) พอประมาณ 4.30 น.ทุกคนก็จะเริ่มเดินเท้าไปที่ผานกแอ่น เพื่อที่จะไปเสพโมเม้นท์ พระอาทิตย์ขึ้นนน เราก็ไปแหละ 
พอไปถึงที่ ผานกแอ่น ก็ต้องไปนั่งรอแบบพักใหญ่เลย และสุดท้ายสิ่งที่พวกเราอุตส่าห์ดั้นด้นเดินกันมาเกือบชั่วโมงเพื่อมาเจอ ก็แสดงตัวออกมา
จะบอกว่ามันสวยมากกกกกกกกก (ก ไก่ ล้านตัว) มันเป็นครั้งแรกที่รอมาเนิ่นนานนนน แบบจำไม่ได้เลยว่าเคยดูพระทิตย์ขึ้นที่ไหนมั้ยในชีวิตนี้ (คงไม่แหละ) แต่พอมาได้เห็น ความเหนื่อย ความล้าทั้งหมดที่มีก็หายไปชั่วขณะ มันสวยมากๆๆ ต้องไปให้เห็นกับตานะทูกโค้นนนนน
ดูพระอาทิตย์ขึ้นเสร็จ เราก็เดินกลับไปจุดกางเต็นท์ (ซึ่งไกลแหละ ความเหนื่อยล้าเริ่มกลับมา 555+) พวกเราก็ไปหาอาหารเช้ากินกัน แล้วก็เตรียมตัวเปลี่ยนชุดให้พร้อมสำหรับภารกิจของวันนี้ คือ เดินเล่นบนภูกระดึง
ซึ่งเส้นทางที่พวกเราทั้ง 6 คนเลือกคือ เราจะเดินเข้าป่าไปชมน้ำตกต่างๆ แล้วสุดท้ายก็จะไปจบที่การดูพระอาทิตย์ตกที่ ผาหล่มสัก นั่นเอง ป่ะ เริ่ม!!! 
ในวันนี้พวกเราก็จะเดินสบายขึ้นกว่าเมื่อวาน เพราะไม้ต้องแบกเป้หนักๆ ที่หลัง ซึ่งหักไปแล้วล้านครั้งงง เราเดินชมธรรมชาติวันนี้ก็จะอารมณ์เดินสำรวจป่าศึกษาพืชนานาพันธุ์ 555+ ถ่ายรูปเล่นบ้าง เดี่ยวบ้าง หมู่บ้าง ตามทางไปเรื่อยๆ 
         
จนถึงผาหล่มสัก (ต้องสารภาพว่าไปเกือบไม่ทัน เพราะช่วงกลางวันพวกเรามัวเดินชิวๆ กันมากเกินไป เกือบอดดูพระอาทิตย์ตกที่เลื่องลือเลยย แต่สุดท้ายพวกเราก็มาทัน แล้วก็จัดการถ่ายรูป (ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้องทำ!!)
แล้วก็นั่งกินข้าวเย็นส่งพระอาทิตย์กันนนน (โคตรฟินนน บอกเลย!!!)
หลังจากที่พระอาทิตย์นั้นตกไปเรียบร้อยแล้ว ฟ้าก็มืดตึ๊ดตื๋อทันที พวกเราก็เดินทางกลับที่พักกัน วันนี้ถึงจะไม่มีสัมภาระอะไรมากมาย แต่บอกเลยเดินทางกลับจากผาหล่มสักไปที่จุดกลางเต๊นท์ เท้าทุกคนคือ พังง!!! 
คืนที่สองจะบอกว่าเป็นคืนที่สงบกว่าคืนแรก อาจเพราะมี นทท ได้ลงภูไปเยอะมากแล้ว บรรยากาศก็เลยเงียบสงบ สามารถมองเห็นดาวเป็นล้านๆ ดวง (เชื่อเราเหอะ เรายืนนับอยู่ 555+)แต่ไม่รู้ว่าเป็นความโชคดีหรืออะไรนะในคืนที่สองตอนเราแหงนขึ้นท้องฟ้าอ่า เราเห็นดาวตกด้วยตั้ง 1 ดวงแหนะ!! แล้วเพื่อนเราก็แบบว่า อธิษฐานสิๆๆ เราเลยแบบ เฮ้ยย เราตาฝาดมั้ย ดาวหรือผีพุ่งใต้ 555+ ว่าไปนั่น (สรุปก็ไม่ได้อธิษฐานนะ อดเลย !!)
หลังจากนั้นทุกคนก็แยกย้ายกันเข้านอน

วันที่ 22 พ.ย. 2563:
เช้าตอน 4.00 น. เราทุกคนแพลนไว้ว่าจะตื่นตอนนี้ เพราะจะรีบไปต่อแถวเข้าคิวจ้างลูกหาบ เราก็รีบเก็บของกันสุดๆ แล้วไปต่อแถวที่มีคนเริ่มมาต่อกันแล้ว แล้วพวกเราก็ได้คิวต้นๆ ดังที่หวังไว้นะ แต่...ก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดขึ้น เพราะเกิดการแซงคิวขึ้น โดยป้าชุดสีเขียวเรืองแสง กับลูกทัวร์ของนาง อยู่ๆ ก็ไม่รู้มาจากไหน แล้วพาพวกของตัวเองมาแซงคิวชั่งกระเป๋า โดยอ้างว่าชั้นมีป้ายแล้ว (ป้าย tag ที่ต้องใช้กรอกรายระเอียดของเจ้าของกระเป๋า) พวกเราเลยงงมาก จนมีพี่(หรือน้องไม่รู้ววว) ผู้หญิงเสื้อสีส้มออกตัวสู้เพื่อความเป็นธรรมของพวกเราที่ตื่นมาต่อแถวตั้งแต่ตี่สี มาเริ่มถามว่าทำไมถึงไม่มาต่อแถวเหมือนคนอื่นๆ ทำไมมาแซงคิวแบบนี้ ป้าเสื้อเขียวก็ก็พูดซ้ำวนไปมาอยู่นั่นว่า “ชั้นมีป้ายแล้ว ชั้นมีสิทธิ์มายืนตรงนี้” เฮลโหลวววววว หลายๆ คนที่อุตส่าห์ตื่นตีสี่มาตั้งแถว ต่อคิวรอชั่งกระเป๋าก็มีป้ายนั้นแล้วเหมือนกัน ในใจเรา และเชื่อความอีกหลายสิบหรือร้อยคนตรงนั้นคงคิดแบเราว่า!!%^$%^^&^&*&*&^&%^$#!$*))_*(^ อ่ะน่ะอย่าให้เซดดด อิหยังวะ!!!
สุดท้ายเจ้าหน้าที่อุทยานก็ทำอะไรไม่ได้มาก ก็ได้แต่รีบชั่งกระเป๋าของแก๊งมนุษย์ป้ามหาภัยให้ไปพ้นๆ จากตรงนี้ให้ไวที่สุด (สงสารคนท้ายแถวที่ไม่รู้เรื่องว่าต้องมาโดนแก๊งมนุษย์ป้าพวกนี้แซงคิว) แต่ชั้นรู้ โลกต้องรู้!! ชั้นยืนอยู่ตรงนั้น ชั้นตะโกนด่าด้วยย Oopssss!
หลังจากผ่านเหตุการณ์ระทึกขวัญที่พวกเราเกือบจะได้แบกกระเป๋าลงกันเอง เราก็ไปกินข้าวเช้า และเตรียมตัวลงจากภูกัน
เราเริ่มเดินลงจากภูกระดึงกันประมาณ 8.00 น. ขาลงนี้เรารู้สึกว่าไม่เหนื่อยเท่ากับตอนขึ้น ไม่รู้เพราะไม่มีเป้หนัก หรือการเดินลงมันสบายกว่าไม่รู้นะ แต่เรารู้สึกว่ามันง่ายขึ้น ไวขึ้น เราไม่ต้องพักทุกซำเหมือนตอนขาขึ้น เรากะเพื่อนอีกคนนี่วิ่งลงกันอย่างกะนินจานารูโตะ โคตรสนุกเลยขาลง ไม่เหนื่อยเท่าขาขึ้น พวกเราวิ่งลงยาววว จนมาถึงข้างล่างประมาณ 11.00 น. 
หลังจากนั้นเราก็ไปล้างหน้าล้างตัวนิดหน่อย แล้วหาข้าวกลางวันกิน ในระหว่างรอกระเป๋าของเราจากลูกหาบ
เราได้กระเป๋าจากลูกหาบไว้มาก ประมาณเที่ยงก็ได้แล้ว 
หลังจากนั้นพวกเราก็ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดแล้วก็เดินทางออกจากอุทยานประมาณ 13.00 น.
จบทริป ภู กระ ดึง ดึ่ง ดึ้ง ดึ๊ง ดึ๋ง!!!
ชื่อสินค้า:   ภูกระดึง
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่