[CR] พ า ฟิ ล์ ม ไ ป ชิ ม ภู ก ร ะ ดึ ง

คนบางคนมาที่นี่เพื่อพิชิตธรรมชาติ
ขึ้นมาถ่ายรูปแล้วก็จากไป
เพื่อเป็นผู้พิชิต
หรือ
เราคือผู้มาเยือนเพื่อชื่นชมธรรมชาติ
.
‪#‎phukraduengnationalpark‬ .
‪#‎ปี4ขอหนีเที่ยว‬ ‪#‎หลงรักเลย‬ แล้วอย่าลืม หลงรักเรานะ



เรายืมยูสเพื่อนมานะคะ  พอดีทำบัตรประชาชนหายยังไม่ได้ไปถ่ายบัตรใหม่  รูปทุกรูปในทริปนี้ถ่ายด้วยกล้องฟิล์มนะคะ

**จบหลังหล้อง  ใส่แค่ลายน้ำและย่อไฟล์ภาพใน PhotoScape  
กล้อง  :  Olympus OM1-MD
ฟิล์ม   :  Superia 200
page : วรฟิล์ม
https://www.facebook.com/vorafilm

อาจจะสวยบ้าง  ไม่สวยบ้าง  เราไม่ได้มาเขียนรีวิวเล่ารายละเอียด  การเดินทาง  ค่าใช้จ่ายอะไรละเอียดขนาดนั้นนะ  เรามาเขียนเชิญชวนให้เที่ยวไทยกัน  



เราเป็นคนหนึ่งที่อยากจะไปปีนภูกระดึงมาก  ด้วยความที่เป็นคนในจังหวัดเลย  แต่ไปเรียนมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ  
และไม่เคยขึ้นไปสัมผัส  บรรยายกาศบนภูกระดึงเลย  ช่วงสุดสัปดาห์วันปิยมหาราชที่ผ่านมา
เราเลยจัดทริปปิดเทอมเล็กๆ  ที่มีเรากับเพื่อนอีกสองคนไปเที่ยวกัน  เพราะเที่ยวในช่วงวันหยุดยาว
นักท่องเที่ยวเลยดูคึกคักมาก  
**ก่อนจะปีนภูกระดึงเราไปเที่ยวเชียงคานมา  มีรูปเชียงคาน  +  ภูทอก  ติดมาฝากด้วย  นิดหน่อยค่ะ



ใครๆ ก็ว่าไปภูกระดึงต้องไปหน้าหนาว  แต่เราอยากไปหน้าฝน  เดือนตุลาคม  คือเดือนที่นักท่องเที่ยวชุดแรกๆ
จะเดินทางไปสัมผัส  ความสมบูรณ์ของภูกระดึง  ลองไปภูกระดึงหน้าฝน  แล้วจะประทับใจ  
ทากนี่ดุ๊กดิ๊กๆ เต็มภูฯ  ถ้าฝนตก  ฮ่าๆ  เราเจอมาแล้ว  แต่เรารอดนะ  รอดได้ยังไง  มีเล่าแน่นอนค่ะ



ก่อนจะขึ้นภูฯก็ต้องจองที่พักกันก่อนนะ  นี่คือเว็บจองที่พักค่ะ จองได้ทุกอุทยานในประเทศไทยเลย  
เขาเชื่อมต่อกันค่ะ  จองแล้วอย่าลืมชำระเงินที่ธนาคารภายใน  3 วันนะคะ
http://www.dnp.go.th/parkreserve/reservation.asp?lg=1

ของเราจองแบบเต็นท์ไป 2 หลังค่ะ  ถุงนอนเราเอาไปเอง

พอมาถึงวันขึ้นภูฯ  เราก็ต้องไปทำเรื่องที่เคาท์เตอร์  ติดต่อขอเข้าพัก  พอติดต่อเสร็จก็เดินไปที่จุดบริการของลูกหาบ
สัมภาระคิดค่าบริการ กิโลกรัมละ  30  บาทค่ะ  ซึ่งถูกมากๆ  



เราก็ต้องชั่งน้ำหนักสัมภาระเราก่อน  แล้วก็เขียนรายละเอียดน้ำหนักกระเป๋า  ใบหนึ่งติดไว้ที่กระเป๋า
อีกใบเก็บไว้ที่เรา  ตอนไปถึงยอดภูฯ ตอนที่ไปรับสัมภาระ  ค่อยคำระค่าบริการกับลูกหาบค่ะ  
ตามน้ำหนักกระเป๋าที่ชั่งไว้ในตอนแรก

จากนั้นก็มาลงชื่อที่ป้อม  ซึ่งอยู่ที่ทางขึ้นภูกระดึงกันเลย  แล้วก็ออกเดินทาง  
ตอนนั้น  เสียงเพลงชาติไทยดังขึ้นพอดี  เราหยุดอยู่หน้าทางขึ้น  จนเสียงเพลงจบและเริ่มออกเดินทาง  ปีนภูกันเลย




จุดพักจะมีอยู่เป็นระยะๆ  เรียกว่าซำ  ซึ่งซำแรกมีชื่อว่าซำแฮก  แต่กว่าจะไปถึงน่ะ  บอกเลยว่า  
เหนื่อยหอบแฮก สมชื่อ  ซำนี้เองที่ทำให้หลายคนถอดใจ  เพราะการเปลี่ยนแปลงความดันต่างๆ
เราเองก็แน่นหน้าอกเป็นพักๆ  ยอมใจเลยซำแฮก  ถ้าไม่ไหวอย่าฝืนค่ะ  นั่งพักระหว่างทางกันก่อนได้

แ ฮ ก ส ม ชื่ อ




พอมาถึงซำแฮก  ก็จะมีร้านค้าเต็มไปหมดเลย  ราคาน้ำที่ซำนี้จะอยู่ที่ขวดละ  20  บาท  
ส่วนอาหารก็อยู่ที่  ราคา  40  บาท  และจะสูงขึ้นไป  ตามระดับความสูง
เรียกว่าค่าครองชีพบนภูกระดึงสูงตามระดับน้ำทะเลกันเลยทีเดียว



สุ กี้ ห มู อ ร่ อ ย ม า ก




มุ ม พั ก ข อ ง ลู ก ห า บ

นอกจากเราจะพักแล้ว  ลูกหาบก็พักเหมือนกันค่ะ  น้ำหนักที่หาบกันนี่  40  กิโลกรัม ขึ้นไปเลยนะเนี่ย
ตามแต่กำลังของลูกหาบแต่ละคนเลยค่ะ



เ จ้ า ห น อ น ดึ๊ บ ๆ





พอพักจนหายเหนื่อยก้ออกเดินทางกันต่อเลยค่ะ  




ต้นไม้ที่ปกคลุมตลอดแนวทางเดิน  ไม่มีดำแน่นอนค่ะ  สาวๆ  หายห่วงได้เลย




ยาวไปยาวๆ  ซำแฮก  ผ่านไป  




หลายๆ ซำเราก้ไม่ได้ถ่ายรูปมานะคะ  ขออภัยด้วยเด้อ

ลัดมาซำท้ายๆ เลยแล้วกัน  ฮ่าๆๆๆ  เพราะร้านค้าในแต่ละซำจะคล้ายๆกันค่ะ




ไ อ ศ ก รี ม




กิ น อ ะ ไ ร ดี




ลู ก ห า บ แ ข็ ง แ ร ง ม า ก




หิ น แ ซ ม กั บ ร า ก ไ ม้ ยิ่ ง สู ง ยิ่ ง เ ดิ น ลำ บ า ก




ม อ ส บ น โ ข ด หิ น




ท า ง ชั น ม า ก




ลู ก ห า บ คื อ เ ส น่ ห์ ข อ ง ภู ก ร ะ ดึ ง




มีทางบันไดเป็นช่วงๆ  แต่น้อยมาก




หลุดโฟกัสบ้าง  เหนื่อยด้วยมือสั่นด้วย












มีประเด็นหนึ่งที่เราอยากพูดถึง  #กระเช้าไฟฟ้าขึ้นภูกระดึง  ที่เคยถูกนำมาปัดฝุ่นถึง 2 รอบ

ป่าดิบเขาทั้งโลกมีแค่ 3 เปอร์เซ็นต์เท่านั้นเอง ซึ่ง ‪#‎ภูกระดึง‬ เป็นหนึ่งในนั้น
การเปลี่ยนแปลงของ #ภูกระดึง เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ทรุมโทรมโดยตลอด


ป่าบน #ภูกระดึง ที่ถูกรุกด้วยไฟป่า การฟื้นฟูป่าจึงเป็นหน้าที่หลักของอุทยาน
ไม่ใช่ปั๊มพ์เงินจากการท่องเที่ยว กระเช้าลอยฟ้าไม่ได้มีอะไรพิเศษ เป็นแค่ของเล่นสำหรับนักธุรกิจ
นักลงทุน ที่จะแปรผันเงิน แต่มันไม่ใช่เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการท่องเที่ยว
การเรียนรู้ธรรมชาติอย่างแท้จริง ‪#‎มันก็ไม่สมควรที่จะมี‬


อนาคตของชาวบ้านเริ่มสั่นคลอน ชาวบ้านอยู่ที่นี่ มีวิถีชีวิตแบบนี้มาโดยที่เขาก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไร
อยู่ดีๆ เอาเงินมาวาง 15 ล้าน มาให้กู้แล้วถามว่าเขาให้กู้โดยที่ไม่ต้องทำประกันอะไรเลยใช่ไหม?


เจ้าของสัมปทานกระเช้าฯ เป็นคนค้ำประกันให้ทั้งหมดหรือเปล่า? สามารได้หรือเปล่า?
ถ้าชาวบ้านไม่มีทางจ่ายได้ จะทำยังไง บ้านเขา ที่เขา เขาต้องเอาไปจำนองชาวบ้านเดือดร้อนไหม?
หรือว่ากันว่าเขาให้เงินเอามาทำ เช่น พวกโฮมสเตย์ ร้านอาหาร พอถึงหน้า #ภูกระดึง ปิด
ชาวบ้านเขาก็ต้องแข่งขันกัน ชาวบ้านที่เคยเป็นมิตรกัน เป็นญาติพี่น้องกัน ก็ต้องมาแข่งกันในทางธุรกิจเพื่อที่จะหาเงิน


ความสุขมันลดลงแน่นอน นอกเหนือจากนั้นก็ความทะเลาะเบาะแว้งก็ตามมาแน่นอน
รายได้ต่อปีต่อคนประมาณปีละเท่าไหร ร้านค้ารวม 100 ร้านค้า ตั้งแต่ตีนภูจนถึงที่ทำการ
รายได้ต่อปีเท่าไหร? เป็นตัวเลขต่อปีเกือบ 50 ล้านบาท

แต่ถ้ามีกระเช้าฯ
‪#‎สองส่วนนี้มันก็ไม่ได้หายไปไหน‬ ‪#‎แต่มันถูกเปลี่ยนมือไปจากที่ลูกหาบร้านค้าที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ก็เปลี่ยนมือไป‬
.
ใครได้ผลประโยชน์??
.
แต่ชาวบ้านไม่ได้แน่!!
.
เอกลักษณ์ของ #ภูกระดึง อยู่ที่การเดินและลูกหาบใครๆ ก็รู้ แล้วถ้าเกิดมีกระเช้า ซึ่งถ้าจะบอกว่า
คุณอยากเดินก็เดินไปคุณจะขึ้นกระเช้าก็ขึ้นกระเช้าไป แต่อย่าลืมว่าคุณได้ทำลายเอกลักษณ์ของที่นี่ไปแล้ว
หากเดินขึ้นภูกระดึงไปกระเช้าฯ อยู่บนหัว !!
.
มันจะเป็นการ ‪#‎ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์‬ ได้อย่างไร??





ไม่เครียดแล้วดีกว่า  ไปมุ่งหน้าสู่หลังแปกัน





หลังแป  คือภาคพื้นบนภูกระดึง  ที่แสดงให้เห็นว่าเราได้เดินทางมาถึงยอดภูกกระดึงแล้ว  
ภูกระดึงเป็นภูเขายอดตัด  เป็นภูเขาหินอ่อน  มองจากมุมสูงจะเป็นรูปหัวใจ  
และหินมีความเปราะบางมาก  หากจะสร้างถนนหรือกระเช้าไฟฟ้า  เราคนหนึ่งที่คัดค้านเด็ดขาด
เมื่อก่อนน่ะ  ป่าภูกระดึงติดกับน้ำหนาว  เพชรบูรณ์  แล้วก็ภูหลวง  แต่ชาวบ้านอพยพมาตั้งถิ่นฐานที่ตำบลศรีฐาน
ทำให้ภูกระดึงถูกตัดออกจากแนวป่า  เป็นเกาะ  สัตว์ป่าก็ออกไปไม่ได้  เลยต้องอยู่อาศัยบนภูกระดึงแห่งนี้



อาจจะสังเกตุเห็นรอยรถ  บนทางจากหลังแป  มุ่งหน้าสู่ที่พัก  บางคนก็ว่าเขาต้องมีทาง  มีถนนให้รถขึ้นมาแน่ๆ  
แต่ไม่บอกนักท่องเที่ยว  เราแอบได้ยินคนข้างหลังที่เดินตามมาพูดกัน  เราก็ยิ้มๆ  
เพราะรถถูกขนมาด้วย เฮลิคอปเตอร์ของหลวงค่ะ  ใช้ในราชการเท่านั้น  






ป่าบนภูกระดึงเป็นป่าสน  สลับกับทุ่งหญ้าสวันนา  เราจะพบเห็นลักษณะแบบนี้ทั่วทั้งภูกระดึงเลยล่ะค่ะ
ต้นไม้ประจำจังหวัดเลยคือ ต้นสนสามใบ



เดี๋ยวมาเขียนเพิ่มนะคะ
ติดตามผลงานภาพถ่ายเราได้ที่แฟนเพจ : วรฟิล์ม
ตามลิงค์นี้นะคะ  >>  https://www.facebook.com/vorafilm
ชื่อสินค้า:   #‎ปี4ขอหนีเที่ยว‬ ‪#‎phukraduengnationalpark‬
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่