5 สหาย ท่อง ภูกระดึง

สวัสดีครับ วันนี้ผมมีเรื่องราวและประสบการณ์มาแบ่งปันทุกท่านครับ กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม ผิดพลาดประการใด โปรดขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับปกติผมก็เป็นคนชอบเดินทาง ท่องเที่ยว ในต่างจังหวัดอยู่แล้ว เพื่อให้ได้เรียนรู้ ผจญภัย ประสบการณ์ใหม่ๆ ดังนั้น จึงชวนเพื่อนอีก4คนรวมผม เป็น 5คน เดินทางไปเที่ยวที่ ภูกระดึง จ.เลย  
    กำหนดการเปิด-ปิด อุทยาน
อุทยานแห่งชาติภูกระดึงเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวได้ตั้งแต่ 1 ต.ค. - 31 พ.ค. ของทุกปี
ปิดอุทยานให้ธรรมชาติฟื้นฟู ห้ามนักท่องเที่ยวขึ้นไปเที่ยวตั้งแต่ 1 มิ.ย. - 30 ก.ย. ของทุกปี
ป่าปิด น้ำตกขุนพอง เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมได้ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย เป็นต้นไป
กำหนดเวลาเวลา เปิด-ปิด ให้ขึ้นภูในแต่ละวัน

ด่านอุทยานเปิดให้นักท่องเที่ยวขึ้นภูได้ตั้งแต่เวลา 07.00 น. - 14.00 น.
ปิดไม่ให้นักท่องเที่ยวขึ้นภูตั้งแต่เวลา 14.00 น. ไปเนื่องจากเกรงว่าจะมืดก่อนที่จะเดินถึงจุดหมาย

     มาเริ่มกันเลยครับ  เราออกเดินทางกันเวลา ประมาณ 04.00 น. เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวจากเพชรบูรณ์  พวกเราเป็นพวกไม่ค่อยวางแผนล่วงหน้าไว้มากสักเท่าไหร่ครับ (เด่วจะไม่ผจญภัย)555+

    ไปได้ไม่ไกลคับ แวะปั๊มสะแล้ว

เดินทางไปกันช่วงหน้าหนาวพอดีครับ พอไปถึงอำเภอด่านซ้าย จ.เลย เจอหมอกลงก้อแวะถ่ายรูปเก็บไว้ซะน่อย (ไม่รีบคับเรื่อยๆเท่

หมอกลงอากาศดีมากครับ

แล้วเราก้อออกเดินทางต่อ    ไปทาง อ.ภูเรือ  อ.เมืองเลย แล้วก็ถึง ภูกระดึง   คับ เสบียงเราเตรียมกันมาเยอะมากคับ (โดยไม่รู้ว่าเขามีร้านค้าร้านอาหารยุด้านบน)555+ ไม่วางแผนกันเล๊ยยย 55+


ถึงแล้วครับดูเสบียงพวกเราสะก่อน 555+ บ้าบอคอแตก จะเยอะไปไหน  นั้งทานข้าวกันก่อนขึ้นครับ เอาแรงสักน่อย


พอทานเสดเราก็ไปติดต่อ เจ้าหน้าที่ เพื่อที่จะได้เดินขึ้นภูกระดึงครับค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน

นักท่องเที่ยวชาวไทย ผู้ใหญ่ 40 บาท  เด็ก 20 บาท

นักท่องเที่ยวต่างชาติ  ผู้ใหญ่ 400 บาท  เด็ก 200 บาท

นักศึกษา แสดงบัตรประจำตัวนักศึกษา เสียค่าธรรมเนียม 10 บาท

ผู้สูงอายุตั้งแต่ 60 ปีขึ้นไปแสดงบัตรประชาชน ฟรี ไม่เสียค่าธรรมเนียม

ค่าธรรมเนียมกางเต็นท์ กรณีนำเต็นท์มาเอง  30 บาทต่อคนต่อคืน

(ราคาอาจเปลี่ยนแปลงได้นะครับ)    พอติดต่อเจ้าหน้าที่เสดเขาบอกห้ามน้ำกล่องโพมขึ้นไป เอาล่ะสิคับ มีทั้งหมูทั้งไส้กรอก น้ำอีก1แพ็ด6ขวด กระเป๋าสัมภาระ  กีต้าร์ 1 ตัว เหล็กย่าง และเต้นท์อีก 2 หลัง (หนักมาก)55+ เราตัดสินใจไม่จ้างลูกหาบครับ แบกขึ้นกันเอง
ลูกหาบแบกสัมภาระขึ้นภู มีบริการทุกวันที่ศูนย์บริการตีนภู โดยคิดเป็นน้ำหนักกิโลกรัมละ 15 บาท เริ่มชั่งสัมภาระกันตั้งแต่เริ่มสว่าง ชั่งแล้วขึ้นไปรอรับที่จุดรับสัมภาระบนภู


พร้อมลุยแล้วครับแต่ละคนนี้อย่างห้าวเลย555+  (เด่วรู้เรื่อง) ถ่ายก่อนตรวจสัมภาระครับ กล่องโพมเอาขึ้นไม่ได้



การขึ้นภูกระดึงนั้นจะมีจุดพักที่เรียกว่า ซำ ต่างๆบริเวณซำต่างๆ ระหว่างเดินขึ้นภูมีร้านค้าบริการ  ตามหน้าผาจุดหลักๆ  บนภูมีร้านค้าบริการ


เริ่มขึ้นกันล่ะคับ คนค่อนข้างมากันเยอะ



ดูหน้าพวกมันแล้ว คงจะหายห้าวลงบ้าง 555+ ต้องเอาไม้ไผ่ใส้สัมภาระแล้วครับ ผมแบกกับเพื่อน


เดินขึ้นไปอีก 200 เมตร ก้อถึงจุดพักจุดแรกที่มีร้านอาหารในการเดินขึ้นภูกระดึง "ซำแฮก" เดินขึ้นมาได้1000เมตรแล้วครับ เพื่อนคนนึ่งเริ่มท้อล่ะ55+ เลยบอกมาขนาดนี้แล้วก้อต้องไปให้สุด




พอเดินขึ้นมาได้ ถึงซำบอน ก้อเริ่มเปลี่ยนถ่ายสัมภาระกัน ช่วยกันแบกคนที่ไม่ไหวก้อแบ่งของมาให้คนที่แข็งแรงกว่าแบกพอไปเดินขึ้นไป

เรื่อยๆ ก้อหาไม้ไผ่กับเพื่อนเอาสัมภาระใส่แล้วก้อแบกหาบไปกับเพื่อน (เข้าสู่หมวดทรหด)


แบกมาได้สักพักก้อพักสักน่อย



ขึ้นมาถึง ซำแคร่ ก้อพักกินข้าวกันครับเหนื่อยเลยใกล้ถึงยอดล่ะครับ


เพิ่มพลังเสดก้อพร้อมลุยกันต่อ ผมกับเพื่อนเปนคนแบกไปจนถึงยอด หรือที่เรียกว่าหลังแป


ลุยๆ

ดูจากหน้าก็รู้คับเหนื่อยแต่ยังไหวคับ555+ แบกตลอดทาง

แปะไว้ก่อนครับเด่วว่างๆจะมาต่อให้จบครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่