ตอน : บิว รัตนะ ผู้มากับสายลมแห่งความเหงาเศร้า
"บิว รัตนะ" เดินทางกลับมายังบ้านพักส่วนตัว ระหว่างทาง เขาได้แวะกินข้าวต้มโต้รุ่งที่ร้านประจำร้านเจ้าอร่อยขึ้นชื่อ "ร้านลุงแป๊ะ" ทันทีที่บิวก้าวเข้าไปนั่งในร้าน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของร้าน เพราะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว
"หวัดดีแปะ วันนี้มีอะไรน่าทานบ้างอ่ะ..." บิวเลือกนั่งตรงโต๊ะสุดมุมของร้านเป็นที่เดิมประจำ มันเป็นมุมเหงาๆ สงบๆ ที่เขาชอบ เพราะไม่ค่อยได้ยินเสียงจ๊อกแจ่กจอแจจากลูกค้าอื่นๆ นอกร้าน ที่ชอบส่งเสียงดังรบกวน และยังมองเห็นดวงจันทร์บนท้องฟ้าในเวลากลางคืนได้อย่างถนัดตา เนื่องจากเป็นพื้นหญ้าที่โล่งแจ้ง บรรยากาศแบบนี้ ทำให้ได้อรรถรสในการทานอาหารยามดึกเป็นอย่างยิ่ง
"อ่า...เอาเลยอาตี๋ สั่งเลย น่าเจี๊ยะทั้งนั้น วันนี้มีเป๋าฮื้อน้ำแดงที่ลื๊อชอบด้วยนา...เจี๊ยะกับข้าวต้มร้าน ๆ อร่อยอ่า...." แป๊ะฮวย เจ้าของร้านชาวจีนวัยหกสิบปี รูปร่างท้วมขาว บุคลิกคล่องแคล่วทะมัดทะแมง และดูท่าทางยังแข็งแรงดีอยู่ ได้เลื่อนเก้าอี้ให้เจ้าบิวนั่งอย่างเอาอกเอาใจ บิวเป็นลูกค้าประจำร้านนี้ มาตั้งแต่เขายังเป็นนักเรียนมัธยม แป๊ะฮวยจึงมีทั้งความรัก ความเอ็นดูและความผูกพันราวกับเจ้าบิวเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่ง
"ลื๊อหายปายไหนมาหลายวัน อ่าตี๋...อั๊วนึกว่าลื๊อไม่สบาย เปงห่วง ให้อาหมวยมันเอาเต้าฮวยไปให้ลื้อที่บ้าน ก็ไม่เจอลื้อ ปิดประตูบ้านเงียบ..." อาแปะผู้ใจดีไต่ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
"ฉัน...คือว่า ฉันก็ตระเวนหาที่เงียบๆ สงบๆ หาโลเกชั่นวาดภาพไปเรื่อยน่ะแปะ ไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดหมายปลายทางหรอก ค่ำไหนก็นอนนั่น" บิวตอบด้วยสายตาล่องลอย ดวงตาเศร้าคมฉายแววหดหู่เศร้าซึมเพียงครู่ แล้วจึงพยายามเก็บงำความรู้สึกอ้างว้างซ่อนไว้ภายในอก แต่ดูเหมือนชายวัยใกล้ชราตรงหน้าที่ผ่านโลกมามากอย่างอาแปะฮวย จะหยั่งรู้จิตใจภายในของเขา จึงได้แต่ถอนใจ แล้วกล่าวขึ้นด้วยถ้อยทีปลอบประโลม
"เฮ้อ...อาตี๋บิว ลื้อนี่มันขี้เหงาไม่หายเจงๆ เมื่อไหร่ลื๊อจะเลิกเศร้าซะทีนา อํ๊วรู้ว่าที่ลื้อไปแบบนั้น เพราะลื๊อเหงาใช่ม้า...ถ้าลื๊อเหงา ก็คุยกับอาหมวยเง๊กมันได้นี่นา...ลูกสาวอั๊วมันคุยเก่งออก"
"ขอบใจมากนะแปะ ฉันรู้ว่าแปะเป็นห่วง แต่ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ ฉันมันตัวคนเดียว อ้าว..แล้วนี่อาหมวยอยู่ไหนล่ะ ไม่เห็นลงมาช่วยเสริฟของในร้านเลย" บิวพูดพลางตักข้าวต้มและกับข้าวร้อนๆ เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย กวาดสายตามองไปรอบๆ ร้าน ก็ไม่เจอเด็กสาวชาวจีนที่ชื่อเง๊ก ลูกสาวคนเดียวของแปะฮวย
"ไม่เปงไร จะปิดร้านเลี้ยว อั๊วเก็บคนเดียวได้ อาหมวยอยู่บนเหล่าเต๊งนู่น อีคงจะรอลื๊อจนหลับไปเลี้ยว อีบอกอยากเจี๊ยะพร้อมลื๊อตั้งแต่ตอนสองทุ่ม คิดว่าลื๊อไม่แวะมาร้าน อั๊วก็เลยบอกไม่ต้องคอย" อาแปะตอบ บิวฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มๆ เฉยๆ
"เหิ่น ห่าว ชือ อร่อยมาก ฝีมือแปะยังสุดยอดเหมือนเดิม หนี่ จุ้ย ปั่ว เลอ" บิวยกนิ้วหัวแม่โป้งชมเชย อาแปะยิ้มให้เขาอย่างพอใจ
"เซี่ยะ เซี่ยะ หิวก็เจี๊ยะเข้าไปเยอะๆ จะได้อ้วนๆ แข็งแรงๆ"
บิวนึกถึงธุระติดค้างหนึ่งขึ้นมาได้ เป็นเรื่องที่เขาได้ไหว้วานให้อาแปะคอยจัดการเป็นธุระให้
"อ่อ ฉันไม่ได้มาร้านหลายวัน สงสัยอาแปะคงลืมไปแล้ว "หนังสือเลหลังของพี่เก๋ เนรัญ" ที่ฉันฝากให้อาแปะสั่งจองให้ที่ร้านขายของเก่าน่ะจ๊ะ ได้ไหมจ๊ะอาแปะ" เจ้าบิวถามขึ้นอย่างใส่ใจ
"ฮ่อๆ ดีแล้วที่เตือน อํ๊วก็เกือบลืมปาย รอเดี๋ยวนะอาตี๋..." แปะฮวยรีบลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงไปยังลิ้นชักสำหรับใส่ของสำคัญของทางร้าน รื้อหนังสือหลายเล่มออกมาวางระเกะระกะบนโต๊ะ จนกระทั่งเจอเล่มที่เจ้าบิวฝากซื้อ จึงรีบเดินถือเอามาให้อย่างดีใจ
"เล่มนี้ใช่ไหมที่ลื๊อต้องการ หนังสือเก่ามากเลี๊ยว ค่อยๆ เปิดเบาๆ ระวังมันขาดนา..." อาแปะค่อยๆ บรรจงส่งหนังสือเล่มนั้นให้เจ้าบิว เพราะรู้ดีว่าเขาต้องการมันมาก สันปกหนังสือก็เริ่มหลุดลุ่ยออกมาทีละส่วนจนต้องใช้มือประคองอ่าน
"ลื่อจะเอาไปซ่อมที่ร้านหนังสือข้างร้านอั๊วไหมเล่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็ได้ ถ้าไม่ใจร้อน"
"ไม่เป็นไร ฉันรอไม่ไหวละ อยากอ่านคืนนี้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันต้องแวะเข้าตลาดไปซื้อของใช้ในบ้านที่หมด ฉันเอาไปซ่อมเองก็ได้จ๊ะแปะ"
"หนังสือเก่ามากเลี้ยวอาตี๋" อาแปะพูดเสียงอ่อยเบา
"ใช่! อาแปะ สิบกว่าปีแล้วนะ เก่ามากเล่มนี้ แต่ฉันไม่เคยลืมเลย" บิวเปรยด้วยกริยาเงียบขรึม นั่งก้มหน้างุด สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าปก ที่มีอักษรสีทองตีตราประทับด้วยประโยคสั้นๆ ว่า
"คิดถึงเก๋ เนรัญชรา ดรากาในดวงใจ"
เมื่อแปะฮวยเห็นเจ้าบิวได้แต่นั่งนิ่ง ไม่พูดจาอะไรอีก ใจของแกก็พลอยไม่สู้ดีไปด้วย จึงได้แต่ปลอบใจไปตามประสาคนแก่ ที่มีจิตใจอ่อนโยนอบอุ่นและหวังดี
"ลื้อจะปายคิดถึงอีทามมาย เรื่องมันก็นานมาเลี้ยว ลื้อควรทำใจได้แล้วนา...อาตี๋บิว"
"หนังสือดาราเก่า หายากแบบนี้ คนคงแย่งกันเก็บสะสม เอาเป็นว่าอาแปะจะคิดค่าแป๊ะเจี๊ยะ ต้าอ่วยเท่าไหร่ ฉันยินดีจ่ายให้ เป็นค่าเสียเวลาที่แปะอุตส่าห์ไปหามาให้ฉัน..." บิวกล่าวด้วยน้ำเสียงเต็มใจแต่แฝงเศร้าลึกๆ
"ไม่เปงไร อั๊วไม่คิดสตางค์หรอก ลื๊อเอาไปอ่านเหอะ แต่ว่า...อย่าเปิดบ่อยนักนา มันจะไม่ดีต่อหัวใจของลี๊ออ่ะ อั๊วไม่อยากเห็นลื๊อไท้อี๋ นา...."
"ฉันขอบใจอาแปะมากนะที่ห่วงฉัน แต่ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ถ้าแปะเป็นฉัน แปะคงรู้สึกอย่างที่ฉันรู้สึกตอนนี้ล่ะมั้ง"
--------------------------------------------------------
อ่านตอนย้อนหลังที่นี่ครับ
http://my.dek-d.com/water_write/story/view.php?id=738008
ฝากด้วยนะครับ นักเขียนมือใหม่ แต่ตั้งใจครับ ขอบคุณคร้าบ.....
ดารกาแห่งดวงใจ (ดาวประดับฟ้า) ตอน สายลมแห่งความเหงาเศร้า
"บิว รัตนะ" เดินทางกลับมายังบ้านพักส่วนตัว ระหว่างทาง เขาได้แวะกินข้าวต้มโต้รุ่งที่ร้านประจำร้านเจ้าอร่อยขึ้นชื่อ "ร้านลุงแป๊ะ" ทันทีที่บิวก้าวเข้าไปนั่งในร้าน ก็ได้รับการต้อนรับอย่างดีจากเจ้าของร้าน เพราะคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว
"หวัดดีแปะ วันนี้มีอะไรน่าทานบ้างอ่ะ..." บิวเลือกนั่งตรงโต๊ะสุดมุมของร้านเป็นที่เดิมประจำ มันเป็นมุมเหงาๆ สงบๆ ที่เขาชอบ เพราะไม่ค่อยได้ยินเสียงจ๊อกแจ่กจอแจจากลูกค้าอื่นๆ นอกร้าน ที่ชอบส่งเสียงดังรบกวน และยังมองเห็นดวงจันทร์บนท้องฟ้าในเวลากลางคืนได้อย่างถนัดตา เนื่องจากเป็นพื้นหญ้าที่โล่งแจ้ง บรรยากาศแบบนี้ ทำให้ได้อรรถรสในการทานอาหารยามดึกเป็นอย่างยิ่ง
"อ่า...เอาเลยอาตี๋ สั่งเลย น่าเจี๊ยะทั้งนั้น วันนี้มีเป๋าฮื้อน้ำแดงที่ลื๊อชอบด้วยนา...เจี๊ยะกับข้าวต้มร้าน ๆ อร่อยอ่า...." แป๊ะฮวย เจ้าของร้านชาวจีนวัยหกสิบปี รูปร่างท้วมขาว บุคลิกคล่องแคล่วทะมัดทะแมง และดูท่าทางยังแข็งแรงดีอยู่ ได้เลื่อนเก้าอี้ให้เจ้าบิวนั่งอย่างเอาอกเอาใจ บิวเป็นลูกค้าประจำร้านนี้ มาตั้งแต่เขายังเป็นนักเรียนมัธยม แป๊ะฮวยจึงมีทั้งความรัก ความเอ็นดูและความผูกพันราวกับเจ้าบิวเป็นลูกเป็นหลานคนหนึ่ง
"ลื๊อหายปายไหนมาหลายวัน อ่าตี๋...อั๊วนึกว่าลื๊อไม่สบาย เปงห่วง ให้อาหมวยมันเอาเต้าฮวยไปให้ลื้อที่บ้าน ก็ไม่เจอลื้อ ปิดประตูบ้านเงียบ..." อาแปะผู้ใจดีไต่ถามด้วยน้ำเสียงห่วงใย
"ฉัน...คือว่า ฉันก็ตระเวนหาที่เงียบๆ สงบๆ หาโลเกชั่นวาดภาพไปเรื่อยน่ะแปะ ไปเรื่อยเปื่อย ไม่มีจุดหมายปลายทางหรอก ค่ำไหนก็นอนนั่น" บิวตอบด้วยสายตาล่องลอย ดวงตาเศร้าคมฉายแววหดหู่เศร้าซึมเพียงครู่ แล้วจึงพยายามเก็บงำความรู้สึกอ้างว้างซ่อนไว้ภายในอก แต่ดูเหมือนชายวัยใกล้ชราตรงหน้าที่ผ่านโลกมามากอย่างอาแปะฮวย จะหยั่งรู้จิตใจภายในของเขา จึงได้แต่ถอนใจ แล้วกล่าวขึ้นด้วยถ้อยทีปลอบประโลม
"เฮ้อ...อาตี๋บิว ลื้อนี่มันขี้เหงาไม่หายเจงๆ เมื่อไหร่ลื๊อจะเลิกเศร้าซะทีนา อํ๊วรู้ว่าที่ลื้อไปแบบนั้น เพราะลื๊อเหงาใช่ม้า...ถ้าลื๊อเหงา ก็คุยกับอาหมวยเง๊กมันได้นี่นา...ลูกสาวอั๊วมันคุยเก่งออก"
"ขอบใจมากนะแปะ ฉันรู้ว่าแปะเป็นห่วง แต่ฉันก็เป็นแบบนี้แหละ ฉันมันตัวคนเดียว อ้าว..แล้วนี่อาหมวยอยู่ไหนล่ะ ไม่เห็นลงมาช่วยเสริฟของในร้านเลย" บิวพูดพลางตักข้าวต้มและกับข้าวร้อนๆ เข้าปากอย่างเอร็ดอร่อย กวาดสายตามองไปรอบๆ ร้าน ก็ไม่เจอเด็กสาวชาวจีนที่ชื่อเง๊ก ลูกสาวคนเดียวของแปะฮวย
"ไม่เปงไร จะปิดร้านเลี้ยว อั๊วเก็บคนเดียวได้ อาหมวยอยู่บนเหล่าเต๊งนู่น อีคงจะรอลื๊อจนหลับไปเลี้ยว อีบอกอยากเจี๊ยะพร้อมลื๊อตั้งแต่ตอนสองทุ่ม คิดว่าลื๊อไม่แวะมาร้าน อั๊วก็เลยบอกไม่ต้องคอย" อาแปะตอบ บิวฟังแล้วก็ได้แต่ยิ้มๆ เฉยๆ
"เหิ่น ห่าว ชือ อร่อยมาก ฝีมือแปะยังสุดยอดเหมือนเดิม หนี่ จุ้ย ปั่ว เลอ" บิวยกนิ้วหัวแม่โป้งชมเชย อาแปะยิ้มให้เขาอย่างพอใจ
"เซี่ยะ เซี่ยะ หิวก็เจี๊ยะเข้าไปเยอะๆ จะได้อ้วนๆ แข็งแรงๆ"
บิวนึกถึงธุระติดค้างหนึ่งขึ้นมาได้ เป็นเรื่องที่เขาได้ไหว้วานให้อาแปะคอยจัดการเป็นธุระให้
"อ่อ ฉันไม่ได้มาร้านหลายวัน สงสัยอาแปะคงลืมไปแล้ว "หนังสือเลหลังของพี่เก๋ เนรัญ" ที่ฉันฝากให้อาแปะสั่งจองให้ที่ร้านขายของเก่าน่ะจ๊ะ ได้ไหมจ๊ะอาแปะ" เจ้าบิวถามขึ้นอย่างใส่ใจ
"ฮ่อๆ ดีแล้วที่เตือน อํ๊วก็เกือบลืมปาย รอเดี๋ยวนะอาตี๋..." แปะฮวยรีบลุกจากเก้าอี้ แล้วเดินตรงไปยังลิ้นชักสำหรับใส่ของสำคัญของทางร้าน รื้อหนังสือหลายเล่มออกมาวางระเกะระกะบนโต๊ะ จนกระทั่งเจอเล่มที่เจ้าบิวฝากซื้อ จึงรีบเดินถือเอามาให้อย่างดีใจ
"เล่มนี้ใช่ไหมที่ลื๊อต้องการ หนังสือเก่ามากเลี๊ยว ค่อยๆ เปิดเบาๆ ระวังมันขาดนา..." อาแปะค่อยๆ บรรจงส่งหนังสือเล่มนั้นให้เจ้าบิว เพราะรู้ดีว่าเขาต้องการมันมาก สันปกหนังสือก็เริ่มหลุดลุ่ยออกมาทีละส่วนจนต้องใช้มือประคองอ่าน
"ลื่อจะเอาไปซ่อมที่ร้านหนังสือข้างร้านอั๊วไหมเล่า เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยมาเอาก็ได้ ถ้าไม่ใจร้อน"
"ไม่เป็นไร ฉันรอไม่ไหวละ อยากอ่านคืนนี้เลย เดี๋ยวพรุ่งนี้ฉันต้องแวะเข้าตลาดไปซื้อของใช้ในบ้านที่หมด ฉันเอาไปซ่อมเองก็ได้จ๊ะแปะ"
"หนังสือเก่ามากเลี้ยวอาตี๋" อาแปะพูดเสียงอ่อยเบา
"ใช่! อาแปะ สิบกว่าปีแล้วนะ เก่ามากเล่มนี้ แต่ฉันไม่เคยลืมเลย" บิวเปรยด้วยกริยาเงียบขรึม นั่งก้มหน้างุด สายตาจับจ้องอยู่ที่หน้าปก ที่มีอักษรสีทองตีตราประทับด้วยประโยคสั้นๆ ว่า "คิดถึงเก๋ เนรัญชรา ดรากาในดวงใจ"
เมื่อแปะฮวยเห็นเจ้าบิวได้แต่นั่งนิ่ง ไม่พูดจาอะไรอีก ใจของแกก็พลอยไม่สู้ดีไปด้วย จึงได้แต่ปลอบใจไปตามประสาคนแก่ ที่มีจิตใจอ่อนโยนอบอุ่นและหวังดี
"ลื้อจะปายคิดถึงอีทามมาย เรื่องมันก็นานมาเลี้ยว ลื้อควรทำใจได้แล้วนา...อาตี๋บิว"
"หนังสือดาราเก่า หายากแบบนี้ คนคงแย่งกันเก็บสะสม เอาเป็นว่าอาแปะจะคิดค่าแป๊ะเจี๊ยะ ต้าอ่วยเท่าไหร่ ฉันยินดีจ่ายให้ เป็นค่าเสียเวลาที่แปะอุตส่าห์ไปหามาให้ฉัน..." บิวกล่าวด้วยน้ำเสียงเต็มใจแต่แฝงเศร้าลึกๆ
"ไม่เปงไร อั๊วไม่คิดสตางค์หรอก ลื๊อเอาไปอ่านเหอะ แต่ว่า...อย่าเปิดบ่อยนักนา มันจะไม่ดีต่อหัวใจของลี๊ออ่ะ อั๊วไม่อยากเห็นลื๊อไท้อี๋ นา...."
"ฉันขอบใจอาแปะมากนะที่ห่วงฉัน แต่ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา ถ้าแปะเป็นฉัน แปะคงรู้สึกอย่างที่ฉันรู้สึกตอนนี้ล่ะมั้ง"
อ่านตอนย้อนหลังที่นี่ครับ
http://my.dek-d.com/water_write/story/view.php?id=738008
ฝากด้วยนะครับ นักเขียนมือใหม่ แต่ตั้งใจครับ ขอบคุณคร้าบ.....