จากละครเกมริษยา คำพูดนี้คือ คำพูดของ บุ๋ม เลขาสาวสวยที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อความก้าวหน้า
ถามว่าเข้าใจมั๊ย ก็เข้าใจนะ
เรื่องจริงก็เป็นแบบนี้ เราเองเป็นเด็ก ต่างจังหวัด จบมหาลัยมา ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดี สมัยเข้า กทมใหม่ๆ แต่งตัวเชยๆ แต่งหน้าก็ไม่เป็น แถม อ้วนกว่านี้เกือบ 10 กิโล ทำงานหนักแค่ไหนไม่เคยมีใครสนใจ พอมาวันนึงเกิดฮึด ลุกมาลดน้ำหนัก จาก 55 เหลือ 45 ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ กินวิตามินผิวขาว ออกกำลัง ยกเวท ทำสีผม แต่งตัวใหม่ เชื่อมั๊ยว่า จากที่เหมือนเคยไม่มีตัวตน ทุกอย่างก็ดีขึ้นมา ทั้งๆที่งานก็ทำเหมือนเดิม แต่ก่อนเดินไปเดินมาเหมือนวิญญาน พอกลายมาเป็นสาวสวย ไปไหนทำอะไรทุกอย่างก็ง่ายขึ้น
ยอมรับว่าหลังๆเราเองเลยชักหนักมั่นใจขึ้น เมื่อต้นปีทีผ่านมา ไปศัลยกรรมหน้าอก ลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เปรี้ยวขึ้นอีก เชื่อมั๊ยว่า จากตำแหน่งประสานงาน ตอนนี้ กลายมาเป็นเลขาผู้บริหาร ก็รู้แหละว่า นายผู้ชายคนนี้ ก็หวังอะไรในตัวเรา แต่ก็ไม่แคร์ เอาเข้าจริงๆ เราก็มีเป้าหมายของเราอยู่ ล่าสุด นายถึงขนาดให้รถบริษัทใช้ ทั้งๆที่ตำแหน่งเราไม่มีรถประจำ แถมมี offer ว่า อยากให้เราดูแลนาย 'พิเศษ' แลกกับบ้านหลังนึง เอาจริงๆก็น่าคิดรึเปล่า เราก็มาไกลขนาดนี้ แม่กับน้องก็สบาย มีบ้าน มีรถ
ถ้าเรามีครอบครัว มีคนที่เรารักอยู่ข้างหลัง แล้วเราก็ทำทุกอย่างๆที่เราทำได้ ไม่ได้โกงใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน มาคิดๆดู นายเราก็หย่ากับภรรยาไปนานแล้ว ก็คงไม่ได้ไปทำร้ายครอบครัวใคร ถ้าเรารับข้อเสนอ ...เราจะผิดมากมั๊ย?
ผิดด้วยเหรอ ถ้าเราจะอยากก้าวหน้า ด้วยวิถีทางที่เราทำได้
ถามว่าเข้าใจมั๊ย ก็เข้าใจนะ
เรื่องจริงก็เป็นแบบนี้ เราเองเป็นเด็ก ต่างจังหวัด จบมหาลัยมา ด้วยเกรดเฉลี่ยที่ดี สมัยเข้า กทมใหม่ๆ แต่งตัวเชยๆ แต่งหน้าก็ไม่เป็น แถม อ้วนกว่านี้เกือบ 10 กิโล ทำงานหนักแค่ไหนไม่เคยมีใครสนใจ พอมาวันนึงเกิดฮึด ลุกมาลดน้ำหนัก จาก 55 เหลือ 45 ฉีดโบท็อกซ์ ฉีดฟิลเลอร์ กินวิตามินผิวขาว ออกกำลัง ยกเวท ทำสีผม แต่งตัวใหม่ เชื่อมั๊ยว่า จากที่เหมือนเคยไม่มีตัวตน ทุกอย่างก็ดีขึ้นมา ทั้งๆที่งานก็ทำเหมือนเดิม แต่ก่อนเดินไปเดินมาเหมือนวิญญาน พอกลายมาเป็นสาวสวย ไปไหนทำอะไรทุกอย่างก็ง่ายขึ้น
ยอมรับว่าหลังๆเราเองเลยชักหนักมั่นใจขึ้น เมื่อต้นปีทีผ่านมา ไปศัลยกรรมหน้าอก ลุกขึ้นมาแต่งตัวให้เปรี้ยวขึ้นอีก เชื่อมั๊ยว่า จากตำแหน่งประสานงาน ตอนนี้ กลายมาเป็นเลขาผู้บริหาร ก็รู้แหละว่า นายผู้ชายคนนี้ ก็หวังอะไรในตัวเรา แต่ก็ไม่แคร์ เอาเข้าจริงๆ เราก็มีเป้าหมายของเราอยู่ ล่าสุด นายถึงขนาดให้รถบริษัทใช้ ทั้งๆที่ตำแหน่งเราไม่มีรถประจำ แถมมี offer ว่า อยากให้เราดูแลนาย 'พิเศษ' แลกกับบ้านหลังนึง เอาจริงๆก็น่าคิดรึเปล่า เราก็มาไกลขนาดนี้ แม่กับน้องก็สบาย มีบ้าน มีรถ
ถ้าเรามีครอบครัว มีคนที่เรารักอยู่ข้างหลัง แล้วเราก็ทำทุกอย่างๆที่เราทำได้ ไม่ได้โกงใคร ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน มาคิดๆดู นายเราก็หย่ากับภรรยาไปนานแล้ว ก็คงไม่ได้ไปทำร้ายครอบครัวใคร ถ้าเรารับข้อเสนอ ...เราจะผิดมากมั๊ย?